7 สิงหาคม 2550 20:41 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
ตัว – ตน
ตัวตน – อาจไม่ใช่ที่ทุกสายตามองเห็น
ร่าเริง ยิ้มแย้ม แจ่มใส หัวเราะ เฮฮา - - -
วิญญาณแห่งความทรมานผูกมัด
ไม่มีใครรู้
ไม่มีใครอาจมองเห็น........ภายใน
เร้นลับในห้วงแห่งการจองจำ
สับสน วุ่นวาย เบื่อหน่าย ท้อทน
ดวงตะวันไม่เคยทอแสงแม้สักหนึ่งรุ่งอรุณ
ยังแต่ลมแห่งความเงียบเหงาที่พัดโชยมาครั้งแล้วครั้งเล่า
ความรู้สึกอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวไม่เคยจางหายไป
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
จะมีมือคู่ใดเล่าที่จะฉุดดึงหัวใจ
ให้เป็นอิสระจากพันธะแห่ง ตัว – ตน เสียที
5 สิงหาคม 2550 00:05 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
แด่ จินตนาการที่จากไป
เมื่อก่อนกาล –
เคยหัวใจอ่อนหวานซ่านรู้สึก
ด้วยใฝ่ฝันมั่นไว้ในใจนึก
จะว่ายฟ้าล่วงลึกอันกว้างไกล
จะไปเด็ดดวงดาวที่พราวฟ้า
แล้วนำมาเรียงร้อยเป็นสร้อยไสว
จะเอาดวงจันทร์เสี้ยวเกี่ยวกำไล
จะเอาเมฆมาคลุมใจให้อุ่นนาน
ก็เคยฝันว่าจะไปสุดปลายฟ้า
ปรารถนา เพียงปรารถนาก็ว่าหวาน
เมื่อไม่เคยหมดสิ้นจินตนาการ
ความฝันก็ยังผลิบานเต็มลานจินต์
เมื่อก่อนกาล –
ครั้งหัวใจอ่อนหวานยังไม่สิ้น
ซึ่งเสียงเพรียกเคยกระซิบว่าชีวิน
อาจมีสิทธิ์โบยบิน ไปแสนไกล
หัวใจจึงโบยบิน –
ในห้วงจินตนาการหวาน, อ่อนไหว
มีสิทธิ์บินผ่านมุมอับที่ลับไร้
ซึ่งดวงดาวแสงสุกใสในหม่นฟ้า
..................................................
..................................................
..................................................
..................................................
บางรู้สึก – รู้สึกว่าเหนื่อยอ่อน
จนหัวใจร้าวรอนเสียยิ่งกว่า
ยิ่งโบยบินสูงขึ้นไปใจยิ่งล้า
เกินปรารถนา เกินกว่าฝันนิรันดร
และตอนนี้คล้ายหมดสิ้นจินตนาการ
เมื่อผ่านเพียงชั่ววานช่างเหนื่อยอ่อน
หยุดโบยบินไปสุดฟ้า – หลับตานอน
ทิ้งความฝันของกาลก่อนไว้เท่านี้
ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน –
ปล่อยความฝันให้ร่วงโรยโบยบินหนี
พอรู้ตัว รู้สึกนึกอีกที
ฟ้าก็ไกลเกินกว่าที่จะบินไป
ไม่เหลือแล้วดวงดาวที่พราวฟ้า
จะสรรหามาร้อยเป็นสร้อยไสว
ไม่มีดวงจันทร์เสี้ยวเกี่ยวกำไล
ไม่มีเมฆห่มคลุมใจให้อุ่นนาน
เวลาก็ยังหมุนไป –
ไกลแสนไกล เกินใจโบยบินผ่าน
เพียงพริบตาพร่าฝัน, แหละวันวาน –
ก็เข้ามาพรากจินตนาการไปเสียแล้ว !!!
