16 กันยายน 2548 21:38 น.

^ ^ สาวน้อยหมวกแดง ^ ^

แดดเช้า

จะย้อนรอยค่อยเล่าเรื่องเก่าก่อน
นิทานวอนสอนใจให้ทุกหญิง
กาลครั้งหนึ่งเพิ่งผ่านมาจะอ้างอิง
มีเรื่องจริงแทรกซ่อน ... วอนให้จำ

แม่สอนลูกปลูกฝังชังผู้ชาย
ด้วยเลวร้ายเหลือเกินอย่าเพลินถลำ
อัน "ความรัก" อย่าปักใจอย่าใฝ่ทำ
เป็นเหตุให้ชอกช้ำจดจำนาน

"หมาป่า" ซ่อนซ้อนแทรกไม่แตกต่าง
อย่าก้าวย่างห่างไถลไปจากบ้าน
ป่าคือโลกโศกเร้นทุกเส้นธาร
ภูเขาผ่านย่านดอนหมาซ่อนตน

ฟังแม่พร่ำเด็กสาวราวสิบห้า
ใจเริ่มท้าอยากเห็นนัก .. รักสักหน
ความรักคืออะไร ใจวกวน
แสวงค้นหาคำตอบมาปลอบใจ

หยิบนิยายคล้ายฝันบันลือโลก
เรื่องสุข-โศกซ่อนเร้นเห็นฝันใฝ่
อ่านแล้วเคลิ้มปลื้มฝันรำพันไป
เริ่มหลงใหล .. นี่หรือคือความรัก

แม่มาเห็นหนังสือสื่อความฝัน
คว้ามาฉีกสะบั้นหวั่นใจปัก
ทั้งโกรธหวงห่วงใยในลูกนัก
"อย่ารู้จักรักได้ไหม ... ลูกคนดี"

เด็กสาวโศกราวโลกร้าวคราวแม่ห้าม
เอ่ยปากถามน้ำตาไหลคล้ายเจ็บปรี่
แม่ปรามเตือนเหมือนหวั่นพรั่นทวี
ลูกอย่าหนีไปพบรักกับชายใด

ผู้ชายนั้นน่าชังทั้งโลกหล้า
ขอจงอย่าเข้าหาอย่าเข้าใกล้
แม่เคยพบความเจ็บช้ำแสบตำใจ
ไม่อยากให้ลูกตรมขื่นขมตาม

ณ วันหนึ่งหนูน้อยค่อยค่อยคิด
อยากพินิจโลกกว้างอย่างใจถาม
จึงหลบหนีแม่ไปไม่ให้ปราม
อยากค้นความในใจให้ชัดเจน

"หมาป่า" ซ่อนกายไว้ในพุ่มพฤกษ์
น้ำลายไหลตรองตรึกนึกเขม่น
เหยื่อสดสดเข้าใกล้ ในบริเวณ
หลบกายไว้อย่าให้เห็น ... แล้วเล็งปอง

เอานิยายคล้ายประโลมโลกความฝัน
กามารมณ์ผูกพันมั่นใจสอง
วางล่อลวงหน่วงสาวเข้าครรลอง
มุ่งมั่นจ้องตาแววมัน .. หมายล่าชิง

สาวหน้าใสวัยร้อนผู้อ่อนโลก
เริ่มเรียนรู้สุขโศกสรรพสิ่ง
จินตนาการหวานไหวคล้ายพึ่งพิง
นี่ "รัก" จริงมาเปิดเผยไม่เคยรู้

หมาป่าเริ่มออกตนค้นหาสาว
บอกเรื่องราวรักยิ่งเกินใจกู่
รักนิรันดร์ รักแนบจิต คิดเลี้ยงดู
อยากจะอยู่คู่เคียงเพียงครองเธอ

สาวน้อยเริ่มเคลิ้มฝันใฝ่ในคำหลอก
หมาป่าบอกรักแท้แน่เสมอ
ลิ้มรสรักจากหมาป่ามาบำเรอ
"หมวกแดง" เธอหลุดสะบั้นพลันขาดรอน

สีแดง แห่งพรหมจารี ที่สงวน
ถูกกระชากขยี้ถ้วนเป็นท่อนท่อน
หัวใจสาวราวถูกหั่นสะบั้นทอน
หมาป่าอ้อนจะกลืนกินทั้งกายใจ

