22 กันยายน 2548 00:03 น.
แดดเช้า
อรุณรุ่ง
ลวดลายคล้ายทองส่องสาด
เปื้อนปาดสีเลื่อมเหลื่อมฉาย
สะท้อนขีดเส้นเร้นลาย
คล้ายคล้ายแบ่งเส้นราตรี
ลายหลังฝน
พลิ้วเส้นเห็นขอบปิดเร้น
ลายเส้นละม้ายป้ายสี
มีอยู่ดูเหมือนไม่มี
เลื่อมลายกลืนคลี่คลายคลอน
พลบค่ำ
ร่ำร่ำไรไรสายเส้น
เร้นเร้นสีทองรองร่อน
วาดเว้นเส้นขีดจากจร
พลบอ้อนวอนตะวันผันลา
เส้นขอบทะเล
เห่เห่คลื่นกล่อมกลืนกราย
คล้ายคล้ายสายฝันหวั่นผวา
ซัดสาดปาดเปื้อนเหมือนทา
ทะเลล้าฤๅฟ้าอ่อนใจ
เส้นขอบฟ้า ... มีเหมือนไม่มี
ทบเส้นเร้นลายคล้ายมี
เดินหาสักที่ที่ไหน
สุดล้ำขีดเร้นเส้นใด
จึงได้เก็บเส้นของฟ้า
หวังเอยหวังสวย
ฝันรินรวยเคลิ้มคิดวิจิตรค่า
รอให้ฝันพลันงามจำนรรจา
ทบลงตรงหน้าเมื่อไร
คล้ายคล้ายหวังนั้นไม่มี
มองอีกทีหวังอยู่ที่ไหน
เร้นซ่อนอ่อนขยายภายใน
ยิ้มย่องในใจคล้ายมี
ขอบเอยขอบฟ้า
จรัสตาจำรูญนักคล้ายศักดิ์ศรี
ข้าคว้าหวังหวั่นผวา-ครานี้
คล้องความดีเพื่อถึงซึ่งขอบใจ
ถึงความเป็นเส้นแห่งแรงจิต
บันดาลแนวคิดประดิษฐ์ใส
ถึงความเป็นเส้นชนะชัย
แข่งขันกันเข้าไป ... ไม่อ่อนแรง
ฉันมั่นคว้าเส้นเร้นฝัน
วุ่นวิ่งอย่างนั้นขันแข่ง
โลกหมุนขุ่น-ใส แสดง
ชัดแจ้งเพียงหวังรำไร
ทบเทียบเปรียบเปรยเผยร่ำ
ขอบน้ำขอบฟ้าสว่างไสว
เพียงมายาค่าคุณหนุนใจ
เอื้อมคว้าลมใสไม่เจอ.
21 กันยายน 2548 16:58 น.
แดดเช้า
ฟากฟ้ากว้างยังเห็นเป็นสีฟ้า
แสงทาบทาทอทองคล้องใจฝัน
บันไดเมฆ ... เสกไว้ให้ใครกัน
ฤๅอาจดั้นสู่แดนสรวงแห่งห้วงใจ
[บทแรกนี้ได้จาก คุณฟ้า สหายของแดดเช้า]
ใครจับเมฆเสกหลั่นเป็นชั้นฟ้า
ราวลาดทางสู่ดาราดวงจันทร์ใส
ทองแห่งแสดแดดอุ่นทอถักไว้
คมสะท้อนฟ้าไกลเมฆเลื่อมทอง
บันไดเมฆ เสกไว้ให้ใครกัน
สู่ตะวัน สู่จันทร์งาม สู่ดาวส่อง
สู่ฟ้ากว้างอย่างใจคิดจิตมุ่งปอง
วาดแดนคล้องลมเสกเอกภพ
ทางสู่ฝัน สู่จันทร์เจ้า สู่ดาวสวย
ใครจะช่วยเป็นแรงใจให้บรรจบ
ทอดแสงแห่งสายตะวันอันทาบทบ
หากใจหลบไม่เดินไปไยถึงนั้น
ฟากฟ้ากว้างยังเห็นเป็นสีฟ้า
แสงทาบทาทอทองคล้องใจฝัน
บันไดเมฆ ... เช้านี้ที่ผูกพัน
ทอดสู่ห้วงใจฉันทั้งวันคืน.
20 กันยายน 2548 20:42 น.
