20 ตุลาคม 2548 14:34 น.
แดดเช้า
ณ สมรภูมิสุมเพลิงเริงอาวุธ
สามฝ่ายรุดแย้งขัดประหัตประหาร
ฝ่ายสีแดงแทงกระหน่ำซ้ำแหลกลาญ
"ข้า-โกรธพาลเผาใจให้เป็นจุณ"
ฝ่ายสีเขียวเล็งธนูสู่เป้าหมาย
"ข้าจะฉายกามอยากจากอบอุ่น
ให้เคลิบเคลิ้มเสริมรักปักใจพรุน
ร้อนรนวุ่นหมายให้บรรลัยคา"
ฝ่ายสีดำมืดคล้ำกระหน่ำซ้ำ
กายกำยำหมองหม่นเงาบดค่า
"ข้าจะครอบคลุมใจให้ปิดตา
อวิชชาล้อมหมายทำลายพัง"
สามฝักฝ่ายย้ายขยับยับขยี้
จะป่นปี้ดวงใจให้สิ้นหวัง
สีแดงร้อนฟอนฟืนยืนประทัง
จุดไฟฝังจิตรุ่มกลุ้มกังวล
สีเขียวย้ายกรายย่างอย่างงามงด
น้ำกรดรดรุ่มร้อนอ่อนสับสน
ให้พิษรักปักห้วงดวงกมล
ไหวสะทกร้อนรนบนฝันเพ้อ
มืดทะมึนขึ้นคลุมทั้งเขียวแดง
หวังปิดแจ้งแจ่มจิตคิดเพลี่ยงเผลอ
หลงชีวิตหลงพิษฤทธิบำเรอ
ไม่พบเจอแสงสว่างพร่างตะวัน
สนามรบสนามใจหากใคร่ครวญ
ทุกกระบวนอย่าหวั่นไหวใจคงมั่น
จะเกิดแสงสาดพื้นประกายพรรณ
กวาดข้าศึกสามนั้นพลันมลาย
แท้ข้าศึกไร้ตัวตนเพียงวนสร้าง
มายาว้างใจติดคิดหลากหลาย
จึงเกิดเรื่องเฟื่องฟุ้งจรุงราย
ใจแทบวายยึดข้าศึกเป็นตัวตน
ณ สมรภูมิเคยรุ่มร้อนเป็นฟอนไฟ
หากนิ่งได้สมาธิมั่นไม่สั่นหม่น
แสงขาวแห่งแรงสติบันดาลดล
ให้ศึกพ้นใจกระจ่าง ... ห่างสงคราม.
20 ตุลาคม 2548 10:33 น.
แดดเช้า
หนาวลมฝนพ้นผ่านเมื่อวานนี้
ยิ้มยินดีลมหนาวเข้ามาใกล้
คงสร่างสิ้นมรสุมเร้ารุมใจ
เรื่องน้อยใหญ่แปรปรวนให้ทวนทบ
ฝนที่หล่นคนที่หวั่นวันที่ร้าว
หลากเรื่องราวหลายหลายใจได้ประสบ
ฟ้าคะนองร้องสั่งคลั่งคลุ้มภพ
ยากจะกลบน้ำตาคราฝันร้าย
ฟ้าหลังฝนฝนสร่างย่างเข้ามา
ฤดูหน้าหนาวลมห่มความหมาย
แม้ชินชาสิ่งกระทบที่ล้อมราย
ใช่เดียวดายลำพังคอยหวังทอ
หนาวลมฝนพ้นผ่านเมื่อวานนี้
ใจเริ่มรับทุกเรื่องมีที่เกิดก่อ
ฤดูผลัดชัดศรัทธามาถักรอ
แจ่มใจพอยินดีกับสิ่งเป็น.
19 ตุลาคม 2548 13:08 น.
แดดเช้า
วันเปิดโลกโชคเปิดเกิดความคิด
เห็นเหตุผิดผลถูกปลูกคุณค่า
อบายขยายสายทางสร้างชะตา
สวรรค์ฟ้าแจ้งสุดมนุษย์ภพ
แจ้งกรรมชั่วเลวร้ายอบายเปิด
สวรรค์เทิดจรรยางามตามระบบ
มนุษย์แท้ดูแลบุญคอยหนุนทบ
บาปเปื้อนกลบหมักหมมปมในใจ
จึงเปิดตาคราโลกเปิดเปิดดวงจิต
เพ่งพินิจโลกธรรมนำใจใส
ดูตามสิ่งจริงท่ามความเป็นไป
เปิดปัญญากว้างไกลให้รู้ตาม
วันเปิดโลกโชคนำชื่นฉ่ำนัก
เปิดชัง-รัก-ชอบ-หลง คงลักษณ์สาม
สิ่งไม่เที่ยงเบี่ยงเบือนเยือนโมงยาม
หมุนโลกข้ามเข้าใจโลก ... ไร้โศกครอง.
19 ตุลาคม 2548 11:07 น.
แดดเช้า
เหตุแห่งฝันนั่นคือสื่อสี่อย่าง
ที่กล่าวอ้างเอาไว้ให้แตกฉาน
ฝันดีร้ายกรายมาคราพบพาน
ล่วงหลับผ่านการณ์ก่อเป็นฝันตรึง
กรรมนิมิต ลางสังหรณ์วอนให้รู้
วิบากสู่กรรมดลผลจะถึง
เหตุเตือนให้ทำใจให้คำนึง
ระวังซึ่งเหตุการณ์บันดาลดล
เทพสังหรณ์ เทพารักษ์มารักษา
สื่อบอกว่าสิ่งร้ายดีจะมีผล
เทพเมตตาเอ็นดูอยู่พร้อมพล
ยามสับสนชี้ทางกระจ่างใจ
จิตอาวรณ์ หนอใจไยเจ้าเอ๋ย
คิดเกินเลยเพ้อพร่ำจนหลับใหล
สร้างความฝันหวานซึ้งตรึงภายใน
กังวลไว้ฝันร้ายกรายเข้ามา
ธาตุกำเริบ อาหารผ่านสู่ร่าง
สันดาปต่างหน้าที่แสนหนักหนา
เกิดอาการขานรับกับฝันล้า
ก็แปลกตาฝันเฟื่องเป็นเรื่องราว
จึงเกิดก่อบทฝันนั้นแตกต่าง
หากจิตคว้างฝันรู้เป็นครู่คร่าว
จิตสงบพบกรรมนำเกริ่นกราว
เทพบอกกล่าวได้ง่ายใจใสจริง
จิตวุ่นวายหลายเรื่องก็เฟื่องฝัน
หลายเรื่องพลันหลากคิดจิตไม่นิ่ง
อาหารผลาญขับไม่ดีร่างไหวติง
ฝันก็วิ่งตามจิตที่คิดไป
เหตุแห่งฝันนั่นคือสื่อสี่อย่าง
ความแตกต่างลองจำแนกแผกเหตุใหญ่
ฝันที่พบยามสงบกลบเรื่องใด
จงมั่นใจนิมิตฝันนั้นคงจริง.
19 ตุลาคม 2548 02:07 น.
แดดเช้า
กว่าจะเข้าถึงใจใครสักคน
ต้องดั้นด้นสร้างสะพานสานให้ถึง
เชื่อมสัมพันธ์ฝันหวานหว่านซาบซึ้ง
ไมตรีตรึงคล้องค่ามาพานพบ
เมื่อยิ้มให้ไม่ใส่ใจในยิ้มนี้
มีท่าทีบิดเบือนเหมือนหลีกหลบ
ก่อกั้นใจระแวงเริ่มเร้น-ลบ
สะพานจบจุดกั้นเกิดกำแพง
กว่าจะเข้าถึงใจในมิตรขวัญ
สะพานสานถูกกั้นกำแพงแกร่ง
สายสัมพันธ์สะบั้นแคบแทบสิ้นแรง
หวั่น-ระแวง ไม่ไว้ใจ ... ได้บดบัง
สะพานสวยด้วยถัก รัก-ห่วงใย
กำแพงใหญ่กั้นมิดปิดความหลัง
ความทรงจำล้ำค่ามาหยุดยั้ง
เริ่มบาดฝังเจ็บลึกเร้นเกินคิด
กว่าจะเข้าถึงเธอ ... ฉันเก้อเขิน
สูงเหลือเกินวางท่าเหมือนสิ้นสิทธิ์
เมื่อสะพานสานถึงต้องรอนริด
แม้สักนิด หนึ่งเข้าใจ ... คงไม่มี.