30 มิถุนายน 2554 10:57 น.
แทนคุณแทนไท
เธอกันฉันนับวันยิ่งห่างเหิน
และไกลเกินจะเก็บมาคิดฝัน
เส้นขอบฟ้าเกินคว้ามาใกล้กัน
ทะเลครามขวางกั้นขีดคั่นไป
เธอกับเขาดั่งเงาเนาว์สนิท
นับวันยิ่งใกล้ชิดนิจแน่นใกล้
ร่นทุกอย่างเข้ามาใกล้หัวใจ
เราห่างไกลขณะเธอใกล้กัน
ฉันได้แต่ทบทวนหวนรำลึก
ยามรู้สึกเมื่อแรกแปลกไปนั่น
คิดถึงได้แต่นิยามความผูกพันธ์
ของรักเมื่อวานวันที่ผันไป
ขณะเขาเร้ารุกสุขใจนัก
มีเธอไว้เคียงตักพักพิงไหล่
ได้สูดกลิ่นหอมหวานละมานใจ
ของวันวัยในวันนี้ที่เธอเป็น
เมื่อคิดถึงฉันจึงเขียนความคิด
เล่าความหลังฝังสนิทในคิดเห็น
ใช่อยากเปิดสิ่งใดใส่ประเด็น
เพราะฉันเป็นผู้แพ้อย่างแท้จริง
เขาคิดถึงก็ได้ซึ้งถึงความคิด
มีเต็มสิทธิ์เสรีทุกที่สิ่ง
ฉันพบเห็นแววสุขไร้ทุกข์ติง
ต่างกับคนถูกทอดทิ้งทุกสิ่งไป
สงวนศักดิ์รักศรีชีวีฉัน
เจ็บถึงเหน็บนัยนั่นจนหวั่นไหว
อย่าหวังเห็นความขื่นฉันกลืนไป
อย่าหวังได้ฟังคำโศกโบกมือลา
แค่ฉันแสนเสียดายเคยหมายมั่น
และเสียดายใจจำนรรย์วันก่อนหน้า
เสียดายปากเคยเอ่ยฝากรักก่อนมา
เสียดายตาบอดสนิทมานิจนาน
เสียดายวัยเสียวันเคยฝันถึง
เสียดายความคำนึงซึ่งล่วงผ่าน
เสียดายเคยถนอมไว้ทั้งดวงมานย์
เสียดายชาติชายชาญลาญทลาย
เมื่อจากกันถึงฝันหาก็ห่างเหิน
มันยากเกินจะย้ำให้เสียหาย
ถึงขึ้งโกรธก็มิโทษครวญโอดอาย
วิสัยชายใช่สิ่งที่น่าทำ
แต่จะให้อวยพรให้สุขล้น
ก็ปลิ้นปล้นหัวใจที่ไหวส่ำ
ขอเวลาให้เลือนความทรงจำ
ฉันจะนำความนี้ไปบอกเธอ
ว่า...
ขอให้มีความสุขทุกเมื่อคิด
ขอให้มีทุกสิ่งสิทธิ์สนองเสนอ
ขอให้ความดีงามทุกเลิศเลอ
ประดามีแด่สองเธอตลอดไป
ให้สากลความงามนิยามโลก
ทุกสร้อยโศกถึงมีอยูที่ไหน
ขอให้อยู่ที่นั้นตลอดไป
อย่าได้มาชิดใกล้ไร้เวลา
ถอดหัวใจเขียนอย่างนี้ตามวิสัย
ถึงปากจะบอดใบ้ "จารใจว่า"
ถ้อยสุนทรกลอนกานต์ที่ผ่านตา
สำหรับทุกคุณค่าราคาใจ
สิ้นแล้วเธอกับฉันเมื่อวันนนั้น
เหลือแต่วันปัจจุบันอันสดใส
เธอกับเขาสวยล้ำกว่าสิ่งใด
ฉันจะกลับมาอวยชัยเมื่อใจพร้อม
แทนคุณแทนไท / เมื่อสักครู่ 29 มิ.ย. 54 - 20:23
22 มิถุนายน 2554 12:35 น.
