26 มิถุนายน 2552 13:14 น.
แทนคุณแทนไท
แด่ที่รักของพี่ :
นางฟ้าผู้แสนดี วาสนาอันงดงาม
๑...
แม้ไม่เอ่ยเผยนามทรามสวาท
ในการวาดอักขราภาษาสาส์น
หญิงที่พี่แสนรักภักดิ์มัดมาน
นามนงคราญมิเคยจารผ่านสุนทร
๒...
ไม่เคยร่ายอักษรกลอนสวยสด
ไม่เคยรินถ้อยรสพจออดอ้อน
ไม่เคยร้อยสร้อยคำถึงบังอร
ไม่เคยจารบทกลอนอ้อนดวงใจ
๓...
เมื่อหญิงที่พี่รักเขานักหนา
ช่างโสภาพิศเพลินเกินหญิงไหน
เกรงชายอื่นตื่นงามเห็นตามไป
พี่ถึงไม่คิดเสี่ยงจึ่งเลี่ยงครวญ
๔...
เจ้าน้อยใจไปไยหัวใจเอ๋ย
ไฉนเลยทรามเชยมาโศกสรวล
แม้มิเคยเอ่ยอ้างอย่างที่ควร
ก็อย่าด่วนสรวลโศกวิโยคตน
๕...
ทุกการสร้างอ้างรักแอบอักษร
ทุกบทกลอนที่ทั้งรักทั้งหมักหม่น
พี่อ้างหญิงอิงนามนางหลายคน
เว้นไว้แต่หน้ามนคนแสนดี
๖...
ไม่เคยเลยจะเอ่ยความตามใจว่า
โอ้โฉมหน้านุชนาถสะอาดศรี
เหมือนเดือนเด่นเพ็ญฟ้ายามราตรี
นางช่างมีมนต์ขลังดุจดังตรึง
๗...
ไม่เคยพร่ำคำชมให้สมศักดิ์
สมที่พี่แสนรักสักนิดหนึ่ง
สมดวงใจที่ไฝ่ปองครองคะนึง
สมทุกความสุดซึ้งถึงหัวใจ
๘...
แม้ไม่อ้างอย่างที่พี่ควรอ้าง
ขอน้องนางได้ขบคิดสักนิดไหม
นามแม้ล้ำสำคัญประการใด
ไม่เท่าใจเรานั้นที่มั่นคง
๙...
ถึงมิเคยเอ่ยนามทรามสวาท
แต่ใช่เคยไหวหวาดจนพลาดหลง
ใจพี่ซื่อสัตย์นั้นยังมั่นคง
ขอนวลนงคราญอย่าคอยแต่น้อยใจ
สังฆยนา : ๑๒.๕๓ น.
พระศุกร์ที่ ๒๖ มิถุนาย์ ๕๒ / แทนคุณแทนไท
24 มิถุนายน 2552 12:58 น.
แทนคุณแทนไท
ฝากฟ้าทะเลฝัน
ทิวาอันอวนอุ่นไอ
ดวงดาวประกายไฟ
ระบายไปในใจดาว
ร้อยสร้อยถ้อยละมัย
ละมุนใจหทัยผ่าว
มิถุนาย์ มาอีกคราว
คิดถึงสาว คราวซึ้งใส
ไมตรีวลีฝาก
วจีหลากจากดวงนัย
พจน์ผ่านจารจรดใจ
ฝากอวยชัยจากใจชาย
"ที่ใด มีความสุข
ขอให้สุขดั่งใจหมาย
ฝันใดอันพริ้งพราย
ขอให้ได้ดั่งหมายปอง"
สวยสดจะงดงาม
วะวิบวามระเรืองรอง
บทเพลงสุขทุกท่วงทอง
ร่ายทำนองร้องให้เธอ
ดอกหญ้าระบัดใบ
บรรเลงไพรละไมละเมอ
งามใดอันเลิศเลอ
ให้สวยเพ้อในอารมณ์
อิ่มออมหอมความสุข
ให้เร้ารุกทุกห่อห่ม
ทุกข์ไกลใจอย่าตรม
สุขอารมณ์ทุกเวลา
วาวแวมแต้มฟ้าสวย
ร้อยถ้อยด้วยสิเน่หา
ฝากหทัยแม้ไกลตา
ปรารถนามาเย้าเยือน
.................................
สังฆยนา : ๑๒.๔๖ น.
พระพุธที่ ๒๔ มิถุนาย์ ๕๒ / แทนคุณแทนไท
22 มิถุนายน 2552 18:37 น.
