29 กันยายน 2548 22:26 น.
แดดเช้า
เพียงลมพัด ... ใบไม้นิ่งก็ติงไหว
ดอกหญ้าไกวเพรียกลมข่มขวัญเสีย
เมฆคล้อยเคลื่อนเลื่อนไหลคล้ายโลมเลีย
แดดล้าเพลียฟ้าเริ่มร่ม ... เมื่อลมคล้อย
เพียงลมพัด ... สงัดเงียบเคยเยียบเย็น
กลับมองเห็นหมอกฝุ่นฟุ้งสายฝอย
กระจายหนาวร้าวทรวงห้วงรอคอย
เพียงลมพัด ... ความเหงาหงอยค่อยเยื้องกราย
เพียงลมพัด ... จิตเคยนิ่งดิ่งสงบ
น้ำตากลบตามลมพรมเป็นสาย
แกว่งไกวเอยเคยหยุดสุดเดียวดาย
กระทบพายลมซัด ... สะบัดฟุ้ง.
29 กันยายน 2548 19:45 น.
แดดเช้า
ฉันจากไป ... เรียนรู้ห้วงรู้สึก
ดิ่งล้ำลึกแห่งห้วงใจจักไห้หวน
เรียนรู้ฝันผูกพันพรั่นรัญจวน
ได้ใคร่ครวญสิ่งที่เป็นลึกเร้นใน
ฉันจากไป ... เพื่อเข้าใจหัวใจฉัน
ทบทวนฝันมั่นนิ่งล้ำดิ่งไหว
เคี่ยวแรงแกร่งแข็งเข้มเต็มหัวใจ
ถ่ายทอดสื่อเป็นไป ... คล้ายเป็นมา
ฉันจากไป ... เรียนรู้ห้วงสำนึก
รอยล้ำลึกตรึกตรองคล้องคุณค่า
สืบกระบวนครวญใคร่ในสัญญา
พักใจล้าท้าทายความหมายมี
ฉันกลับมา ... รับอรุณอันอุ่นอบ
เพื่อพานพบนิมิตสว่างพร่างทุกที่
สร้างพลังรังสรรค์ฝันดีดี
ณ ที่นี่ ... ฉันได้รับกับฉันเป็น
ฉันกลับมา ... ด้วยรอยยิ้มอันอิ่มอุ่น
ดอกไม้กรุ่นโปรยจากใจจักได้เห็น
แย้มยิ้มชื่นยื่นฝันพรายคลายหนาวเย็น
เปิดเผยเช่นสิ่งเป็นไป ... คล้ายเป็นมา
ฉันจากไป ... คล้ายพิสูจน์บทเบื้องลึก
ห้วงรู้สึกหวนรักจักรู้ค่า
เมื่อห่างไกลใจจึงร่ำจำนรรจา
หวนตรึงตราผูกพันรักประจักษ์ใจ
จึงกลับมาสารภาพสิ่งซาบซึ้ง
ตรึกคิดถึงลึกเร้นเกินเห็นได้
ดิ่งสัมผัสชัดเจนสิ่งเป็นไป
ประสานใส่สัญญาณการกลับมา.
[ความรักจะล่วงรู้ความล้ำลึกของมันเมื่อวินาทีแห่งการจากลามาถึง]
29 กันยายน 2548 17:33 น.
แดดเช้า
เส้นไหมทองคล้องโยงโอบโค้งฟ้า
สัญญาณสื่อสัญญาสู่ฟ้าใหม่
ม่านหมอกมัวสลัวมนดลดวงใจ
ดาวจรัสชัดใส ... ร่ำไรลา
กลั่นน้ำค้างพร่างพรมข่มสะอื้น
สายลมชื่นโชยโปรยจันทร์โหยหา
หยดน้ำค้างพร่างหยาดสาดน้ำฟ้า
กรองน้ำตาสะอาดใส ... ในสายธาร
ระยิบแสงสะท้อนระยับพยับแดด
กระทบธารทองแสดสอดประสาน
เบิกม่านทิพย์ขลิบฝันสรรค์วิมาน
ทาบทางผ่านพาดสายประกายทอง
"รัศมีตะวัน" วันใหม่ใสสะอาด
จารภาพพิลาส - จินตกรรม ลำนำส่อง
แสดส้มอาบทาบเหลืองเรืองละออง
พริบตามองระบายเร้นเป็นสายรัก
เพียงเผยดวงช่วงทองของอรุณ
อุษาอุ่นอุทัยแจ่มแย้มป้องปัก
รุ่งกระจ่างสว่างส่องคล้องใจทัก
เปิดฉากจริงงามนัก ... รักถักร้อย
เส้นไหมทองเคยคล้องโยงโอบโค้งฟ้า
ทอผืนผ้าถักสว่างล้างเหงาหงอย
หวานเช้าชื่น-ชื่นเช้าใหม่ ดั่งใจคอย
โลกหมุนคล้อยตื่นตา ... ฟ้าอรุณ.
