31 ตุลาคม 2550 17:38 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
เป็นภาพความทรงจำของเด็กชายผู้เร่ร่อนอยู่ข้างบาทวิถี
เพียงภาพทรงจำ.......
ในคืนค่ำธรรมดาอีกคืนหนึ่ง
ภาพผู้คนเดินขวักไขว่กันอื้ออึง
บาทวิถีที่ซึ่งหลากที่มา
ผู้หญิงคนนั้น ผู้ชายคนนี้
ต่างไม่เคยยินดีด้วยแปลกหน้า
เด็กชายคนนั้น เดินผ่านมา
เขาไม่เคยสบตากับผู้ใด
ชายแก่แก่ถือไม้เท้า....
เร่งรีบดุ่มเด้าจะไปไหน
หญิงผู้ถือช่อดอกไม้....
จะยื่นช่อมอบให้แก่ใครกัน
หลายชีวิตบนทางบาทวิถี
เท้าโน่น เท้านี่ ของใครนั่น
ก้าวเท้ารีบเดินกันพัลวัน
แววตาคู่ใสนั้นยังจดจำ
เพียงภาพความทรงจำ...ของเด็กชาย
ผู้เร่ร่อนไร้จุดหมายในคืนค่ำ
มองผู้คนเดินผ่านอยู่ซ้ำซ้ำ
แล้วก็ขำออกมา บ้าไปแล้ว
25 ตุลาคม 2550 21:47 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
"นิทานขอนไม้"
เกลียวคลื่นที่ครืนสาด
ปะทะหาดลงซึมทราย
ฟองฟ่องแตกฟองฟาย
เป็นฝอยฝอยก่อนซาบซึม
ทีละระลอกลอก
เสียงซู่ซ่าก็อึมครึม
ขอนไม้นิ่งเงียบขรึม
ก็ละล่องอย่างเลื่อนลอย
ฟากฝั่งชเล, หาด
คือจุดหมายที่รอคอย
ทรายขาวเรียงเม็ดน้อย
เป็นหาดทรายสุดสายตา
ขอนไม้ลอยตามคลื่น
สู่ผืนทรายตรงพู้นหน้า
หวังไว้จะไขว่คว้า
จะลอยถึงซึ่งฝั่งนี้
ลอยทีละลูกคลื่น
ก็ผ่านคลื่นอยู่หลายที
ความหวังแม้ไม่มี
แต่หาดทราย อยู่ไม่ไกล
ขอนไม้ที่ล่องลอย
หวังรอคอยถึงฝั่งชัย
สัมผัสกับทรายใส
และฟายฟ่องของคลื่นชเล
เพียงวาอีกใกล้วา
กระแสน้ำก็หันเห
เพียงคืบแล้ว รวนเร
คลื่นกลับซัดไปห่างไกล
ขอนไม้สะอึกอื้น
และร่ำไห้อย่างอาลัย
อีกนิดแล้วฝั่งชัย
อาจจะล่องจะลอยถึง
ช่างมัน ไม่เป็นไร
อีกไม่ไกล อีกฝั่งนึง
เดี๋ยวคลื่นก็พาถึง
ซึ่งฝั่งหน้าอีกคราเอง
.................................
.................................
.................................
.................................
ขอนไม้ไม่ถึงฝั่ง
ยังลอยล่องอยู่วังเวง
ตนเองไม่ช่วยเอง
แล้วจะให้ใครช่วยตน.
22 ตุลาคม 2550 19:29 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
"เธอผู้ที่มีชีวิตอยู่ในค่ำคืนแห่ง 14 ตุลา"
เธอผู้มีชีวิตอยู่ในค่ำคืนแห่ง 14 ตุลา
.....ค่ำวันนี้
วันที่ 14 ตุลา
2550............
เธอจำได้ไหม............
เมื่อนาทีที่แล้ว............
คือค่ำ 14 ตุลา
2516............
เธอเห็นอะไรบ้างในความจำของเธอ............
ชายหนุ่มรูปงามที่ยืนเปลือยกายเปล่าอยู่ตรงหน้าเธอ...........
อย่างนั้นหรือ............
จมูกของเธอสัมผัสกลิ่นใดบ้าง ............