ถูกขย้ำคำใหญ่แทบไม่เหลือ
โชคยังเจือนายพรานผ่านมาใกล้
ปืนเขม็งเล็งเข้าเป้าทันใด
หมาป่าถึงกาลบรรลัยในทันที

แล้วถนอมกล่อมสาวคราวฝันร้าย
ปลอบใจคล้ายล้างคาวคราวป่นปี้
เหลือตราบาปคราบจิตติดราคี
พรานป่าพาหลบหนีพ้นพาลภัย

เป็นเรื่องราวซ้ำซ้ำความช้ำรัก
ปิดกั้นนักขาดเรียนรู้จากผู้ใหญ่
โลกที่กว้างแตกต่างห่างจากใจ
หากกั้นไว้ย่อมยุยงให้หลงทาง

แม่เคยช้ำกระหน่ำสาวแต่คราวก่อน
กลัวลูกอ่อนจะเสียทีจึงปรามบ้าง
แทนที่จะระวังสอนสั่งวาง
เพื่อรอบรู้ทุกอย่าง ... จะห่างภัย

นิทานเก่าเล่าใหม่ให้ตระหนัก
สังคมเริ่มผุปรักหักหวาดไหว
โลกนี้วุ่นหมุนเวลามาเท่าไร
ถึงโลกใหม่สังคมเก่ายังเฝ้ามอง

อุทาหรณ์วอนเตือนเหมือนทบทวน
ให้ใคร่ครวญถ้วนถี่ที่ขัดข้อง
วาดชีวิตจิตใจในครรลอง
 ควรไตร่ตรองทุกสิ่งสรรพ์ด้วยปัญญา.				
15 กันยายน 2548 23:25 น.

* * นิ ท า น ด ว ง ด า ว * *

แดดเช้า

"คุณยายขา ... คุณยาย หลับนานจัง"
ฉันยังฝังในจิตความคิดถึง
ยายผมเทาตาพร่าฉายแววซึ้ง
ลึกล้ำเกินหยั่งถึง ... ซึ่งเวลา

นิทานเก่าเล่าขานตำนานคำ
ยายลูบหัวซ้ำซ้ำแล้วพร่ำว่า
ดาวดวงหนึ่งซึ่งอยู่ไกลในฟากฟ้า
ร่วงกายมาเป็นสาวสวยเสกอวยพร

"ถ้าหนูเป็นเด็กดี - ไม่ดื้อซน
ดาวจะหล่นของเล่นมาเร้นซ่อน
เป็นนางฟ้าชุดขาวมาเว้าวอน
กล่อมหนูนอนฝันดีทุกทีไป"

นิทานดาวพราวพร่างอย่างแจ่มชัด
ภาพยายยังแจ่มจรัสดั่งดาวใส
เมื่อวันหนึ่งยายหลับตานิ่งกายใจ
เห็นใครใครอุ้มยายส่งลงกล่องทอง

ก่อนยายหลับ ... ยายนอนอย่างอ่อนเพลีย
ลมหายใจละเหี่ยเหมือนขัดข้อง
หน้ายายนิ่งไม่ติงไหวตาไม่มอง
ผิวผุดผ่องกลับซีดซูบ ... ดูขาวเกิน

ฉันปลุกยาย "ยายจ๋า ยายตื่นเถิด
ยายช่วยเปิดดวงตาอย่าห่างเหิน
หนูอยากฟังตำนานนิทานเพลิน
ให้ยายอุ้มหนูเดินเหมือนเคยมา"

แต่ยายนิ่งไม่ติงไหว ... ใจแทบขาด
ฉันประหลาดเรียกยายคล้ายเป็นบ้า
จนใครใครร่ำไห้หลายเวลา
ฉันรอยายตื่นตามาอีกที

นิทานยายฝังจิตให้คิดถึง
ยังซาบซึ้งยามกังวลทุกหนที่
เสียงยายสอน "หนูเอ๋ย เคยทำดี
จะเกิดเป็นศักดิ์ศรีที่ตัวตน"

ดาวจรัสชัดอีกดวงบนห้วงหาว
นางฟ้าดาวคงเกิดใหม่ในห้วงหน
ยายหลับใหลไม่ตื่นฟื้นสักคน
ฟ้าเบื้องบนดาวดวงใหม่ ... คงใช่ยาย.				
15 กันยายน 2548 00:41 น.

