12 พฤศจิกายน 2548 23:35 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ฉันคือใคร
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉันบ้าง
ไม่รู้ว่าใจของฉันต้องการอะไร
ไม่รู้อะไรเลย !
ฉันไม่รู้ว่าฉันเจ็บมานานเท่าไหร่
ไม่รู้ว่าทนกับกับความช้ำนานแค่ไหน
ไม่รู้ว่าฉันมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร
ฉันรู้เพียงแต่ว่า "ตอนนี้ ยังมีเธอ"
11 พฤศจิกายน 2548 21:13 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
แอบรักเธอเพียงแต่ว่าไม่กล้าบอก
กลัวช้ำชอกดวงกมุทที่สุดหนา
เพียงเอ่ยรักเบาเบาเคล้าวาจา
ไม่อาจกล้าเอื้อมอับขยับกาย
ปากจะบอกว่าชอบกลัวลอบช้ำ
กลัวต้องกล้ำต้องกลืนฝืนใจหมาย
อาจจะนึกรักเธอเผลอก้าวกราย
จึงเขียนกลอนบรรยายพรรณนา
อย่างน้อยแค่ขอให้เธอได้มองเห็น
อย่างจัดเจนถึงความรักที่หักหา
ที่ใจฉันมีให้เธอทุกเวลา
ขอเพียงแต่เธอรู้ว่า "ฉันรักเธอ"
4 พฤศจิกายน 2548 21:54 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
ยำพริกหวานน่าเนื้อ ชุ่มฉ่ำ
เห็นหรุ่มรุมสกรรม ฆ่าแค้น
ลูกตาลช่างหวานนำ รสเด่น เหลือแฮ
ใส่กล่องจักจัดแม้น อิ่มท้องรองแรง
ต้มยำไทยใส่กุ้ง จัดจ้าน
ร้อนเร่าปักดวงมาลย์ พล่าเนื้อ
ประดับแต่งใส่จาน เป็นคู่ ตั้งเคียง
ดังเช่นเป็นเหมือนเชื้อ เร่งลิ้นอยากกระหาย
ขนมผิงน่าลิ้ม ลองกิน
รสหนึ่งดั่งเทวินทร์ เสกตั้ง
ความหวานซ่านจับลิ้น ชวนอยาก ชิมแฮ
ผิงอุ่นผิงไฟยั้ง รสล้ำขนมไทย
รังเอยรังนกร้อน รสสวรรค์
มีค่าเท่าสุวรรณ หนึ่งร้อย
จากจีนสู่ไทยครัน ตำรับ โบราณ
อร่อยรสชดช้อย ค่าค้ำบารมี
เขียวหวานหวานหนึ่งพร้อม เพรียงกัน
เฉกเช่นแก้วตากันย์ ปรุงไว้
ชิมเชิงดั่งเหมือนฝัน รสเทพ ทิพย์วิญ-
ญาณประจักษ์จิตไท้ แก่นรักสมัครสมาน
อาหารนามเพริศพริ้ง เพราะพร้อง
นางแต่งนามครรลอง สูงข้า*
อีกรสละเอียดออง รสนุ่ม ลิ้นแฮ
นามจ่ามงกุฏว่า เช่นหนึ่งมงกุฏทอง
ลอดช่องเจือสีย้อม มรกต
เขียวดั่งอินทรยศ ร่างซ้อง
ราดด้วยกะทิสด หวานเด่น รสมัน
เหมือนพี่คิดถึงน้อง ลอดช่องไปหา
29 ตุลาคม 2548 15:37 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
อวยพรก่อนปีใหม่
มอบหัวใจแด่ครูหยิน
หยาดฟ้าตราบผืนดิน
ยังไม่สิ้นพระคุณครู
สอนศิษย์ให้แหลมหลัก
ให้รู้จักอดทนสู้
ด้วยรักและเอ็นดู
คอยหนุนชูข้าเรื่อยมา
25 ตุลาคม 2548 16:53 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
เมื่อยังเล็กฉันวาดฝันอันแสนสวย
ว่าทำงานแล้วรวยมีทรัพย์สิน
ตั้งความหวังปลูกไว้ใต้ผืนดิน
ให้กรุ่นกลิ่นรับรสพสุธา
ให้เป็นดั่งดอกไม้สักหนึ่งดอก
ที่ผลิแย้มบานออกสู่เวหา
คอยสร้างหวังอุดมการณ์นานา
คุณค่าลึกล้ำประจำใจ
ตั้งชื่อว่าดอกไม้แห่งชีวิต
ที่ผลิตผลสำเร็จเมื่อเติบใหญ่
มุ่งมั่นทำงานเรื่อยเรื่อยไป
เป็นเหมือนดั่งดอกไม้แห่งมวลชน
ทำงานก้าวไปข้างหน้า
มุ่งฟันฝ่าทนกับความสับสน
ประหนึ่งดั่งดอกไม้ของใจคน
ที่ต้องทนตั้งกล้าท้าสายลม
วันนี้เมื่อดอกไม้แห่งชีวิต
ได้ผลิตคุณค่าที่สั่งสม
ตราความดีเด่นไว้ในสังคม
สรรค์สร้างความอุดมแก่ผืนดิน