แทนคุณแทนไท
คำชาย
นี่เป็นการพานพบเพียงครั้งแรก
มิผิดแผกแปลกอะไรถ้าใจอ่อน
จะให้เอ่ยเผยฝากยากแน่นอน
เกรงคำโดนหมิ่นรอนอ่อนค่าไป
ถ้าคำพูดเป็นทูตของชีวิต
ปากฉันนี่นิ่งสนิทเกินไปไหม
จึ่งเอ่ยฝากยากขยายบรรยายใจ
โลกถึงเงียบเชียบหลายคล้ายภวังค์
รู้สึกสิบพูดสี่เหลือไว้หก
ใจตลกทำได้ไม่เหมือนหวัง
รู้สึกร้อยพูดหนึ่งน้อยสร้อยเศร้าจัง
หัวใจสั่ง แต่ปากนี่ยากเกิน
จึงเขียนกลอนตอนพบกันเป็นวันแรก
มิผิดแผกคั่นกลางมิห่างเหิน
เหมือนได้ชมทุ่งตะวันฝันสวยเพลิน
ใช่คำเยินยอหยอกใช้หลอกเธอ
ฉันเขียนคำไม่เคยซ้ำความคิด
เลี่ยนอาจมีหน่อยนิดมิผิดเผลอ
อยากให้หอมให้หวานจนละเมอ
ประการการเดียวคือเธอรู้สึกดี
ฉันเขียนถ้อยร้อยมอบเธอชอบไหม
อธิบายหัวใจใช่ใส่สี
คำชายแม้นอาจเอ่ยยากจากใจมี
รู้เถอะนี่ แหละคุณค่าราคาใจ
พระพุธที่พบ ๒๒ มิถุนาย์ ๕๒ / แทนคุณแนไท
21 มิถุนายน 2554 08:02 น.
แทนคุณแทนไท
ถ้าไม่มี อย่ามีเลย....
ถ้าเรา ไม่มีโทรศัพท์
จะส่งรับความคิดถึงกันที่ไหน
ถ้าขาดไปรษณีย์ประเทศไทย
จดหมายถึงคนไกลคงไม่มี
ถ้าไร้เรือ ไร้รถ
การเดินทางคงไกลหมดทุกแหล่งที่
ระยะห่างได้ใกล้ชิดหมดสิทธิ์มี
คงเป็นเดือนเป็นปีถ้ามีวัน
คนเดินทาง
อย่างได้เคว้งได้คว้างในทางฝัน
แม้ยากหน่อยค่อยคิดพิจารณามัน
และเท่าทันอัศจรรย์ที่เคยมา
เคยได้พบ
แม้ไม่คุ้นตาสบพบใบหน้า
เจอคนใน "จักวาลกาลเวลา"
โลกเสมือน ที่ตามองไม่เห็น
ได้รู้จัก
ก็จะได้ตระหนักในทุกข์เข็ญ
เมื่อห้ามโลกไม่ได้ในสิ่งเป็น
ก็จะเร้น เว้นระยะปะทะใจ
ไม่มีเขา
ก็คงไม่มีเราใช่หรือไม่
และบางทีเราอาจไม่มีใคร
แต่ก็จะอยู่ได้สบายพอ
เมื่อมีเรา
จะเปลี่ยนใจใครเขาได้ไหมหนอ
ที่เป็นเราก็เป็นเราเราเป็นพอ
จะตัด หรือจะต่อ ตามต้องการ
ใครตัดสิน
กำหนดจากฟ้าดินสันนิฐาน
หรือใจเราจักกำหนดจรดจาร
เคยพบพาน จะผ่านหลบไม่พบเลย
เมื่อใกล้ชิด
และทิ้งว่างความสนิทไปเฉยเฉย
ช่างสำแดงแสลงล้ำช้ำใจเอย
แต่ก็จะคุ้นเคย มิเอ่ยใด
ถ้าไม่มีอะไรเลย
เราก็ยากจะเคยคบกันได้
ดอกไม้ฉันปลูกไว้แล้วในหัวใจ
มิรู้ใครเด็ดทิ้งไปเศร้าใจเอย
ไม่ต้องขอบคุณ
แรงบาปบุญไม่เกี่ยวอย่าวเทียวเอ่ย
แม้รักใคร รักแล้วก็รักเลย
เว้นระยะ เฉยเมยไม่เคยทำ
พระอังคารที่ ๑๘ มิถุนาย์ ๕๔/ แทนคุณแทนไท
18 มิถุนายน 2554 15:24 น.
