28 มีนาคม 2554 19:42 น.
แทนคุณแทนไท
มีชายคนหนึ่งหลงรักงานศิลปะมาก โดยเฉพาะภาพเขียน
แต่อย่างว่า สมัยนี้พบเจอแต่ภาพถ่าย
วันหนึ่ง ที่ตลาดนัดซึงเงียบเหงา
เขาพบคนเขียนรูปคนหนึ่ง กำลังนั่งเขียนรูป
เขาเฝ้ามองด้วยความตั้งใจ
โอ ฝีแปรง และการลงสีช่างงดงาม
ภาพท้องทะเลสีคราม ฟองคลื่น และพระอาทิตย์ที่กำลังจะลาฟ้า
มีเรือกอและ ผูกผ้าแพรสีใส ดูทำให้ท้องทะเลยามเย็นสดชื่นขึ้น
"นี่แหละ ศิลปะ ที่เราเฝ้าหา" เขาบอกตัวเอง
คุณครับ ภาพเขียนคุณงามจัง เขาเอ่ย
ชายเขียนภาพเงยหน้าขึ้นมามองเขา
ด้วยสีหน้าเรียบเฉย "มันคือทัศนะคติและธรรมชาติในความฝันของข้า" ชายเขียนรูปกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ขอซื้อได้ไหมน่ะ (เขาคิดในใจ)
ชายผู้รักศิลปะ เฝ้ามองฝีแปรง และภาพวาดอย่างหลงใหล และหลงรัก
ศิลปะที่แท้จริง ต้องเป็นแบบนี้ซิ มิใช่ โพสการ์ด ตามตรอกถนนข้าวสาร
ผมชอบภาพเขียนคุณนะครับ เขากล่าว
มันคือจิตวิญาณ และชีวิตของข้า ข้าเขียนมันมาจากใจ (ชายเขียนรูปพูด)
สองคน หนึ่งชายนั่ง ดู และอีกหนึ่งชายทำงาน และทำหน้าที่ของตนต่อไป
ขอซื้อได้ไหมนะ (ชายผู้รักศิลปะคิดในใจ)
แต่ถ้าซื้อไปเราจะเอาไปเก็บไว้ที่ไหน ที่บ้านมีภาพเขียนอีกภาพซึ่งได้มาเมื่อนานมาแล้ว
(เขาคิด)
นี่คุณ ชอบภาพเขียนข้าจริงเหรอ (ชายเขียนรูปถามหลังละมือจากวางพู่กัน)
ครับ (เขากล่าวสั้นๆ แววตาจับลึกลงไปในท้องทะเลและฟองคลื่นภาพเขียนนนั้น)
แต่ข้ามันแค่จิตรกรไร้นามนะ ทำไมคุณไปเดินหาชมภาพงามๆตามสถานที่แสดงภาพศิลป์หละ
ไม่รู้ซิ ผมชอบภาพคุณ ผมอยากจะขอซื้อไว้ แต่เกรงว่าความงามของภาพจะหม่นหมอง เพราะที่บ้านผมไมมีที่ว่างเหมาะเจาะกับงานงดงามแบบนี้ (เขากล่าว)
ไม่เป็นไร แค่มีคนชอบข้าก็ยินดีแล้ว (ช่างเขียนกล่าว)
และภาพวาดข้าคงจะกองเรียงไว้ในตู้โน่น เขาชี้มือไป
ภาพคุณสวยจริงๆครับ (ชายผู้รักงานศิลปะกล่าวอีกครั้ง) ก่อนเดินจากไป
ในวินาทีนั้น เขาเพิ่งได้รู้ว่า ศิลปะที่งดงามไม่จำเป็นต้องมาจากจิตรกรลือนาม
เขาอยากได้มัน แต่ที่บ้านคับแคบ และไม่มีที่ว่างเหมาะที่จะซื้อหาภาพงามไปวางได้
และบ่อยครั้ง
เมื่อเขาพบงานศิลปะที่ไหน เขามักจะคิดถึงภาพนั้น
ภาพท้องทะเลสีคราม ฟองคลื่น เรือกอและ ผูกผ้าแพรสีใส และพระอาทิตย์ที่กำลังจะลาฟ้า
บางคราวอดไม่ไหว ย้อนเดินไปที่ตลาดนั้น เห็นภาพงามยังกองวางอยู่ในตู้
มันสวยจริงๆ (ทุกครั้งที่เขาคิด หัวใจก็พองโตเหมือนรักแรกพบ)
แค่ได้รู้ว่ายังมีงานศิลปะดีดีก็สุขใจแล้ว
อยู่มาวันหนึ่ง
เขาเดินไปยังร้านนิตยสาร หยิบหนังสือกีฬาพาดหัว "สิงห์ซื้อสากกะเบือ หงส์จิกปีศาจ" (เขาฉีกยิ้มที่มุมปากก่อนวางลงชั้นวาง)
นั่น นิตยสารท่องเที่ยวไทย รายเดือนเมืองไทยนี่ช่างงดงามนัก"
และแล้วภาพถ่ายหนึ่งในนิตยสาร - คุ้นตา เหมือนเคยเห็นที่ไหน
อะไรกันนี่ เขาตกใจ ภาพเขียนที่เขาเจอที่ตลาด
นี่มันภาพถ่ายนี่
เหมือนภาพนั้นมาก แต่นั้นคือภาพเขียน
นี่ไม่ใช่ถ่ายจากภาพเขียน ภาพถ่ายทะเลไทยอันวิไลล้ำที่ไหนสักที่
ภาพถ่ายชัดเจนว่าเป็นภาพจากไหน
แต่...การเขียนภาพหละ
ภาพถ่าย กลายเป็นภาพเขียน
หัวใจเขาหลุดหล่น
คิดถึงศิลปะ และถ้อยคำที่ก้องหูเขาของคนเขียนภาพ
มันใช่หรือไม่ใช่จิตวิญาณ และชีวิตของเขา และเขียนมันมาจากใจจริงหรือไม่ (เขารู้คำตอบ)
เขาเสียใจ
และหัวใจเลื่อนลอย
แต่ไม่ได้นึกตำหนิอะไรมากกว่าเสียใจ
ฝีแปรงเขาดี การลงสีสวย และแสงเงาก็งาม
แต่มันไม่ใช่ศิลปะจากจิตวิญาณ นั่นคือสิ่งที่เขาโศกเศร้า
วันนี้
เขายังชื่นชมภาพเขียนผืนนั้น และนับถือฝีมือช่างเขียน
เพียงแค่
เขาแค่ผิดหวังวิธีการ ของคนที่บอกว่ารักศิลปะเท่านั้นเอง
ความรักไม่ได้เกิดจากจิตวิญญาณหรือ แค่มีสารกระตุ้นและแบบร่าง ก็สร้างรักได้แล้วหรือ
อนิจจา
เมื่อพระจันทร์ที่แสนเศร้า / แทนคุณแทนไท