13 มกราคม 2554 14:24 น.
แทนคุณแทนไท
มองภาพถ่ายของเธอใส่ชุดครุย
เป็นเพื่อนคุยในวันที่หวาดไหว
แม้บัดนี้ มิมีเธอ อีกต่อไป
แต่ก็ยังแย้มยิ้มได้กับภาพเธอ
นั่นจิ๊กซอว์เธอต่อรักสลักใจ
ยังซ่อนงามความนัยสมัยเสมอ
เห็นทุกคราวฝันทุกครั้งยังละเมอ
เธอแสนสวย เลิศเลอ ทุกเวลา
วันเธอรับปริญญาในครานั้น
ฉันตื่นเต้นตื้นตันเป็นนักหนา
จับรถด่วน ขบวนสุดท้ายสายยะลา
ให้ทันวันที่รอท่าปัตตานี
จากวันนั้นจนวันนี้เก้าปีกว่า
ภาพถ่ายเธอที่ตรงหน้า ณ.ตรงนี้
ที่ซึ่งกายหายห่างร้างไมตรี
แต่ฉันมีมากมายไม่หายไป
บางทีเผลอ ยังเพ้อ เอ่ยถามทัก
ว่า "ยอดรักเธอเหนื่อยหนักบ้างหรือไม่"
ในวันนี้คนดีเป็นอย่างไร
มีหรือไม่ใครดูแลถ้าแพ้มา
มีชายหนุ่ม มองรูปคุณ ยังอุ่นจิต
แม้วันหนึ่งเคยพ่ายพิษรักนักหนา
วันคนรัก เผยฝากออกปากลา
กลายเป็นคนแปลกหน้าแปลกหัวใจ
เคยเศร้าสร้อยงานการคร้านจะคิด
ชังชีวิตหน่ายชีวาไม่กล้าไข-
ความท้อทดหมดหวังพลังชัย
ปล่อยให้วันให้วัย ช่วยเยียวยา
มองภาพถ่าย เธอใส่ครุยในครานี้
อาจมีบ้างบางทีที่โหยหา
แต่ฉันมี ความสุข นะเธอนะ !
ได้คิดถึงปรารถนาที่หัวใจ
ยังจำได้วันที่เคยทุกข์ท้อ
เธอช่วยติช่วยต่อพลังให้
ขอขอบคุณ สัมพันธ์รัก สลักไว้
ช่วยทำให้ เข้าใจในรักแท้
วันที่ฉันนั้นยังคิดถึงเธอ
รู้เพ้อเจ้อถึงอะไรมิได้แน่
ภาพงดงาม ทุกความหมายฉันฉายแล
รู้เถอะแค่ ใจระลึกรู้สึกมี
ว่าครั้งหนึ่งฉันเคยมีความรัก
และดีงามยิ่งนัก รักหรือนี่
เธอคือ คนแรกที่ฉันมี
เป็นคนเดียว ตรงนี้เสมอมา
บางเวลา สบตาเธอในรูปครุย
เคยพูดคุยถามความเสมอว่า
เส้นทางฝันจากวันนั้นที่จากมา
เธอเลือกเอา ปรารถนาบรรดาใด
หวังเพียงว่าชีวิตหนึ่งซึ่งเลือกแล้ว
เธอคว้าได้มณีแก้วดังฝันใฝ่
ให้แสงสวยส่องสว่างกระจ่างใจ
อาบหวังให้ ผลิพร่างกลางใจเธอ
จึงจดจำเธอคนดีค่อนชีวิต
คนที่เตือน ถูกผิดกันเสมอ
แม้กาลหนึ่งเคยล้มคว่ำร่ำละเมอ
มีน้ำตา ล้นเอ่อ เธอร้างรอน
มาบัดนี้ เก้าปีที่ล่วงผ่าน
ประสบการณ์ ทุกสิ่งก็เสี้ยมสอน
ชีวิตนี้หนึ่งเป็น เช่นละคร
จำทุกตอน ทั้งสุขโศก วิโยคใจ
มกราห้าสี่ที่จะครบ
สองเราลบสัมพันธ์ฝันไม่ได้
รวมเก้าปีเท่าเท่าที่เคยมีใจ
รักของฉันนับได้สิบแปดปี
บทเอ่ย บทกวี ได้สิ้นสวย
ยิ่งมิมีเธอด้วย ฉันสิ้นศรี
รูปถ่าย จดหมาย ประดามี
ก็สิ้นดี เมื่อพรุ่งนี้มิมีมา
เห็นภาพถ่ายในกรอบฉันชอบมอง
ภาพเราฟ้อง ความจริงทุกสิ่งว่า
วันคืนนั้นผ่านไปแล้วไม่ย้อนมา
เหมือนความรักที่ร้างลาไม่ย้อนคืน
เหลือไว้แต่ภาพฝันอันแสนหวาน
กับเศษใจแหลกซ่านดวงมานย์ขื่น
แรกรู้สึกร้อนดั่งสุมไฟฟืน
นานไปก็เกลื่อนกลืน กับความช้ำ
มองภาพถ่ายของเธอในชุดครุย
นั่งพูดคุย ให้ใจได้ชื่นฉ่ำ
ชี้ชวนมาระลึกถึงความทรงจำ
ร่วมมาฉายภาพซ้ำ ยิ้มย้ำใจ
ก่อนจะกล่าวคำลาครั้งสุดท้าย
ตัดใจได้ ฉันจะเริ่มชีวิตใหม่
"ขอโทษนะ ผิดสัญญาที่ให้ไว้
ว่าจะไม่รักใคร นอกจากเธอ
-------------------------------------------
บทส่งใจ
สิ่งที่ยังคงเดิม คือเรื่องราวในวันเวลาที่ล่วงเลย
เก็บทุกอย่างลงกล่อง เก็บทุกกล่องลงกรุ
เลื่อนเธอไปอยู่ในอดีต เลื่อนอดีตออกไป ให้ปัจจุบันเข้ามาแทนที่ ขอโทษนะ
พระฤหัสบ์ที่ ๑๓ มกราที่ระลึก ๕๔ / แทนคุณแทนไท
10 มกราคม 2554 13:08 น.