แทนคุณแทนไท
จงเป็นเช่นนักยุติ ใช้ธรรมดำริ
มิผิดเพี้ยนพ่ายหลักการ
อำนาจมีนั้นบันดาล ใครใดประทาน
ซื่อสัตย์สุจริตคุณธรรม
ผู้ใช้กฎบทน้อมนำ ให้ได้เที่ยงธรรม
สืบสานประโยฃน์สุขประชา
ส่งเสริมเริ่มสร้างรักษา ตามปฎิญาณ์
นักยุติธรรมดำรงค์
พ่อเคยสาปแช่งใครคง ผิดพระดำรัสองค์
ขอให้มีอันเป็นไป
ไร้อคติในใจ อยากได้อยากให้
อย่ามีไว้เป็นอบาย
ทุจริตประพฤติชั่วร้าย ลาภมิควรได้
ใช่สิ่งที่ควรชวนปอง
นิติธรรมนั้นควรครอง อย่าให้หม่นหมอง
และต้องพร้อมมโนธรรม
รวดเร็วถูดต้องแม่นยำ คือสมบูรณ์ล้ำ
ช้าไปก่อกรรมธรรมเลือน
นิยามความจริงสิ่งเตือน ไม่คิดบิดเบือน
สานสุขทุกกฎบทเกณฑ์
ใครใช้อำนาจก่อเวร จุนเจือจัดเจน
อามิสสินจ้างรางวัล
คำพ่อเคยแช่งลงทัณฑ์ ชาตินี่ชี้พลัน
มีอันเป็นไปทันตา
ผู้ใดสืบทอดเจตนา ดำรงรักษา
ขอพรพระพาพ้นภัย
สังคมชมชื่นรื่นใจ งามเลิศเพริศใน
ทุกสิ่งที่มีดีงาม
มิใช่แค่นักยุติธรรม ทุกควรควรนำ
มาใช้ปรับไว้ใส่ตัว
ไม่เห็นแก่ได้แก่ตัว ยอมพ่ายใจตัว
คิดแต่อยากได้อยากมี
แนวทางพ่อสอนกี่ปี ส่งเสริมคนดี
ให้ได้ปกครองบ้านเมือง
อย่าใช้เสรีเปล่าเปลือง จงเป็นฟันเฟือง
ให้ชาติได้อยู่ต่อไป
มิใช่ชาตินี้ชาติใคร นี่คือชาติไทย
รวมใจกันรักแผ่นดิน
อย่ามุ่งแต่เกลียดเหยียดหมิ่น พ่อน้ำตาริน
ลูกหลานก็ไร้หนทาง
จงเป็นเช่นผู้ปล่อยวาง อบายเบาบาง
เพื่อเป็นแบบอย่างยุวชน
หยุดเถิดทุกความป่วนป่น ต่อสู้ดิ้นรน
บนความอยากได้อยากเป็น
นั่นอาจก่อกรรมทำเวร สร้างทุกข์ขุกเข็น
กลายเป็นกากเดนบรรพชน
ลุกขึ้นไปค้ำชูคน ก่อนชาติว่ายวน
ให้คนดีได้ปกครอง
คนดีใช่แลกแจกทอง ภาษีพี่น้อง
ทุกสลึงพึงคิดให้ดี
อย่าเอาแค่ความอยากมี ประชาชาติชี้
บ่งบอกคติธรรมย้ำไทย
ว่าได้ตัวแทนแบบไหน นั่นแหละปวงไทย
สะท้อนย้อนที่ตัวตน
จะเลือกจงคิดเยียบยล นำชาติให้พ้น
จากความไม่ดีทั้งมวล
เพื่อเป็นของขวัญอันควร พ่อชื่นรื่นสรวล
ถวายพระพรร่วมกัน
ตั้งสัตย์และปฏิบัติพลัน ร่วมแรงแข็งขัน
ผลนั้นปรากฏชัดเจน
เป็นการหยุดซ้ำกรรมเวร ให้ลูกหลานเหลน
สำนึกจารึกจดจำ
ฉันเป็นนักยุติธรรม หน้าที่น้อมนำ
ซื่อสัตย์ สุจริตล้ำจำได้
คิดถึงประโยชน์ชาติไว้ คือสูงสุดหมาย
ตัดอบายส่วนตัวทิ้งไป
คิดถึงพ่อมาคราใด ยิ่งรักเมืองไทย
ภูมิใจร่วมพ่อเดียวกัน
เลือดไทยอย่าได้แบ่งกัน ชนชาติชนชั้น
ฉันรักเธอนะคนไทย
15 มิถุนายน 2554 09:19 น.
