2 สิงหาคม 2553 15:10 น.

ระหว่างสติสัมปชัญญะและวิกลจริต

แทนคุณแทนไท

52505.jpgอะไร
พรากสติสัมปชัญญะของผมไป

"วันเวลาที่ผ่านไป มัวทำอะไรอยู่"

ผมคิดทบทวน
สิ่งที่ผ่านมา สิ่งที่มีอยู่ และสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น

บางอย่าง
อยู่ในรอยคว้าง ของความคิด
ซึ่งฉายภาพ ที่บ้างชัด-บ้างพร่าเลือน

เราอาจไม่ได้พบกันอีก
นี่ คือคำอำลา (ของบุพเพฯ)
หรือว่าเป็นเพียงคำตัดพ้อ (ของคนอับโชค)

สายลม เป็นราชสาร์น
นำความเศร้าไปเชือดเฉือน
และนำน้ำตาไปกล่าวโทษ (ผู้ใด!!)

ระลึกเห็น
นางฟ้าผู้มาพร้อมกับวาสนา
และเป็นความทุกข์ จากไปพร้อมกับชะตากรรม

เมื่อโลกช่างโหดร้าย
เราจะไปอยู่ที่ไหน ที่อาจ"สุข"มากกว่า  !!
ความนึกคิด ที่ท้นล้นไปด้วยจริตเพ้อฝัน

ว่างเปล่า หรือแจ่มชัด
นับได้เป็นทางเลือก ๑ก้าวไป ๒ล้มเลิก

ลมหายใจที่ยังอยู่
มีค่าหรือไร้ค่า อาจวัดได้เมื่อเราตายจาก

เราอาจคิดถึงกันบ้าง
จึงเจ็บปวดกันบ้าง สุขล้ำกันบ้าง
ประดังประเดดั่งสายน้ำยามดิ่งล้ำ

ที่รัก
"วันเวลากำลังจะผ่านไป เรามัวทำอะไรอยู่"

...............................
พระอาทิตย์ที่ ๓๑ กรกฎาค์ ๕๓ /  แทนคุณแทนไท				
17 กรกฎาคม 2553 22:53 น.

นางผู้ซื้อความรักด้วยความกำหนัด

แทนคุณแทนไท

siphanee2.jpg
บทสนทนาระหว่างเราเริ่มขึ้น

ความรักของคุณ แยกแยะออกจากความกำหนัดใคร่ได้หรือไม่เพียงไหน? เธอถาม

ฉันสำรอกควันมาโบโร่ นึกคิดที่กำลังล่องลอยวับหาย
พิศเพ่ง และพลันแขยงความกำหนัดใคร่ในวินาทีที่เพิ่งล่วงพ้น

เธอเป็นเพียง"คู่นอน"ยามความเหงามารุมเล่นงานฉันก็เพียงนั้น
ไยกล้ามาถามถึงความรักจากฉันเล่า

ฉันหลับตานิ่งนึก
ระลึกถึงใครคนหนึ่ง และเพ้อพกความรู้สึกให้เธอฟัง
"คนที่ฉันราบคาบ และมอบร่างกายให้เป็นครั้งแรก นั่นแหละความรักของฉัน
ฉันจำได้แต่เพียงรักที่มอบให้ โดยมิเคยคิดนึกถึงความกำหนัดแม้จะสัมผัสกันด้วยกายธรรมชาติสักกี่หน" 

ก่อนพายุฝนจะเข้า ฉันเห็นแต่ท้องฟ้าสีใสและมหาทะเลสีชมพู
แม้แต่ความไม่ถูกจารีต ยังผูกไว้ด้วยริบบิ้นสีขาว

เมื่อเขาจากไป
ฉันเพิ่งแยกแยะความกำหนัดใคร่และความรักออกจากกันได้เป็นครั้งแรก
เขาเป็นความรักโดยแท้ และเป็นความรักที่วิเศษกว่ากำหนัดใคร่เป็นล้นพ้น

สำหรับเธอ "เธอไม่ใช่ความรัก" เป็นเพียงกำหนัดและความใคร่ของฉันโดยสิ้นเชิง ฉันย้ำ

............................

