28 เมษายน 2554 16:35 น.
แทนคุณแทนไท
ณ ขณะหนึ่ง
ขณะซึ่งฉันหลับกับความหวาน
ล่องลอยไกลลิบในทิพย์วิมาน
ซึมซาบซ่านแห่งห้วงอารมณ์นั้น
มวลบุปผาเบ่งบานเต็มลานป่า
กลิ่นจรุงหอมกว่าป่าไหนนั่น
แดดพรายพริ้มอวดแสงแห่งกลางวัน
และแล้วปีกความฝันฉันล่องลอย
ธารระเรื่อยระริกไหลไปตามสาย
ฝนโปรยปรายละอองปลิวลงค่อยค่อย
ลมบาดหินเฉื่อยเฉื่อยฉิวไร้ริ้วรอย
รุ้งเรียงร้อยสอดสายสานผ่านไอออง
แมลงปอร่อนร่ายบนสายน้ำ
กรีดระบำกรายปีกบางกลางแดดส่อง
นกเจื้อยแจ้วเสียงฉ่ำระร่ำร้อง
ร่ายทำนองขับเห่เสภาไพร
แล้ว..อัศจรรย์นั้นพลันบังเกิด
นางฟ้าแจ่มบรรเจิดลงว่ายไหว
พิศโนมพรรณนวลผ่องเป็นยองใย
ทั้งร่างไร้ไฝฝ้าด่างราคี
นางกวักมือยิ้มเยียกอย่างเริงร่า
อร้ามอะหร่าอวดเอวองค์แม่ทรงศรี
จะม้วยมอดหรืออย่างไรในวันนี้
ขอเชยชิดชิมคนดีให้ชุ่มใจ
ณ ขณะนั้น
ขณะฉันโอบเอวบางของนางไว้
พลันสะทกสะท้านผ่านทรวงใน
กลิ่นควันไฟคุคร่ำให้รำคาญ
แล้วเจ็บแปลบราวถูกชกที่กกหู
ลืมตาดูเห็นเงายักษ์ยืนตระหง่าน
เขวี้ยงไม้ฟืนด่าบ่นก่นประจาน
อ้ายสันดาน!! ผัวผีสางสันหลังยาว
ลุกขึ้นมา!! ขูดมะพร้าวให้สองซีก
เสร็จแล้วฉีกปลาย่างแยกก้างขาว
วิมานทิพย์เป็นต้องพังอีกครั้งคราว
ฉันรวดร้าวแต่อิ่มหนำ..เพราะคำเมีย
ผู้ชายในสวนขวัญ / เมษายน นครศรีธรรมราช
11 มีนาคม 2554 08:42 น.
แทนคุณแทนไท
---๑---
กวียังคงเป็นกวี
นิรันดร์ทั้งโลกนี้และโลกหน้า
งดงาม ในความธรรมดา
หลุดจากโลกมายา ที่วุ่นวน
ขอให้กวีมีความสุข
เสมอคำที่ปลอบปลุกผู้ทุกข์ท้น
งามเหมือน มุ่นเมฆสรรค์เสกมนต์
เท่าถ้อยที่ หุบเขาฝนโปรยไพร
---๒----
ในหุบเขา เขาเคยเขียนบทกวี
จิตเสรี อักษร สุนทรสมัย
เสพย์แดดเช้า ที่สาดส่องอยู่รองไร
และเขียนคำซึ้งซึ้งไว้ ให้ฉันยล
เขียนป่า เอาไว้ให้เห็นป่า
และเขียนฟ้าทั้งฟ้าด้วยห่าฝน
เมื่อรู้สึก เขาเขียนเขานิพนธ์
ท่วมท้น ด้วยความรักเกินจักประมาณ
---๓---
คิดถึง คิดถึง "เสมอ
ได้พบเจอในฝันอันพรายหวาน
ในดอกไม้ ในท้องฟ้า ในสายธาร
เสมอท่วม จินตนาการ หวานละไม
---๔---
กวียังคงเป็นกวี
จากกัน ณ โลกนี้ถึงโลกใหม่
เธอจากไป ในหุบเขาฝนโปรยไพร
ขณะโลกนี้ขื่นไข้เหลือเกินแล้ว
มิรู้ว่า โลกเธอสวยหรือไม่
แต่โลกฉันขื่นไข้เหลือเกินแล้ว
รำลึกถึง กนกพงศ์ สงสมพันธุ์
ผู้ล่วงลับ เมื่อกุมภาพันธ์ ๒๕๔๙
..พระศุกร์ที่ ๑๑ มีนาคม ๕๔/แทนคุณแทนไท..