กลิ่นของน้ำหอมราคาหรูที่ซาบทั่วเรือนร่างของเธอ............
อย่างนั้นหรือ............
มืออันเนียนนุ่มของเธอ สัมผัสสิ่งใด............
เรือนกายของชายที่เธอรัก..........
อย่างนั้นหรือ............
ลิ้นของเธอกระหายสิ่งใด............
รสเหงื่อของชายหนุ่มที่เธอรัก............
อย่างนั้นหรือ............
..........................................................
..........................................................
..........................................................
..........................................................
..........................................................
..........................................................
ไม่!!!!!!!!!!!!!!!
เธอไม่มีวันเข้าใจ............
ภาระหน้าของที่ของฉัน............
เธอสุขสบายในความเป็นเธอ............
ฉันสุขสบายในความเป็นฉัน............
เธออยู่กับชายหนุ่มที่รัก............
ขณะที่ฉันอยู่กับประชาชน............
เธอกำลังเล่นบทรักอันร้อนแรงกับชายหนุ่มของเธอบนเตียงนุ่ม เย้าอารมณ์............
ขณะทีฉันกำลังเล่นบทผู้นำที่ยืนหยัดในอุดมการณ์ต่อหน้าประชาชนบนเวที............
เธอกำลังสั่นเคลิ้มด้วยจังหวะลีลาของชายหนุ่ม............
ขณะทีฉันกำลังฮึกเหิมด้วยเสียงโห่ร้องของประชาชน............
เธอรับรู้เพียงความสุขชั่วครู่ที่ชายผู้นั้นกำลังป้อนให้เธอด้วยความกระเหี้ยนกระหาย..........
ขณะทีฉันรับรู้เพียงว่า วันนี้ประเทศชาติต้องได้อิสรภาพอย่างแท้จริงเสียที..........
..........................................................
..........................................................
..........................................................
..........................................................
หลังจากผ่านค่ำวันนี้..........
14 ตุลา 2516
...................
...................
..................
บนเตียงฟูกอันอ่อนนุ่ม เธอนอนร่ำไห้อยู่คนเดียว.........
ขณะที่ฉันกำลังร้องไห้ด้วยความดีใจ อยู่กับประชาชนของฉัน..........
ชายหนุ่มที่เธอรักทิ้งเธอไป.........
ขณะที่ประชาชนไม่ทิ้งฉันไปไหน..........
เธอไม่มีค่าอีกต่อไปแล้วในสายตาของเขา........
ขณะที่ฉันมีค่า ฉันมีคุณค่าตลอดไปสำหรับประชาชน........
เธอก็แค่มีความสุขกับการกระหายกามารมณ์เพียงชั่วครู่..........
แต่ความสุขของฉันยั่งยืนกว่านัก.........
เธอเป็นเหมือนดอกไม้ที่ถูกยีย่ำ..........
แต่ฉันเป็นเหมือนดอกไม้ที่ผลิบาน สวยงาม และ สมค่า.........
...................................
..................................
.................................
ไม่!!!!!!!!!!!!!
เธอไม่มีวันเข้าใจ..........
..............................................
...............................................
