23 มิถุนายน 2552 19:34 น.
แมงกุ๊ดจี่
วันผันผ่านนานเนิ่นยากเกินหวน
ใจคิดครวญ...เมื่อคราเวลาผ่าน
ทุกถ้อยคำ...ละมุนอุ่นดวงมาน
มาวันนี้กลับร้าวรานปานขาดใจ...
ความคิดถึง...ราญใจ..อาลัยเพ้อ
คอยละเมอ.คอยหวง.คอยห่วงใย
ทุกรอยความคำนึง...ถึงบางใคร
ณ แห่งใด.ยังคิดถึง.ยังตรึงตรา...
ฝากสายลม...พรมพัดไปปัดเป่า
ให้คลายเศร้าเหงาหงอยใจคอยหา
ฝากลมบอก *รอเธอ* เสมอมา
โปรดรู้หนา...ว่าใคร...คนไหนรอ...
ทั้งหมดคือความคิดถึงส่งถึงใจ
คือห่วงใย คือคิดถึง คือคำพ้อ
ปล่อยล่องไปฝากลมพรมเคล้าคลอ
ใครคนหนึ่งอยากพนอขอเคียงคุณ...ฮิ้ววววววว...
คือความคิดถึง...จึงคิดถึง...
เอ่อคือว่า...ตามเขามาค่ะ อิอิ
16 มิถุนายน 2552 09:01 น.
แมงกุ๊ดจี่
ผ่านกี่ร้อนกี่หนาวกี่คราวฝน
ผ่านทุกข์ทนกี่กาลเนิ่นนานไหว
ผ่านวันคืนภาระหนักประจักษ์ใจ
ผ่านทางไกลในเพรงกาลด่านวิถี...
"โลกช่างมืดมนทุกข์ทนเรื่อยมา
มีแต่น้ำตาหาคนจริงใจไม่มี
เมื่อไหร่หนอมันจะเช้าเสียที
หรือว่าชาตินี้ไม่มีแม้ดวงตะวัน"
*เนื้อเพลงประกอบละครหาบของแม่...
ฟังสำเนียงเสียงเพลงบรรเลงผ่าน
เกินต้านทานอารมณ์ขมขื่นขวัญ
เขื่อนน้ำตามาทลายใจหายพลัน
ยากจะหยุดหวาดหวั่นที่พรั่นพรึง
มองอนาคตต่อไปในวันหน้า
เกินหยิบคว้าตามฝันบากปั่นถึง
ทอดมองทางข้างหน้าเกินคว้าดึง
คล้ายถูกตึงติดบ่วงกรรมกระทำไป...
เหมือนสิ้นแรงอ่อนล้าจะคว้าฝัน
เส้นทางนั้นมืดมิดจิตหวาดไหว
หว่างทางคงเหน็บหนาวอีกยาวไกล
อีกเมื่อใด...สิ้นภพ...โปรดจบที...
ฤา เกิดมาชาตินี้ต้องมีกรรม
ดวงตกต่ำถูกตามทวงถามหนี้(กรรม)
ชาติก่อนโน้นคงไม่เคยเลยทำดี
มาชาตินี้....ต้องชดใช้ให้เขาคืน....
ผ่านกี่ร้อนกี่หนาวกี่คราวฝน
ต้องทุกข์ทนหมองไหม้ใจสะอื้น
ต้องใช้กรรมเคยก่อเขาขอคืน
ชาตินี้คงกล้ำกลืน...ต้องฝืนทน....
15 มิถุนายน 2552 18:25 น.
แมงกุ๊ดจี่
ฝากสายลมอิสานเหนือเพื่อไปพัด
หวังเป่าปัดความเหงาที่เศร้าหมอง
หากยามใดอ่อนล้าแหงนหน้ามอง
สายลมเบาของ"เราสอง"บนฟ้านั้น...
แล้วจะเห็นเฆมน้อยล่องลอยปลิว
กำลังพริ้ว...ในอากาศเพื่อวาดฝัน
คือแรงใจ นิยาม ความสัมพันธ์
สู่ทะเลอันดามันอันกว้างไกล...
ขอสายลมและไออุ่นหอมกรุ่นนี้
พัดพรมพี่ได้คลายหายอ่อนไหว
ความห่างเหินกายห่างใช่ห่างใจ
ยังแนบไว้ในลมเบาที่เคล้าคลอ...
ความคิดถึง...ห่วงใยมอบไว้มั่น
เพียงอย่าพรั่น...กับทางที่ห่างพอ
คนอยู่ไกล...คอยหวัง...ตั้งตารอ
ไม่เคยท้อ...ระยะทางที่ห่างกัน...