28 กันยายน 2548 17:46 น.
แดดเช้า
การรอคอย
เงียบหงอยเหงาล้ำเกินคำถาม
ฝนหนึ่งผ่านไปไม้ผลิงาม
ร่วงใบผ่านโมงยามหลายเวลา
เผาะผล็อย
น้ำตายังทิ้งรอยคอยคุณค่า
ร่วงร้าวหนาวหัวใจไหววิญญาณ์
หวิวผวาหวั่นหวาม ... แทบปลิดปลิว
ลมหนาว
อีกระลอกบอกผ่าวเพียงแผ่วผิว
เจ็บร้าวหนาวยะเยือกทุกรอยริ้ว
คอยหวังหวิวปลิวมาจับกับสายลม
ซึมซ่าน
น้ำตาผ่านซุกซ้อนซ่อนขื่นขม
หวั่นหวังหายละลายลับกับสายลม
ปลิวเกินชมหวังวามความฝันคลาย
แดดสาดแสง
อีกฤดูแห่งฝันร้าวคราวคอยหมาย
ร้อนร้ายแปลบแทบทุรนทนเจียนตาย
หัวใจคล้ายปลิดร่วงจากห้วงใจ
ว้าเหว่
เสียงกล่อมเห่การรอคอยเอนอ่อนไหว
ระริกร่านซ่านซึมซึ้งภายใน
เงียบ ... อาลัยฝันหายจากปลายฟ้า
การรอคอย
เร้นรอยเงาแรกแทรกคุณค่า
หว่างหวิวปลิวซมจมน้ำตา
ซ่อนเวลาระหว่างฝัน ... วันรอคอย.
(๒๒ กันยายน ๒๕๔๑)
26 กันยายน 2548 00:47 น.
แดดเช้า
ถึงเวลาฟ้าพลบครบวาระ
แสดทองอุ่นสละภาระผ่อน
เพื่อเก็บแรงแจ้งจรัสผลัดงานจร
คลายแรงร้อนช่วงวันผันราตรี
แรงแกร่งกล้าล้าลงตรงขอบฟ้า
ชีพเริ่มล้าขอพลังหวังเปี่ยมปรี่
พักพยุงรุ้งรายความหมายมี
ถักทอสีเช้าใหม่ ... ให้รอคอย
ทาบแสงทองส่องหล้าทาบทาดิน
แทบจะสิ้นขาดใจเกินไขว่สอย
ฝากวงเดือนเตือนดาวภูเขาดอย
สายน้ำร้อยรินไหลเพื่อใจงาม
ฝากดอกไม้ไออุ่นกรุ่นแรงรัก
ความแน่นหนักแผ่นดินสิ้นคนหยาม
เก็บสายฝันวันสายใยใสดาววาม
เกี่ยวคล้องถามไถ่ห้วงความห่วงใย
ฝากพลังระหว่างวันสรรค์ฟากฟ้า
แรงอ่อนล้าพักผ่อนแม้อ่อนไหว
ดอกหญ้ายิ้มอิ่มน้ำค้างพร่างดวงใจ
กอบกลิ่นฝนกรุ่นไว้ในใจคน
ตะวันลาแดดลับกับขอบฟ้า
เมฆเคลื่อนมาทักทายคลายสับสน
ว้าเหว่คลุ้มตะคุ่มไหวในสากล
พระจันทร์ดลดวงใจในราตรี
คืนภาระหน้าที่ที่พร้อมรับ
คืนแรงกลับฟ้าฝันอันสดสี
ขอดาราประดับใจให้ดีดี
ตะวันนี้ฝากฝังหวังที่จันทร์
ถึงเวลาฟ้าพลบจบภาระ
จึงผลัดผละเวลาใหม่ให้เปลี่ยนผัน
ช่วงค่ำคืนชื่นเย็นเร้นเงาวัน
ซ่อนสีสันตะวันทาบอาบดวงเดือน.