23 พฤศจิกายน 2546 08:13 น.
แพรวา พระพรม
โอ้อกเอ๋ย เคยเคียงข้าง นางหน่ายแหนง
จำจนใจ ให้โหยหิว ร่วงโรยแรง
กลับกลายแกล้ง แปลงเปลี่ยนเปลื้อง เรื่องรักเรา
เหลือรำลึก นึกนิ่มนวล หวนหายหอม
ตรึกตรองตรอม ย่อมเย็นเยียบ เงียบง่วงเหงา
ลำลักลอบ ชอบเชิงชวน ยวนยั่วเย้า
คลึงเคล้นเคล้า เจ้าจึงจาง หมางเมิดเมิน
ของเก่าน่ะ
22 พฤศจิกายน 2546 13:06 น.
แพรวา พระพรม
วันฝนตก
ฉันบรรจงวาดฝัน
บนฝ้ากระจกหน้าต่าง
ไม่นาน..
รูปภาพระเหิดหาย
ความรัก
ปรากฏตัวบนสายรุ้งหลากสีสัน
ทอดข้ามขอบฟ้า
ตราตรึงในความรู้สึก
ขณะหนึ่ง...
พลันมลาย
21 พฤศจิกายน 2546 19:21 น.
แพรวา พระพรม
ชีวิตดูไร้ความหมาย
ลมหายใจก็ไร้ค่า
โค้งรุ้งราวภาพลวงตา
มวลบุปผามิน่ามอง
ดวงดาวพร่างพราวใส
หากหัวใจกลับหม่นหมอง
น้ำค้างแลราวทอง
กลับคล้ายของธรรมดา
ผีเสื้อยังโบยโบก
โลกยังเปี่ยมเสน่หา
หากหัวใจเหนื่อยจนล้า
คล้ายกับว่าทุกข์เกินทน
ระบำใบหญ้าไหว
เย้ายวนใจกลางสายฝน
คล้ายถามหัวใจคน
อยู่...สู้...ทน เพื่อสิ่งใด
น้ำตกยังตระการ
สายธารยังรี่ไหล
สิ้นสุด ณ ที่ใด
หามีใครใส่ใจตรอง
ฟากฟ้ายังอำไพ
แขไขยังนวลผ่อง
ตะวันยังเรืองรอง
รังสีทองยังทาบทา
โลกนี้ยังเหมือนเก่า
หัวใจเราไยปวดปร่า
เศร้าเกินจำนรรจา
เหงาเกินกว่าเอ่ยคำใด
ที่นี่...ไม่มีเธอ
หลงเพ้อคร่ำครวญหวนไห้
คิดถึงเต็มหัวใจ
เจ้าโบยบินไปที่ไหน...ความรักเอย
17 พฤศจิกายน 2546 10:39 น.
แพรวา พระพรม
เพื่อนกินสิ้นทรัพย์แล้ว แหนงหนี
หาง่ายหลายหมื่นมี มากได้
เพื่อนตายถ่ายแทนชี- วาอาตม์
หายากฝากฝีไข้ ยากแท้จักหา
ของเก่าน่ะ
14 พฤศจิกายน 2546 09:22 น.
แพรวา พระพรม
เนิ่นนานนับกัปกัลป์
ฉันย่ำย่างทางสายเก่า
งมงายและโง่เขลา
อาดูรโลกโศกดวงแด
หลายหมื่นแสนกัลป์กัป
เกินจักนับดุจดักแด้
อวิชชาบังตาแล
คือเปลือกหนามายาลวง
เนิ่นนานเกินจารจด
กรรมกำหนดยากก้าวล่วง
คว้าเอาความเปล่ากลวง
ไร้แก่นสารมานมืดมน
เนิ่นนานเกินขานไข
ตกอยู่ในเหวลึกล้น
เหวห้วงบ่วง ตัวตน
ปรุงแต่งให้ใจเหลิงลอย
เนิ่นนานนับกัปกัลป์
ก่นจาบัลย์หวนละห้อย
วงกตกรรมซ้ำรอย
ดุจคลื่นซัดมิสร่างซา
วนเวียนอยู่อย่างนั้น
จริงหรือฝัน, ปริศนา
สรรพสิ่งภาพลวงตา
หรือเท็จจริงสิ่งเดียวกัน