แทนคุณแทนไท
...คิดน้อง "หนู" เมื่อปอ ๑
แม้ไม่ได้ซาบซึ้งถึงปอสอง
ไปหลงรัก น้องแอน คนแสนงอน
แต่พี่สาวเธอไม่อ่อน จึงถอนตัว
พอปอ ๒ แอบชอบมอบใจ "นุช"
ต้องแย่งยุทธ กับเพื่อนไปถ้วนทั่ว
ทุกทีเห็นหัวใจไหวสั่นรัว
แต่นุชมัว มีทั่วท่านจึงผ่านเลย
ขึ้นปอ ๓ ถามใจว่าเข็ดไหม
ใจก็ตอบหัวใจว่าเฉยเฉย
จึงมอบรักให้ "แอน" คำแสนเชย
ริอ่านกล้าเปิดเผยความรักไป
แต่พี่สาวน้องแอนมาหมิ่นศักดิ์
กีดกันนักความรักเราหักได้
จึงเบนเบี่ยงเสี่ยงมาลัยสาว "สอง" ไป
คนที่ย้ายมาใหม่จากในเมือง
ปั่นรถถีบไปหาเธอที่หน้าบ้าน
พ่อเธอปล่อยหมาระรานพานเกิดเรื่อง
จะฝืนยื้อยุตไปก็เปล่าเปลือง
เกรงผู้ใหญ่ขุ่นเคืองมีเรื่องราว
แต่ปอ ๔ ยังมีใจให้น้องสอง
จึงลอบมอง "สอง" สวย มิหมวยขาว
ผิวเธอสีน้ำผึ้งสะอึ้งผ่าว
คนสวยขาว หมองหมดไม่จรดมอง
พอปอ ๕ น้อง "ตา" ช่างน่าสน
ผ่านตาจนหลงสิเน่บุพเพต้อง
กลับไปฝันถึงน้อง "ตา" นิตยาน้อง
และหมายปองครองใจใส่กรงทอง
ปอ ๖ แล้วไม่แคล้วต้องลาจาก
น้องตามีทีท่ายากชักขุดข้อง
ยิ่งโตก็ยิ่งขี้เหร่มิชวนมอง
จึงแอบรับน้อง "ปอง" มาคล้องใจ
พอเรียนจบครบแล้วซึ่งปอ ๖
ได้ไปพบสาวสด อดไม่ไหว
วาเลนไล มอ ๑ จึงบึ้งไป
บอกการ์ดนี้พี่ให้ นิด มิผิดตัว
เป็นครั้งแรกที่ใจมันเต้นตื่น
แต่ฝืนกลืนกลัดกินให้สิ้นทั่ว
อายุเราสิบสามแล้วก็พอเนาว์นัว
และหน้าตาก็ว่าชัวร์ ไม่น่าชัง
ถึงจะมีความรักแรกแปลกไปมาก
แต่ไม่อยากเรียนป่าดงเหมือนกรงขัง
จำใจลาแล้วแก้วตาถ้าจะฟัง
จงกลบฝัง รู้สึกดีที่มีมา
พอเริมเรียนมอ ๑ ถึงเมืองใหญ่
มองคนงามอยู่ที่ใดมิถามหา
เห็นกันจนวุ่นวายละลายตา
แต่คิดว่าจะหา ไว้สักคน
เด็กบ้านนอกมาอยู่เมืองเรื่องที่เศร้า
คือความเหงาที่เร้าอารมณ์หม่น
เรียนพิเศษวันแรกก็แปลกยล
ได้พบคนนามน่าชิด "อริสา"
เขียนกลอนอ้อนอ่อนหวานทุกวานวัน
ส่งสื่อกันในวันที่พบหน้า
ตนเรานั้นมาเรียนกวดวิชา
และได้ผลเข้าท่าและเข้าที
เรียนมอ ๑ ที่ใหม่ใจบรรเจิด
สาวแบ่งใจให้เปิดประตูที่
ไม่คิดหมายว่าจักได้ครึ่งใจมี
เธอมอบจี้ครึ่งใจให้ วาเลนไท
เก็บเอาจี้หัวใจไว้คนละครึ่ง
อยู่มอ ๑ มีแฟนมาดแมนไหม
เธอดาวเด่นของชั้นปีรุ่นพี่ไคล้
ไม่ทันข้ามเทรมสองไป ขอใจคืน
หยิ่งโว้ย โหลยโท้ยและโลเล
เชิญไปหาคนเท่อย่าได้ฝืน
แต่อย่ากลับมาจะซ้ำให้ล้มครืน
เจอหน้ากันก็เป็นอื่นไม่อยากมอง
ไม่ได้เธอเพื่อนเธอก็พอไหว
"ดวงกมล" คนใกล้ไม่เป็นสอง
ได้แต่ทอดสะพานตาให้ท้าลอง
และเราก็จดจ้องมองไปมา
