23 พฤศจิกายน 2547 13:49 น.
แทนคุณแทนไท
...
...นนทบุรีที่ ๒๓ พฤจิกาย์ ๒๕๔๗
...
...เขียนที่นี่ ที่กระทรวงการค้า ประเทศไทย
...
...กุมภกาที่รัก
...นานแรมเดือนแล้วซินะที่ผมมีวาสนาได้รู้จักคุณ
...ถ้าผมจะเอ่ยคำว่า
...คุณคือคนที่ผมตามหามาแสนนาน
...คงยากที่จะทำให้คุณเชื่อความรู้สึกที่ผมมีเช่นนี้
...
...แต่กุมภกาคนดี
...
...นับแต่วันที่วาสนาฟ้าเปิดโอกาสให้ผมรู้จักคุณ
...แม้ผมมิอาจกล่าวได้ว่า
...ทุกทุกวินาทีผมมีคุณอยู่ในความรู้สึกเสมอเสมอ
...
...แต่กุมภกาคนดีของผม
...ผมคงมิกล้าปฏิเสธตัวเองไม่ได้ดอกว่า
...คุณคือความรู้สึกดีดีทุกคราที่หัวใจผมรำลึกนึกถึง
...
...ผมเรียกคุณว่าที่รักได้ไม๊คนดี
...ผมกล่าวคำนี้ หาใช่เพราะผมอยากได้ความรู้สึกพิเศษใจใดใดจากคุณเลย
...แต่เพราะผมอยากให้คุณรู้ความพิเศษจากใจผมต่างหากเล่า
...
...สำหรับคุณ
...ความรู้สึกพิเศษได้กำเนิดเกิดในใจผมมานานหลายเพลาแล้วคนดี
...
...ที่รักของผม
...ผมรู้ดีว่า
...ในสัมพันธภาพที่เราได้เจอกันเช่นนี้
...คงยากที่ผมจะคิดมาดหมายสิ่งใดใดได้มากกว่าที่เป็นอยู่เช่นนี้
...
...คงเพราะถึงแม้นตัวเราใกล้ใจกันมากสักเพียงไหน
...แต่ในความเป็นไปที่เราเจอ
...กายเราเหมือนไกลกันคนละฝั่งฟ้า
...
...คุณรู้หรือไม่
...กาลหนึ่งในอดีตผมเคยหลับตานิ่งนึกถึงใครบางคนที่แสนรัก
...ในรู้สึกผม ณ ขณะนั้น
...เต็มไปด้วยไอละมุนละไมแห่งความสุขใจที่ยากจะบอกกล่าวได้
...
...แหละเช่นกัน
...ณ. ขณะนี่ เวลานี้ที่รู้สึกในหัวใจ
...มิได้แตกต่างกับที่ผมนิ่งนึก และกำลังระลึกถึงคุณในบัดนี้เลย
...
...รู้หรือไม่...คุณทำให้ผมอิ่มสุข...อิ่มหัวใจ
...
...
...
...ผมได้แปลกใจตัวเองนะคนดี
...ว่าทำไมหนอ
...หัวใจที่ไม่เคยคิดว่าจะนึกรักความเป็นใครได้อีก
...จะมาอาจหาญกล้ามอบหัวใจแห่งรักให้ใครอีกครั้งหนึ่ง
...เช่นที่ผมมอบให้คุณอีกเช่นนี้
...คงเป็นเพราะ
...ความศรัทธาและผลแห่งความเชื่อมั่นนั้นเป็นแน่
...
...ผมเคยบอกคุณว่า ผมศรัทธาในรัก
...แหละเชื่อมั่นในทุกวาสนาแห่งการพบ
...
...แต่ผมไม่เคยคิดเลยคนดี
...ว่าความเชื่อมั่นดีดี ที่ผมพยายามสอนใจตัวเองมาเนิ่นนาน
...จะทำให้ผมพบความรู้สึกดีงามเกินกว่าที่คิดหมายได้มากมายนัก
...เช่นที่เป็นอยู่ขณะใจนี้
...
...
...ขอบคุณคุณ ขอบคุณฟ้า
...ผมเรียกว่าวาสนาฟ้าแหละคนดี
...