เพียงเสี้ยวหนึ่งของล่วงหายใจ มหาสมุทรบ้าคลั่งก็จมสำเภาทองอีกหน

และเมื่อเธอเอื้อมมือมาปิดกระดุมเม็ดสุดท้ายให้ฉัน
"เธอหละ แยกแยะความใคร่และความรักได้หรือไม่เพียงไหน"? ฉันย้อนถาม

เธอไม่ตอบสิ่งใดมากไปกว่า
ขอบคุณความกำหนัดใครที่ฉันมอบให้ ความใคร่ที่ช่วยต่อลมหายใจแห่งรัก ให้ยังคงมีชีวิตและความหวัง
ถึงแม้ว่าในคืนพรุ่ง เธออาจต้องแลกหาความรักกับความใคร่ของใคร อีกหลายครั้ง...

เธอเงียบไป และกล่าวขึ้นอย่างเหม่อลอย
"นาข้าวปีนี้เสียหายกว่าปีกลาย ข้าวที่ได้คงไม่พอส่งค่าเช่านา
คงต้องเร่งหาความใคร่แลกเป็นความรักเก็บไว้ ไว้ซื้อพันธุ์ข้าว ปุ๋ย ยา และค่าจ้างรถเกี่ยวรถขนที่แพงขึ้นทุกปี"

"ถ้าความรักคุณยังมี พรุ่งนี้นำมาแลกเอาความใคร่ของฉันไปได้อีกนะ" "ฉันอยากได้ความรักแยะแยะ" เธอว่า

โลกของฉันเคว้งคว้างอย่างเลื่อนลอย
คงไว้แต่ เสียงสุดท้ายของเธอ ที่ก้องติดอยู่ในความรู้สึก

"ฉันส่งความรักกลับไปปลูกข้าว คุณหละ ส่งความกำหนัดใคร่ไปที่ไหน"? !!
่

...............................
พระเสาร์ที่ ๑๗ กรกฎาค์ ๕๓ /  แทนคุณแทน ไท				
21 เมษายน 2553 21:00 น.

พื้นที่ในหัวใจ ที่คิดถึง

แทนคุณแทนไท

01_131.jpg

...เขียนที่นี่...
...ที่หัวใจ

...วันรวีที่รัก....