แดดเช้า
กาลครั้งหนึ่งไม่นานนัก
ตำนานรักแห่งฟ้าฝัน
หมายโยงสายสัมพันธ์
เชื่อมใจมั่นกับจันทรา
เคลิ้มพิศทะนุถนอม
คุ้มโอบอ้อมเฝ้ารักษา
หวังให้จันทร์พร่างตา
เห็นคุณค่ารักฟ้าคืน
หม่นมัวสลัวลาง
ฟ้ายังพร่างมั่นหยัดยืน
รักจันทร์แทบกินกลืน
แม้หมองขื่นยังชื่นใจ
จันทรจรลาลับ
ฟ้าสดับเสียงอ่อนไหว
กลั่นน้ำค้างพร่างไพร
เป็นน้ำตาลาจันทร์งาม
ตะวันทาบแนวส่อง
ฟ้ายังหมองคล้องคำถาม
ใช่ไหมแสงจันทร์วาม
คอยติดตามฟากฟ้านี้
แดดส่องสาดสว่าง
ฟ้าเวิ้งว้างด้วยแสดสี
ใช่ไหมจันทร์ทอพลี
แสงนวลจันทร์ ณ ขอบฟ้า
ฟ้าหวังจันทร์กลับคืน
หวังใจชื่นล้างผวา
แดดทองส่องสาดมา
ฟ้าหมายตาเป็นดวงจันทร์
รำพันถึงจันทร์ดวง
แดดโชติช่วงยังสาดฝัน
หลงรักปักชีวัน
ลืมเบิกตามองความจริง
ตะวันผันผ่านยิ้ม
ส่องแสงพริ้มเพื่อพักผิง
ฟ้าซาบซ่านอาบอิง
แน่ตะวันใช่จันทรา
ลืมตากล้ารับโลก
คลายหม่นโศกทุกข์โถมถลา
ผ่อนเบาเศร้าจางตา
เริ่มก้าวกล้าสู่ฟ้าทอง
ไม่จมจ่อมกับจันทร์
โลกยังผันพลิกหม่นหมอง
กระจ่างพร่างครรลอง
อย่าร่ำร้องอดีตคืน
มอบแรงใจให้ฟ้า
ขอให้กล้าลุกแข็งขืน
อย่าช้ำอย่ากล้ำกลืน
สิ่งอื่นอื่นยังมากมี
อย่าจมปลักรักเพียงจันทร์
โลกสร้างสรรค์สดสวยสี
ดอกไม้ใสกรุ่นมี
ระบายใจให้ฟากฟ้า
บางวาร ... ผ่านฝนหล่น
โปรยน้ำมนต์มากล้นค่า
รุ้งทอทาบตรึงตรา
เย็นชื่นใจด้วยสายลม
ฟากฟ้าแจ่มแสงโลก
อย่าติดโศกขลุกขื่นขม
สลัวหม่นพ้นตรอมตรม
ฟ้าใหม่สางสว่างใจ
กาลครั้งหนึ่งไม่นานนัก
ฟ้ายังรักดวงจันทร์ใส
แม้จันทร์ผันจากไป
ตะวันฉายส่องสิ่งจริง
คลายหลงวงเวียนทุกข์
แดดแจ่มปลุกเชิญอาบผิง
ลมหายใจได้พักพิง
เพียงฟ้าแกร่งอย่างเคยมา.
20 กันยายน 2548 14:13 น.
แดดเช้า
ห่วงห้วงดวงใจหนึ่งดวง
ตักตวงรักล้นเหลือค่า
เติมห้วงดวงใจตรึงตรา
หลงเคลิ้มฝันล้าร้าวรอน
รั้งห้วงดวงใจอีกดวง
เคียดหวงดวงใจไหวอ่อน
เจ็บแค้นขึ้งโทษโอดคลอน
อยากวอนให้คลายจากใจ
เจ็บนักห้วงใจอีกดวง
ทุกช่วงรอยร่องพร่องไหว
โหมหักหนักหน่วงทรวงใน
จากห้วงฤทัยอีกดวง
หนาวนักดวงใจเจ็บช้ำ
หยามย่ำช้ำซ้ำหนักหน่วง
เดียวดายโถมถั่งทะลวง
เกินถ่วงดึงฉุด-จ่อมจม
ร้อนจิตร้อนใจรุ่มเร้า
อีกดวงคลุ้มเศร้าทับถม
ทุรนทุรายคลั่งตรม
ปลักข่มลำพังหวังคลอน
ห่วงห้วงดวงใจหลายดวง
ทุกช่วงปะทุผุกร่อน
กระทบปะทะสั่นรอน
ยอกย้อนเจ็บร้าวคราวพบ
อุ่นห้วงดวงใจบางใจ
สุขไหวหวานกล่อมอาบอบ
กอบเกื้อเอื้อรักทักทบ
ซ่านซบดวงใจทั้งใจ
ผูกเอยผูกพัน
ฝุ่นฝันพริ้งเพริศเปิดไสว
นาฏกรรมกระหน่ำร่ำไป
สัมพันธ์วาดไว้รึงรัด.
20 กันยายน 2548 00:15 น.
แดดเช้า
วะวับ ยับยิบ พริบพร่าง
แสดสร้าง แดดเดือด ล่วงไหล
นุ่มน้ำ ทบเทียบ จารใจ
สุดใส เสกสรร วะวาม
กระเพื่อมเลื่อมพรายสายน้ำ
พยับย้ำวาดวงท่วงท่าม
ความหมายสายน้ำนิยาม
แดดข้ามขีดเส้นเร้นเงา
จารเจียรเขียนวาดปาดแต้ม
ร้อยราวแต่งแย้มเทียบเท่า
ทุกหยดจรดจุ่มชุ่มเบา
แดดเผาระยับยังงาม
เปลวแดดแผดเผาราวเพลิง
สะท้อนระเริงไถ่ถาม
น้ำนุ่มลุ่มลึกตรึกตาม
ไล่ลามท่ามแดดแสดพราว
กระเพื่อมเลื่อมพรายคล้ายเพลิง
แดดพลุ่งวะเวิ้งคละคร่าว
ลาดเลียงเงาซบทบวาว
เรื่องราวสัมพันธ์แดดน้ำ.