เมื่อจะจีบเพื่อนแฟนเก่าเราลำบาก
มอ ๒ จึงเปลี่ยนฟากให้หลากกว่า
คนชื่อ "ตาล" หวานสนิท นาม นิตยา
นับแต่เริ่มเอ่ยมา มีสามคน
เป็นลูกสาวไฮโซในจังหวัด
จะรวบรัดเกรงว่าโกลาหล
จึงให้ไปตัดสินใจในบัดดล
จะรักคนที่รูปลักษณ์หรือทรัพย์มี
เราไม่มีอะไรให้เขาปลื้ม
แค่ยิ้มยืมถ้อยคำกวีศรี
ว่ารักพี่คือความปรารถนาดี
ถ้าไม่อยากปรารถนานี้ พี่ขอยอม
คบกันได้เกือบปีมีอันเปลี่ยน
เราตามเรียนรู้ทุกอย่างจนผ่ายผอม
ข้าวแกงธรรมดาก็มิเคยประนีประนอม
เราจึงยอมอกหัก รักมากมาย
พอไปถึงมัธยมปีที่สี่
อริสาคนที่แบ่งใจให้
ในมอหนึ่ง มาร่วมชั้นชักบรรลัย
เพราะหัวใจ ไหวหวั่นทุกครั้งมอง
แต่กำเนิดเป็นชายชาติไม่เสียสัจ
จะจำใจก็จะตัดไม่ขัดข้อง
เลยตั้งใจหารักแท้ที่ควรครอง
ก็มาต้องชะตากัน "จุวัณณีย์"
คนนี้เป็นคนใหม่ตอนมอ ๔
จากถิ่นที่ห่างไกลพร้อมเพื่อนพี่
เจอหน้ากันวันแรกแจกไมตรี
รอยยิ้มพลีมอบให้จากใจจริง
แล้วก็เริ่มกระบวนหน้าด้านเข้า
ทุกเช้าไปยืนเฝ้าดังผีสีง
คือให้ความคุ้นเคยเป็นฐานอิง
และใกล้ชิดติดจริงเป็นสิ่งตาม
ไม่นานก็ก่อเริ่มความผูกพันธ์
แกล้งหายไปหลายวันเพื่อสอบถาม
ว่าที่ทำมานี้มีผลตาม
ที่ตั้งจิต คิดนิยาม ความว่าไร
แล้วเราก็ได้ผลดังใจคิด
เราคบคิดอย่างแฟนแนบแน่นได้
ตั้งแต่นั้น วันมอ ๔ ถึงปีปลาย
และสืบสายไปจนมหาลัย
พอเรียนจบพบใครใจไม่ตอบ
เพราะคนที่คิดมอบมีความหมาย
คิดหวังถึงคู้ชีวิตมิผิดราย
แต่สวรรค์ตลกร้าย ไม่ได้ครอง
แต่อย่างไร ๙ ปีก็ดีมาก
และคู่ใดไหนอยากจะทุกข์หมอง
รักต้องเกิดจากรัก จึงตรึงตรอง
เวลาหมดก็ต้องปล่อยกันไป
วันเลิก "ระวี" ที่ฉันรัก
ก็ลองมีความรักหลายครั้งใหม่
เริ่มจากน้องชื่อ ติ้ง น้อง "บอล" ใบ
และน้อง ซัง น้อง ไปร้ น้องใบบัว
จนมาเจอน้องเอ๋ เล่ห์ตลก
ไม่เคยคิดสั่นสะทกในใจทั่ว
ความงามฉายผ่านความดีที่ในตัว
หลงมอบรักให้หมดหัวใจที่มี
ฝ่านมาได้เจ็ดปีชี้ได้ชัด
ไม่เคยทำเรื่องสื่อมสัจวิบัติศรี
ให้เกียรติคนที่หมายจะกลายมี
เป็นว่าที่แม่ของลูกถูกครรลอง
จึงยึดถือประเพณีเป็นศรีศักดิ์
มิให้รักเป็นสิ่งที่ต้องลองของ
เป้าหมายมิได้อยู่ที่เนื้อกายครอง
แต่อยู่ที่ครรลองจารีตงาม
วันนี้ไปงานแต่งวันแห่งรัก
ฉันถามทักตัวเองไยหักห้าม
ไม่คิดถึงซึ่งวันที่อาจงาม
จะปล่อยตามความเสรีเข้าทีหรือ
จึงเขียนย้อนมาเล่าประวัติศาสตร์
มาบอกให้นุชนาถของพี่รู้
ว่าไม่นานเกินรอหนพธู
ขันหมากจะไปสู่ขอสมหน้าตา
พระจันทร์ ๑๓ มิถุนาย์ ๕๔ / แทนคุณแทนไท