22 มีนาคม 2550 15:14 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
เหม่อมองดูท้องฟ้าสีฟ้าใส
ก็เห็นความเป็นไปในโลกฝัน
เห็นมวลเมฆลอยล่องเป็นฟองควัน
ขณะแสงแห่งตาวันส่องพื้นพราย
สีสันของป่าดงคงสีสัน
หลากหลายพันธุ์พืชสัตว์ต่างหลากหลาย
เริงรายตามวิถีที่เริงราย
โลกอุดมมากมายในโลกอุดม
ขณะฟ้ายามราตรีก็พราวพร่าง
สุกสว่างดาวใสให้สุขสม
เมฆสีเทาเคลื่อนคล้อยลอยแรงลม
พระจันทร์ยังน่าชวนชมอยู่ทุกครา
สรรพสิ่งปลีกตัวจากเคลื่อนไหว
หลับใหลในภวังค์ห้อมเวหา
คงยังมีเพียงแสงแห่งดารา
ที่ยังคอยชโลมฟ้าชโลมดิน
น้ำในธารธารน้ำยังมีน้ำ
ยังชื่นฉ่ำฉ่ำจิตใจไม่รู้สิ้น
ยังคงหมั่นปันน้ำมาร่ำริน
ให้ทุกสรรพชีวินไม่สิ้นใจ
โอ้ท้องฟ้ายังกว้างกว่าที่ฝัน
โอ้ตาวันยังคงพร่างสว่างไสว
สิ่งที่ข้าได้รู้เห็นความเป็นไป
โปรดบอกข้าได้ไหม...โลกใดจะมี
21 มีนาคม 2550 16:28 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
การเดินทางของเมล็ดข้าวเมล็ดน้อย
เมล็ดข้าวเมล็ดน้อยเจ้าคอยใคร
คอยชาวนามาเกี่ยวไถไปค้าขาย
หรือเจ้าจะร่วงพรูสู่พื้นพราย
เพื่อขยายพันธุ์เจ้าคราวต่อไป
ใดคือสิ่งที่เจ้านั้นเฝ้าหวัง
จะเป็นดั่งแหล่งอาหารอันยิ่งใหญ่
คอยหล่อเลี้ยงเลือดเนื้อของเชื้อไทย
หรือเจ้าหวังเป็นต้นใหม่อีกหลายรวง
ทางใดที่เจ้าฝันจะเดินผ่าน
ทางเดินสู่รวงร้านในเมืองหลวง
หรือเดินตามเล่ห์กลของคนลวง
ที่ตักตวงกำไรผลจากชนประชา
หรือเจ้าจะทิ้งชีวิตให้อิสระ
ปลดภาระเพื่อผ่านทางเบื้องหน้า
ผ่านขุนเขาหุบช่องร่องธารา
เพื่อจะฝ่าเพลิงภัยไปอุดม
เจ้าจะผลิต้นใหม่ในที่นั้น
ด้วยชีวันเปี่ยมพลังที่สั่งสม
เจ้าจะเติบเป็นล้านต้นให้คนชม
โดยยอมจมร่างไว้ใต้ผืนดิน
..................................................
..................................................
ไม่ว่าเจ้าจะเลือกเป็นอย่างไร
ขอปณิธานที่ตั้งไว้อย่าให้สิ้น
จงทำตามหน้าที่ของชีวิน
จวบหายใจเจ้ารวยรินสิ้นลมปราณฯ
19 มีนาคม 2550 03:41 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
แสงทองที่ส่องสว่าง
กลับชี้ทางให้เดินหลง
เส้นทางที่ทอดตรง
กลับลดเลี้ยวเบี้ยวบิดงอ
ความหวังของโลกหล้า
ก็เหมือนว่าจะเริ่มฝ่อ
กำลังที่มีพอ
กลับย่นย่อต่อโลกทราม
ไมตรีที่มีให้
ก็แพ้ไฟคำหยาบหยาม
เพลิงทุกข์เข้าคุกคาม
ทั่วทั้งโลกโศกมืดมน
ฟ้าเอยเคยสีฟ้า
เดี๋ยวนี้มากลับหมองหม่น
คนเอ๋ยเคยเป็นคน
เดี๋ยวนี้กลายเป็นสัตว์มาร
เหี้ยมห่าบ้าระห่ำ
ซ้ำตามรอยดิรัจฉาน
โหดห่ามตามสันดาน
วิปริตผิดมนุษย์
ไฟบาปยังเริงร่า
เผากายามิผ่อนหยุด
โสมมโลกโทรมทรุด
สุดเยียวยาให้กลับคืน
ไม้เอ๋ยเคยยืนต้น
กลับต้องทนลำต้นยืน
รอรับความกล้ำกลืน
ที่สะสมทั่วแดนดิน
ธารน้ำที่เคยใส
ที่เคยไหลผ่านซอกหิน
กลับแห้งจนแล้งริน
สิ้นน้ำชุ่มชอุ่มไพร
อาเพศทั่วเขตหล้า
ทั้งโลกาก็มอดไหม้
ยุคถล่มล่มบรรลัย
บรรลัยล่มถล่มยุค
..................................