11 ตุลาคม 2550 01:59 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
อยุธยาวเนจร
๑) ประสิทธิ์ประศาสน์นิราศร้อย..............เรียงวลี
อ้า พระศาสดามุนี......................................ผ่องแผ้ว
โปรดเจิมศักดิ์สิทธิ์สุนทรีย์........................บทนิราศ ท่านนา
ให้สัทอักษรแพร้ว.....................................ประดับเวิ้งวรรณศิลป์ฯ
เทอดภูมินทร์ปรมเจ้า...................................พระภูมิพล พ่อเอย
ขอพระทรงสุขสกล......................................คู่หล้า
เป็นเดชปกธราดล.........................................ผืนถิ่น ไทยเอย
สิโลกพระยศยิ่งฟ้า........................................พสกซ้องสรรเสริญฯ
๒) เดินทางสู่แผ่นพื้น....................................อโยธยา นะแม่
จำพรากจากบ้านมา........................................ต่างด้าว
ใจโศกกว่าพรรณนา.......................................เกินหมด
ดั่งกรอกน้ำตาต่างข้าว.....................................กัดก้อนดวงแดฯ
หากแต่ชีวิตนี้...................................................เช่นละคร
มีสุขก็ทุกข์รอน................................................อยู่บ้าง
เถิดชีพจักวเนจร...............................................สู่โลก ใหญ่นา
เพื่อชีพรู้ลึกกว้าง..............................................แหละรู้โลกย์วิถีฯ
จึงวเนจรชีพนี้....................................................ยาวนาน
อาจสิ่งมิเคยพบพาน...........................................ก็ได้
โลกนี้เปี่ยมประสบการณ์...................................อยู่มาก มายแฮ
ชีวิตจึงอย่าไร้.....................................................ขาดค้นประสบการณ์ฯ
๓) โบราณสถานราชเรื้อง................................อยุธยา แม่เอย
แพร้วเพริศเลิศมโหฬาร์.....................................แชล่มแล้
ปรางค์บันสรรเสกประดา..................................ตระการวิจิตร
รามอร่ามรุ่งแท้..................................................ประหนึ่งฟ้าวิมานสวรรค์ฯ
วัดพระศรีสรรเพชญ์ เจ้า.....................................รามปรางค์
สรรเพชรประกายรางชาง...................................เจิดหล้า
เลือกสรรวิจิตรวาง..............................................ปรางค์ประดับ
ราวเพชรสีสันจ้า..................................................ผ่องแผ้วแพร้วองค์ฯ
พระมงคลบพิตร เพี้ยง...........................................มหุฬาร
บพิตรบุรณะตระการ.............................................ปลั่งอะเคื้อ
มงคลแห่งมหาวิหาร..............................................ธรรมสดับ แม่นา
พระพุทธรูปทองผ่องเนื้อ.......................................ประดับหุ้มเปลวเหมฯ
เกษมฤดีสงบซึ้ง......................................................ซาบพระธรรม
เกลาเกลศเหตุเงื่องงำ...............................................ดับร้าย
รินรู้สึกทรงจำ.........................................................ภาพวัด บุราณนา
ขลังว่าขลังคล้ายคล้าย.............................................สงบด้วยมนต์ขลังฯ
เมลืองมลังรุ่งรุ้ง.......................................................กุฎีดาว
แม้นกุฎีสถิตหาว......................................................เทียบฟ้า
ดาวเลือนหากกุฎีพราว.............................................สว่างสถิต อยู่แล
เฉกกุฎีบนสรวงหล้า................................................พร่างฟ้าฤๅเลือนฯ
เยือนสถานสร้างเศิกเจ้า............................................อลองพญา ท่านเอย
หน้าพระเมรุพลับพลา..............................................วัดนี้
“พระพุทธนิมิต” บา-................................................รมีท่าน นั้นแฮ
ปรากฏอภินิหารชี้.....................................................ปกคุ้มอโยธยาฯ
วัดพระมหาธาตุ แม้น...............................................ธาตุสวรรค์ เลยฤๅ
ประดับธาตุเสกสรร..................................................แจร่มแพร้ว
ปรางค์ปราสาทอัศจรรย์............................................เรืองอร่าม
เปี่ยมลักษณ์มหาธาตุแผ้ว..........................................ผ่องเนื้อพระปรางค์เสลาฯ
