3 สิงหาคม 2549 23:21 น.

ต้นไม้...หายไป

แดนไกล ไลบีเรีย


เมื่อเด็ก ฉันยัง จำความได้
มีต้นไม้ สูงใหญ่ เต็มไปหมด
ร่มรื่น ดื่มด่ำ อรรถรส
มีใบไม้ เขียวสด คอยห่มกาย

เอนตัว นอนซบ ตรงโคนต้น
ความเจ็บ ทุกข์ทน ค่อยพ้นหาย
เอนตัว เอนร่าง อย่างสบาย
ต้นไม้ จะอยู่ ดูแลเรา

นอนหลับ สบาย ใต้เงาร่ม
ด้วยอารมณ์ อ่อนไหว และใจเหงา...
ตื่นขึ้นมา อีกที ไม่มีเงา
ตัวฉันเศร้า ต้นไม้ ไม่เห็นมี !!!

เหลือเพียง เศษซาก ขวานบากไว้
ใครโค่น ต้นไม้ ไปหรือนี่
ซากแห้ง ผุกรัง ไร้ชีวี
ต้นไม้ที่ ไม่เหลือ แม้อะไร

เอนตัว นอนซบ กับศพไม้
ร้องไห้ น้ำตา ดั่งเลือดไหล
ชโลม ต้นไม้ ที่ตายไป
เพื่อหวัง ต้นใหม่ จะงอกแทน

แต่แล้ว ไม่เห็น ต้นไม้ใหม่
เพราะไร้ มนุษย์ คอยห่วงแหน
เพราะไร้ สำนึกถิ่น คุณดินแดน
จึงขาดแคลน ป่าไม้ ไร้ชีวิน

ต้นไม้ เริ่มตาย ทีละต้น
ตัวคน ก็เริ่มตาย ทีละถิ่น
ต้นไม้ ตายหมด ทั้งแผ่นดิน
คนสิ้น ก็ตายหมด ตามต้นไม้

				
3 สิงหาคม 2549 23:00 น.

ด้วยรักของแม่

แดนไกล ไลบีเรีย


แม่จ๋า แม่อยู่ไหน
ลูกร้องไห้เรียกหาแม่
แม่ก็มาดูแล
แต่ขวบเยาว์เจ้าอ่อนวัย

หยดหนึ่งน้ำนมแม่
คือรักแท้อันยิ่งใหญ่
หอมหวนอวนกลิ่นไอ
ไม่เคยสิ้นกลิ่นนมหวาน

รักแท้หาใดเปรียบ
รักแม่เทียบจะเปรียบปาน
อุ่นรักจักยืนนาน
เพราะพันผูกด้วยสายใย

คือปูชนียบุคคล
แม่เหนื่อยทนเคยบ่นไหม
ทุกอย่างที่ทำไป
ก็เพื่อลูกได้อยู่ดี

ถึงแม่จะดุด่า
ถึงจะว่าถึงจะตี
ก็ด้วยรักลูกนี้
ที่แม่ทำเพราะจำทน

ตีลูกเพื่อผูกใจ
คอยสอนให้ใช้เหตุผล
ถูกผิดย่อมมีปน
แต่อย่าทำตามอารมณ์

บางครั้งเราพลั้งพลาด
ด้วยประมาทจึงระทม
แม่สิยิ่งหนักตรม
ทุกข์กว่าเจ้าเป็นเท่าตัว

บุญคุณพระคุณแม่
เปรียบได้แท้ดั่งดอกบัว
จิตใจไม่หมองมัว
ไม่อาฆาตไม่แค้นเคือง

จูงเจ้าถึงฝันฝั่ง
และคอยรั้งในบางเรื่อง
แนะนำเป็นนิจเนือง
จนตัวเจ้าจะได้ดี

แม่หวังเมื่อตัวแก่
ลูกจักแลแม่คนนี้
อย่าทิ้งให้ชีวี
แม่อ้างว้างทางเดียวดาย

สายใยสองแม่ลูก
จักพันผูกมิสลาย
พันแน่นแทนร่างกาย
จนความตายแยกจากกัน

(........แต่รักและผูกพันธ์
........ยังนิรันดร์มั่นไม่คลาย)

				
27 กรกฎาคม 2549 21:08 น.