..................................
..................................
..................................
ทั้งสิ้นนี้มิใช่เพียงภาพหลอน
หากทุกตอนย้อนสังคมที่สมสุข
อุบัติแล้วความจาบัลย์โรมรันรุก
โปรดจงสนุกกันต่อไปเถิดชีพนี้
..................................
..................................
โปรดเริงทุกข์ให้สนุกนะโลกนี้
19 มีนาคม 2550 03:39 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
รื่นรื่นเริงรมย์บ่ข่มหาย
กษณะอุรสบาย
กรุ่นประทิ่นกราย
สถิตทรวง
อวดชั้นอวดช่อลออช่วง
ทิพยสุคนธรวง
เอิมและอิ่มปวง
ตลอดตน
เพรงกาลผ่านกายขจายปน
มธุรรสสกนธ์
ดั่งประดาลดล
พิมานแมน
ซึ้งซาบซึ้งทรวงสนิทแสน
ดุจสุขวดิแดน
ล้วนกระเดื่องแม้น
สวัสดี
ลมล่องรำพาย ณ ท่วงที
วตะปะอุระทวี
ดาลฤดี ดี
สรีรมย์
หมู่มวลเมฆหม่นก็ลอยลม
นภก็จะประติสม
โลกก็ห้อมห่ม
นภาลัย
ภาพพริ้มกำซับประทับใจ
ตะละรถยะไสว
โลกลุอำไพ
ก็เนิ่นนาน
ตามบทกฏแห่งพระนิพพาน
บ่มิละสละสาร
คงสลายกาล
ณ สักวัน
อยากให้โลกงาม ณ ชั่วกัลป์
ดลระยะนิจนันต์
มาเถอะรังสรรค์
แตะแต้มสี
สร้างโลกสดสวยละราคี
ดุจอมรมณี
เราจะเริงชี-
วะแนบนาน
19 มีนาคม 2550 03:34 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
ในยามค่ำขอบฟ้าก็ปรากฏ
พระจันทรเหลืองสดขึ้นปลดสี
ค่ำคืนนี้แจ่มแจ้งแสงรูจี
ดั่งมณี มิ่งแก้วอันแพรวพราว
เดือนประดับฟากฟ้าหล้าเลอสรวง
ส่องลำแสงโชนช่วงทั้งห้วงหาว
พร่างพรายพริบด้วยแสงแห่งดวงดาว
สุกสกาวเจิดจ้าล้ำลาวัณย์
ฉันเหม่อมองภาพพิมพ์มายิ้มรับ
เสมือนกับแนบสนิทนิทราฝัน
ถ้วนรสหวานฤๅหายคลายสัมพันธ์
คืนหนึ่งนั้น สุขนัก เกินหักลา
แล้วก้มหยิบกระดาษมาใบหนึ่ง
เขียนถ้อยคำรำพึงปรารถนา
บรรจงจรดจารกลอนก่อนนิทรา
ก่อนฟากฟ้าจะผันตะวันจร
โอ้เดือนดาวอันระยับงามจับฟ้า
หรือเทียมเทียบดวงหน้านวลสมร
จึงประกาศลำนำร่ำสุนทร
ว่าอาทรห่วงนางในต่างแดน
ค่อยค่อยเขียนขีดเส้นความเป็นห่วง
แล้วตักตวง อีกหนึ่งความซึ้งแหน
หวัดอักษรหลงใหลไม่คลายแคลน
ตีกรอบแกนแก่นรัก มาถักทอ
วาดวงกลม กลั่นเกลียวเสี้ยวสัมพันธ์
แล้วผูกมั่นคำง้องอนเว้าวอนขอ
ลากเส้นตรงรักรั้งว่ายังรอ
หมายพะนอเคียงขวัญนานเท่านาน