...เดือนนี้แท้แล้วเป็นฤดูไหนกันนะ

...เมื่อคืน
...ผมแอบใช้เวลาเงียบๆ ปล่อยจินตนาไปถึงคุณ
...
...คุณผู้ซึ่งเป็นดุจนางฟ้า 
...แหละเป็นเกือบทุกความภาคภูมิในความเป็นปัจจุบันนี้
...
...แม้แสงแห่งดวงดาวในเมืองใหญ่
...ไม่อาจนำพาความคิดถึงที่ผมปรารรถนาส่งไปถึงคุณได้
...
...แต่หวังยังมีนะครับคนดี
...ว่าความเงียบเหงา แหละมนต์มืดแห่งราตรีกาล
...จะนำถ้อยความที่ท้นรู้สึกนี้ ไปกระซิบบอกคุณ
...
...ห่วงคุณจังเลยคนดี
...วินาทีนี้คุณจะเป็นเช่นไรหนอ
...
...ถ้าคุณคิดถึงใคร ก็อย่าให้กินพื้นที่ในหัวใจที่จะคิดถึงผมนะ
...
...คุณอาจแอบหัวเราะคิก 
...นึกขันกับคำแสนเชย ของชายที่คุณเคยเย้าว่า ลิเกบ้านนอก
...ว่าจะคิดถึงอะไรปานนั้น เราห่างกันยังไม่ถึงรอบแห่งวงของคืนวัน
...
...แต่ผมคิดถึงคุณจริงๆนะ
...มีหลายความรู้สึก ที่ท้นอยู่ในความคะนึงผมเต็มไปหมด
...
...บ่อยครั้ง
...ผมเคยแอบอ้อนวอนบุญบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล
...สมมุติใจเป็นพระเอกหนังไทยสมัยบุราณ
...ว่าเทวะ เทวา
...โปรดช่วยดลให้เธออันเป็นที่รัก
...มีแต่วันที่ใจสบาย อย่ามีทุกข์ใดมารบกวนในทุกความเป็นเธอเลย
...
...นางฟ้าตัวน้อยของผม
...รู้ไหม... 
...ทุกครั้งที่ความเป็นคุณมาปรากฏอยู่เบื้องหน้าผม
...ผมแอบหวังเสมอว่า เราจะไม่ต้องกล่าวคำลากันอีก
...ถึงแม้ในอนุสติจะรู้ว่า
...คำอำลานั่น จะนำพาเรามาพบกันใหม่อีกครั้งก็ตาม
...
...ผมไม่เคยอยากห่างคุณแม้สักส่วนเสี้ยววินาทีของความโดดเดี่ยวเลยที่รัก
...
...วันรวีที่รัก....
....
...เดือนนี้แท้แล้วเป็นฤดูไหนกันนะ
...
...แปลกจัง
...บางค่ำความคิดถึงก็พรำๆ ในความรู้สึกเหมือนต้นฤดูฝน
...แต่บางวัน ของความทรมาน ก็รัดรุมหัวใจ 
...เหมือนโดนโดดเดี๋ยวในว้างแดดของปลายฤดูร้อน....
....
...แหละในบางจินตนา ก็เย็นเยียบ 
...เหน็บขั้วนัย ดั่งว่าได้หลุดไปในอ้อมอกของหน้าหนาว...
...
...
...คิดถึงคุณอีกแล้วหละที่รัก
...
...รักคุณจัง วันรวี / แทนคุณแทนไท				
21 กุมภาพันธ์ 2553 20:19 น.

ความท้าทายของผู้ชายรักจริง

แทนคุณแทนไท

Lost_message_by_LuneBleu.jpg

"แล้วเขาก็บอกว่า เขาเคยขายตัวมาก่อนที่จะคบกับผม และทำเป็นอาชีพหลัก ไม่ได้ทำเล่นๆ เป็นครั้งคราว เป็นระยะเวลา 1 ปีเต็มๆ..."

เมื่อแรกรัก น้ำต้มผักก็ว่า 'หวาน'

ถูกต้องทุกประการ แต่.... 'รักแท้ คือ รักที่หัวใจ มิใช่ สิ่งของปรุงแต่งภายนอก' เป็นความถูกต้องที่สุดนั่นเพราะ ธรรมชาติของคนเรานั้น เมื่อพบกันครั้งแรก ย่อมต้องประพฤติตัวให้เป็นที่ 'ต้องตาต้องใจ' ต่อฝ่ายตรงข้าม ความถูกใจหรือความชอบพอจึงเกิดขึ้นเพียงเพราะความประทับใจครั้งแรก แต่ เมื่อเวลาผ่านไป 'ตัวตน' ที่แท้จริงของแต่ละฝ่ายย่อมเผยให้เห็น หากแต่ละฝ่ายไม่สามารถยอมรับกับความ 'แท้จริง' การเลิกราย่อมเกิดขึ้น แต่หากเข้าใจและยอมรับกับความเป็นจริง นั่นจึงเรียกว่ารักแท้

เต๋า ช่างภาพหนุ่มอิสระ วัย 28 ปี ยอมเปิดเผยเรื่องราวความรักกับแฟนสาว ที่อดีตเคยหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็น 'สาวไซด์ไลน์' ว่า

