16 ตุลาคม 2548 22:01 น.
แดดเช้า
อาจจะไม่มีคำที่ฉ่ำหวาน
ไม่ซึ้งซ่านรอยรักปักใจฝัน
ไม่มีคำพรอดเพ้อเผลอรำพัน
ไม่เสกสรรคำชมมาพรมพราย
ไร้น้ำตาลหว่านโปรยโรยชีวิต
เมื่อพลาดผิดไม่ปลอบมอบความหมาย
อยากจะห่างหายหนีตามสบาย
ไม่เที่ยวกรายเกาะแกะและห่วงเกิน
เสรีสิทธิ์คิดฝันฉันมีอยู่
เธอคงรู้ความแตกต่างที่ห่างเหิน
อาจน้อยใจในท่าทีที่เหมือนเมิน
จนนานเนิ่นสับสนหมองหม่นใจ
ถึงชิดชื่นคล้ายอื่นไกลหัวใจร้าง
แห่งเส้นทางต่างแผกแปลกฝันใฝ่
เธออยากฟังคำพรวอนความนัย
คำหวานไหวจากเสียงเพียงฉันเพ้อ
น้ำตาลหวานซ่านซึ้ง ณ หนึ่งคำ
ฉันกลัวช้ำเจ็บหนักหากพลั้งเผลอ
พูดคำ "รัก" หนึ่งรำพึง คิดถึงเธอ
ย่อมพบเจอความคาดฝัน ... อันตราย
จึงขอเก็บคำหวานน้ำตาลย้อย
เพื่อเรียงร้อยกลั่นกรองทุกความหมาย
ร้อยเรียงร่ำจำนรรจ์อันเรียงราย
สานสื่อสายจริงใจให้แด่เธอ
รอวันหนึ่งถึงจุดวันสุดสิ้น
หากเธอยังอยากได้ยินสม่ำเสมอ
ฉันจะร้อยถ้อยคำพร่ำบำเรอ
ก่อนจะเอ่อคำล้น ... จนหมดใจ.
16 ตุลาคม 2548 07:25 น.
แดดเช้า
อยากจะลองกรองกานท์คำหวานบ้าง
แต่ไม่อาจอ้างว้างได้อย่างฝัน
ลองอกหักรักขื่นทุกคืนวัน
ไยใจฉันแข็งกระด้างอย่างเคยเป็น
ลองคิดถึงซึ้งใจในชายหนุ่ม
โอ้ว .. แสนกลุ้มไม่อาจได้คิดเห็น
จะผูกพันฝันช้ำ ... สุดลำเค็ญ
ช่างยากเย็นเร้นรักมาทักทาย
โอ้ .. ไยหนอพอใจคิด ... จิตก็ค้าน
ต้องต่อต้านอย่ารักอย่าวนว่าย
โลกยังกว้างสร้างสรรค์ก่อนวันวาย
อันตรายหากหมกมุ่นวุ่นอารมณ์
ฤๅฉันไร้หัวใจไม่คิดรัก
อยากจะควักดวงใจให้ขื่นขม
คลุกน้ำตาลหวานซึ้งตรึงตราพรม
หรือบีบเค้นให้ตรม ณ ห้วงใจ
แต่ไยหนอพอใจได้ควักออก
จะลวงหลอกใจตนทนไม่ได้
ได้แต่ค้นคิดครวญกระบวนนัย
คงสิ้นไร้อารมณ์จะตรมรัก
อยากจะลองกรองกานท์คำหวานบ้าง
ใจไม่คว้างเหงาไม่เป็นเค้นคำหนัก
จินตนาการภาพอาบใจทัก
โอ้ .. กลุ้มนักไม่ซึ้งแม้หนึ่งคำ.
16 ตุลาคม 2548 00:00 น.
แดดเช้า
บางเช้า .. เหงานักรักขม
กาแฟชงข่มความเหงา
พริ้มแดดแผดอ่อนซ่อนเงา
คลุ้งเคล้าหมองหม่นดลใจ
บางเช้า .. รักทักรำเพย
เอื้อนเอ่ยบทกวีหวานใส
กาแฟถ้วยเดิมหวานไป
ฟ้าใสยังหวานกว่านัก
บางเช้า .. เศร้าตรมขมขื่น
ตาตื่นตรมทุกข์รุกปลัก
กาแฟขมยิ่งกว่าทัก
ฟ้าหม่นจนหนักเกินใจ
บางเช้า .. เริงร่ากว่ามาก
สิ่งยากคลายคลี่ดีได้
กาแฟกรุ่นกลิ่นละไม
ลมไกวฟ้ายิ้มอิ่มทัก
บางเช้า .. วุ่นวายรายล้อม
ยากยอมยุติเรื่องหนัก
กาแฟขื่นฝาดกว่านัก
ฟ้าคลุ้มเมฆมักเคลื่อนคล้อย
บางเช้า .. อาจระยับพยับแดด
บางเช้า .. ปลดแอดสิ่งเศร้าสร้อย
บางเช้า .. พริ้มหวานบางริ้วรอย
บางเช้า .. หยดย้อยรอยยิ้มทา
ทุกเช้า .. ตะวันขึ้นเหมือนกัน
ทุกเช้า .. อรุณสรรค์ทองอุษา
ทุกเช้า .. แดดดวงเดียว ณ ฟากฟ้า
ทุกเช้า .. คุณค่าคงเดิม
เพียงต่างแห่งห้วงความรู้สึก
เร้นสำนึกลึกรอยคอยส่งเสริม
อาจรัก อาจร้าง อาจลงเอย
อาจเผย ผลิบาน อาจโรยรา
เพียงเช้ายังอยู่ในทุกเช้า
ต่างแต่เงาของใจให้คุณค่า
กาแฟถ้วยเดิมเติมมนตรา
ตะวัน-ฟ้า แห่งเดิม ทุกวัน.
