8 ธันวาคม 2548 09:40 น.
แทนคุณแทนไท
...คุ้น
สำหรับคุณเหมือนเคยได้รู้จัก
เหมือนใกล้ แต่ไกลนัก
เหมือนรัก เคยหักใจ
...คุ้น
สำหรับคุณ เหมือนคนเคยชิดใกล้
คล้ายคล้าย คล้ายบางใคร
เสียงรอย อาลัย ในใจคน
...คุ้น
สำหรับคุณ เหมือนเคยรู้สึกล้น
แค่คล้าย คุ้นบางคน
แท้แล้วหล่น พ้นหาย ตายสัมพันธ์
...คุ้น
สำหรับคุณ อุ่นหวามถามใจฉัน
"นั่นแค่คนที่เคยรู้จักกัน"
แหละนี่มัน ฉันคนเคยรู้จักเธอ
...คุ้น
สำหรับคุณ สำหรับคุณ คุ้นเสมอ
สำหรับฉัน สำหรับฉัน มันเพ้อเจ้อ
คนเคยเจอกลับเพ้อเผลอจดจำ
แทนคุณแทนไท / พระฤหัสบ์ ที่ ๐๘ พฤศจิกาย์ ๔๘
6 ธันวาคม 2548 08:23 น.
แทนคุณแทนไท
เขาคือ.
๑...
เขาคือผู้ให้กำเนิดเกิดก่อเกื้อ
ให้มีเลือดมีเนื้อสืบเชื้อสาย
คือแบบอย่างทางถูกของลูกชาย
คือพระผู้ทอดถ่ายความดีงาม
๒...
เขาคือเบ้าแบบอย่างทางชีวิต
ผู้พิชิตบั่นบากทุกขวากหนาม
ดุจแสงทองส่องโลกก่อนโศกลาม
คือนิยาม เมื่อหนามหนั่น บั่นศรัทธา
๓...
เขาคือแผ่น แดนฟ้านภากาศ
ผู้สามารถห่มหุ้มคลุมผืนหล้า
พระผู้เสกสายฝนหล่นพฺสุธา
สู้อาณาจักรกว้างว้างเวิ้งใจ
๔...
เขาคือแสงแห่งฟ้าเวลาเช้า
ยามอรุณอุ่นผ่าวหนาวแค่ไหน
โศกพลันคลายหายเศร้าในทันใด
ด้วยพระผู้ชี้ให้เข้าใจทาง
๕...
เขาคือผู้เมตตาคราพลาดผิด
คือเทพผู้ควรบูชิตเป็นแบบอย่าง
คือผู้ปลุกศรัทธาอันเลาลาง
ในระหว่างวันทุกข์ที่รุกนัย
๖...
เขาคือร่มไม้ใหญ่ให้แอบอิง
คือผู้คุ้มภัยทุกสิ่งที่กรายใกล้
วันโลกร้างห่างหวังจากใครใคร
มีเขาให้อุ่นไอไม่ให้กลัว
๗...
เขาคือผู้สอนธรรมคำพุทธะ
ให้ เลิก ละ ทุกสิ่ง ที่กลิ้งกลั้ว
อบายใดอย่าให้มาใกล้ตัว
พระผู้สอนให้รู้ชั่วในหัวใจ
๘...
เขาคือเขาขุนใหญ่อันไกลโพ้น
ซ่อนสัมผัสอันอ่อนโยนอ่อนโอนไหว
ปิดคะนึงอันลึกซึ้งถึงบึ้งใจ
เผยแต่แน่นหนักในหัวใจชาย
๙...
เขาอาจเป็นใครไหนของใครอื่น
แต่เป็นหลายสิบหมื่นล้านความหมาย
คือพระผู้มีแต่ให้ไม่เคยคลาย
เรามีวันนี้ได้เพราะ เขามี
๑๐...
เขาคือ พระผู้ เสียสละ
ผู้ยึดถือพันธะแห่งหน้าที่
ผู้ตั้งมั่นในธรรมและความดี
พระผู้มีแต่ให้ไม่เคยขอ
๑๑...