แทนคุณแทนไท
เมื่อได้จาร
ก็ซ่อนนัยถ้อยกานต์ หวานและเหงา
ความคิด เป็นเพียงแต่รูปเงา
มาเยือนเย้า ให้รู้สึก ให้นึกคิด
วันหนึ่ง มีเพียงแค่นิดหน่อย
คำที่ สารร้อย สร้อยลิขิต
จากใจ จากจำ ด้วยน้ำมิตร
มิล่วงสิทธิ์ ประการใดของใครเลย
เมื่อได้เขียน
ก็ได้เรียนรู้ซึ้ง คำซึ่งเผย
เศร้า,สุข ในส่วน สบายเสบย
ใช่แล้วเคย ครบถ้วน และล้วนเป็น
อารมณ์เอย อารมณ์ของความคิด
สนมสนิท ชิดห่าง อย่างที่เห็น
บนรอยว้าง เวลาที่ร้างเร้น
เราต่างเป็น ผู้กำหนดจรดจาร
ฉันจึงเพียรเขียนคำย้ำความคิด
คะนึงถึงชีวิตที่พ้นผ่าน
เฉพาะแต่ ความรู้สึกละไมมานย์
กับอารมณ์ อันแสนหวานที่ผ่านไป
มิคิดถึงสิ่งใดที่ใจหมอง
เกรงเมื่อต้องกลับมา พบกันใหม่
รู้สึกมิเหมือนที่เคยดีใจ
ยามเมื่อแรกที่ได้รู้จักกัน
จึง คิด ถึงความรักอันแสนหวาน
ถ้อยที่ซ่านทรวงนัยจนใจสั่น
มือนิ่มนุ่มกุมจับกระชับกัน
ตักที่ฉันนั้นเขนยเคยหนุนนอน
ใบหน้าที่ ดุจเดือนเมื่อเยือนฟ้า
ยามกานดาหนุนแขนพี่แทนหมอน
สองตางาม ยามพ้อเราง้องอน
เรียวแก้มอ่อน ร้อนซ่านละมานย์ใจ
คิดถึงแต่ดวงดาวที่วาวคว้าง
บนฟ้ากว้าง ชวนชมชิดพิสมัย
แม้ฟ้ามืดชืดแสงจากแหล่งใด
โลกยังได้สว่างใส ในตานาง
และคิดถึงอารมณ์รุก ยามทุกข์ท้อ
บทกวีที่ร้องขอยามไกลห่าง
อยากจะร่นขอบฟ้าแคบมาบ้าง
ฉันอยากวางหัวใจไว้ใกล้เธอ
โอ้หละหนอ ถ้อยคำของความคิด
นึกเพียงนิด ปานว่าน้ำตาเอ่อ
ล้นพ้นความ เฟ้อฟุ้งบำรุงบำเรอ
งดงาม มากเสมอ ละเมอมา
แค่ความคิด
คงมิผิด ถึงเป็นข้อครหา
ว่าได้แต่ เขียนไว้ ไร้น้ำยา
เหมือนบอดใบ้ บื้อบ้า ช่างน่าอาย
บทส่งใจ...
ผมถามใครบางคนว่า คุณว่าทำไมความทรงจำถึงได้อัศจรรย์นัก
เธอว่า เขาเรียกฮาดดิสรุ่นหมื่นกิ๊ก ท่าจะจริง
พระจันทร์ที่ ๑๐ มกราคมที่นี่ นนทบุรี ๕๔ / แทนคุณแทนไท
7 มกราคม 2554 12:09 น.