แทนคุณแทนไท
...๑...
น้ำตาตก อกเต็มตื้น สะอื้นสะอึก
หลั่งท่วมท้น ล้นรู้สึก สะอึกสะอื้น
ไม่ริรู้มิสู้ฝันทุกวันคืน
กลัวรอยขื่นจะเข้าข่มถมอารมณ์
..๒...
เหตุเพราะเจอคำเธอตัดสลัดรัก
กลายเป็นคนอกหักเพราะรักขม
โลกที่เคยสวยใส ไม่ภิรมณ์
อกไหม้ตรม ให้ขมขื่นสะอื้นใจ
...๓...
น้ำในอกตกต้องนองรู้สึก
ในคืนหนาวคราวดึกรู้สึกไหม
เสียงสะอื้น ระรื้นริน จากถิ่นใด
นั้นหละเสียงร่ำไห้ใจชายครวญ
...๔...
ปวดเจ็บนักรักเอ๋ยไม่เคยคิด
จะได้มาแนบสนิทจิตปั่นป่วน
ป่วนคะนึงที่อืออึ้งอยู่อึงอวล
จึงเขียนกลอนทบทวนยามป่วนใจ
...๕...
อารมณ์เอ๋ยโอ้ว่าอารมณ์โศก
เหมือนว่าโลกทั้งโลกมาหลับไหล
น้ำตาเอ๋ยไม่เคยเอ่ยเผยความนัย
เหตุไฉนมาไหลช้ำเพราะคำคุณ
...๖...
เขียนนิราศรักร้างลาน้ำตาไหล
ล้นจากนัยดวงหทัยละไมอุ่น
ได้แต่วอนไหว้ว่าฟ้าจงการุณ
ขอผมคิดลืมคุณได้สักครา
...๗...
เมื่อความรักร้างลาน้ำตาร่วง
เสมือนชิดสนิทบ่วงสิเน่หา
จากวันนั้นจนวันนี้หลายวันลา
แต่ไยความทรมาน์ ยังว้าใจ
...๘...
ทั้งที่ใจยับเยินเกินเสียแล้ว
แต่ยามคิดถึงพิมพ์แก้วยังหวั่นไหว
ทั้งที่กายสัมพันธ์ผันไปไกล
แต่ทำไมหัวใจไม่ลืมคุณ
...๙...
โอ้รักเอ๋ยเคยรักสลักแน่
โอ้ดวงแดเคยแน่นักรักเคยอุ่น
โอ้พิมพ์เอ๋ยเคยแนบแอบอกคุณ
ไม่มีแล้วไอละมุนเคยกรุ่นจำ
...๑๐...
น้ำในตาหลั่งมาไม่รู้ดอก..
ว่ารินออกมาบอกความชอกช้ำ..
โอ้หัวใจ เจ็บแล้ว ไยไม่จำ..
หรือริยำ อยากจำ แต่ทำลืม
"สมน้ำหน้า ไม่จำ ซ้ำไม่ลืม"
.........................................
สังฆยนา : ๑๘.๓๖
พระจันทร์ที่ ๒๒ มิถุนาย์ ๕๒ / แทนคุณแทนไท
19 มิถุนายน 2552 12:45 น.
แทนคุณแทนไท
...๑...
เมื่อรักห่างร้างแรมยิ่งแต้มเศร้า
ในวันหนาวจึ่งร้าวรานกว่าวานไหน
ในดวงมานที่ซานซบสยบนัย
ยังเจ็บแปลบแนบนัยหทัยชาย
ทุกข์ท้อโถมโรมเร้าเศร้าถึงจิต
เหตุพ่ายพิษความรักที่หักหาย
ชีวิตสิ้นสูญหวังซังกะตาย
มานสลายมลายหมดที่งดงาม
เหลือแต่ความที่ถามโศกวิโยคอยู่
ในรู้สึกระลึกรู้ทุกคำถาม
แต่สร้อยเศร้ายังเย้ายั่วทุกเนื้อนาม
สุดจะห้าม ความคิดยามพิศถึง
ที่ตรงนั้นฝันเอ๋ยเคยพิลาศ
บุพชาติสะอาดใสในโลกหนึ่ง
ยังหอมหวลชวนหาทุกตราตรึง
ในคะนึงยังซึ้งซ่านทั้งมานเรา
กล้ำสะอื้นกลืนสะอึกระทึกระทด
น้ำตาหยดรดแต้ม แกล้มความเศร้า
ยามเหว่หวาดขลาดสะทกหัวอกเยาว์
ขมก็ข่ม ถมเข้า เอาเป็นทุน
เคยเด็ดเดี่ยว แม้เดียวดายเมื่อกายทุกข์
ใครที่ปลุกปลอบให้ใจละไมอุ่น
ใครที่เคล้าเคลียคลอ... ขอรอคุณ
โอ๋อกเอ๋ยเคยอุ่นกรุ่นอุรา
มิคิดคาดชีวาตย์มาขาดบั้น
ใจหวิวหวั่นพรั่นไหวไร้หรรษา
ทรมานซ่านซัดหัทยา
โชคชะตาพาหายทลายลาญ
...๒...
