13 มกราคม 2549 14:17 น.
แดดเช้า
ด้วยสายตาแหลมคมคมคายนัก
เห็นแสงทักแววประกายฉายจากหิน
สะท้อนจรัสชัดแจ่มแย้มหยาดริน
วาดฝันผินท้าทายประกายเพชร
ใครคนหนึ่งจึงขัดเกลาเหลาหินนั้น
ตั้งใจมั่นรู้รักรู้จักเก็จ
สะท้อนคมบ่มรุ้งรุ่งเรืองเม็ด
หวังสำเร็จขัดกล่อมยอมอดทน
อาจจะมีมุมด้านกร้านเกินขัด
ยังหาทางกล่อมกัดกำจัดหม่น
หวังสักวันด้านนั้นฝันงามยล
ทอจรัสประกายพ้นความหม่นมัว
คารวะช่างเจียระไนในชีวิต
ผู้ชี้ผิดปูทางถูกถางปลูกทั่ว
ให้แสงไฟในยามหมองข้องขลาดกลัว
ประคองยามแสงสลัวไร้เส้นทาง
หินก้อนหนึ่งจึงได้ทางสว่างไสว
กลมกลึงได้เหลี่ยมคมคมคายพร่าง
แม้เป็นแค่หินกรวดน้อยค่อยวาดวาง
ทางสว่างยังแจ้งชัดทุกขั้นตอน
อาจสักวันฝันสำเร็จเป็นเพชรสวย
สองมือช่วยเจียระไนให้คำสอน
ด้วยสายตาเฉียบคมบ่มคำพร
ศิษย์ไหว้วอนกราบครูผู้เมตตา
ด้วยสายตาแหลมคมคมคายนัก
จึงรู้จักแววประกายฉายแสงพร่า
ทอจรัสขัดเกลาเงาชีวา
ให้แกร่งกล้าทุกก้าวย่างอย่างมั่นคง.
4 มกราคม 2549 07:30 น.
แดดเช้า
เก็บหนึ่งต้นดอกไม้ให้ปักลง
ณ ดินดงดุลค่ามหาศาล
หมั่นรดน้ำฉ่ำชื่นคืนผลงาน
เพื่อต้นกร้านแกร่งพอล้อแดดลม
ต้นดอกไม้ดอกน้อยค่อยเติบต่อ
ขยายกอแตกต้นบนดินถม
เผยดอกเล็กดอกน้อยค่อยผลิชม
ฝนจะข่มแข็งแรงท้าแรงร้อน
ภายใต้กิ่งไม้ใหญ่โหมใส่หัก
ดอกไม้ทักความปรวนเหมือนทวนสอน
แม้ติดดินดอกน้อยน้อยค่อยผลิวอน
เติบต้นย้อนกระแสกรรมกระหน่ำวน
เรียบง่ายงามตามชีวิตชะตาปลูก
ปรับตัวถูกตามขอบเขตแห่งเหตุผล
ไม่คิดหมายตะกายใหญ่เกินตน
จะดิ้นรนหนีเร้นเป็นไม่มี
เก็บหนึ่งต้นดอกไม้ให้ปักต้น
สักเดือนดลสวนน้อยน้อยค่อยสดสี
ผลิบานเบ่งเบิกรับกับไมตรี
แข็งแรงดีใช่ยิ่งใหญ่กว่าใครเลย.