31 ตุลาคม 2549 00:25 น.
แทนคุณแทนไท
ตุลาฯ กำลังจะสิ้นแล้วที่รัก
...๑...
ฉันแอบเขียนบทกวี...
จากปรารถนามีที่ล้นพ้น...
เปิดนัยน์เถิด..โปรดยล
เรามิใช่คน แปลกหน้ากัน
...๒...
ลองอ่าน ทีละหน้า...
ตื่นตระหนก อย่า!.. ด่วนไหวหวั่น
แท้แล้วเรา น่ะรักกัน...
ยืนยัน รักเธอ หมดหัวใจ...
...๓...
ถึงฉันมิได้เป็นกวี...
แต่รู้สึกบรรดาดี ที่มีไว้...
จารถ้อยร้อยคำลำนำใด...
ล้วนถั่งหลั่งในหัวใจพลัน...
...๔...
อ่านฉันทีละหน้านะที่รัก...
ทำความรู้จัก จากสิ่งนั้น
ระหว่างบรรทัด อาจอัศจรรย์...
มิใช่ฉันรำพัน อยู่ดายเดียว...
...๕...
ฉันเคย อยากเป็นกวี...
เสพย์ทุกความมีแม้ปล่าวเปลี่ยว...
รักโลก ที่ล่อลวง กลวงเกรี้ยว...
หลงรอย ริ้วเรียว ของความทุกข์...
...๖...
ถ้าเปิด อ่านไปอีกหน้า...
ฉันได้เขียนปรารถนาของความสุข...
สมมุติว่า ถ้าแม้น เธอท้อทุกข์...
คงปลุก ปลอบเธอ ได้บ้างนะ...
...๗...
เคยไหม เธอเขียนบทกวี...
แล้วบันดาลฤดี จาก อะไรหละ...
ระหว่างแถว ของบรรทัดยังว่างนะ...
ตามสบาย ถ้าจะ เขียนกวี...
...๘...
อีกหน้าหฺนึ่งเธอเห็นไหม
โล่งว่าง.. ว่างไว้ ทำไมนี่
ที่รัก เธอพิศ คิด ดีดี...
นี่หละ บทกวี คนโดดดาย...
...๙...
ฉันเขียนบทกวีด้วยอะไร
วัสดุ ใช่!.. หัวใจไร้ความหมาย...
วัตถุดิบหยิบจากฝันอันเพราพราย...
หลอมละลายพร้อมกับจินตนาการ...
...๑๐...
ฉันรัก แสนรัก บทกวี...
ทุกส่วนปรารถนามีที่ขับขาน...
จำจาร ผ่านถ้อย ร้อยวิญญาณ...
เสนาะ กังสดาล อ่านอารมณ์...
...๑๑...
ถึงคนอ่าน บทกวี ที่ฉันรัก...
แม้นมิเคย รู้จัก สนิทสนม...
แค่เธอ ทายทัก แวะพักชม...
น้อมคารวะด้วยอารมณ์นิยมนัก
คงไม่มีใครขาดใจตายเพราะลมหนาวกระมัง
แทนคุณแทนไท / พระอังคารที่ ๓๑ ตุลาคม ๔๙
16 ตุลาคม 2549 15:30 น.