31 กรกฎาคม 2550 01:40 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
ผีเสื้อกวี
- ผีเสื้อกวี -
เจ้าบินหลงมาที่นี่ จากที่ไหน
หรือเจ้าเพียงผ่านมาชมดมดอกไม้
แล้วบินพ้นเลยไปกระไรกัน
เจ้าบินว่อนร่อนเรื่อยเคยเหนื่อยไหม
เถิดมาพักผ่อนใจมาคลายฝัน
ดูสิเจ้าอ่อนล้ามานานวัน
จนสีสันซีดเซียวเพรียวปีกบาง
เอ๊ะกระไร ปีกเจ้าจึงเว้าแหว่ง
มีเลือดแดงสาดกระเซ็นเป็นวงกว้าง
เจ้าคงบินหลงไปในเส้นทาง
ที่ระหว่างสงคราม, ความมืดดำ
แหละสงครามอาจทำเจ้าช้ำเจ็บ
ความหนาวเหน็บมืดเทาอาจเข้าย่ำ
อาจเสียงครวญหวนร้องจากจองจำ
ทำให้เจ้าชอกช้ำอย่างวันนี้
เจ้าจะพักหลับนอนลงก่อนไหม
หรือเจ้าจะทนบินไปในต่างที่
ผ่านดงดอนโตรกผาเชี่ยววารี
ไปสืบสานงานกวีที่เจ้ารัก
เจ้าอาจเลือกที่จะทนบินพ้นผ่าน
พร้อมบทกวีอ่อนหวานอันแน่นหนัก
บินสูงลิ่วเรื่อยไปไม่ผ่อนพัก
เพื่อจักไปทายทักกับมวลชน
- ผีเสื้อกวี -
เจ้าบินผ่านมานานปีมิมีบ่น
แม้เจ้าเคยหลงระหว่างทางมืดมน
เจ้ายังทนบินไปและบินไป
เพราะเจ้าคือ - ผีเสื้อแห่งกวี -
พร้อมบินผ่านทุกทุกที่มิหวั่นไหว
เถิดผีเสื้อแห่งกวีจงภูมิใจ
งานของเจ้ายิ่งใหญ่กว่าใครแล้ว
21 กรกฎาคม 2550 15:06 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
เพราะเรากำลังพายเรือชีวิต
1) เพราะเรากำลังพายเรือชีวิต
ในเถื่อนทิศท้องนทีที่โหดระห่ำ
มีห่าคลื่นครืนครางคอยขวางลำ
จึงเรือส่ำ, ฟากฝั่งแผกลางเลือน
2) ดั่งมรสุมรุมกระหน่ำซ้ำเรือชีวิต
ให้แผกทิศผิดทางทุกย่างเถื่อน
คลื่นซัดสาดเรือชีวิตจนบิดเบือน
พายทวนคลื่นหากเรือเคลื่อนไปผิดทาง
เรือชีวิตโคลงเคลง เคว้งคว้างนัก
เหมือนจะหักแตกท่อนแต่ก่อนสาง
ยังมิทันพบฟ้ารุ่งอรุณราง
คลื่นก็ยังครืนครางอยู่ครวญครวญ
3) เรือชีวิตไม่มีแม้ไม้พาย
ตะเกียกตะกายพายผ่านความปั่นป่วน
ยังสองมือวักน้ำให้เรือทวน
และแทรกฝ่ากระแสสวนอันรุนแรง
เรือชีวิต คล้ายบิดเบี้ยว –
ล่องลดเลี้ยวเทียวฝ่าห่าภัยแฝง
ยังกายเราเท่านั้นซึ่งสำแดง
ความแข็งแกร่งแห่งเรือน้อยล่องลอยไป
มีสองมือพร้อมพรักวักน้ำพาย
มีหนึ่งกายประคองเรือฝ่าคลื่นใหญ่
มีเรี่ยวแรง มีหวังจากหนึ่งใจ
จึงเรือชีวิตมิหวั่นไหวต่อภัยกราย
เถิดอย่าให้เรือชีวิตต้องแตกลำ
เถิดลอยนำคลื่นไปอย่างใจหมาย
อีกสักนิด อีกสักหน่อย ค่อยค่อยพาย
เพียงมรสุมรุมร้ายอย่าได้เกรง
4) หากเพราะเรากำลังพายเรือชีวิต
สู่ฟากทิศขอบฝั่งนทีที่ขรึมเคร่ง
ถึงแม้พายอยู่ลำพังเปลี่ยววังเวง
แต่ก็ยังมีตัวเองเป็นแรงใจ
ยังมั่นว่า –
...แม้คลื่นห่าจะฝ่าฟันไม่หวั่นไหว
เรือชีวิตลำนี้จักพายไป
ถึงฝั่งฝันอันโพ้นไกลสุดสายตา...
หากเพราะเรากำลังพายเรือชีวิต
จึงมีสิทธิ์พายสู่ฝันอันปรารถนา
เพียรพายผ่านคลื่นมรสุมที่รุมชีวา
แหละจึงได้รู้ค่า.....โอ้ เรือชีวิต
21 กรกฎาคม 2550 14:03 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
ไม่มีอะไรมากนักหรอกชีวิต
ไม่มีอะไรมากนักหรอกชีวิต
เท่าความรู้สึก นึกคิดที่มีอยู่
เท่าสายตา สัมผัสที่รับรู้
ในซอกอณูของวิญญาณ
อาจมีเพียงไม่กี่สิ่งในชีวิต
เพียงเรื่องราวอันน้อยนิด มหาศาล
เพียงมีแค่ตัวตนพ้นชั่ววาร
เพียงการผ่านโลกหมุน หมุนชีวิต
มีเพียงบางสิ่ง......
ทั้งเคลื่อนไหว หยุดนิ่ง, จริงและผิด
บางสิ่งที่ตัวเรานั้นเฝ้าคิด
สิ่งนั้นคือการเนรมิตความฝันท้า
ก็ไม่มีอะไรมากนักหรอกชีวิต
หากมีแค่ความคิด กล้าและบ้า
ที่จะสร้างที่จะสรรค์ฝันขึ้นมา
คงไม่มีอะไรหนักหนาหรอกชีวิต