1 มีนาคม 2554 15:28 น.
แทนคุณแทนไท
"ผมอยากให้คำพูดอธิบายหัวใจได้ครบถ้วนสักครั้ง" "ผมคงนึกยินดีที่หมดจดในความรู้สึกได้"
วันอังคารเวลา 21:12 น.
"ช่วงนี้พักผ่อนสมอง รู้สึกสบายหัว แต่ความรู้สึกนึกคิดปล่อยให้รกเรื้ออยู่นานๆ อาจทำให้จินตนาการเฉาได้เช่นกัน" ข้าพเจ้านึกคิดถึงถ้อยคำของกวีผู้ลาจากไปก่อนวัย "กนกพงศ์" "สิบสี่วันไม่ลงแปลงผัก หญ้าขึ้นรก... สิบแปดวันไม่ได้จับพู่กัน ความคิดรก... สามสิบวันไม่ได้เขียนบทกวี จิตใจไม่สะอาด" (จริงอย่างแรง)
วันอังคารเวลา 15:35 น.
"ความรู้สึกนึกคิดสื่อสารได้หลายทาง สุดแต่ว่าผู้รับสารน์จะเจอกันที่ช่องสัณญาณไหน... บางคนไม่ได้ใช้คำพูดอธิบายเหตุผล แต่อาจกำลังอธิบายหัวใจก็เพียงนั้น"
วันวันพุธเวลา 21:58 น
ในความคิด... ถ้าจะผิดก็ผิดที่ห้ามไม่ไหว... คิดถึงเธอแทบขาดใจ... ได้แต่เก็บเอาไว้ในอารมณ์ (แทนคุณแทนไท)
วันอาทิตย์เวลา 10:52 น.
"ข้าพเจ้าเดินลัดเลาะไปตามพรมแดนของความทัศนคติและความวิกลจริตของชีวิต" หัวใจซีกหนึ่งว้าเหว่เหมือนเมื่อครั้งแรกที่รู้ว่าเธอได้กลายเป็นอากาศธาตุไปเสียแล้ว - ข้าพเจ้ามิรู้ว่าอีกซีกส่วนของหัวใจครวญคิดอะไรกันแน่ "ขื่นไข้" และ "เจ็บปวดจังเลย"
20 กุมภาพันธ์เวลา 9:54 น.
"ในความฝัน ข้าพเจ้าพบเห็นความสวยงามมากมายของชีวิต" เมื่อตื่นขึ้นภาพสวยหวานค่อยๆจางหายไปแทบสิ้น มีสิ่งเดียวที่หลงเหลือไว้ให้ชื่นใจ "คือเธอ" ผู้ซึ่งสวรรค์มิอาจหาคำนิยามใดมาพรรณาให้วิไลได้มากกว่า "นางฟ้า"
23 กุมภาพันธ์เวลา 10:50 น.
ถ้าเธอจาก
มิรู้ว่าเจ็บมากสักแค่ไหน
หนอความรักแปลกหนานิจจาใจ
ฝากทุกอย่างเอาไว้ในความจำ
06 กุมภาพันธ์เวลา 13:40 น.
" นอกจากรักคุณแล้ว ผมทำอะไรไม่เก่งเลย " (เดอะคลาสสิคค่ะ)
05 กุมภาพันธ์เวลา 23:03 น.
ที่นั่นคงมีเทวดาน้อย...มอบมาลัยที่รินร้อยจากสายฝน...เหนือโลกจินตนาการดล...อวลอลด้วยดวงดอกไม้งาม
08 กุมภาพันธ์เวลา 8:48 น.
ถ้าเราไม่ได้อธิบายหัวใจเราให้ความคิดถึงได้รับรู้
เราจะพบกันและหัวใจเต้นผิดจังหวะไปทำไม
04 กุมภาพันธ์เวลา 23:15 น.
"เมื่อคุณยังพิจารณาความจริงของที่ชิวติที่เป็นได้ ร้องไห้กับมัน หัวเราะกับมัน ยิ้มกับมัน - รู้สึกอย่างไรตอนไหนก็ร้องไห้ดีใจหัวเราะตามที่รู้สึกเถิด"
04 กุมภาพันธ์เวลา 10:59 น.
เศร้าๆ พิกล
หรือใจเราพิการ
เสียงสะอื้น ถึงสะท้าน
ทรมา ทรมาน ทรวง
02 กุมภาพันธ์เวลา 21:16 น.
"หยุดสนทนากับหัวใจตัวเองสักพัก ฟังเสียงดอกไม้ใบหญ้าเริงรำ ระบำฟ้อน"
02 กุมภาพันธ์เวลา 15:20 น.
"บ่ายอีกแล้ว ไยวันนี้ไม่ใคร่เกรงพระอาทิตย์จะลาฟ้าเท่าใดนัก หรือพระอาทิตย์เมื่อเช้าเสี้ยมสอนบางสิ่งให้เข้าใจ" เธอกล่าวลาฉัน ฉันอาจไม่ได้พบเธอ - แต่คำ "รัก" ที่อำลากัน อาจได้พบกันใหม่ ในบางใคร อีกสักครั้ง และสักคน
01 กุมภาพันธ์เวลา 15:34 น.
..บนหลังเสื้อบางตัวมีคำว่า Torres แต่บนหน้าอกเสื้อทุกตัวมีตราสโมสร"Liverpool"อยู่.. (โชคดี)
31 มกราคมเวลา 22:46 น.
เมื่อพระอาทิตย์เข้านอน เราก็ควรพักผ่อนซะบ้าง นึกคิดจะมัวทำงานอยูทำไม
31 มกราคมเวลา 20:57 น.
ตื่นเช้ามาครู่เดียว พระอาทิตย์ก็ใกล้จะลาฟ้าอีกแล้ว - "ฉันพบเธอครู่เดียว เธอก็อำลากันซะแล้ว"
31 มกราคมเวลา 14:05 น
"คืนนี้พระจันทร์หายไป ดวงดาวก็น้อยนักครับ ท้องฟ้ามืดยังกะกำมะหยี่ ผมสงสัยว่าผีเสื้อหลับนอนอยู่ที่แห่งไหน เหงาและว้าเหว่รึไม่"
30 มกราคมเวลา 21:04 น.
หัวใจ
โครมครามผิดจังหวะที่เคยเป็น
"บอกเล่าปรารถนาบางอย่างที่ได้พบ"
30 มกราคมเวลา 20:40 น.
บทเอ่ย บทกวี ได้สิ้นสวย ยิ่งมิมีเธอด้วย ฉันสิ้นศรี รูปถ่าย จดหมาย ประดามี ก็สิ้นดี เมื่อพรุ่งนี้มิมีมา
26 มกราคมเวลา 13:39 น.
จะสอนให้เด็กๆ รักสันติได้อย่างไร ในเมื่อเพียงหันหน้าออกนอกห้องเรียน พวกเขาก็เห็นผู้ใหญ่ถือปืนอยู่เต็มสนาม
"อย่าอวดอ้างความรักชาติ จนผลักไสมิตรให้เป็นผู้ขี้ขลาดเลย"
"ยามเมื่อเราเห็นต่างกัน ไม่ฝ่ายหนึ่งก็ฝ่ายใดต้องยอมรับที่จะเป็นผู้โง่เขลาเสมอเช่นนั้นหรือ"
25 มกราคมเวลา 16:27 น.
ชีวิตคือสิ่งมหัศจรรย์ และเราหาได้ถือกำเนิดขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล ทั้งเราไม่ได้ตายไปพร้อมความว่างเปล่า... "
25 มกราคมเวลา 16:17 น.
เราอยู่ ณ หนใดในโลกนี้...ความคิดถึง ยังมีอยู่ที่ไหน...ความทรงจำจะเลือนหาย กระจายไกล... ฉันคิดถึง ความโชคร้ายที่แสนดี
21 มกราคมเวลา 11:22 น.
"หากรางวัลเป็นจุดหมายปลายทางของศาสนา หากความรักชาติตอบสนองผลประโยชน์ส่วนตัว และหากการศึกษาเพื่อเลื่อนตำแหน่ง ข้าพอใจมากกว่าที่เป็นผู้ไมมีศาสนา ไม่รักซาติ และเป็นคนโง่เขลาที่ถ่อมตน"
20 มกราคมเวลา 15:05 น.
ราชรถดวงแดงกำลังจะลาขอบฟ้า
สาดทแยงแสงรัศมีสีทองจับกองกระดาษที่ขะยุ่มทิ้งเมื่อหลายวันก่อน
ความรู้สึกนึกคิดอันไม่ใคร่มีระเบียบ คงวิ่งเล่นอยู่ ในขย่ำกระดาษกำใดสักกำหนึ่งนั้น เป็นแน่
19 มกราคมเวลา 18:17 น
"ถึงคุณคิดถึงใคร ก็อย่าให้กินพื้นที่ในหัวใจที่จะคิดถึงผมนะ" (คำแสนเชยจากใจ)
17 มกราคมเวลา 18:12 น.
ฉันหวังชีวิตได้เป็นเอกราชจากเวลา "คงได้ หลับ,ตื่น เมื่ออยากมากกว่าเป็นกิจจำเจ"
15 มกราคมเวลา 21:48 น.
เช้านี้ @ วันเวลาหมุนย้อนมาตรงแปดนาฬิกากับนาทีที่ล่วงไปอีกค่อนครึ่ง ไปรษณีย์หน้าบ้าน บอกเล่าแต่ถ้อยคำของคนแปลกหน้า ไร้มิตรภาพ และปราศจากความคิดถึงใดๆ
นกเช้า กระโดดเต้นเล่นอยู่บนราวกัดสาด หัวใจฉัน ประหวัดประหวั่นคิดถึงผู้ใด *-*
15 มกราคมเวลา 8:42 น.
"จันทน์กะพ้อว่าเป็นกลิ่นของสุโขทัย กวีมันเป็นเส้นประสาทของจักรวาล" โดยท่านอังคาร
13 มกราคมเวลา 16:12 น.
เห็นภาพถ่ายในกรอบฉันชอบมอง...ภาพมันฟ้องความจริงทุกสิ่งว่า...วันคืน ล่วงไปแล้วไม่หวนมา...เหมือนความรักที่ร้างลาไม่ย้อนคืน
13 มกราคมเวลา 15:21 น.
มิคิดถึงสิ่งใดที่ไหม้หมาง
เกรงเมื่อต่างเรากลับมา พบกันใหม่
รู้สึกฉันมิเหมือนที่เคยดีใจ
ยามเมื่อแรกที่ได้รู้จักเธอ
12 มกราคมเวลา 9:06 น.
แค่ความคิด
คงมิผิด ถึงเป็นข้อครหา
ว่าได้แต่ เขียนไว้ ไร้น้ำยา
เหมือนบอดใบ้ บื้อบ้า ช่างน่าอาย
11 มกราคมเวลา 13:56 น.
บาทีขบขันในความเศร้า และบางหนโศกเศร้าในความสุข (บ้าง) (เธอว่าช่างวิกลจริตสิ้นดี)
11 มกราคมเวลา 12:55 น
เมื่ออยู่ใกล้
คิดถึงความหวานละไมในดวงจิต
แม้ไกลห่างเพียงวันละหนึ่งนิด
เหมือนใครพรากชีวิตของฉันไป
07 มกราคมเวลา 12:16 น
เสียดายสร้อยบุพเพสันนิวาส
เสียดายชาติปรารถนาเคยพาหวั่น
เสียดายอุ่นกรุ่นไอละไมนั้น
เสียดายคืนเสียดายวันที่ฝันมา
05 มกราคมเวลา 8:58 น.
คิดถึงเธอ คิดถึงความรัก "ความรู้สึกที่ทำซ้ำไม่ได้"
03 มกราคมเวลา 16:31 น
วันวัย...
ล่วงไปเหมือนไร้ค่า
บางอย่างมาเยือนแล้วจากลา
เหลือเพียงปรารถนา อยู่ข้างใน
31 ธันวาคม 2010 เวลา 20:02 น.
ค่ำซึ่ง เงียบงัน เห็นฝันฝาด
ประหวัดหวาด วกวาดปรารถนา
ใครหนอ ลับไปไม่เคยมา
นั่น! ความเหว่ว้า ของใครกัน
21 ธันวาคม 2010 เวลา 0:07 น
ทำไม เรา ยังพบกัน
ฤา แอบเก็บความผูกพันไว้ฝันหา
บนช่องว่าง ระหว่าง การจากลา
เราแอบหา ปรารถนา บรรดาใด
13 ธันวาคม 2010 เวลา 21:38 น
ฉันได้เก็บเธอไว้ในดวงตา
เชิญมาเปิดปรารถนาฉันไปได้
เธอนั่นเก็บฉันไว้ ณ แดนใด
ถ้าเก็บไว้ ณ แดนใจ ก็คงดี
12 ธันวาคม 2010 เวลา 22:38 น
"ฉันคิดถึงเธอ...
ท่วมท้นความพกเพ้อละเมอหา...
มารุมรุกอยู่ในความเหว่หว้า...
และเร้าท่วมปรารถนา ของความคิด"
11 ธันวาคม 2010 เวลา 21:58 น.
อยากฝากความคิดถึงซึ้งเสนาะ
แทนแพรเพลาะของหัวใจให้เธอห่ม
แต่ไร้ค่าเกินกั้นกันแดดลม
ที่พร่างพรมล่องเลยรำเพยพา
10 ธันวาคม 2010 เวลา 11:02 น
เมื่อครู่พบเธอ ในความคิด
มาใกล้ชิด อยู่ในความชิดใกล้
ทั้งที่"เรา" แปลกหน้า "แปลกใจ"
อะไร! ทำไมแจ่มชัดจริง (บทพบพรากและจากไกล แทนคุณแทนไท)
9 ธันวาคม 2010 เวลา 21:50 น.
"บางทีการไม่รู้สึกถึงสิ่งใด การใช้ชีวิตอาจน่าพิไลกว่า ก็เป็นได้ ความไม่มีเป็นเพียงความคาดหวัง ความมี เป็นเพียงมายาสัมผัส ..."
ระลึกเห็นนางฟ้าผู้มาพร้อมกับวาสนา และเป็นความทุกข์จากไปพร้อมกับชะตากรรม ...เมื่อโลกช่างโหดร้ายเราจะไปอยู่ที่ไหน ที่อาจ"สุข"มากกว่า !!ความนึกคิด ที่ท้นล้นไปด้วยจริตเพ้อฝัน
3 ธันวาคม 2010 เวลา 23:55 น.
เมื่อมีความรัก ในแววตาสะทกสะท้อนแต่ความงาม... เมื่อเศร้า โลกดูหม่นสีและไร้ซึ่งความบรรเจิดใด... เหมือนเมื่อแรกพบเธอและเมื่อกล่าวคำอำลา... รอยสุขและรอยอาลัย จารจด จรดไว้ รอจางๆไปกับกาลเวลา หลับลึกอยู่ในมโนรู้สึก "นิรันดร์" (แทนคุณแทนไท)
1 ธันวาคม 2010 เวลา 22:59 น.
พออายุมากขึ้น ไยไม่รู้สึกศิวิไลซ์เมื่อถึงวันเกิดหนอ รึว่าไม่ประสงค์รับทราบความเฒ่าชราที่มาเยือน
1 ธันวาคม 2010 เวลา 9:38 น.
เข้านอน 23.2 น.
ไปเฝ้านางฟ้า... เมียน้อยเทวดาบนสวรรค์... แอบไปกิ๊กกัน... เช้าพลันก็แยกทาง
30 พฤศจิกายน 2010 เวลา 23:20 น.
วัย วัน ที่โรยร่วงล่วงไป ไร้ประโยชน์จะฉุดรั้ง
ปราศสิ้นข้อยกเว้น เราล้วนแพ่พ่ายต่อกาลเวลา (เสมอกัน)
30 พฤศจิกายน 2010 เวลา 21:04 น
ใครจะเป็นอย่างไรในชีวิต
อย่าลืมมีความคิดที่เข้าท่า
เป็นอะไรที่ไม่ธรรมดา
อย่ายิ่งใหญ่ เกินกว่าความดีเลว...
28 พฤศจิกายน 2010 เวลา 23:00 น.
ความจริงได้ล่วงผ่านไปแล้ว
มีแต่ความทรงจำที่อาจดื่มด่ำ... ยามคิดและระลึกนั้น
ระหว่างความสุขหรือความเศร้าใคร "นิยาม"
ฉัน-เธอ หรือชะตากรรม
26 พฤศจิกายน 2010 เวลา 21:35 น.
....
ดื่นดึก...
นึกถึงใคร...
เขาจะคิดถึงเราไหม...
ใช่ ใจเราคิดถึงเธอ...
25 พฤศจิกายน 2010 เวลา 20:43 น.
....... ไม่มีกรรมใด ลบล้างได้ด้วยบุญ การเสพประเวณี คือ กิริยาบุญอันบุรุษพึงมอบแด่สตรี...ดลใจ ภุมรินกล่าวไว้อย่างนั้น
25 พฤศจิกายน 2010 เวลา 13:45 น.
ตื่นเช้ามาจากค่ำคืนที่ทิ้งงาน (ทำแล้วได้เงิน) ออกนอกบ้านไปเสียเงินและเสียสุขภาพ (อยากพบเพื่อนเก่า) บางครั้งคำตอบของชีวิตอยู่ที่ความพอใจมากกว่าความสุขสบาย (ผมปลอบ) .... แทนคุณแทนไท
19 พฤศจิกายน 2010 เวลา 16:04 น
...ถึงเธอจะจากไป ยังคารวะ และขอบคุณ สำหรับเมล็ดพันธุ์ที่เธอได้โปรยหว่านไว้แล้วมากมาย ซึ่งกำลังผลิดอกออกผล แตกรากแตกใบในไม่ช้า... (กรวัลลิ์) (แทนคุณแทนไท)
18 พฤศจิกายน 2010 เวลา 9:22 น.
ผมกำลังพยายามหันมองอดีต ครุ่นคิด ใคร่ครวญ เผื่อว่า และเพื่อว่าจะค้นพบ "บทเรียน" บางประการที่ส่งแรงกระเพื่อมมาสู่ปัจจุบัน สร้าง "เรา" ให้ดำรงอยู่ ณ วันนี้... (วรภ วรภา)
14 พฤศจิกายน 2010 เวลา 20:04 น.
"เมื่อถึงเวลาธรรมชาติก็เอาชนะ ทุกความฉลาดและแสนโง่ ของมนุษย์"
5 พฤศจิกายน 2010 เวลา 10:12 น.
"และก็มีวันนี้ ที่เราคิด... อาจแปลกจากนึกคิดในบางสิ่ง... ที่เราหมายเอาไว้ให้อุ่นอิง...นี่คือ ชีวิตจริง ใช่นิยาย"
4 พฤศจิกายน 2010 เวลา 18:09 น.
"ที่สุดนั้น เราต่างก็ผิดบาป
ธุลีใจ ล้วนทราบใช้หรือไม่
มิมีใคร หนึ่งน้อย กว่าใครใด
เราต่างได้ ชดใช้ ผิดพอกัน"
2 พฤศจิกายน 2010 เวลา 23:05 น.
"เสือเตี้ย" ออกอาการสะใจหลัง "ปลาหมึกพอล" ลาโลก
"ผมมีความสุขที่เจ้าปลาหมึกแดดิ้น เพราะมันเหมือนเป็นตัวการที่ทำให้เราตกรอบฟุตบอลโลก"
28 ตุลาคม 2010 เวลา 16:51 น.
"บางคน เพิ่มเป็นเพื่อนก็ไม่รับ... บอกหน่อยครับ อยากให้เพิ่มเป็นอะไร... จะให้เป็นคนพิเศษก็ไม่ได้... เพราะมีไว้ ให้สำหรับใครบางคน"
26 ตุลาคม 2010 เวลา 11:50 น.
บุตร เป็นเครื่องหมายของความรัก ความเพรียบพร้อม และความรับผิดชอบ ที่เธอทั้งหลายควรเป็นผู้สร้างไว้เป็นอนาคต เป็นความหวัง ให้โลกได้สถาพรสืบไป
11 ตุลาคม 2010 เวลา 12:58 น.
ผู้ใดปรารถนาพิสูจน์ทราบชีวิตด้วยดีเอ็นเอ ความทนุถนอมของหญิงชาย ซึ่งมีต่อบุตรนั้น ชัดแจ้งอยู่ในพันธุกรรมแห่งความประพฤติฯที่ดีงามแล้ว
8 ตุลาคม 2010 เวลา 10:32 น
หากความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเริ่มต้นจากความรัก ไปสู่เวลาที่เหมาะสม บุตรย่อมเกิดจากความรัก ไม่ใช่ดีเอ็นเอ
7 ตุลาคม 2010 เวลา 17:40 น
...ถ้าการถูกเอารัดเอาเปรียบของเราสามารถกระตุ้นเตือนให้ใครบางคนรู้ตัวว่า กำลังกระทำผิดบาปต่อผู้อื่น บางทีมันอาจไม่เลวนักถ้าเรารู้จักจะอนุญาตตัวเองให้เป็นฝ่ายเสียประโยชน์บ้าง (เวียง-วชิระ บัวสนธ์)
7 ตุลาคม 2010 เวลา 17:15 น.
บางครั้ง การปฏิเสธที่จะแบกรับและผลักไสผู้อื่นเพื่อเอาตัวรอดเพียงลำพัง นับเป็นความปวดร้าว เศร้าโศกอย่างยิ่งประการหนึ่ง
1 ตุลาคม 2010 เวลา 11:48 น.
เก็บรวมเมื่อ พระอังคารที่ ๑ มีนาค์ ๕๔จารใจ จรดจินต์ (แทนคุณแทนไท)
2 กุมภาพันธ์ 2554 15:08 น.
แทนคุณแทนไท
เมื่ออาทิตย์ลับขอบฟ้า
หมู่ดาริการ่ำร่าย
เวิ้งฟ้าวิบพริบพราย
สองตายายชี้ชมดาว
ย้อนไป วันวัย ใจชื่นชุ่ม
คิดถึง วัยหนุ่ม และวัยสาว
ตักเคยหนุน ยังอุ่นผ่าว
เรื่องราว แรกรัก ยังจดจำ
ยายชี้ให้ดูหมู่ดาว
ทอแสงสุกสกาวยามค่ำ
นั่นดาวประจำเมืองขึ้นนำ
งามล้ำนะตา...นะตา
ทั้งสองตา ตามิมองเห็นสิ่งใด
มากไปกว่าหัวใจที่ตรงหน้า
รู้ไหม ยายเหมือนเส้นขอบฟ้า
เส้นที่ตา ไปถึงได้จริงจริง
โปรดจำไว้ซึ่งพจนาท
วิญญาที่วาดได้ทุกสิ่ง
อ่ะ...ตาจ๋าขอไหล่จะได้พิง
ราตรีนี้เราจะผิงดาวกัน...
ยาย ...ยาย...
โน่นอาทิตย์ก็แย้มขึ้นแต้มฟ้า
ตาให้ถ้อยสัญญา และคำมั่น
ตื่นเถิด เปิดตามาดูตะวัน
ค่ำนี้จะพาชมจันทร์ กันอีกคืน
บทส่งใจ
"เมื่อพระอาทิตย์เข้านอน เราก็ควรพักผ่อนซะบ้าง นึกคิดจะมัวทำงานอยูทำไม"
เมื่อวันก่อน โดยแม่มด & แทนคุณ
26 มกราคม 2554 01:51 น.
แทนคุณแทนไท
เธอมองฉัน
ก็พบฉันจ้องมองเธอ
สายตาเราสบซ่าน
ก่อนหลบซ่อนความรู้สึกที่มี
หัวใจ
โครมครามผิดจังหวะที่เคยเป็น
"บอกเล่าปรารถนาบางอย่างที่ได้พบ"
เรายิ้มให้กัน
แต่มิได้เอ่ยอะไรต่อกันแม้เพียงสักเสี้ยวคำ
เช้านี้
ฉันอยากเห็นหน้าเธอเหมือนเมื่อเย็นวาน
"แล้วพรุ่งนี้ เราจะได้พบกันอีกตอนไหน"
ดอกไม้ที่ปลูกไว้ ผลิบานในใจฉันแล้ว
สายลมหนาวเป็นกามเทพให้ละอองเกสรของฉัน
หยดน้ำค้าง
หล่นแต้มความกันดารแห้งที่เคยมี
แสงเช้า
สะท้อนสีและประทับความงามลงบนปีกน้อยของผีเสื้อ ใจฉันสะท้าน
อีกครั้ง
เหมือนมานานมาสำหรับการระส่ำเต้นของหัวใจ
ฉันเริ่มกลัว ปนๆไปกับความปลาบปลื้มในรู้สึกที่กลับมาหา
ฉันมองเธอ
และพบเธอมองมาที่ฉัน
เราประสงค์สิ่งใดต่อกันใครเล่าจักรู้
ในเรา ในใจ ในนี้
ลมหนาวของฉัน
หากปรารถนาดอกไม้ดอกนี้ เด็ดไปนะ
แหละลิ้มชิมให้สมใจเท่าที่หวังวาดเถิด
พรุ่งนี้
ดอกไม้คงโรยร่วงไปพร้อมกับลมหนาวที่ผ่าน
แหละวันเวลาของเราก็ไม่อาจย้อนกลับมา
แด่เธอ
พระอังคารที่ ๒๖ มกราคมที่พบ ๕๔/แทนคุณแทนไท