เขา รักภรรยาของเขาด้วยใจจริง แม้จะรู้ว่าเธอเคยมีอดีตเป็นเช่นไร เจ้าของเรื่องราว เล่าย้อนถึงที่มาที่ไปในความรักของเขาว่า เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เขาพักอาศัยอยู่ที่คอนโดมิเนียมย่านรามอินทรา กับรุ่นพี่อีกคนหนึ่ง ซึ่งขณะเดียวกัน แฟนสาวก็ได้อาศัยอยู่คอนโดฯเดียวกัน กับเพื่อนผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ซึ่งรุ่นพี่และเพื่อนของแฟนได้เกิดอาการ 'ปิ๊งกัน' เมื่อตกกลางคืน แต่ละฝ่ายต่างก็ชวนเพื่อนร่วมห้องออกมาหาของกิน

เรื่องราวความรักจึงเกิดขึ้น ณ จุดนั้น

จาก ความใกล้ชิดเพราะเพื่อนร่วมห้อง ที่เป็นเหมือน สะพานให้คนทั้งสองได้พบกัน บวกกับความเอาใจใส่ทำให้เต๋า เริ่มใจอ่อน เต๋าตกลงใจคบกันแฟนสาวอย่างจริงจัง และในที่สุดเธอผู้นี้ก็เป็น 'ผู้หญิงคนแรก' ของเต๋า หลังจาก 'ค่ำคืน' แรกของเต๋า เขาบอกด้วยความรู้สึกของ 'ผู้ชาย' ว่า 'เขาไม่ใช่ผู้ชายคนแรกของเธอ' ซึ่งแฟนสาวก็ได้ยอมรับความจริงว่า เธอเคยมีสัมพันธ์กับแฟนเก่ามาแล้ว 2 คน ซึ่งเมื่อเต๋ารู้ ก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะเขาไม่ใช่ผู้ชายที่ยึดติดกับเรื่องความสัมพันธ์ทางเพศของผู้หญิง

คำ 'สารภาพ' ของแฟนสาว มิได้ทำให้เขาหมดรัก

แต่เมื่อเวลาผ่านไป พฤติกรรมหลายอย่างในตัวแฟนสาวกลับทำให้เขาเริ่ม 'สงสัย'

'ไม่ได้ทะลึ่งหรือลามกนะ ครับ แต่ของอย่างนี้ สังเกตได้ หลักฐานบางอย่างมันฟ้อง แต่สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกอึดอัดคือ บ่อยครั้งที่ผมเห็นแฟนนั่งซึม เหมือนมีอะไรเก็บไว้ในใจ แต่ไม่ยอมบอก แล้วหลังจากที่คบกันประมาณ 1 ปี เราเริ่มขัดสนเรื่องเงิน แฟนผมก็จะไป 'ขอยืมเงิน' จากพี่ผู้ชายคนหนึ่ง แรกๆ ไม่คิดอะไร แต่ว่าหลังๆ เริ่มไปบ่อย ไปแล้วกลับมาก็จะได้เงินติดมือครั้งละ 1,000-2,000 บาท



จนวันหนึ่งตอนออกไปเขาถักเปีย แต่ขากลับปล่อยผมที่ยังแห้งไม่สนิท ผมจึงถามว่าไปไหนมา

เมื่อ ซักมากๆ เข้า เขาก็บอกว่าพี่เขาชวนกินเบียร์ และถูกข่มขืน แล้วก็บอกกับผมแต่เพียงว่า พี่ผู้ชายคนนี้เป็นผู้มีพระคุณ ซึ่งตอนนั้นไม่ค่อยเชื่อเท่าไร ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ว่า น่าจะมีความจริงอะไรบางอย่างปิดบังผมอยู่' เต๋า อยู่กับความสงสัยได้ 3 ปี ตลอดเวลาที่ผ่านมา เริ่มมีการทะเลาะกัน ความไม่เข้าใจก็ยิ่งก่อตัวมากขึ้น จนกระทั่งเย็นวันหนึ่งหลังจากที่แต่ละคนกลับมาถึงบ้าน เริ่มทะเลาะกันอีกเพราะแฟนสาวไม่อยู่บ้านอีกแล้ว ความอดทนของเต๋ามีจำกัด เขาจึงตัดสินใจพูดคุยกับแฟนสาวอย่างเปิดอก