เนาพิมานสถิตฟ้า..........................................................พนัญเชิง
ซำป่อกงถวายเถลิง........................................................พุทธเกล้า
พุทธไตรรัตนฯ เถกิง......................................................ทองปลั่ง
วรวิหารอารามเจ้า...........................................................สถิตชั้นพนัญเชิงฯ
พนัญเชิง เชิงชั้นเอก-.......................................................ลักษณ์ศิลป์
อาจสถิตพิมานเทวินทร์..................................................เทียบได้
วิจิตรวิจักษ์งามเฉิดฉิน....................................................ประเสริฐเลิศ สิ้นแล
คือวิหารวรราชไท้...........................................................คู่ด้าวอโยธยาฯ
วัดใหญ่ฯ ชัยเจ้าฟ้า.........................................................มงคล
เทียนพระเทียรฯ เสี่ยงตน..............................................กษัตริย์กู้
เทียนขุนวรวงศาดล........................................................เทียนดับ บุญนา
สิ้นวรวงศาผู้..................................................................กบฏกร้านบ้านเมืองฯ
เรืองเรืองปรางค์ธาตุอะเคื้อ..............................................วิลาศงาม
ขลังสถิตทุกชั่วยาม..........................................................ค่ำเช้า
วัดไชยวัฒนาราม............................................................ดูตระหง่าน เนตรแล
ปรางค์เปี่ยมมนต์ขลังเกล้า................................................สถิตตั้งมโหฬาร์ฯ
“รัตนมหาธาตุ” แก้ว.........................................................ปรางค์ประธาน
ประหนึ่งยอดจักรวาล........................................................สุดหล้า
เทียบทิศแปดทิศานต์......................................................สวรรค์เด่น ล้อมแล
ไชยวัฒนาเปรียบฟ้า........................................................อาจแม้นเสมอสวรรค์ฯ
๔) บันดาลอักษเรศร้อย....................................................ลีลา โคลงเอย
สดับภาพประติมา...............................................................วิลาศแพร้ว
เพียงหอมแผ่นอยุธยา........................................................แม้นอิฐ ก้อนเอย
ซาบเลือดรักชาติแกล้ว.......................................................ทนุรู้รักษาฯ
เกินกว่าคำกล่าวซึ้ง...........................................................บรรยาย หมดเอย
อยุธยาบรรเจิดฉาย..........................................................วิจิตรแท้
ขออุทิศโคลงถวาย............................................................ด้วยเลือด ไทยเอย
เอิบอิ่มสล้างฤดีแล้...........................................................โลกรู้สรรเสริญฯ
- สุดสิ้นการวเนจรสู่อยุธยา -
๘ ตุลาคม ๒๕๕๐
นายเกริกสิน แสงเจริญกุล ม.๕/๒
นักเรียนโครงการความสามารถพิเศษด้านภาษาไทย รุ่นที่ ๓
โรงเรียนบูรณะรำลึก จ.ตรัง
28 กันยายน 2550 00:47 น.
แดนไกล ไลบีเรีย
นาฬิกาของเวลา
นาฬิกา –
หมุมเข็มของเวลามาเท่าไหร่
ติ๊กต๊อกบอกผ่านการแกว่งไกว
โมงยามรี่ไหลไปยาวนาน
แต่ละเข็มมีหน้าที่......
บ่งชี้แต่ละช่วงที่ล่วงผ่าน
หนึ่งหน่วยเลยผันนับวันวาร
นาฬิกาทนทาน, ท้าทาย
ท้าทายโลก-ท้าทายเวลา-ท้าทายชีวิต
เหมือนรอนลิดช่วงเวลาให้ค่อนหาย
ทีละเข็มกระดิกพ้นทุรนทุราย
ชั่ววินาทีกลับกลายเป็นหลายปี
นาฬิกา –
ยังคงหมุนเข็มของเวลาตามหน้าที่
กำหนดการยึดครองของโลกนี้
ด้วยเข็มวินาทีที่สั้นนัก
แต่ละวินาที –
ดูเหมือนว่าชีวียังจมปลัก
ดูเหมือนว่าไร้สาระมามากนัก
ดูเหมือนเศษเสี้ยวแตกหักจากเวลา
หลายหลายวินาที –
กลบรอยของชีวีจนเลือนพร่า
ครู่เดียวที่รู้สึกด้วยชินชา
กลับพบว่าบางอย่างซีดจางไป
ชีวิต –
เพียงน้อยนิดก็ลุอายุขัย
เคยมีหรือคุณค่าสาระใด
ในเวลาที่รี่ไหลไปเร็วเกิน
จึงมิอาจรู้สึก ทันนึกคิด
ยิ่งเวลาท้าชีวิตให้ห่างเหิน
แหละเราอาจมิพร้อมยอมเผชิญ
กับเวลาที่ดุ่มเดินอยู่เนิ่นนาน
นาฬิกาของเวลา –
พร้อมจะฆ่าทุกทุกคนที่พ้นผ่าน
จะมีหรือผู้กล้ามาทัดทาน
ฝืนออกแรงขวางต้าน “กาลเวลา”
................................................
................................................
แหละชีวิตนิดน้อยค่อยคืบคลาน
สู่ห้วงแห่งสังสารของกาลเวลา......