26 พฤษภาคม 2549 23:39 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
เด็กตัวเล็กเล็กอย่างฉัน...
คงจะไม่มีวันอันสดใส
ถ้าหากขาดแรงตั้งกำลังใจ
จากใครคนนั้นที่ฉันเจอ
เด็กอย่างฉันเรื่องบทกลอนคงไม่รู้
หากไม่มีเธอแนะชูคอยเสนอ
แนะวิถีแนวทางตามอย่างเธอ
เป็นแรงใจให้เสมอเมื่ออ่อนแอ
เป็นรอยยิ้มเล็กเล็กที่มอบให้
เป็นร่มใจคอยเยียวยารักษาแผล
เป็นมิตรที่จริงใจไม่ผันแปร
ยามฉันแพ้ก็ช่วยฉันในทันที
อยากจะบอกว่าขอบคุณสักพันครั้ง
ที่สอนสั่งแนะนำตามวิถี
ตามเส้นทางด้วยอารมณ์คมกวี
เบื้องหลังที่.....พาฉันสู่ฝันงาม
14 พฤษภาคม 2549 15:38 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
ผืนทะเลที่รัก...
เจ้าฟูมฟักเลี้ยงผู้อื่นเป็นหมื่นแสน
ให้ผู้คนได้อยู่กินเป็นดินแดน
ดั่งตัวแทนแห่งชีวิตผลิตชน
ตัวฉันเกิดบนผืนทะเลนี้
ทะเลที่สร้างฉันให้เกิดผล
สอนให้ฉันบั่นบากและตรากทน
ให้พึ่งตนด้วยยำเกรงอย่าเหงใคร
ให้เรียนรู้รักษาธรรมชาติ
รักชายหาด รักทะเลที่อาศัย
ผืนทะเลแผ่นกว้างสุดกว้างไกล
สุดยิ่งใหญ่สุดหยั่งลึกจะตรึกมอง
เจ้าหล่อเลี้ยงผู้คนนับไม่ถ้วน
เพราะเจ้าล้วนให้สุขแก่ทุกผอง
สร้างโอกาสชีวิตใหม่คระไลลอง
เพื่อพี่น้องอยู่ดีศรีวิไลซ์
ตัวฉันคือลูกทะเล...
จะไม่เปลี่ยนผันเผตามสมัย
ถึงแม้ว่าโลกนี้เป็นเช่นไร
จะขอตายตรงพื้นผืนทะเล
14 พฤษภาคม 2549 15:30 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
หยุด สิ่งที่คับแค้น...............ในทรวง
หยุด เถอะหยุดสิ่งลวง..................ชั่วร้าย
หยุด จิตค่อนหึงหวง......................หวงจิต
หยุด เถอะหยุดโคลนป้าย.............ใส่ร้ายป้ายโคลน
หยุด อวดหยุดกล่าวอ้าง........ตัวเอง
หยุด พูดเพราะพูดเกรง................กล่าวโม้
หยุด คิดข่มคิดเหง........................คิดถ่ม นะเฮย
หยุด พร่ำคำอวดโอ้.......................โอ้ว่าข้าดี
หยุด อารมณ์คลั่งบ้า.............ผูกจิต
หยุด หยั่งยั้งความคิด...................ฆ่าแค้น
หยุด ใจหยุดทำผิด.......................สิ่งชั่ว นานา
หยุด ชั่วทั้งหมดแม้น...................เลิศล้นประเสริฐแดน
หยุดได้ทั้งหมดนี้.................ดีเลิศ
เลิศดั่งกุศลพรายเพริศ...............ส่องหล้า
หล้าจักส่งสรรเสริญ.....................ด้วยผู้ เฮาเมือง
เมืองยิ่งดีก้องฟ้า.........................หลั่งล้นคนดี
หันเข้าธรรมมะไว้..............จงหัน
ช้ามิได้เร็วพลัน..........................อย่าช้า
หยุดยั้งชั่วด้วยธรรม์...................ตัวหยุด เถิดเฮย
ชัยยะธรรมนำหน้า.....................ชั่วช้าแพ้ชัย
14 พฤษภาคม 2549 15:15 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
โลกของเราโอดครวญตั้งกี่ครั้ง
โลกต้องพังเพราะมนุษย์มาเท่าไหร่
กี่ครั้งแล้วที่โลกหมองร้องอาลัย
กี่ครั้งแล้วที่โลกไหม้ด้วยไฟฟืน
กี่ครั้งแล้วที่โลกโศกเพียงนี้
กี่ครั้งที่โลกโทรมทรุดสุดขมขื่น
กี่ครั้งแล้วที่โลกล้าระอาอืน
เคยเห็นไหมโลกสะอื้นกลืนน้ำตา
นั่นเสียงโลกร้องไห้ใช่หรือเปล่า
นั่นใช่เสียงเร่งเร้าหรือเปล่าหนา
เสียงครวญคร่ำร่ำร้องของโลกา
เสียงดังว่า ตัวฉันนั้นใกล้ตาย...
...ขอร้องล่ะอย่าซ้ำทำร้ายฉัน
โปรดช่วยกันรักษาก่อนจะสาย
โปรดเถอะ...โปรดอย่ามาทำลาย
นี่คือเสียงสุดท้ายของโลกเรา
14 พฤษภาคม 2549 15:03 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
เปิดทีวีดูข่าวน่าเศร้านัก
ข่าวต้นไม้ถูกลอบลักตัดไปขาย
ป่าโดนเผาไหม้มอดจนวอดวาย
สัตว์ทั้งหลายถูกเข่นฆ่าด้วยมือคน
เสียงประกาศจากทีวีมีความว่า
ขณะนี้ผืนป่าพนาสณฑ์
ถูกทำลายไม่เหลือดีเจือปน
ถูกปี้ป่นเพราะมนุษย์ไม่รู้ค่า
(...ฉันคิด...)
เป็นเพราะคน...เป็นเพราะคน...เป็นเพราะคน
ที่หลงตนติดใฝ่ในตัณหา
ความอยากได้ จูงชักมักนำพา
จึงลักลอบทำลายป่าเพราะว่า เงิน
แต่หาได้นึกครุ่นถึงคุณป่า
เพราะมัวบ้าหลงแต่ทรัพย์นับสรรเสริญ
ขอเถอะช่วยรักษาอย่าทำเมิน
เพราะอาจเกินเวลาเยียวยามัน
ถ้าเรายังร่วมแก้ไขกันไม่ได้
ตราบสุดท้ายก็จะเกิดโทษมหันต์
ถ้าวันหนึ่งอนาคตป่าหมดพลัน
ถึงวันนั้น...พวกมนุษย์หยุดหายใจ