- - - เ สี ย ง ค ว า ม เ งี ย บ - - -

แดดเช้า

ได้ยินเสียงความเงียบยะเยียบผ่าน
ผันตำนานสานสรรพสดับไหว
หวั่นโลกร้าวร้างโรยโหยดวงใจ
จิตสนั่นเพียงไร .. ไม่รู้เลย

ล่องลอยลู่สู่หนตำบลไกล
กลิ่นกรุ่นไออบคำร่ำเพียงเผย
เผลอผูกพันเพียงเสียงสำเนียงเอย
อกจะเฉยเสียงเงียบเหยียบย่างมา

หม่นภายในใจเงียบเยียบสะทก
ท้อเพียงยกย้ำคำคุ้นครองค่า
คราวหลังฝนคนทุกข์สุขล้นพา
เพียงเวลาเงียบย่างแตกต่างใจ

จุดประกายฉายเงียบเยียบเย็นนัก
นึกรู้จักเงียบงันวันหวั่นไหว
หวิวหว่างแว่วแล้วผ่านซ่านภายใน
นิ่งเพื่อให้เงียบซ่านแล้วผ่านปลิว

เปรยคำเงียบเปรียบเป็นเช่นเสียงคิด
ครู่สงัดเพียงนิดจิตยังหวิว
หวั่นสดับเสียงเงียบเทียบรอยริ้ว
รอลิ้มรสสิ่งไหวในโลกนี้.				
14 กันยายน 2548 20:52 น.

เธอหันหน้าขายดิน ... ฉันผินหน้าคว้าดาว

แดดเช้า

จะเล่าเรื่องร้าวรักคราวหักคุด
พล็อตสะดุดกลางเรื่องไม่เคลื่อนไหว
ตัวละครสองคนวนเวียนไป
จบอย่างไรฉันจะเล่า ... เชิญเข้ามา

ฉันช่างฝันสรรค์หากวีเฟื่อง
ร้องเพลงไปตามเรื่องดูเปรื่องค่า
นั่งเหงาบ้างกลางดินกินเวลา
นอนมองฟ้ายามดึกดื่นแสนชื่นใจ

ร่ำทะเลเห่กล่อมย้อมเบียร์แกล้ม
ดอกไม้แย้มยิ้มทักยังอ่อนไหว
แต่แอบรักปักทรวงแสนห่วงใย
น้ำตาตกทรวงในหัวใจรอน

เธอเป็นนักธุรกิจคิดขายที่
สร้างโรงแรมดีดี ที่พักผ่อน
เร่ขายที่ ขายดิน ขายถิ่นนอน
รีสอร์ทซ้อนสร้างทับกับแผ่นดิน

ฉันจะนอนผ่อนพักคลายหนักอก
อยากเก็บพกทะเลเห่กล่อมศิลป์
อยากเก็บดาวพราวฟ้ามายลยิน
อยากมองฟ้าเต็มตาสิ้นทั้งสองตา

แต่แผ่นดินมีเจ้าของท้องฟ้าเหงา
ทะเลเศร้าถูกเธอครองคุ้มคุณค่า
เธอหวังนับหลับฝันปั่นเงินตรา
แต่ฉันบ้าคว้าดาวพร่างนอนกลางดิน

ฉันต้องซื้อค่าเช่านอนมองทะเล
ฟังเสียงเห่เร่ลมห่มถวิล
ต้องเก็บเงินทีละเม็ดเก็บเหงื่อริน
ต้องปรุงศิลป์จินตนาแปลงค่าเงิน

ฉันมองฟ้าของเธอได้ไม่เต็มตา
ฟ้ากว้างกว่าใจฉันสั่นห่างเหิน
ฉันพินิจดอกไม้ไม่เพลิดเพลิน
แผ่นดินเดินเป็นของเธอผู้ครองดิน