ก่อนเคยมีสตรีหนึ่งพึงปลุกปลอบ
ก่อนกุกอปกรรมกิจผลิตผสาน
แต่บัดนี้มิมีนางมาเนาว์นาน
นุชนงคราญได้ลี้ตีจากไป
นี่ทนได้อย่างไรใจไม่รู้
รู้แต่สู้อยู่ระหว่างความว่างไร้
หนึ่งนาทีที่ทุกข์ทับแทบขาดใจ
เราอยู่ได้อย่างไรไม่มีเธอ
เมื่อใจโศกเห็นโลกกว้างสิ้นทางหวัง
หมดพลังที่ตั้งจิตคิดเสมอ
มีแต่ความอุ่นไอละไมละเมอ
นั่งยิ้มเก้อแล้วหนอต่อแต่นี้
ด้วยชีวิตผิดพลาดพินาศป่น
จึงได้ดลสร้อยสลดกำสรดศรี
ถ้อยที่เผยเอ่ยหลากจากฤดี
วันนี้มีแต่เศร้ารานเร้ารอน
............................................
สังฆยนา ๑๒.๓๑
พระศุกร์ที่ ๑๙ มิถุนาย์ ๕๒ / แทนคุณแทนไท
17 มิถุนายน 2552 15:45 น.
แทนคุณแทนไท
เสียดายฟ้าเคยเห็นเป็นสีฟ้า
เสียดายธารธาราปลาเคยว่าย
เสียดายลมเคยพรมห่อห่มใจ
เสียดายวัน เสียดายวัย ที่ไกลเกิน
เสียดายรอยอารมณ์ข่มความคิด
เสียดายมิตรไมตรีที่ห่างเหิน
เสียดายจินตภาพเคยอาบเพลิน
เสียดายกาลเหลือเกินยับเยินแล้ว
เสียดาย ดวงดาวเคยวาวฟ้า
เสียดายริ้วทิวา อุษาแก้ว
เสียดายเพชรเกล็ดสีมณีแวว
เสียดายรุ้งพริ้มแพรวเคยแวววัน
เสียดายสร้อยบุพเพสันนิวาส
เสียดายชาติปรารถนาเคยพาหวั่น
เสียดายอุ่นกรุ่นไอละไมนั้น
เสียดายคืนเสียดายวันที่ฝันมา
เสียดายดวงดอกไม้เคยงดงาม
เสียดายพจบทนิยามความคิดหา
เสียดายภู่หมู่ภมรบินว่อนฟ้า
เสียดายหยาดเมฆาคราต้องลม
เสียดายลมหายใจเมื่อไหวสั่น
เสียดายความเชื่อมั่นที่หมั่นสม
เสียดายส่วนรู้สึกเคยนึกชม
เสียดายความปรารมภ์นิยมรัก
เสียดายใดไหนเล่าจะเท่านี้
เสียดายห้วงดวงฤดีเคยพลีปัก
เสียดาย ฉันแสนเสียดายนัก
เหมือนเสียศักดิ์ เสียศรี เสียชีวิต
...บทส่งใจ
...ที่รัก
...ถ้าความเป็นผม
...ไม่ได้เข้าใกล้ความเป็นไปที่คุณคะนึง
...คุณจะยังปรารถนาไมตรีที่เคยมีอยู่หรือไม่หนอ
...สายลมแสนสวย ท้องฟ้าแสนงาม
...ยามที่ไม่มีคุณ ดุจหัวใจผมได้หลุดหายไป
...
...อยากให้กายธรรมชาติผมเป็นดุจท้องฟ้า
...แหละให้หัวใจแห่งดวงจิตปรารถนาเป็นดั่งเป็นสายลม
...
...เสียดายนะ ที่ผมมิอาจเป็นเช่นนั้นได้
...น่าเสียดาย
สังฆยนา : ๑๕.๒๙ นาฬิกา
พระพุธที่ ๑๗ มิถุนาย์ ๕๒ / แทนคุณแทนไท