แทนคุณแทนไท
วรรคใจที่ ๙ ๑๐ ๙
ณ ริมฝั่ง นนนที
มหาชนวารี กำลังบ่าไหล
ค่อนค่ำ ย่ำอรุโณทัย
วะวิบไว ไกลใกล้ ...คล้ายคล้ายกัน
ไม่แตกต่าง
บนระยะห่าง ตรงหว่างเวิ้งนั่น
ท่ามอึกทึก ลึกล่วง ห้วงปัจจุบัน
บัดพลัน ก็เงียบงัน ในฉับดล
อุ่น! พิรุณ ก็หยาดไหล
ท้น พ้นชลนัยน์ ไยพลัดหล่น
ปริ่มว่าจะขาดใจ ยังไงพิกล
ไม่อายคน ก็น่าอาย ผักตบชวา
วูบวาบ
อารมณ์สันดาป กับอะไรหว่า
ในกระบวนส่วนนึก ลึกไปในจินตนา
บื้อใบ้ บ้อบ้า มิรู้ว่า คืออะไร
เลือนพร่า
บนเรือนปรารถนา อ้...ย ห่า ชักเอาใหญ่
เกียรติศักดิ์ชักปนเปื้อนหทัย
นานนานไป กระไรจึ่งหนัก ชักกลัว
นั่น!! กระสากำลังว่ายทวนน้ำ
ฮึ!! มัจฉากำลัง ชื่นฉ่ำ กับปีกใหม่
เรือหางยาว กำลังกางใบ
โอ โน่นอะไร ออ รถยนต์กำลังวิ่งไล่ จับปลา
อัสสุชน
ช่างสัปดล คิดแข่งกับหยดฟ้า
แค่น้ำใจ ของเทพเทวดา
นัยน์ก็เบลอพร่า แทบว่าไม่เห็นอะไร
ณ ริมฝั่ง นนนที
มหาชนวารี กำลังบ่าไหล
ค่อนค่ำ ย่ำอรุโณทัย
เฮ้อ!! เมื่อไร กุ้งน้อยจะกินปลา
แทนคุณแทนไท / พระจันทร์ที่ ๑๖ ตุลาคม ๔๙
29 กันยายน 2549 08:53 น.
แทนคุณแทนไท
...๑...
ว่าง วุ่น...
ระหว่างรอรุ่งอรุณของวันใหม่
เอนั่น เสียงสะอื้น ของผู้ใด
แล้วน้ำตาข้าไหลทำไม ฤา
...๒...
เฮ้อ!!!
ฉัน หรือ เธอ ที่เซ่อซื่อ
เมื่อชนชาติ มิอาจจะหารือ
เขาจึงถือ ปืนมา รัฐประหาร
...๓...
ช้าช้า ช้ำช้ำ ช่างเนิ่นช้า
กว่าทิวธงรุ้งทิวาจะล่วงผ่าน
ดอกไม้ กำลังจะผลิบาน
เนิ่นนาน สำหรับการรอคอย
...๔...
โน่นนั่น ณ วันหนึ่ง
หวังเด็ดดวงดาววดึงส์มาซึ้งถ้อย
เอาแรงแห่งอุดมคติมาผลิร้อย
หวังลบ ร้ายรอยของวันวาน
...๕...
ครืนโครม...
นั่นนะเสียงฟ้าล่ม ใช่ลมผ่าน
สิ้นสุดอุดม กิน อุดมการณ์
ใครขบถวิญาณบรรพชน !!
...๖...
ว้าเหว่...
อิสรา มหาทะเล ก็เห่พ้น
ยังรักข้าหรือไม่ ประชาชน
ข้ายากจนกว่าเจ้าทุกข์ทนนัก
...๗...
ว่าง วุ่น...
ท่ามกลาง ไออุ่นยังกรุ่นหนัก
เมื่อท่านได้คืน ที่ท่านรัก
โปรดพิทักษ์รักข้าไว้นานนาน
..........................................
พระศุกร์ที่ ๒๙ กันยายน ๔๙ / แทนคุณแทนไท
18 กันยายน 2549 09:00 น.
แทนคุณแทนไท
...๑...
คว้างคว้าง อ้างว้างนัก
ก็แค่ค่าความรักเขาหักหาญ
จนสิ้นสุดสมมุติรักสลักนาน
ไยมาน เหมือนว่าขาด อนาถทรวง
...๒...
บังคับน้ำตายังไม่ได้
จะทำ ประการใดได้แต่ห่วง
ไฉนหนอความท้อทุกข์ช่างรุกทวง
เขาก็แค่มาตักตวง ลวงว่ารัก
...๓...