...สำหรับวันนี้ วันที่หัวใจผมได้เจอคุณ
...ขอบคุณโลกที่ไม่หยุดหมุนในวันที่ท้อทุกข์ทับ
...
...ผมจึงได้รับของขวัญจากกาลเวลา
...ได้สุขใจสมปรารถนาดั่งที่ได้เจอคุณ
...
...บทกวีบทหนึ่งผมยังจำขึ้นใจ
...ช่างเคียงใกล้ความรู้สึกผมขณะนี้ยิ่งนัก
...หลับตาซิ แล้วฟังบทกวีบทนี้จากหัวใจผมด้วยหัวใจคุณ
...
...ไม่มีวิญญาณใดปรารถนาการพลัดพราก
...เมื่อชีวิตลำบากแสนยากเข็ญ
...ใต้เงาฟ้าห่มร่มให้เย็น
...ไม่มีใครอยากเห็นน้ำตาใคร
...ไม่มีใครปรารถนาความเศร้าโศรก
...เมื่อโลกทั้งโลกยังไม่หลับไหล
...ตราบศรัทธายังเชื่อมั่นทุกดวงใจ-
...จักมีวันดั่งฝันไฝ่อย่างแน่นอน
...แย่จัง
...ผมกล่าวอะไรที่ไม่เข้าทีมาเสียยืดยาวอีกแล้ว
...แต่ทำไงได้หละ
...ผมก็เป็นแบบนี้มานานแสนนานแล้ว
...จะให้ผมปิดซ่อนความรู้สึกใดใดไว้นานนาน
...
...ผมคงทำไม่ได้นานนักเป็นแน่แท้
...โดยเฉพาะ
...ถ้าต้องให้ผมปิดบังความรู้สึกดีดีที่มีจากใจผมถึงใจคุณ
...ผมคงทำไมได้
...
...
...หรือถึงแม้ว่าทำได้ ผมคงเลือกไม่ทำหรอกกว่าคนดี
...เพราะหัวใจผมปรารถนาให้คุณรู้ความในจากใจที่ผมมี ถึงคุณ
...
...กุมภกาที่รัก
...
...คำว่าที่รักที่ผมกล่าว ทำให้คุณรู้สึกขุ่นใจหรือเปล่าคนดี
...ถ้าใช่ อภัยผมสักครั้งเถิด
...คำนี้ผมมิได้กล่าวบ่อยจนเป็นคำคุ้นชินปากหรอกคุณ
...แต่บางที ผมก็กล่าวออกมาโดยไม่ทันได้คิดตรองเหมือนกัน
...เหมือนที่กล่าวกับคุณ ณ.ขณะนี้
...แต่ผมยืนยันนะ ว่าทุกคำที่กล่าวแก่คุณ ผมกล่าวจากใจทั้งสิ้น
...
...คงเพราะ
...บางทีความรู้สึกผมล้นหลั่งออกมาก่อนที่ความรู้สึกว่าเหมาะควรหรือไม่ จะยับยั้งได้ทัน
...
...คุณอาจนึกตำหนิผม ผมไม่ว่า แต่อย่าโกรธผมเลยนะคนดี
...
...หลายเดือนแล้วซินะคนดี
...ที่ความเป็นคุณเวียนว่ายอยู่ในหัวใจผม
...โลดแล่นอยู่ในความรู้สึกคิดคำนึง
...
...ผมมิอาจรู้เช่นกันคนดี ว่าคุณจะนึกยินดีกับความรู้สึกที่ผมมีแค่ไหน
...
...แต่ผมยืนยันน่ะคนดี
...ผมยินดียิ่งนักที่มีคุณทอทาบลงกลางใจผมเช่นนี้
...และด้วยบริสุทธิ์ใจขอยืนยัน
...ผมมิเคยคิดจะรบกวนความเป็นไปใดใดของคุณ
...
...ผมได้แต่หวังว่า
...คุณจะรู้หัวใจรักที่ผมมีถึงคุณ
...
...คุณช่างงดงาม ดีงาม และสวยงามในความรู้สึกและความคิดคำนึงของผมยิ่งนัก
...
...กุมภกาที่รัก ความเป็นคุณทำให้หัวใจผมรักคุณ
...
...พรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรนะคนดี ผมได้แต่ถามใจ
...
...คงต้องรอซินะ
...
