6 พฤศจิกายน 2548 22:02 น.
แดดเช้า
ปก คลุมหุ้มเสื้อพร่าง .............. บังอา รมณ์เอย
ปก สิ่งอำพรางพา ................... เคลิบเคลิ้ม
ปก ถ้อยร่ำตบตา ..................... ติดกรอบ
ปก ทุกคำตอบเยิ้ม .................. หยอดน้ำตาลหวาน
ปิด การกิจถักถ้อย ................. สิ่งทำ
ปิด บาปคราบระยำ ................ ย่ำย้อน
ปิด สิ่งชั่วก่อกรรม .................. ในจิต
ปิด ปวดเจ็บร้าวร้อน .............. ห่อนให้ใครเห็น
หากซ่อนเร้นจิตแท้ ................ บดบัง
ทั้งรักเกลียดกลัวหวัง .............. ทุกข์เศร้า
เจ็บปวดปลาบประดัง .............. ยากรับ
จึงสะทกสะท้านเข้า .................. คลุกเคล้ายากคลาย
จึงหมายปิดสิ่งข้าม ................... เข้าพราง
จากเงียบเสียงดังคราง ............ กลบซ้อน
บาดเจ็บยากปล่อยวาง ............. แผลนั่น
จึงประกาศด้านย้อน ................ บ่ได้เจ็บแผล
ดูแลรักปิดช้ำ ......................... ใจหาย
จึงกล่าวตู่คำขยาย ................... รักก้อง
เกรงหวั่นรักหม่นมลาย ........... หายจาก
ป่าวประกาศรักแซ่ซ้อง ........... เพื่อรู้ทั่วกัน
ปกปิดวันเก่าต้อง ................... เดียวดาย
จึงเปิดตัวกันอาย .................... เพื่อนพ้อง
ราวมีมิตรมากมาย .................. หลายหลาก
แท้โดดเดี่ยวใจต้อง ................ แอบน้ำท่วมตา
ปกค่าปิดกรอบกั้น ................... ไปไย
ยอมรับสิ่งจริงใจ ...................... เปิดสร้าง
แก้ไขสิ่งผิดไผล ...................... เผลอพลาด
ปรับเปลี่ยนกันร้าวร้าง ............ เริ่มก้าวเกี่ยวฝัน.
6 พฤศจิกายน 2548 20:23 น.
แดดเช้า
ดอกไม้ส่งสัญญาณขานผีเสื้อ
แดดระเรื่อส่งรหัสฟ้าจัดสรร
ยิ้มแย้มยวนชวนชื่นคืนสัมพันธ์
เกี่ยวก้อยกันสื่อสัญญาครารักคืน
ร้อยคำหวานหว่านลงตรงห้วงใจ
เทียบคำใดกับอารมณ์อันชมชื่น
สบสายตาคราช้ำคลายกล้ำกลืน
คำเป็นหมื่นฤๅเทียบค่าความอาทร
รหัสใจส่งถึงใจยิ่งกว่าลึก
เธอรู้สึกบ้างไหมในคำอ้อน
ใช่น้ำเสียงเพียงพร่ำร่ำคำวอน
ยังซึ้งซ่อนล้านความหมายในคำนึง
ลึกยิ่งกว่าห้วงสมุทรสุดกว้างใหญ่
ไกลยิ่งไกลกว่าฟ้าคราคิดถึง
เป็นคำใดจากใจแนบแอบรำพึง
หากอยากซึ้งมาเถิดมาเปิดใจ
ดอกไม้ส่งสัญญาณขานรับรัก
แดดยังทักฟ้ากว้างอย่างฝันใฝ่
หนึ่งรอยยิ้มอิ่มฝันอันอุ่นไอ
กุญแจไขนัยรหัสรักของเรา.
5 พฤศจิกายน 2548 23:53 น.
แดดเช้า
ฉันอยากเก็บมุมมองของความหวัง
เงื่อนเงาบังแสงทอดลอดห้วยผา
งามเพียงพบคำร่ำจำนรรจา
ใครลือว่ามีสิ่งใดอยู่ในนั้น
ใครบางคนต้นคิดบอกมีเพชร
ทรัพย์ทองเกล็ดหินมงคลดลความฝัน
บางคนพร่ำตำนานหว่านกำนัล
ใครพบแก้วทองหมั้นจะมีชัย
ใครต่อใครอาจรู้มีงูพิษ
อันมากฤทธิ์รักษาแต่หนไหน
หรือมีเจ้าหญิงพริ้งเพริศเลิศอำไพ
เจ้าชายใดจุมพิตจะฟื้นองค์
ความลึกลับกับนิทานที่ขานเล่า
เรื่องเก่าเก่าสร้างสรรค์อันสูงส่ง
ถ่ายทอดสู่ผู้เรียนร่ำแจ้งจำนง
ความใหลหลงโบราณการวิชา
มุมแห่งภาพทาบเงามีเหง้าราก
ลึกลงซากโขดหินดินเก่าค่า
สะท้อนเหลี่ยมเปี่ยมประกายคล้ายมนตรา
ลึกลับพอขุดมาเป็นตำนาน
ความในใจใครสักคนล้วนลึกลับ
ค่อยซึมซับซึ้งเล่ากล่าวคำขาน
ตามจังหวะประสบเหมาะจำเพาะงาน
สุขุมการณ์ถ้อยคิดประดิษฐ์คำ
ใช่เปิดโปร่งโล่งแจ้งแสงสว่าง
เพียงพราวพร่างไร้มุมเงามาเล่าพร่ำ
ใครเล่าจักหมายสืบหลืบเงื่อนงำ
ด้วยเปิดล้ำทุกด้านฉาบฉวยใจ
และเมื่อใครได้ซึ้งครบทบทุกทิศ
จะไม่พิศมุมอื่นฉ่ำชื่นไหว
ความทรงจำคำเฉลยผ่านเลยไป
งามเพียงใดก็หมดเล่ห์เสน่ห์ค้น
ฉันอยากเก็บมุมมองของความหวัง
ค่อยค่อยหลั่งการเรียนรู้สู่เหตุผล
และเธอคือสื่อฝันบันดาลดล
ให้ตั้งต้นซาบซึ้งด้วยหนึ่งใจ.
.....
< ค ว า ม ลึ ก ลั บ . . . เ ป็ น เ ส น่ ห์ อ ย่ า ง ยิ่ ง >
5 พฤศจิกายน 2548 08:48 น.
แดดเช้า
เห็นความรักกวักมือเรียกที่ปลายฟ้า
ใจสั่นพร่าหวามซ่านสะท้านไหว
ละลอยลิ่วปลิวล่องทำนองใจ
ส่ายแกว่งไกวกับเพลงใบไม้พรม
ความคิดถึงเจ้าเอ๋ย ... อย่าซ้ำหนัก
โอบกอดรักรัดแน่นเกินใจข่ม
หายใจแทบสะดุดสุดอารมณ์
อย่าโถมถมได้ไหมหัวใจเอย
เมื่อความรักมาเยือนเหมือนเตือนจิต
ข่มไม่มิดสักทีที่รักเอ๋ย
จะบอกตัวกับหัวใจอย่าไหวเลย
กลับเอ่ยเผยความในใจมากมายจริง
อยากใกล้มากกว่านี้ที่เคยใกล้
เพียงฝันใฝ่อยากสัมผัสอยากซบผิง
อยากหายหนาวคราวหนาวเข้ามาอิง
จนยากนิ่งแอบยิ้มกริ่มคนเดียว
อยากได้คืบแล้วเอาศอกบอกว่าอยาก
คลั่งพลุ่งยากคุมได้ใจแลเหลียว
นึกถึงหน้าน้ำเสียงอุ่นวุ่นจริงเชียว
เกินหน่วงเหนี่ยวพร่ำเพ้อละเมอไกล
เห็นความรักกวักมือไหวที่ปลายฟ้า
นี่แหละหนาพิษรักจักคว้าไขว่
ออกคำสั่งคำสุดท้าย ณ หัวใจ
หยุดอ่อนไหวสักครา ... อย่างอแง.
3 พฤศจิกายน 2548 22:26 น.
แดดเช้า
อะไรหนอพอทำให้ใจกระหวัด
หวนภาพชัดทั้งร้ายดีที่มีผล
อาจเป็นเพียงอารมณ์พรมว่ายวน
ยากจะค้นเหตุ "คิดถึง" ให้ตรึงตรา
เพียงแดดอุ่นกรุ่นดอกไม้ในยามเช้า
เพียงคมเงาภูดอยวาดรอยผา
เพียงกระเพื่อมเลื่ยมลายแดดพรายตา
เพียงคืนล้าจรกาลหนาวผ่านไป
เพียงกระทบมรสุมความคลุ้มคลั่ง
เพียงฟ้าสั่งคะนองฝนร้องไห้
สะเทือนขวัญวันเจ็บเหน็บห้วงใจ
อุ่นถ้อยไขปลอบโยนแห่งรุ้งทอ
จึงอิ่มใจในคิดถึงซึ้งภาพผ่าน
เป็นผลงานสรรพสิ่งอิงเกิดก่อ
กระทบจิตประทับใจในฝันรอ
ล้าหรือท้อฤๅซาบซึ้งสักเพียงใด
อาจบางที ... ภาพเธอเผลอพาดผ่าน
คล้ายฟ้าหว่านมวลดาวพราวสุกใส
จึงหลงซึ้งคิดถึงเธอละเมอไกล
วาบแสงไหวเงาเลี่ยมอันเปี่ยมทรวง
และบางที ... คืนร้ายคล้ายคำหลอก
ที่เธอบอกแล้วกลับคำ ณ ค่ำช่วง
ไหวหัวอกสะทกแค่นแค้นคำลวง
กับหลงหวงหน่วงซ้ำช้ำชอกกลืน
จึง "คิดถึง" ทั้งดีร้าย ที่กรายผ่าน
หวังที่ซ่าน หวังที่หวาด ยังทนฝืน
หากใจไม่ซาบซึ้งหนึ่งวันคืน
ปล่อยขม-ชื่น .. ผ่านแล้วลอยแผ่วไป
และไม่มีใจคิดถึงใครทั้งนั้น
ไม่หลงฝันเคลิบคิดกับสิ่งไหน
สุขสันติเกิดสงบพบที่ใด
นั่นใช่ไหม ... จิตแท้ไยไม่พบ
เถิด ... เปิดใจชมชื่นตื่นสิ่งเห็น
ร้อนอุ่นเย็น "ปัจจุบัน" นั่นประสบ
อาจพึงใจไหวหวามความงามซบ
อาจกระทบผิดหวังหลั่งน้ำตา
อะไรหนอพอทำใจไหวกระหวัด
หวนภาพชัดทั้งร้ายดีที่สร้างค่า
เพียงผ่านกาลเรื่องราวคราวผ่านมา
สิ่งธรรมดาไร้ตัวตน ... คนหลงจำ.