'ตอนนั้น ผมไม่รู้นะว่าเขาเป็นอะไร แต่ทนไม่ไหวแล้ว เพราะยิ่งอยู่กันไป ยิ่งไม่เข้าใจ ผมไม่สนใจว่าคำตอบมันจะเป็นยังไง เป็นสิ่งที่ผมกังวลหรือเปล่า แต่ขอให้รู้ก่อน รับได้หรือไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที ผมพูดว่าเลิกกันดีกว่า แฟนผมเลยพูดว่าถ้าจะเลิกจริงๆ เขาจะเล่าสิ่งที่ผมสงสัยมาตลอด แล้วเขาก็บอกว่า เขาเคยขายตัวมาก่อนที่จะคบกับผม และทำเป็นอาชีพหลัก ไม่ได้ทำเล่นๆ เป็นครั้งคราว เป็นระยะเวลา 1 ปีเต็มๆ' แฟนสาวของเต๋า เปิดใจเล่าสิ่งที่เก็บกดไว้ในใจไป ร้องไห้ไป เธอตอบคำถามเต๋าทุกคำถามอย่างตรงไปมา ไม่ว่าจะเป็น สาเหตุที่ตัดสินใจ 'ขายตัว' , วิธีการหาลูกค้า, แต่ละวันได้ลูกค้ามากน้อยแค่ไหน, ทำมานานเท่าใดแล้ว รวมทั้ง 'ผู้ชายอุปถัมภ์' คนนั้นด้วยว่า เป็นขาประจำของเธอ
 
'ผมรู้ว่าเธอเจ็บ ปวดมาก เพราะตลอดเวลาเธอร้องไห้ไปเล่าไป ร้องไห้จนตัวโยน สะอึกสะอื้น หูตาแดงไปหมด เพราะเธอบอกว่า นี่เป็นสิ่งที่เธออยากจะลืม แต่ทำยังไงก็ลืมอดีตที่ก้าวพลาดของเธอไม่ได้สักที เธอบอกว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกผิดและอยากจะสารภาพเรื่องนี้กับผม'แม้ จะมีพื้นฐานความคิดเรื่องความรักที่ไม่สนใจเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกแต่เมื่อ ได้ยินเช่นนี้ เขาก็ยอมรับว่า 'อึ้ง' ไปเหมือนกัน แต่เต๋ายืนยันว่า เขาไม่มีท่าทีรังเกียจใดๆ

'ในเมื่อแฟนผมเขากล้าเปิด เผยความจริงขนาดนี้กับผม ผมก็คิดว่า นี่ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงที่สุด หากกล้าเล่า ก็คงจะไม่มีอะไรปิดบังหรือโกหกอีก คุยเปิดใจกันชั่วโมงกว่า จากที่ตั้งใจว่าจะเลิก ก็เปลี่ยนใจ เปลี่ยนเป็นขอแต่งงานแทน ซึ่งเขาก็ตกใจเล็กน้อยว่าทำไมผมถึงยังรักเขาทั้งๆ ที่เขามีอดีตที่เลวร้าย'

คำตอบคือ 'ความจริงใจ'

'สิ่งที่ทำให้เปลี่ยนจากเลิกเป็นแต่งงาน คือ ความจริงใจล้วนๆ เพราะผมไม่สามารถตอบได้ว่า ทำไมผมถึงรักแฟนผม เพราะเวลารักใครผมรักด้วยใจ 100% ไม่มีเหตุผลเลย ส่วนเรื่อง 'นั้น' ผมไม่คิดมากอยู่แล้ว เพราะสมมุติว่าหากเราอยู่กับแฟนแล้วมีอะไรกันทุกวัน แล้วใน
ช่วงก่อนหน้านั้น เขาก็ไปมีอะไรกับผู้ชายทุกวัน เพียงแต่เปลี่ยนหน้าไป ผมว่ามันก็ไม่ต่าง'