แทนคุณแทนไท
๑...
ฉันคิดถึงเธอ...
ละไมละเมอในฝันอันพรายหวาน...
วันนี้ วันนั้นในเมื่อวาน...
เธอตระการ อยู่ครองทุกห้องใจ...
๒...
เมื่อแรกพบ
เธอได้ลบความโศกให้โลกใส
เหมือนได้ร่นขอบฟ้าแคบมาใกล้
โลกถึงได้งดงาม เท่าความคิด
๓...
เมื่ออยู่ใกล้
คิดถึงความหวานละไมในดวงจิต
แม้ไกลห่างเพียงวันละหนึ่งนิด
เหมือนใครพรากชีวิตของฉันไป
๔...
เมื่อเธอจาก
ยังจำได้ว่าเจ็บมากสักแค่ไหน
หนอความรักแปลกหนานิจจาใจ
ฝากทุกอย่างเอาไว้ในความจำ
๕...
คิดถึงเธอ
นำมา ปรุงเปรอ ให้ชื่นฉ่ำ
เป็นสิ่งเดียวซึ่งฉันยังคงทำ
ไม่ก้าวล้ำไปในชีวิตใคร
บทส่งใจ...
สิ่งควรห้ามสามประการคือ กาย วาจา และใจ
มีเพียงสิ่งเดียวที่ยังห้ามไม่ได้จริงแท้ คือ "ใจ" นี่เอง
"คงไว้แค่คิดถึง.. รู้สึกซึ่งมีเสมอ... เก็บมาบำรุงบำเรอ... ไว้ปรนเปรอให้ชื่นใจ"
พระสุขที่ ๗ มกราที่คิดถึง ๕๔ / แทนคุณแทนไท
29 ธันวาคม 2553 10:08 น.
แทนคุณแทนไท
อย่าถามเลยว่าเคยเป็นหรือไม่
ยามหัวใจคิดถึงใครจนไหวสั่น
ระหว่างวันหนึ่งนั้นปัจจุบัน
ณ ทุกความเงียบงันฝันถึงคุณ
อย่าถามเลยอย่าถามความคิดถึง
ในทุกความซ่านซึ้งถึงใจอุ่น
ที่มีวันนี้ได้เพราะรักคุณ
หล่อเลี้ยงให้ละมุ่นกรุ่นหัวใจ
อย่าถามเลยว่าเคยมีหรือเปล่า
ในวันคืนยืนยาวใจผ่าวไหว
วันที่ใจมิอาจสั่งให้หัวใจ
ห้ามน้ำตามิให้ไหล...ยามไกลเธอ
อย่าถามเลยอย่าถามความรู้สึก
ยิ่งนิ่งนึกยิ่งรู้สึก เสมอเสมอ
ถึงคนไกลรู้ไหมใครอยากเจอ
ฉันรักเธอ รักเธอ เผลอใจคอย
"เธออยู่ไกล ดวงใจรู้บ้างไหม
ว่ามีใครเขาคอยพลอยเหงาหงอย
สำหรับใจดวงนี้ที่เฝ้าคอย
เธอจะปล่อยเขาหมองหม่นหรือคนดี ?"
ได้แต่จารกานท์กวีที่มีว่า
ขอส่งฝากปรารถนาทั้งหมดนี้
ให้คนเดียวคนหนึ่งนั้นที่แสนดี
ว่าทุกเสี้ยวเศษนาที ยังมีเธอ
ด้วยรัก และคิดถึงสม่ำเสมอ / แทนคุณแทนไท
15 ตุลาคม 2553 17:27 น.
แทนคุณแทนไท
ปล่อยความรู้สึกให้ลอยเคว้งคว้าง
ระลึกสัมผัส "บ้างชัด" "บ้างพร่าเลือน"
แตกต่างเพียงเสี้ยว
ละม้าย... คือคิดและระลึกดุจกัน
วัย วัน ที่โรยร่วง
ล่วงไป และไร้ประโยชน์จะฉุดรั้ง
ปราศสิ้นข้อยกเว้น
เราล้วนแพ่พ่ายต่อกาลเวลา (เสมอกัน)
ท้องฟ้าและสายน้ำที่สะท้อนพบในแววตา
บอกเล่าได้แค่ปรารถนาในวันวาน
ความจริงได้ล่วงผ่านไปแล้ว
มีแต่ความทรงจำ
ที่อาจดื่มด่ำ... ยามคิดและระลึกนั้น
ระหว่างความสุขหรือความเศร้า
ใคร "นิยาม"
ฉัน-เธอ หรือชะตากรรม
.................................
พระศุกร์ที่ ๑๕ ตุลาค์ ๕๓ / แทนคุณแทนไท