เขาคือใครในใจเล่าเราก็รู้
มิอาจกู่ก้องหมด ทดคำพ่อ
น้ำในตา แต่ละหยดที่รดออ
อยากบอกพ่อ ว่าลูกรัก และคิดถึง
สำหรับผมถ้าใครถามว่าเมื่อนึกถึงพ่อนึกถึงสิ่งใด
มีมากครับที่ให้นึกเปรียบถึงท่าน
แต่ไม่ว่าจะเปรียบท่านเป็นอะไรก็ตาม
ก็คงไม่สามารถทดแทนได้หมดที่ระลึกถึงในพระคุณ
บางอารมณ์อาจตรงกับนิยามของใครๆ
หรือบางทีก็ผิดเพี้ยนไปจากบางพ่อแหละบางลูกที่ได้สัมผัสกัน
แต่เหล่านั้น เป็นเพียงสิ่งที่พ่อทำแล้วลูกๆอย่างเราๆรู้สึก
ซึ่งต้องยอมรับครับว่า
ยังมีอีกหลายอย่างที่ท่านทำ แล้วเราไม่อาจรับรู้ได้
พรุ่งนี้จะเป็นวันที่ใครๆในแผ่นดินนี้
สมมุติว่าคือ วันที่ระลึกถึงพ่อ
ด้วยหัวใจแหละปัญญาอันน้อยนิดที่พอจะระลึกคุณท่านได้
จึงเขียนกลอนสำหรับพ่อครับ...
พระอาทิตย์ที่ ๐๔ ธันวาคม ๒๕๔๘ / แทนคุณแทนไท
29 พฤศจิกายน 2548 11:14 น.
แทนคุณแทนไท
เมื่อคืนผมบอกคุณหรือเปล่า
ว่าคิดถึง
...
ไม่ได้บอกซินะ
ใช่ผมจะไม่รู้สึก
แต่ผมไม่กล่าวเพราะเหตุใด
คุณคงรู้
...
หลายอย่างที่สัมผัสได้
แต่เมื่อไม่อาจไปถึงดั่งใจปรารถนา
...
ถ้าเลี่ยงได้
ผมจะเดินเลี่ยงจากมา
...
ถ้าความเป็นผมในวันนี้
ทำคุณทุกข์ทรมาน
ผมก็คงเดินจากไปอย่างเงียบเงียบ...
...
สายลมแสนสวย
ความเหงาแสนงาม
ความรักคือสิ่งใดเล่า...
ตอบผมที...
...
ถ้าผมเลือกได้
ผมคงเลือกใกล้วาสนาแห่งความรัก
และโชคดีแห่งการรอคอยมากกว่านี้
แต่ผมกำหนดได้หมดดั่งที่ใจหมายหรือคนดี...
...
ไม่เคยเลย...
...
ความรักเจ้าเอย
คุณปรารถนาสิ่งใด
แล้วผมปรารถนาสิ่งใดในความเป็นคุณเล่า
...
คุณก็รู้
ผมก็รู้...
ว่าเปล่าเลย...
นอกจากหัวใจที่ไหวเต้นไปพร้อมพร้อมกัน
กับวันแห่งมิตรภาพ
ด้วยเนื้อในที่เอื้ออาทร...
...
นี่หัวใจผม
แหละนั่น หัวใจคุณ
...
คนดี
ความเป็นผมในวันนี้
คงเป็นผม เช่นในวันวาน
....
ด้วยคิดถึงคุณ/แทนคุณแทนไท
พระจัทร์ที่ ๒๙ พฤศิจากาย์ ๔๘
24 พฤศจิกายน 2548 18:13 น.
แทนคุณแทนไท
บ้านป่าเมืองเถื่อน
บ้านป่าเมืองเถื่อนนี้ ประเทศไทย
มีแต่ทุนจัญไร โลภบ้า
เมาอำนาจโกยไป ผลาญชาติ
ผูกขาดรวยล้นฟ้า มืดทั้งแผ่นดิน
บ้านป่าเมืองเถื่อนนี้
เพราะอัปรีย์มันครองเมือง
หมดแล้วความรุ่งเรือง
พิศนาศสิ้นสกุลไทย
อำนาจร้ายกาจบ้า
กาลีโลภโกยกำไร
รวบเอาอธิปไตย
ไปกระทืบทำลายทิ้ง
ดึงฟ้าลงมาต่ำ
ก่อเวรกรรมระยำยิ่ง
เบือดบิดปิดความจริง
ปลดคุณหญิงจารุวรรณ
สตง. ของนายกู
พวกสูอย่าเสือกป่วนปั่น
พณฯท่านจะโกงจะกินกัน
อย่าฝันว่าจะขวางทางโกยกู
กูจะซื้อหุ้นสื่อสิ้น
สะดวกกินสบายหวานหมู
ใครวะกล้าขวางมาลองดู
กูจะกระทืบให้ติดดิน
แล้วก็สั่งพาลมาชก สว.
พ่อแม่พี่น้องเอ๋ยเห็นไหม
นี่แหละทักษิโณธิปไตย
ใช้อำนาจบาทใหญ่ข่มเหงคน
นี่แหละทักษิณาธิปไตย
ใช้อำนาจบาจใหญ่ข่มเหงคน
ตั้ง 7 กสช ไม่รั้งรอท่านขอมา
จัดระเบียบสื่อปล้นประชา
บ้าอำนาจร้ายกาจจริง
อวดสนามบินสุวรรณภูมิ
คิดแล้วกลุ้มบ้าจี้ยิ่ง
มันหลอกลวงไปทุกสิ่ง
เป็นเปรตปลิงสูบเลือดไทย
มันรวบ กฟผ.
ปตท. นั่นเห็นไหม
สูบเลือดโกยกำไร
ทำไมเรานั่งนิ่งเฉย
ปิดเมืองไทยรายสัปดาห์
ตามบัญชาเจ้านายชั่ว
เมืองนี้ช่างมืดมัว
ความหวาดกลัวครอบคลุมเมือง
น้ำท่วมภัยพิบัติ
เพราะว่ารัฐบาลร้าย
ทั้งโลกดิ่งวอดวาย
รัฐทุนหมายลำลายชำเรา
ปัญหาทางภาคใต้
รัฐจุดไฟไปไม่เป็น
ตาบอดมองไม่เห็น
ก่อลำเค็ญขยับขยาย
มันหลีกเลี่ยงเห็นภาษี
ไอพีสตาร์นั่นหน้าด้านนัก
16000 ล้าน
กักขละโลภระยำแท้
ท่านบอกว่าจะรับชอบเพียงผู้เดียว
ฟังแล้วเสียววาบฉิบหายแน่
พี่น้องต้องถูกรังแก
แผ่รังสีอมหิตมืดมิดเมือง
นี่แหละประชาธิปไตยไทย
ทุนจัญไรมันรวบสิ้น
ซ้ายจิ้งจกมันแอบหากิน
รับใช้ทมิฆกระทืบประชาชน
สมัคร-ดุสิตคิดตามวัน
จัญไรนักกักขละยิ่ง
หยาบช้าป่าเถื่อนจริง
อสมท นิ่งไม่ปิดมัน
เช้าวันนี้ที่เมืองไทย
ยุแยงให้คนฆ่ากัน
หยาบคายงี่เง่านั้น
มันทำเฉยไม่รู้ไม่เห็น
คิดถึงเดือนตุลา
พฤษภา ประชาชน
รวมพลังบนท้องถนน
กล้าหาญโค่นเผด็จการ
โอ้หนอประชาชน
เราจะยอมทนไปถึงไหน
คนชั้นกลางสบายดีหรือไร
ทำไมไม่เดินออกมา
น้ำมันแพงค่าแรงถูก