เต๋าบอกปิดท้ายด้วยว่า

นับจากวันที่ได้เปิดใจ 2 ปีแล้ว ทุกวันนี้เขาก็ยังรักกับแฟนสาวเหมือนเดิม มีบ้างที่ทะเลาะกัน แต่เขาไม่เคยนำเรื่องราวในอดีตพูดให้เจ็บช้ำน้ำใจ หรือแสดงท่าทีรังเกียจใดๆ ทั้งสิ้น ที่สำคัญเมื่อได้เปิดใจกันแล้ว ทุกอย่างก็ราบเรียบ มีความสุข สบายใจกันมากขึ้น

การใช้ชีวิตคู่ มิใช่แค่ความรักอย่างเดียวจะสามารถประคับประคองให้คนทั้งสองคนเดินทางไปตลอด ด้วยความปลอดภัย แต่ความจริงใจและการยอมรับทั้งส่วนดี และส่วนบกพร่องของกันและกัน จะช่วยให้ชีวิตรักเปี่ยมไปด้วย


 

ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก
				
26 ตุลาคม 2552 09:40 น.

“ความเศร้า และความสิ้นหวัง”

แทนคุณแทนไท

26.jpg...๑...
ความรู้สึกนึกคิด ตีบตัน หาทางไหนก็มิเจอ
ได้แต่เวียนวนอยู่ใน มโนภาพ และสำนึกอันสุดลิ่มนั้นต่อไป

ห้องหับ 
รกชื้นไปเสียถนัดใจ
เพียงไม่กี่รัตติกาลที่จ่อมจมอยู่กับ ความมีอะไรซักอย่าง ที่มิรู้จะหาทางออกเจอ

ฝุ่น ฟุ้งจากชั้นวางหนังสือ
ฟ้องสถานะ อันถูกละเลยได้ดียิ่งกว่าคำสารภาพไหน

แสงอาทิตย์ยามบ่ายคล้อย
เผยม่านหยากไย๋บนเรือน เทวรูปบูชา
แทนที่นาฬิกาบอกเล่าวันเวลาที่ล่วงเลย... ถึงมิเนิ่นนาน แต่คงหลายทิวาและราตรีที่พ้น
เนิ่นช้า อยู่ ณ มโนรู้สึกอันมิอาจก้าวข้ามได้

วินาทีของความเงียบ 
ถูกแทนที่ลงได้บ้าง เมื่อลมพัดลอดผ่านตีนประตู ที่ใช้อำพรางคฤหาสน์สำหรับซุกหัวนอน  วู่ วูบ...
แต่ความรู้สึกเหว่หวาดและว้างมิตรสหาย ยังสัตย์ซื่อต่อหน้าที่ ต่อไป

ฝืนตัดความว้างดายนั้น
 หยิบ จดหมายจากนักเขียนหนุ่ม มาเสพย์ถ้อยรสที่คุ้นชิน

บทกวีอีกเล่ม น้อยใจในโชควาสนา
ตกคว้างลงไปดิ้นทุรน ราวว่าเด็กน้อย ที่ร้องหาความใส่ใจ

ความรู้สึกหล่นหายไปในซอกลึก
ซบหน้า สะอื้นไห้ สะเทือนใจกับโชคชะตาอันบัดซบ

ซ้ำเติม และ ย่ำเหยียบ ฤทัยน้อย ราวศัตรูที่มาดร้ายหมายให้แหลกยับเป็นธุลีผงไปเสีย

ข้อจำกัด และการไกลเกินของ กายภาพ  ยากจะเยียวยาและประโลมขวัญ รู้สึกนั้น

ทอดถอน 
ปล่อยให้ความน้อยเนื้อต่ำต้อย  สะอื้นไห้... ร่ำหาเพียงลำพังไปสักชั่วระยะห่าง