...เหมือนที่ผมบอกคุณไง
...
...คงต้องปล่อยให้ความเป็นไปในทุกวัน บอกเล่าเรื่องราวที่ควรจะเป็นเอง
...
...แต่มีอย่างหนึ่งที่ผมอยากบอกคุณในวันนี้ให้รู้ไว้
...ว่าความเป็นคุณเมื่อวันวาร
...เป็นวาสนาฟ้าที่ผมได้แต่ขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณ
...จงเชื่อมั่นเถอะคนดี
...ทุกวันรุ่งของพรุ่งนี้
...หัวใจผมยังยังรักคุณเป็นนิรันดร์ ตลอดไป
...
...เขียนขณะนี้ด้วยหัวใจผมถึงหัวใจคุณ
...เต็มเปี่ยมความปรารถนาจากหัวใจ
รักและรำลึกถึงคุณสม่ำเสมอ / ธันวรา
.........................................................
ปล...ขอให้คุณมีแต่วันที่งดงาม ดีงาม และสวยงามดั่งใจหวัง ผมอธิษฐานใจ...
21 พฤศจิกายน 2547 14:06 น.
แทนคุณแทนไท
เพียงเท่านี้พี่อดรนทนได้ดอก..
ไม่ถึงกรอกโอสถหยดรักษา
เท่านี้ที่พี่เจ็บแปลบแนบอุรา
ไม่ถึงวาย ชีวา...อย่าอาลัย
แค่แผลรักสลักจิตพิษรักหลอก
ให้ใจชอกช้ำนักรักหมกไหม้
แค่โดนเจ้าสลัดรักตัดหทัย
ให้เจ็บใจแต่ไม่ตายให้อายคน
พี่ไม่จำต้องชิงชังกับชีวิต
เก็บเจ้ามาครวญคิดให้จิตหม่น
เมื่อหมดรักก็ไม่ต้องมาอดทน
ให้เหลือแค่เพียงคนเคยรักกัน
นิจจาใจ...ใจหายมากมายนัก
อุทิศใจที่เคยภักดิ์ รักเคยมั่น
ไปเถิดนุช สุดสวาท พิลาศวรรณ
จะเลิกฝันต่อแต่นี้ไม่มีเธอ
ชีวิตหนึ่ง ชีวิต ซึ่งคิดแล้ว
ทุกรอยแนวใจนั้นเคยมั่นเสมอ
เมื่อบัดนี้ทุกนาทีมิมีเธอ
จะหยุดความพร่ำเพ้อที่เคยมี
เมื่อสิ้นแล้วแก้วตาก็อย่าแสร้ง
ฝืนแสดงให้ทิ่มแทงใจพี่นี้
หมดรักแล้วอย่าทำร้ายรอยไมตรี
จากไปก็ขอส่วนดีให้พี่จำ
อันนิยาม ความรัก แม้ศักดิ์สิทธฺ์
เคยบูชิต เช่นชีพ รีบถลำ
เป็นเศษหนึ่งใจเดียวเสี้ยวประจำ
มิได้กำชีวิตชนิดนาย
แม้อดข้าวอาจถึงฆาตพิราสโลก
แต่อดรักใช่ต้องโศกจนชีพหน่าย
แค่หัวใจนี้ที่หวังจะกันกาย
มามลายให้เสียดายที่หายไป
14 พฤศจิกายน 2547 14:32 น.
แทนคุณแทนไท
แม้ได้กล่าวคำว่าอำลาแล้ว
แต่ยังไม่สิ้นแววสิเน่หา
ความทรงจำยังชิดติดตรึงตรา
ยังทรงค่ากับความรักที่หักหาย
นานมาแล้ว
นิ่มพิมพ์แก้วแววระวีมีความหมาย
ความสัมพันธ์นั้นห่างกันเพียงกาย
แต่รักไม่เคยหักหายจากหัวใจ
ไม่แปรเปลี่ยน
เพียงกาลเวียนเปลี่ยนห่างไปทางใหม่
ที่เป็นช่วงห้วงเวลาของอีกใคร
ได้ใกล้ชิดสนิทในใจน้องนาง
เปลี่ยนปรับ
ด้วยนอบรับกับรักที่หักห่าง
แต่ความรักพี่ไม่เคยรู้จักจาง
เพียงหนทางวันนี้ เราห่างแล้ว
โชคดี
นวลรวีคนดีของพี่แก้ว
ถึงไม่มีพี่ในวันนี้แล้ว
ระวีแวว คงมีแต่ความสุข.....