ฉันจะเขียนเจียระไนไขภาษา
สร้างจินตนาการเพริศประเสริฐศิลป์
แต่ทุกเม็ดเก็จเหงื่อเพื่อหยาดริน
หาเงินถมทั้งสิ้นเพื่อดินเธอ

อยากมองฟ้าเต็มตาเต็มฟ้ากว้าง
อยากให้ใจสว่างสร้างศิลป์เสนอ
อยากให้ดาวพราวฟ้าค่าเลิศเลอ
ไม่ถูกเกียรติกรายเกร่อมาครอบงำ

วอนขอพรดวงดาวคราวร้าวรัก
แจ้งประจักษ์ใจเธออย่าเผลอถลำ
ขอให้ฝันวันของเธอเลิศเลอล้ำ
ฉันชอกช้ำขอให้จางด้วยฝันเธอ

หากฟ้านี้ไร้ใครเฝ้าเจ้าของครอง
ขอฟ้าส่องจิตสว่างกลางใจเสมอ
ให้เล็งเห็นสิ่งเร้นค่าอย่าละเมอ
เธออย่าเผลอคว้าดินกินแทนดาว

ฉันไส้แห้งแจ้งจิตความคิดถึง
เธอเคยซึ้งคุณค่าแห่งห้วงหาว
อย่าใช้เงินทำลายดาวพรายพราว
อย่าทำใจฉันร้าว... กว่านี้เลย

เรื่องราวร้าวคราวรักคุดไม่สุดสิ้น
เธอยังดิ้นไขว่คว้าหาคำเฉลย
หาค่าเงินเดินวิ่งเต้นเป็นอย่างเคย
สิ่งสร้างเผยมากมาย ... ขวางตามอง

ฉันยังเขียนรำพันสร้างฝันสวย
ฟ้าไม่ช่วยด้วยน้ำเงินเธอคุ้มป้อง
จะพิศฟ้าแจ่มจ้าเต็มตาปอง
ก็ต้องหมองฟ้าของเธอ ... ใช่ของใคร.				
14 กันยายน 2548 01:27 น.

หิ่งห้อย ที่หายไป

แดดเช้า

ฉันค้นหาหิ่งห้อยมาร้อยฝัน
แม้คืนวันผันผ่านนิทานเล่า
เรื่องหิ่งห้อยร้อยพันเคยลำเนา
ใต้ลำพูต้นเก่าเกิดที่นั้น

จึงสำรวจตรวจตราหาหิ่งห้อย
ไฟระย้อยห้อยโยงเชื่อมโยงฝัน
คล้ายแสงดาวประดิษฐ์วิจิตรพรรณ
เป็นสิ่งสร้างเสกสรรสมองคน

ต้นลำพูฉันเห็นเป็นเพียงตอ
ถูกคนก่อตัดสร้างถางถากต้น
มวลหิ่งห้อยนับร้อยพันคงหวั่นวน
พลัดหนีหายคล้ายสับสน ... ยากค้นเจอ

เห็นเพียงดาวประดับประดิษฐ์สร้าง
ตามหนทางเวียนวนให้คนเผลอ
เผลอหลงคิด สิทธิ์-เสรี ที่เลิศเลอ
คิดฉัน-เธอ เป็นต่างคน .. ต่างหนทาง

ความแปลกแยกแตกต่างห่างสับสน
หิ่งห้อยน้อยหนีวนคนแตกต่าง
หนีความคิดวิปริตผิดอำพราง
โลกเคว้งคว้างหิ่งห้อยลับ ... เหมือนดับดาว

ดาวพราวพร่างกลางฟ้า ... เงยหน้ามอง
แสงหม่นหมองกระพริบเพียงครู่คร่าว
สะพานไฟถนนสร้างยังพร่างพราว
กลบแสงวาวดาวสวย ... ด้วยนีออน

ฉันค้นหาหิ่งห้อยสักร้อยครั้ง
จึงหยุดยั้งฝังฝันหวั่นเหนื่อยอ่อน
โลกยังหมุนวุ่นวายไหวทุกตอน
ดาวยังร้อน หิ่งห้อยน้อย ... ค่อยหายไป.				
Calendar
Lovers  2 คน เลิฟแดดเช้า
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแดดเช้า
Lovings  แดดเช้า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแดดเช้า
Lovings  แดดเช้า เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแดดเช้า