ค่าเทรอมลูกค่าอาหาร
ค่าผ่อนรถ ค่าผ่อนบ้าน
หากช้านานต้องฉิบหาย
พี่น้องเอ๋ยจงลุกสู้
ประกาศชนรัฐโจรร้าย
ต้องพลีชีพทั้งใจกาย
สร้างโลกใหม่เพื่อไทยผอง
ต้องลุกปลุกเพื่อนไทย
ให้กล้าก้าวกู้ยุคขุกเข็ญ
รวมพลังเพื่อพ้นทุกลำเค็ญ
สร้างไทยร่มเย็นร่วมกันเทรอญ
มันจ่ายเงินม๊อบรับจ้าง
มาขัดขวางประชาชน
นักศึกษาก็สับสน
ด่าผิดคนกระมังหวา
บุคคลสมควรด่า
ประธานวุฒิสภานะน้องเอ๋ย
อย่ามัวเสียเวลาเลย
เชยแท้แท้ศรัทธาธรรม
ลูกพี่เก่ามันเฝ้าคลอเคลีย
เลียเท้าพาลมาหลอกใช้
ขอน้องจงกลับไป
ไล่สุชนงานงดงาม
กฏสำหรับสู้
1ต้องไม่กลัวไม่หวั่นไหว
2ผนึกผสานทุกเพื่อนไทย
3ต้องกล้าเปิดโปงทุรชน อย่างมีสติ
4ต้องเชื่อมั่นความจริงงามดี
ต้องชนะอับปรีย์อย่างแน่นอน
ประสานสู้ จักขบวนเป็นขั้นตอน
ไม่ได้สอน จงตรองดู
22 พฤศจิกายน 2548 12:48 น.
แทนคุณแทนไท
๑...
ที่รัก...
ฉันแวะมาทายทักรู้จักไหม
สิ่งที่เธอถามพี่ว่าอยู่ที่ใด
นี่ไง ลมหายใจ แห่งความรัก
คนดี...
วันเช่นนี้ใช่พี่ไม่เหนื่อยหนัก
การพลัดพรากจากเธอที่พี่รัก
พี่ ฦ จัก ปรารถนาเช่นว่านั้น
หวั่นหวาด...
เมื่อขาดปรารถนาในเชื่อมั่น
เราจักยึดเกี่ยวด้วยสิ่งใดกัน
แล้วเรามีเมื่อวานนั้นเพื่อสิ่งใด
เหน็บหนาว...
บนทางยาวก้าวย่างอย่างไรไหว
ถ้าปล่อยให้วันนี้ที่ห่างไกล
ทำลายความเป็นไปในรักเรา
ศรัทธา...
อย่าทิ้งทุกปรารถนานะน้องเจ้า
ในวันรุ่งพรุ่งนี้ยังมีเรา
เถิดมาฟังเรื่องเล่า บทกวี
๒...
"เดือนเคยดับลับไปในความมืด
ดาวเคยชืดจืดแสงที่เปล่งศรี
ผืนแผ่นดินเคยสิ้นฟ้า ทุกราตรี
ปฐพีแค่เคยมีทิวากาล
ไม่ทิ้งเผื่อเหลือสิ่งใดให้สัมผัส
เหนือทุกข้อบัญญัติจะตัดผ่าน
สองตาจ้องมองไปในวิญญาณ
ชัดได้ด้วยตำนานแห่งศรัทธา
เฉกเช่นกายธรรมชาติที่พลาดห่าง
ไยจักจางร้างรักสิเน่หา
ในดวงจิตสถิตมั่นนิรันดร์มา
เธอจักได้ประจักษ์ตาด้วยหัวใจ"
๓...
ที่รัก...
ฉันแวะมาทายทักรู้จักไหม
สิ่งที่เธอถามพี่ว่าอยู่ที่ใด
นี่ไงลมหายใจแห่งความรัก"...
.............................................
พระอังคารที่ ๒๒ พฤศจิกาฯ ๒๕๔๘ / แทนคุณแทนไท