ความหวังครั้งสุดท้าย (ก็เกิดได้หากใจทน)

แดนไกล ไลบีเรีย


ฝนสาดเทลงซัด
พายุจัดพัดถลา
ฟ้ามืดมัวสายตา
ลมกล้าเริ่มเพิ่มแรงลม

อากาศหนาวบาดเนื้อ
เมื่อฝนซ้ำทำตัวตรม
ทางลื่นชื้นหมักหมม
จมสู่เจ็บเหน็บหนาวนาน

ครืน ครืน เสียงฟ้าร้อง
ด้วยทำนองก้องกังวาน
พิโรธคำรามราน
ดวงมานข้าพาตกใจ

ก้าวย่างสู่ทางโล่ง
อันปลอดโปร่งไร้ผู้ใด
ยิ่งก้าวก้าวต่อไป
ก็เริ่มล้าเพราะพายุ

อดทน เอ้า อดทน
เดินสู้ฝนอย่างเดือดดุ
ความเหิมเริ่มปะทุ
จะถอยหลังได้อย่างไร

เดินต่อ เอ้า เดินต่อ
อย่างเพิ่งท้อกับสิ่งใด
ฝนฟ้าไม่เป็นใจ
ก็จงหยัดจงฝืนเดิน

ข้างหน้าแล้วข้างหน้า
จะคว้าชัยไม่ไกลเกิน
จุดหมายได้เผชิญ
จะคุ้มค่าที่ฝ่าฟัน

แม้นมีอุปสรรค
ก็จงจักสู้กับมัน
อดทนพ้นวารวัน
ผ่านเวลาอย่างท้าทาย

แล้วจึงจะได้ยล
ฟ้าหลังฝนล้นความหมาย
ความหวังครั้งสุดท้าย
ก็เกิดได้หากใจทน

				
12 กรกฎาคม 2549 18:09 น.

กลอนมืด (แบบฝึกเขียนกลอน ที่ทุ่งสักอาศรม

แดนไกล ไลบีเรีย


กำหนด
............................................โค
............................โท............ไร่
.............................................ไท
.............................ไร.............รู้


มาจะกล่าวบทไปถึงไอ้โค
มันเรียนจบปริญญาโทจากทุ่งไร่
มันอยากรู้อยากเห็นความเป็นไท
แต่มันคิดเมื่อไรจะได้รู้

..

กำหนด
.................................................ฝูง
...........สูง................................เขา
.............................................เยาว์
..........เข้า....................................


ประเทศไทยมีไอ้ควายอยู่หลายฝูง
มันหัวสูงเลยไม่อยากจะมีเขา
และชอบทำเรื่องบ้าบ้าปัญญาเยาว์
นั่นแหละเข้ากับภาวะระบบชิน
				
12 กรกฎาคม 2549 17:58 น.

กลอนจอหงวน (เขียนที่ค่ายทุ่งสักอาศรม)

แดนไกล ไลบีเรีย

คำบังคับ : วัยเยาว์   ชาติ   กาดำ   ธรณี   ลิ้น   ห่อหมก   เก้าอี้   ไม้ไผ่   นักสู้   สุพรรณ
แต่งได้ไม่เกิน 2 บท   


ชาตินักสู้ กาดำ เจ้าเหนื่อยไหม
เห็นหลับใหล กลางดิน นอนลิ้นห้อย
เจ้าเฝ้าฝัน บินถึงฝัน ฝันหล่นลอย
นักสู้น้อย วัยเยาว์ เจ้าอ่อนแรง

นอนเสียเถิด นอนลง ที่ตรงนี้
ธรณี จะปกเจ้า จะเฝ้าแฝง
นอนลง ตรงเก้าอี้ ไม่ไผ่แดง
ห่อหมกแกง บ้านสุพรรณ ยังร้อนรอ


 				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแดนไกล ไลบีเรีย
Lovings  แดนไกล ไลบีเรีย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแดนไกล ไลบีเรีย
Lovings  แดนไกล ไลบีเรีย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแดนไกล ไลบีเรีย
Lovings  แดนไกล ไลบีเรีย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแดนไกล ไลบีเรีย