ขอบคุณที่รัก
2 พฤศจิกายน 2547 14:09 น.
แทนคุณแทนไท
๑...
ระลึกถึงวันหนึ่งนั้นดั่งฝันไป
ทั้งหัวใจลูกผู้ชายมาไหวสั่น
เพิ่งแตกหน่อเนื้อหนุ่มไม่กี่วัน
มาพบเจ้าให้เงียบงันงามละไม
๒...
เหมือนนางฟ้าตัวน้อยใจคอยอยู่
ยิ่งพิศดูใจไหววู่วาบหวามไหว
เจ้ามาจากแหล่งหล้าฟากฟ้าใด
หรืออัปสรนางไหนจำแลงมา
๓...
แล้วศรรักก็ปักลงกลางอก
หวาดวิตกตระหนกใจเป็นนักหนา
ทั้งวาบไหวหวามหวั่นพรั่นอุรา
กลัวใจต้องทรมาน์ไม่กล้าเผย
๔...
เกิดเป็นชายต้องให้เห็นว่าเป็นชาย
ให้สิ้นเชิงชื่อชายไปเฉยเฉย
จะเอาหน้าซุกใครที่ไหนเลย
จึ่งเปิดเผยให้ทรามเชยรู้ความใน
๕...
ให้เธอเท่าที่มี เท่าชีพนี้จะมีได้
มีใจ..ก็จะให้หัวใจ ไม่มีก็จะให้เท่าที่มี
๖...
เขียนสื่อส่งลงไปในกระดาษ
ทั้งที่ใจหวั่นหวาดขลาดเหลือที่
แต่เมื่อริจะรักสาวเข้าสักที
จึงได้ทอดไมตรีนี้ออกไป
๗...
โอ้ว่าอารมณ์แห่งความรัก
เมื่อแรกเริ่มรู้จักยิ่งอยากได้
พร้อมจะมอบแก่กันและกันไว้
เป็นสายใยเป็นสัมพันธ์เป็นสัญญา
๘...
เพิ่งแตกหน่อเนื้อหนุ่มเมื่อวานนี้
ริเรียนรักทั้งที่ยังศึกษา
เสื้อคอซองขาสั้นไม่นำพา
รู้เพียงว่าเธอน่ารักอยากพักใจ
๙...
โอ้ว่าความรักเมื่อแรกพบ
มาประสบความมากหลากความหมาย
จึงฝึกเรียนเขียนถ้อยร้อยคำราย
ให้เธอรู้ความหมายด้วยกวี
๑๐...
หยุดโลกหยุดเวลาอย่าเคลื่อนไหว
อยากจะวางหัวใจไว้ที่นี่
คือทั้งหมดทั้งนั้นที่ฉันมี
แด่คนที่ฉันรักฉันรักเธอ
๑๑...
ความเอยไม่เคยเอ่ยถามทัก
ชื่อความรักแรกประจักษ์ รักเสนอ
เป็นสัมพันธ์มั่นนักรักละเมอ
จะมีเธอแน่แท้ไม่แปรกัน
๑๒...
ความเอยความรักงดงามนัก
ให้ชื่นชุ่มใจนักเกินจักกั้น-
ไม่ให้หลอมดวงจิตชิดสนิทกัน
ไม่ให้ร่วมสร้างสานฝันจินตนา
๑๓...
จะมีผมทุกที่ที่คุณอยู่ (ช)
คุณก็รู้ฝันนั้นฉันปรารถนา (ญ)
เราจะครองกายเพื่อกันเมื่อวันลา
เพื่อมีวันอันทรงค่าในหัวใจ
๑๔...
แล้ววันหนึ่งวันนั้นก็มาถึง
เป็นวันซึ่งมาถึงอย่างหวั่นไหว
วันที่กายต้องพรากกันจากไกล
ไปตามวันตามวัยใจต้องทำ
๑๕....