พิศเพ่ง
ฝูงปลาที่เพียรลัดล่องตัดสายน้ำ
อยู่ภายใต้กรอบรูปซึ่งฉาบทับด้วยแผ่นแก้ว ที่เคยมันวาวของจิตรกรจีน ผู้ไร้นาม

ราชรถดวงแดงกำลังจะลาขอบฟ้า
สาดทแยงแสงรัศมีสีทองจับกองกระดาษที่ขะยุ่มทิ้งเมื่อหลายวันก่อน
ความรู้สึกนึกคิดอันไม่ใคร่มีระเบียบ คงวิ่งเล่นอยู่ ในขย่ำกระดาษกำใดสักกำหนึ่งนั้น เป็นแน่


moon1.jpg

...๒...
ฟ้าเริ่มมืดแล้ว
ความรู้สึกนึกคิดยังคง ตีบตัน  เวียนวนอยู่ใน มโนภาพ อันสุดลิ่มนั้น

ห้องหับ  รกชื้นขึ้นตามวันเวลาที่จ่อมจม 
ฝุ่น  หยุดฟุ้งจากชั้นวางหนังสือ เตรียมซ่อนตัวอยู่ในคืนค่ำอันมิดมืด
ม่านหยากไย๋บนเรือน เทวรูปบูชา... มิอาจมองเห็นได้ด้วยตาเนื้ออีกต่อไป
ความเงียบ เริ่มยาวนานขึ้นกว่าเสียง วู่ วูบ ที่ลอดผ่านตีนประตู 
แต่ความรู้สึกเหว่หวาดและว้างมิตรสหาย ยังคงตระหนักและรักษาบทบาทต่อไป มิบกพร่อง

 จดหมายจากนักเขียนหนุ่ม เปิดค้างอยู่ตรงบรรทัดระหว่าง วิกลจริตกับสติสัมปชัญญะ  
บทกวีเล่มที่หลุดหล่น หยุดทุรนดิ้น คงไว้แต่กริยาแผ่วแผ่ว ดั่งลมหายใจกำลังรวยริน
 
ณ ซอกลึก ของขุนเขาแห่งความสุขกับความเศร้า
เสียงสะอื้นไห้ค่อยๆจางหาย  ไปกดทับกับความสะเทือนใจในโชคชะตา

ฤๅ ว่า...
ทุกอย่างอำลาไปแล้วในความมิดมืด
เหลือแต่เพียง บทกวีแห่งความเศร้า และความสิ้นหวัง

บทนั้น... บทเดิม

ทางข้างหน้าช่างว่างเปล่า... เรา คงไม่ได้พบกันอีก...
สายลมพัดเธอหายไปในสายหมอก... ขณะฉัน หล่นว้างอยู่ในซอกเหลือบแห่งความเศร้า...
เธอคงคิดถึงฉัน... เหมือนฉันที่เพ้อรำพึงถึงเธอเสมอ...
วันเวลาที่แสนเศร้า... คือนึกคิดยามเมื่อระลึกถึงเวลาอันแสนหวาน...
ความหวังที่ยังคงหลงเหลือ... คือได้ตื่นมาทบทวนจดจำบางอย่าง ที่หายไปอีกสักครั้ง...
ปิติยินดีที่ล้นหลั่ง (จากดวงตา) ... คือความหมายเดียวของการมีชีวิต.. ต่อไป


ฉันซบซับอยู่กับรู้สึกนึกคิด...
ปนๆไปกับ บทกวีที่สะกดทับอยู่ ณ โมสำนึกแห่งความเศร้า และความสิ้นหวัง 

พระอาทิตย์ที่ ๒๕ ตุลาค์ ๕๒ / แทนคุณแทนไท 
 				
Calendar
Lovers  2 คน เลิฟแทนคุณแทนไท
Lovings  แทนคุณแทนไท เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแทนคุณแทนไท
Lovings  แทนคุณแทนไท เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแทนคุณแทนไท