21 ตุลาคม 2548 00:01 น.
แดดเช้า
เธอนั่งอยู่ริมหน้าต่าง ... ห่างจุดฝัน
มือเธอนั้นถนอมดอกไม้สวย
อาบกลิ่นกรุ่นอุ่นฝันอันรินรวย
เบามือช่วยชื่นโชยก่อนโรยรา
ข้างหน้าต่างพร่างดาวคราวฟ้าสวย
แต่งฟ้าช่วยประดับกับฝันพร่า
เธอยังเห็นดอกไม้ในแววตา
เหมือนสื่อค่าบางอย่างพร่างใจริน
ดาวสุกใสแข่งกันประชันแสง
แจ่มงามแบ่งประกายใจถวิล
เธอใส่ใจดอกไม้ราวได้ยิน
มวลดอกผินหน้าหยอกบอกทักทาย
ถึงดาวดวงร่วงฟ้าในครานี้
ยังคงมีดาวดวงใหม่ส่องแสงฉาย
แต่ดอกไม้ในมือคือสิ่งตาย
รอร่วงโรยเหี่ยวหายในเวลา
เธอนั่งอยู่ริมหน้าต่าง ... ห่างจุดฝัน
ถนอม ณ ปัจจุบันให้มั่นค่า
ก่อนเหตุการณ์ผันเปลี่ยนเวียนกลับมา
ไม่ด้นหาแข่งขันกับวันไกล.
20 ตุลาคม 2548 22:19 น.
แดดเช้า
ฮ่าฮ่าฮ่า .. อดเมาเข้าพรรษา
ถึงเวลาเมามึนของขึ้นเหวย
ออกพรรษากฐินได้ยินเลย
เสียงใครเปรยผัวข้ามาเมามาย
ฮ่าฮ่าฮ่า...ข้าสงสารอาการเจ้า
เหมือนผีเข้าเมาแล้วเดินโฉบฉาย
ทางตรงตรงเดินลงท่อก็สบาย
แช่น้ำโคลนไม่รู้อาย ... เจ้ายังเมา
น่าสังเวชเหลือเกินเดินไม่ตรง
หยิบจอกลงเอิ๊กอ๊ากข้าอยากเศร้า
ออกพรรษาร่าเริงอยู่ไม่เบา
ขอหยอกเจ้าสักหน่อยคอยมานาน
ไม่ต้องมามองข้าเหมือนวอนแม่
เมาแน่แน่มาหยอกเหยาะออเซาะหว่าน
ขอสาดแสงแรงแรงแทงตาลาน
ให้แสงผ่านสร่างเมา ... ถึงเช้าเลย.
20 ตุลาคม 2548 14:34 น.
แดดเช้า
ณ สมรภูมิสุมเพลิงเริงอาวุธ
สามฝ่ายรุดแย้งขัดประหัตประหาร
ฝ่ายสีแดงแทงกระหน่ำซ้ำแหลกลาญ
"ข้า-โกรธพาลเผาใจให้เป็นจุณ"
ฝ่ายสีเขียวเล็งธนูสู่เป้าหมาย
"ข้าจะฉายกามอยากจากอบอุ่น
ให้เคลิบเคลิ้มเสริมรักปักใจพรุน
ร้อนรนวุ่นหมายให้บรรลัยคา"
ฝ่ายสีดำมืดคล้ำกระหน่ำซ้ำ
กายกำยำหมองหม่นเงาบดค่า
"ข้าจะครอบคลุมใจให้ปิดตา
อวิชชาล้อมหมายทำลายพัง"
สามฝักฝ่ายย้ายขยับยับขยี้
จะป่นปี้ดวงใจให้สิ้นหวัง
สีแดงร้อนฟอนฟืนยืนประทัง
จุดไฟฝังจิตรุ่มกลุ้มกังวล
สีเขียวย้ายกรายย่างอย่างงามงด
น้ำกรดรดรุ่มร้อนอ่อนสับสน
ให้พิษรักปักห้วงดวงกมล
ไหวสะทกร้อนรนบนฝันเพ้อ
มืดทะมึนขึ้นคลุมทั้งเขียวแดง
หวังปิดแจ้งแจ่มจิตคิดเพลี่ยงเผลอ
หลงชีวิตหลงพิษฤทธิบำเรอ
ไม่พบเจอแสงสว่างพร่างตะวัน
สนามรบสนามใจหากใคร่ครวญ
ทุกกระบวนอย่าหวั่นไหวใจคงมั่น
จะเกิดแสงสาดพื้นประกายพรรณ
กวาดข้าศึกสามนั้นพลันมลาย
แท้ข้าศึกไร้ตัวตนเพียงวนสร้าง
มายาว้างใจติดคิดหลากหลาย
จึงเกิดเรื่องเฟื่องฟุ้งจรุงราย
ใจแทบวายยึดข้าศึกเป็นตัวตน
ณ สมรภูมิเคยรุ่มร้อนเป็นฟอนไฟ
หากนิ่งได้สมาธิมั่นไม่สั่นหม่น
แสงขาวแห่งแรงสติบันดาลดล
ให้ศึกพ้นใจกระจ่าง ... ห่างสงคราม.
20 ตุลาคม 2548 10:33 น.
แดดเช้า
หนาวลมฝนพ้นผ่านเมื่อวานนี้
ยิ้มยินดีลมหนาวเข้ามาใกล้
คงสร่างสิ้นมรสุมเร้ารุมใจ
เรื่องน้อยใหญ่แปรปรวนให้ทวนทบ
ฝนที่หล่นคนที่หวั่นวันที่ร้าว
หลากเรื่องราวหลายหลายใจได้ประสบ
ฟ้าคะนองร้องสั่งคลั่งคลุ้มภพ
ยากจะกลบน้ำตาคราฝันร้าย
ฟ้าหลังฝนฝนสร่างย่างเข้ามา
ฤดูหน้าหนาวลมห่มความหมาย
แม้ชินชาสิ่งกระทบที่ล้อมราย
ใช่เดียวดายลำพังคอยหวังทอ
หนาวลมฝนพ้นผ่านเมื่อวานนี้
ใจเริ่มรับทุกเรื่องมีที่เกิดก่อ
ฤดูผลัดชัดศรัทธามาถักรอ
แจ่มใจพอยินดีกับสิ่งเป็น.
19 ตุลาคม 2548 13:08 น.
แดดเช้า
วันเปิดโลกโชคเปิดเกิดความคิด
เห็นเหตุผิดผลถูกปลูกคุณค่า
อบายขยายสายทางสร้างชะตา
สวรรค์ฟ้าแจ้งสุดมนุษย์ภพ
แจ้งกรรมชั่วเลวร้ายอบายเปิด
สวรรค์เทิดจรรยางามตามระบบ
มนุษย์แท้ดูแลบุญคอยหนุนทบ
บาปเปื้อนกลบหมักหมมปมในใจ
จึงเปิดตาคราโลกเปิดเปิดดวงจิต
เพ่งพินิจโลกธรรมนำใจใส
ดูตามสิ่งจริงท่ามความเป็นไป
เปิดปัญญากว้างไกลให้รู้ตาม
วันเปิดโลกโชคนำชื่นฉ่ำนัก
เปิดชัง-รัก-ชอบ-หลง คงลักษณ์สาม
สิ่งไม่เที่ยงเบี่ยงเบือนเยือนโมงยาม
หมุนโลกข้ามเข้าใจโลก ... ไร้โศกครอง.