15 ตุลาคม 2548 13:37 น.
แดดเช้า
ฉันหรือที่ใครใครไม่อาจกล้า
จะเข้าท้าทายรักปักใจให้
อารมณ์ฉันหวั่นไม่เป็นไม่เห็นใจ
ข่มโศกได้ไม่เศร้าเหงาไม่เคย
ฉันหรือที่ใครใครต่างไถ่ถาม
ถ้าจะงามงามตามความเปิดเผย
ไม่มีหน้าไม่มีหลังบังใจเลย
ไม่มีเอ่ยคำเพ้อเพื่อรำพัน
ฉันหรือที่มีนามนิยามใหญ่
เป็นนารีไร้ใจไร้ใฝ่ฝัน
มีชีวิตติดอยู่ ณ ปัจจุบัน
ไม่ไหวหวั่นวานนี้ที่ผ่านไป
ลิ้มรสขมเพียงเห็นว่าเป็นขม
จมูกดมเพียงซับกับกลิ่นใหม่
สัมผัสชัดศรัทธาธรรมล้ำใดใด
ก็เทิดไว้แต่จิตพินิจตาม
ฉันหรือที่หน้าที่คือสิ่งตรง
พร้อมดำรงไร้ใจไม่ไถ่ถาม
งานเบื้องต้นบนล่างกลางย่อมงาม
ทุกท่วงท่ามเบื้องท้ายความหมายมี
ฉันหรือคือนารีที่ใช่งาม
แต่กล้าข้ามอุปสรรคด้วยศักดิ์ศรี
ความเป็นไป ความเป็นมา สิ่งชั่วดี
ทั้งโลกนี้วางไว้ในที่เป็น
เรียกฉันว่านารีไร้ใจครอง
จะขุ่นหมองขื่นขมชมชื่นเห็น
ทุกสัมผัสศรัทธาค่าร่มเย็น
ไม่เคยเร้นบังใส่สิ่งใดเลย
ฉันหรือที่ใครใครไม่เคยคิด
เพียงเท้าติดดินดอนก่อนผลิเผย
บานดอกรักปักใจใสคุ้นเคย
หากจะเอ่ยทักทายความหมายมี
แค่เป็นนารีหนึ่งซึ่งไร้ใจ
อย่าคว้าไขว่ให้รักมักหลีกหนี
โลกส่วนตัวมัว-สว่างกลางชั่ว-ดี
พร่างราศีเพียงเพรียกสำเนียกใจ
หากรอยยิ้มทิ่มใจใครทั้งโลก
ขอลบโศกทุกข์ตรมขื่นขมได้
เพียงแตกต่างห่างฝันอันอำไพ
ยิ้มที่ให้เพียงสวม ... รวมใจคน.
15 ตุลาคม 2548 01:26 น.
แดดเช้า
มีพื้นที่กว้างกว้างให้สร้างสรรค์
มีความฝันสวยสวยช่วยเกื้อหนุน
มีดอกไม้ไหวไหวละไมละมุน
มีไออุ่นกรุ่นกรุ่นยามครุ่นคิด
มีความรักงามงามมาถามไถ่
มีห่วงใยใสใสให้เสรีสิทธิ์
มีแววตาหวานหวานหว่านชีวิต
มีดวงใจชิดชิดไม่ปิดบัง
ณ ที่นี่มีมิ่งมิตรจิตอาทร
ใช่เพียงฉากละครซ่อนสิ่งหวัง
ใช่เพียงหลงงงงวยด้วยภาพบัง
ใช่เพียงชังแต่เร้นทำเป็นรัก
ที่นี่คือสิ่งปลูกต้นผูกพัน
ที่หมายมั่นสรรค์สร้างวางเสาหลัก
โลกส่วนตัว ... มิใช่โลกใหญ่นัก
เพียงทายทักดาวบนฟ้าใกล้มาแล้ว
มีพื้นที่กว้างกว้างถางทางไป
มีน้ำใสเย็นเย็นเห็นผ่องแผ้ว
มีหมอกเมฆเงาเงาเป็นเนาแนว
มีเสียงแจ้วเจื้อยเจื้อยเอ่ยจำนรรจ์
จึงเป็นโลกส่วนตัวที่ทั่วรอบ
ไร้กฎกรอบเกณฑ์บังคับกับสิ่งฝัน
ขยายจินตนาการผ่านคืนวัน
มีห้องแห่งสร้างสรรค์ ... วันเปิดใจ.