24 กันยายน 2549 23:42 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
น - นครา ประไพพงศ์
ด - แดนไกล ไลบีเรีย
ก - white wizard
น เป็นมายา ซ่อนเร้น เป็นหน้ากาก
ก เป็นกั้นฉากตัวตนทุกหนแห่ง
ด ล้วนเล่ห์ร้ายหมายซ่อนไว้ไม่สำแดง
น หัวใจแฝงความชั่วแห่งตัวตน
ก ภายนอกงามพ่อพระแสนประเสริฐ
ด หวังชนชมชูเชิดทุกเขตหน
น แสร้งทำดีหมายตบตาประชนชน
ก หลงเล่ห์กลพรางหน้าหลอกตาใจ
ด แต่ภายในเน่าเฟอะฟะคละความชั่ว
น โกงกินฮั้วเพื่อพวกพ้องชาติหมองไหม้
ก แสร้งตบตาจากชนพ้นจัญไร
ด ทำไปได้ไอ้ห่าหน้าไม่อาย
น เมื่อวันนี้ถูกกระชากหน้ากากทิ้ง
ก พ่อนักบุญเกลือกกลิ้งวิ่งหน้าหงาย
ด น่าสมเพช..ใจผีที่ชั่วร้าย
น ผลสุดท้าย วันนี้ ...ไร้ที่ยืน
ก พังละครเวทีที่จัดฉาก
ด ซ้ำซาก....ก็ต้องฟังต้องนั่งฝืน
น ทนมานานกับมายาพากล้ำกลืน
ก ให้วันนี้เป็นค้ำคืนแห่งความจริง
ด ได้เวลาปิดฉาก......
น ชนกระชากเห็นข้างในไปทุกสิ่ง
ก ล้วงทุกตอนขุดซากมากแอบอิง
ด กล้ำกลืนนิ่ง..เมื่อได้พบจบกระบวน
24 กันยายน 2549 00:01 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
เรื่อยเรื่อยไปตามธารน้ำไหล
อ่อนไหวตามลมที่พัดหวน
จูบรวงข้าวน้ำค้างอย่างนุ่มนวล
อุ่นอวลกลิ่นไอแห่งไร่นา
เสียงเพลงเต้นกำรำเคียวก้อง
ทำนองพร้อมเพรียงเรียงหน้า
เอ้า...แม่เอย พ่อเอย เชิญเลยมา
ลงแขกเกี่ยวธัญญามาช่วยกัน
สรวลเสเฮฮาชาวนาทุ่ง
อยู่เหย้าเฝ้ายุ้งสุดสุขสันต์
เกี่ยวเก็บรวงข้าวทองผ่องอำพัน
ด้วยมือนั้นอันหยาบกร้านด้วยงานตรำ
......................................
??????????????????????
......................................
แต่แล้วมีมารมืดจากเมืองใหญ่
เข้ามารีดไถด้วยใจต่ำ
ขุดถากซากนาด้วยอาธรรม
ระยำ.....คำนี้ไม่มีรู้
ชาวนาก็เถอะ...ช่างชาวนา
มีปัญหาก็มันนั่นอดสู
ช่างหัวมัน....อย่าเห็นเป็นเอ็นดู
จะลบหลู่แม่โพสพ....ตบหน้าควาย
...............................
???????????????????????
........................................