กลั้นสะอื้น...
รักมาก ก็ยากกลืนหรือฝืนหัก
โอ้ว่า สิเน่หา ของความรัก
เมื่อไรจักพ้นพรากไปจากเรา
...๔...
เมื่อรักมิอาจรัก
ยังอยากฝืนกลืนหักในรักเขา
เมื่อเหลือมีแต่อาลัยหทัยร้าว
ก็เปลืองเปล่าที่เราจะเจ็บจำ
...๕...
ลืมก็ไม่ได้ จำก็ไม่ไหว
เมื่อหัวใจ ถามใจ ก็ให้ขำ
ยิ่งคิดลืมกลับดื่มด่ำอยู่ซ้ำซ้ำ
เหมือนตอกย้ำหัวใจไม่ให้ลืม
...๖...
อยากหยุดพักความเคยรักสักแค่นั้น
ตรงขอบข่ายความสัมพันธ์เคยด่ำดื่ม
ก่อนความคิดจะสิ้นสิทธิ์เมื่อคิดลืม
เพราะหลงเดินด่ำดื่มจนลืมไป
...๗...
คว้างคว้าง ว้างวูบวับ !
คิดบังคับอะไรก็ไม่ได้
ฤา ฉันเดินหลงไปในแดนใด
ที่ไม่อาจเป็นได้แม้นนายตน
...๘...
พระอาทิตย์ที่ ๑๗ กันยายน ๔๙ / แทนคุณแทนไท
12 กันยายน 2549 15:41 น.
แทนคุณแทนไท
๑...
เธอยังชอบบทกวีดีอยู่ไหม ?
คิดว่ายังพออ่านได้ ไม่รังเกียจ
กวีเศร้า งั้นเราคงยัดเยียด
ถึงเธอไม่คิดเกลียด เกือบเดียดฉันท์
...๒...
ทำไมเธอยังชอบบทกวี?
นั้นนะซิ บทกวีวลีฝัน
แท้ทั้งที่หว่างเวิ้ง ปัจจุบัน
ปล่าวดาย ไร้ฝัน เงียบงันเหลือ
...๓...
ใครจะชอบบทกวีดีอยู่ไหม
เหวยว่ะ ประหลาดนัยให้เหลือเชื่อ
กวีกลับยิ่งหลงรักภักดิ์มิเบื่อ
แม้บ่นเบื้อ เหมือนบ้าใบ้ ไร้คนฟัง
...๔...
คุ้นนะ...ซาก ...ช่อกวี...
หอมไมตรี วลีที่พี่เพ้อสั่ง
ก่อนความรักจักสลับกลับเป็นชัง
บนความหวังที่ยังชื่นรื่นรดทรวง
...๕...
นั่นหนาว กำลังมา...
กวีเขียน ปรารถนา ช่างน่าห่วง
คุณค่าเขา คงเปล่าประโยชน์ปวง
จะไปซึ้งถึงทรวงของใครกัน
...๖...
กวียังคงเขียนบทกวี
ผสมส่วนสมมุติมีวลีมั่น
หยิบนภาอากาศวาดตะวัน
นอนคุยกับเพ็ญบุหลันวันเต็มดวง
...๗...
ใครทำให้กวีเป็นกวี
ใครสุมไฟกวีให้ลุกช่วง
ใครนำถ้อยโอสถมาหยดทรวง
หรือใครลวงไปสรวงชั้นสวรรค์ฟ้า
...๘...
ใครทำให้บทกวีเป็นกวี
ใครสอนส่วนปรารถนามีฤดีปร่า-
ปวดแปลบ แสบสั่นหวั่นเอกา
หรือเพราะว่า เธอไม่รักบทกวี
..............................................
พระอังคารที่ ๑๒ กันยายน ๔๙ / แทนคุณแทนไท