ถ้าหยุดโลกหยุดเวลาเอาไว้ได้
ใจก็หมายให้หยุดไว้ในคืนค่ำ
ค่ำที่เป็นคืนก่อนจรให้จากจำ
คืนเราสองพร้อมพร่ำย้ำดวงใจ.
๑๖...
รักแค่เพียงคำพูดพิสูจน์ยาก
แต่เมื่อจากก็พิสูจน์คำพูดได้
ใจของเราเรารู้อยู่ที่ใคร
กับคนใกล้หรือคนไกลใจเรารู้
๑๗...
แล้วน้ำตาเราก็ไหลอย่างเงียบเงียบ
ใจเย็นเยียบเงียบไหลให้ไหววู่
นิ่งผสานตาซึ้งหนึ่งพธู
จึงได้รู้..เหมือนได้ดูหัวใจ
๑๘...
เราจะรักภักดีมิมีเปลี่ยน
เพื่อรอคืนวันเวียนเปลี่ยนมาใหม่
วันที่กายเราหมายไว้ดั้งตั้งใจ
วันที่ไม่มีอะไรพันธะนา
๑๙...
กาลเวลาใกล้จะมาทำหน้าที่
ให้เหลือแต่รอยไมตรีที่ห่วงหา
ได้แต่ฝากรักไว้ในแววตา
ที่รักจ๋าฉันรัก ฉันรักคุณ
๒๐...
ผมมาอยู่ในเมืองที่เปล่าแปลก
โลกที่แผกแตกต่างช่างว่างวุ่น
โลกคุณเป็นอย่างไรหนอใจคุณ
จะมีวันว้าวุ่นบ้างไหมหนอ
๒๑...
มีมุมหนึ่งซึ่งอยู่ สู้เมืองใหญ่
ช่างแปลกไปขณะใจที่ทุกข์ท้อ
ไร้คนที่เคยคุ้น ลุ้นทุกรอ
นั่งหัวร่อ ต่อทางนั้นที่ฝันไป
๒๒...
ที่มุมหนึ่งมุมไหนในโลกนั้น
คุณมีวันเงียบงันกับฝันไหม
ที่ตรงนี้คนดี ที่นี่ไง
มีอีกหนึ่งดวงใจไหวหวังรอ
๒๓...
ในมุมโลกใบใหม่ซึ่งแปลกเปล่า
คุณมีวันเงียบเหงาบ้างไหมหนอ
ผมขอส่งแรงชัยใจคนรอ
ถึงคุณทุกข์ก็อย่าท้อนะคนดี
๒๔...
หยิบปากกาจารึกลงกระดาษ
ทุกโพสการ์ดวาดอักษรใส่กลอนศรี
ซองจดหมายติดแสตมป์แต้มไมตรี
สื่อส่งถึงคนดีที่ฟ้าไกล
๒๕...
คนดีใครคนนี้
ทุกทุกวินาที ณ.เมืองใหม่
แม้เป็นมาไม่เคยเหมือนที่เป็นไป
แต่หัวใจยังฝันใฝ่ถึงคนดี
๒๖...
เขียนที่นี่ที่หอการค้าไทย
ไม่เคยเห็นมีใครที่ไหนนี่
จะงามเท่าเจ้านี้ที่แสนดี
เจ้าหละวันหนึ่งนี้มีไหมใคร.
๒๗...
เขียนที่นี่ที่หอสมุดราม
ได้เจอแต่คำถามซึ่งแปลกใหม่
แต่คำตอบทำไมไม่แปรไป
หรือเพราะทั้งหัวใจมีให้เธอ
๒๘...
เขียนที่นี่ที่ซุ้มมหาลัย
วันที่นั่งถามใจอยู่เสมอ
ว่าวันหนึ่งวันไหนจะได้เจอ
คนที่งามเลิศเลอเพ้อใจคอย
๒๙...
เขียนที่นี่เขียนลงที่เนื้อใจ
เขียนลงไปแม้ใจจะเหงาหงอย
เขียนท่ามกลางความฝันที่ล่องลอย
ในเนื้อหนึ่งใจน้อยที่คอยรอ
๓๐...
อารมณ์เอ๋ยอารมณ์ช่างข่มยาก
คิดถึงมากยิ่งยากทำได้หนอ
ฦ รักแท้ทุกคนต้องทนรอ
โอ้หนอ อารมณ์ ยากข่มครวญ
๓๑...
เงินที่แม่ให้มาไม่กี่พัน
จึงจัดสรรแบ่งกันเป็นหลายส่วน
ในหนึ่งนั้นไม่ลืมครุ่นคิดคำนวณ
เบ่งปันส่วนเอาไว้ใช้ซื้อบัตรโทร
๓๒...
โทรศัพท์มือถือไม่มีหรอก
ดึกก็ออกไปตู้ดูไกลโข
กดต่อตึกตึกต่อห้องท้องร้องโฮ
ก็พิโถ.. วันนี้ไม่มีกิน
๓๓...
ยืนรอสายอยู่หลายนาทีอยู่
กว่าจะรู้ความในใจแทบสิ้น
ท้องก็ร้องว่าพี่จ๋าหากได้ยิน
ช่วยพาผมไปกินอะไรที (ยิ้ม)
๓๔...
แต่แค่ยินปลายสายกล่าวทายทัก
สวัสดีที่รักใช่ไหมนี่ ?
ท้องไส้กิ่วให้ลืมหิวในทันที
ยืนกรุ่มกริ้มยิ้มยินดีที่เธอมา
๓๕...
วันนี้คุณสบายดีใช่หรือไม่ ?
ใจอยากตอบความนัยเป็นหนักหนา
โอ้คิดถึงนี่ช่างทรมาน์
แต่ตัดใจบอกว่าสบายดี
๓๖....
ที่รักจ๋า บอกซิว่าเหนื่อยหรือเปล่า ?
คุณทนความเงียบเหงาไหวไหมนี่ ?
ทนอีกนิดคอยอีกหน่อยนะคนดี
เสร็จจากสอบคราวนี้มีเวลา
๓๗...
เราจากกันวันนั้นจนวันนี้
จะได้ครบขวบปีพรุ่งนี้น่ะ
คงไม่นานเกินสิ้นพฤศ์จิกาย์
เราจะได้เจอหน้ากันแน่นอน
๓๘...
โอ้ว่า อารมณ์แห่งความรัก
ละไมนักความรักละมุนอ่อน
ให้ลืมหิวลืมง่วงลืมเหงานอน
ให้ลืมทุกข์ความปวดร้อนในดวงใจ
๓๙...
เงินที่แม่ให้มาไม่กี่พัน
มือถือนั้นจะสรรหามาจากไหน
จ่ายค่าบ้านค่าน้ำซ้ำค่าไฟ
จะเหลือเก็บเท่าไร..หนอใจเรา
๔๐...
เพียงหวังว่าถ้ามีวาสนาหน่อย
จะเข้าร้านไม่ทนคอยถอยเพจเจอร์
ไม่เห็นหน้าแค่ขอข้อความเธอ
ได้นั่งยิ้มเก้อเก้อกับเธอไง
๔๑...
เงินที่เก็บมาได้สองพันห้า
ให้ต้องทนอีกเดือนกว่าคงไม่ไหว
เพจมือสองก็ยังดีกว่าทนไป
แล้วขาดใจเจียนตายอายเพื่อนเรา
(1188-1844339)
๔๒...
ไม่ต้องขาดใจตายอายพวกพ้อง
มีข้อความหนึ่งน้องให้คลายเหงา
สารพัดจะบันดาลคำวอนเว้า
ทั้งบอกเล่าเรื่องราวสารพัน
๔๓...
ชีวิตนี้เหมือนว่าสมบูรณ์แล้ว
รักไม่มีวี่แววว่าแปรผัน
เธอก็ถอยเพจน้อยมาคอยกัน
ต่างยืนยันให้รักมั่นฉันรับรอง
(152-517102)
๔๔...
*อิฐศิลาหน้าพระลานเป็นล้านก้อน
นับวันกร่อนบ่งให้เห็นความเป็นสอง
ใจดวงน้อยแม้อ่อนกว่าศิลากอง
ถ้ารักแล้วรับรองไม่สองใจ*
๔๕...
จะอิ่มออมหอมห่มอารมณ์รัก
จะอิงแอบแนบสมัครสมานใกล้
สอดผสานสายสร้อยร้อยมาลัย
เอาดวงใจให้สองซึ้งเป็นหนึ่งทรวง
๔๖...
เอารู้สึกใส่ไปในรู้สึก
ในส่วนเสี้ยวสำนึกอันลึกล่วง
แม้มิใช่ความงามงดจนหมดทรวง
แต่เป็นทุกความแหนห่วงจากดวงใจ
๔๗...
ถ้าจะรักก็จะรักภักดีมั่น
ถ้าจะฝันก็จะฝันไม่หวั่นไหว
ถ้าจะคอยก็จะคอยไม่น้อยใจ
ถ้าจะให้ก็จะให้จากใจจริง
๔๘...
ความงามในความงดงามกว่า
ยังรอคอยในท่วงท่าสงบนิ่ง
ยังคงความรู้สึกอันเพริดพริ้ง
ใจยังนิ่งแน่นอนไม่คลอนครา
๔๙...
ยามจากไปไกลห่างรู้บ้างไหม
ยังมั่นใจในรักเป็นนักหนา
มีหวาดหวั่นพรั่นใจบางเวลา
แต่ไม่เคยเหนื่อยล้ากล้ารอเธอ
๕๐...
ห้วงหนึ่งหนึ่งซึ่งมี ณ. บางครั้ง
ใจยังวาดยังหวังจนพลั้งเผลอ
คิดฝันถึงคนอยู่ไกลยามไม่เจอ
ใจเลยเผลอเพ้อพร่ำเป็นคำกลอน
๕๑...
เดือนดาวพราวพร่างบนทางฟ้า
วอนช่วยพารักข้าไปพร่ำอ้อน
ส่งรู้สึกลึกลึกเอื้ออาธร
ร้อยเป็นกลอนอาวรณ์อาทรเธอ
๕๒...
แล้ววันหนึ่งวันนั้นก็มาถึง
วันที่งามสวยซึ้งสม่ำเสมอ
วันที่ใจหมายรอขอได้เจอ
คนที่ฉันพร่ำเพ้อยามห่างไกล
๕๓...
หนึ่งปีกว่าเงินเก็บมาได้กว่าหมื่น
กอดกระเป๋าทั้งคืนฝืนหวั่นไหว
ที่จุดหมายปลายฝันนั้นฉันจะไป
จับรถสายหาดใหญ่ไปหาเธอ
๕๔...
ถึงจุดหมายปลายทางตีห้ากว่า
เสียงเธอบอกรอท่าอยู่เสมอ
แต่รอนิดหน่อยนะจะได้เจอ
ฟ้าสางก่อนนะเธอจะเจอกัน
๕๕...
ถามใจว่าถ้าเห็นหน้าจะกล้าไหม
สวมกวดให้สมใจที่ใฝ่ฝัน
แล้ววันหนึ่งวันนี้ที่เจอกัน
ในนิ่งนึกให้ไหวหวั่นในแววตา
๕๖...
อารมณ์เอ๋ย โอ้ว่า อารมณ์ชาย
จึ่งเขียนถ้อยร้อยรายปรารถนา
จากห้วงใจที่ไหวอกสะทกอุรา
กลบเกลื่อนความปรารถนาว้าวุ่นนั้น
๕๗...
และแล้วความเป็นเจ้าก็ปรากฏ
ช่างงามงดงดงามดั่งความฝัน
ในทุกความคะนึงถึงปัจจุบัน
สิ้นแล้วความเงียบงันที่อารมณ์
๕๘...
กลิ่นแก้มเจ้ายังกรุ่นละมุนละม่อม
รื่นรสหอมประทับใจจากไรผม
ระรวยรินดั่งอบร่ำมาพร่ำพรม
แววตาคมยังวับวามทุกความจำ
๕๙...
จากเรียวนิ้วผิวนวลอ้วนและอวบ
ทรงผมรวบปลายปล่อยปอยขอดขำ
ละไมมือเหมือนใยกลุ่มไหมดำ
พวงแก้มฉ่ำอิ่มระรื่นชื่นใจครัน
๖๐...
อารมณ์เอยอารมณ์ช่างข่มยาก
ทุกถ้อยคำจากปากใช่อยากสั่น
แค่เอ่ยคำทายทักให้แก่กัน
หัวใจก็ไหวหวั่นสั่นอารมณ์
๖๑...
................ฯลฯ.................