ชาวนานั่งหน้าหงอยคอยวันใหม่
แต่ยังไร้แนวทางห่างจุดหมาย
เมื่อมารชั่วมั่วชนบท....ก็อดตาย
รอวันขายวิญญาณชาวบ้านนา
19 กันยายน 2549 00:41 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
ดอกไม้ดอกหนึ่งร่วงสู่ห้วงพื้น
ไหลลื่นไปตามธารกระแส
ปลิวพัดตามลมหวนที่ปรวนแปร
กลีบช้ำเพราะอ่อนแอเกินต้านทาน
เจ้ายังอ่อนต่อโลกที่โหดร้าย
จึงมักพ่ายต่อเล่ห์คำหว่านหวาน
ถูกกดรัดคับแค้นแสนทรมาน
และเนิ่นนานผ่านพ้น....เจ้าทนนัก
ไยไม่ลองปล่อยวางตามทางบ้าง
ถึงบอบบางแต่ต้องแฝงแกร่งในฝัก
เรียนรู้โลกที่หมุนผ่านด้วยความรัก
และรู้จักใช้ชีวิตคิดให้เป็น
ถึงแม้ดอกไม้จะบอบบาง
แต่โครงร่างภายในย่อมฉายเด่น
ดอกไม้ที่ผ่านร้อนผ่านลำเค็ญ
ก็ย่อมเห็น...เป็นกำไรในชีวิต
9 กันยายน 2549 17:22 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
เข้าสู่ห้วงนิยายฉายชีวิต
คอมมิวนิสต์เป็นบทให้ทดสอบ
โชว์ศักดิ์ศรี...สร้างภาพตามใจชอบ
และตีกรอบกั้นสิทธิ์....คอยปิดกัน
แต่เหล่าชนชั้นล่างนั้นเหนื่อยนัก
ออกแรงพรักเพรียกพร้อมยอมแข็งขัน
ไม่กล้าเงยหน้าดู...สู้กับมัน
ยอมทนหยันทนเย้ยเลยชั่วคน
แต่เมื่อถึงยุคกู...ขอกู้สิทธิ์
ขอชีวิตอิสรีที่ถูกปล้น
แต่ถ้าหากมึงไม่ทำไม่จำนน
กูไม่ทน...กูจะสู้....กูยอมตาย
ต่อให้เลือดสาดหน้าสักกี่หยด
กี่น้ำตาหลั่งรดหดเหือดหาย
ต่อให้กูทรมาน์ชีวาวาย
กูยังหมายสู้ต่อไม่ขอแพ้
ยังเชื่อว่าสักวันต้องทำได้
ถ้าหัวใจยังแกร่งและแน่วแน่
กูยอมเสียทั้งชีวิตทั้งจิตแด
เพื่อขอแค่อิสรภาพอาบแผ่นดิน
4 กันยายน 2549 01:33 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
เปิดหน้าต่างรับลมที่ลอยล่อง
เป่าออร์แกนขับร้องกล่อมน้องหลับ
เล่านิทานดวงดาวพราวระยับ
วาดพระจันทร์ประดับแทนโคมไฟ
เปิดผ้าม่านสร้างโรงละครหุ่น
ตุ๊กตายัดนุ่นเดินไหวไหว
เสียงน้องหัวเราะเพราะชอบใจ
ตัวพี่เองก็ยิ้มได้...ไม่เหนื่อยแรง
น้องยังไม่ง่วง....ยังไม่หลับ
น้องยังนอนนับดาวพระแสง
โน่นดาวศุกร์ นี่ดาวเสาร์ นั่นดาวแดง
พี่คับพี่... มีแมลงร่วงลงมา
ไหนแมลงอยู่ไหนชี้ให้หน่อย
เจ้าตัวน้อยบริสุทธิ์ใสไร้เดียงสา
โธ่...น้องเอ๋ยนั่นน่ะหรือคือดารา
ที่ตกจากฟากฟ้ามาสู่ดิน
ที่ครั้งหนึ่งเคยโชติช่วง ณ ห้วงหาว
กลายเป็นดาวที่ไร้ค่ากว่าเศษหิน
ถูกมอดไหม้ไฟเผาร่างกลางนภิน
นี่แหละหรือคือชีวิน....ยากยอมรับ!
เจ้านอนลงซะเถอะนะน้องรัก
พี่ขอพักกายบ้างพี่จะหลับ
ปิดหน้าต่าง เป่าออร์แกนกล่อมประทับ
ก่อนที่.....พี่จะลับไปกับดาว