แม้ห่างจากเหนือสุดขอหยุดไว้
สิ้นสุดใต้หมายปองได้ครองขวัญ
อยากเที่ยวเล่นทะเลฝันอันดามัน...
เพียงสักวัน....เที่ยวหาดสวาทเรา...(เขิลจังวุ้ยส์)
(ไม่มีโอกาสไหนพิเศษเป็นเหตุหร๊อก แค่รู้สึกดี)
แต่รู้สึกว่ามันจะกระง๋องกระแง๋ง...ยังไงไม่รู้เนาะ...
ฝากลมไปทักแล้วเน้อ
11 มิถุนายน 2552 22:56 น.
แมงกุ๊ดจี่
ย้อนรอยไปในอดีตดั่งกรีดเฉือน
ยังย้ำเตือนความเจ็บเคยเหน็บหนาว
เมื่อคิดย้อนจำภาพเก็บ...เจ็บทุกคราว
จิตยิ่งร้าว...กับวันคืน...สะอื้นตรม...
กาลเวลาผันผ่านไปแม้นใจเปลี่ยน
แต่วนเวียนเก็บภาพเก่ามาเศร้าขม
ไม่เคยเลือนเรื่องเลวร้ายมิคลายปม
ชีพระทมจมทุกข์เข็ญปล่อยเป็นไป...
ผ่านสามร้อยหกสิบห้าวันลาร้าง
ถูกคนสร้างรอยบาดแผลยากแก้ไข
กลายเป็นปมขมขื่นผิด...เกาะติดใจ
คอยหวั่นไหว...อยู่เสมอยังเผลอจำ...
เหมือนอยากลืมยิ่งกลับจำย้ำความคิด
คล้ายชีวิต...หลงติดจั่นหวาดหวั่นช้ำ
ไม่เคยเลือนเรื่องเก่าเก่าเฝ้าเตือนย้ำ
รอยกระทำ...ในวันวาน...เคยผ่านมา...
9 มิถุนายน 2552 17:53 น.
แมงกุ๊ดจี่
....๑....
แม้นมิอาจลืมรอยรักสลักมั่น
หรือกาลนั้นผันผ่านเนินนานไหว
มอบรักจริงทั้งดวงปรี่ทรวงใน
เกินขานไข...บอกเล่าความเศร้าตรม...
....๒....
เฝ้าเก็บรอยความฝันที่งันเงียบ
ใจเย็นเยียบ มีเงา ความเหงาขม
คอยคร่ำคิด ห่วงหา ในอารมณ์
กล้ำกลืนข่ม...วิโยคด้วยโศกทรวง...
....๓....
ร้าวรานเกินหยัดยืนคิดฝืนสู้
ให้คงอยู่ท่ามรักอันหนักหน่วง
ยังคิดหวังอยากถามความทั้งปวง
ใจแสนห่วง...คนห่างเมื่อร้างลา...
....๔....
เมื่อรับรู้บางถ้อยยิ่งน้อยจิต
มีสักนิดบ้างไหม? ใคร่ห่วงหา
หรือเป็นเพียงเล่นเล่ห์ข้ามเวลา
ยามถึงคราเบื่อหน่ายเงียบหายไป...
....๕....
เป็นเพียงภาพหว่างฝันอันวิจิตร
ไม่ยึดติด ฤารัก ใยผลักไส
ขอให้ลืม...เรื่องราว ยิ่งร้าวใจ
ควรทิ้งให้เพรงกาลผันผ่านลืม...
....๖....
แม้นเสียดายคืนวันเคยฝันร่วม
รักล้นท่วมทรวงในใจไม่ปลื้ม
คืนรักให้ไม่อาวรณ์ก่อนเคยยืม
บอกให้ลืม"คนไม้หลักปักเลน"...
....๗....
อยากทำได้อย่างเอ่ย...เคยพร่ำบอก
เกินจะหลอกใจตน...คนจะเห็น
มีบางครั้งหลีกเลี่ยงเพื่อเบี่ยงเบน
คงเป็นเวรหรือกรรมมาจำจอง...
...ขออนุญาตใช้บางคำ มาลำนำความในใจ
อยากจะให้ครบ 10 บท
แต่ว่า...เหมือนยิ่งเผยความอ่อนแอ...
รู้สึกเหมือนเปล่าประโยชน์ที่จะรักใคร...
ปล่อยรู้สึกของใจเป็นไปดั่งต้องการ
ก็แสนจะว่างเปล่า....
ขอบคุณภาพจาก : http://i223.photobucket.com/
ขอบคุณเสียงจาก : http://img182.imageshack.us