27 มิถุนายน 2552 13:03 น.
แจ้นเอง
แล้วสมุดบันทึกหน้าเก่าก็ถูกเปิดขึ้นมาอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นบันทึกที่ถูกกลั่นออกมาจากความรู้สึก
ปิติยินดี เมื่อความฝันถูกบันทึกลงบนกระดาษและถูกถ่ายทอดไปสู่สายตาคนอื่นและได้รับการตอบรับที่มีน้ำใจไมตรี กำลังใจมี่ได้จากบ้านกลอน
จำได้ว่าวันหนึ่ง เราเข้าไปอ่านกลอนใน Bloggangและเว็ปปู่ลิง รู้สึกมีความสุขและตื่นเต้นกับการแลกเปลี่ยนจนกระทั่งมาพบบ้านหลังหนึ่ง แรกที่เจอเราได้แต่อ่านและแอบคอมเม้นท์เพราะรู้สึกมีส่วนร่วมในบทกลอนบางบทบางตอนโดยใช้ชื่อต่างๆ
แล้ววันหนึ่งก็ถามตัวเองว่าลองดูมั้ยเผื่อว่าจะมีคนอ่านกลอน/เรื่องสั้นของเราบ้าง แรกทีเดียวเราเข้าไปตั้งกระทู้ก่อน เพราะอยากรู้ว่าในโลกของคนบ้านกลอน มีใครบ้างที่ชอบอะไร สิ่งไหนและยังไง ที่รู้ก็มีหลายท่านที่อยู่ในโลกของการมีส่วนร่วมคือความเป็นเจ้าของโลกใบนี้เช่นเดียวกันจึงมีกระแสของความรักษ์โลกและสิ่งแวดล้อมและท่ามกลาง การเมืองที่ต่างขั้วต่างความคิดก็มีความเป็นประชาธิปไตยในการแสดงออกและเป็นไปโดยธรรมชาติจึงรู้สึกยินดีที่เรามีผู้ดูแลระบบที่น่ารัก เป็นทั้งนักคิดและวิเคาะห์ ขอบคุณคุณอัลมิตราค่ะ โดยเฉพาะก้าวแรกของเรื่องสั้นที่ทำให้มีกำลังใจในการเขียนมากขึ้น คุณผู้หญิงช่างฝันที่มีทั้งเรื่องสั้น บทกลอน และคอมเม้นท์ที่ตื้นตันใจได้เสมอ คุณแทนคุณแทนไท คุณโคลอน คุณกชมนวรรณ ที่แวะมาทำความรู้จัก ครูพิม แม่ครูของเด็กๆที่คอยให้กำลังใจกับทุกคน ที่เข้ามาบ้านนี้ ในเรื่องสั้น น้องนัท นทธี เขียนเรื่องสั้นที่อ่านทีไรเราก็คิดว่าน่าจะเอาไปทำเป็นละครทุกที น้องนัทบรรยายความรู้สึกที่กลั่นออกมาจากใจได้ดีมากๆ ฉางน้อย ผู้น่ารักที่ทำให้ตัวหนังสือทุกตัวในเรื่องสั้นยิ้มได้ คำศัพท์ใหม่ๆผุดพรายมาเสมอและ ยัยวากับพี่เมี่ยงก็เป็นตัวละครที่พาทุกคนไปรู้จักกับการท่องเที่ยวที่มีแก่นสาร สาระและสนุกสนานเสมอ แก้วประภัสสร(น้องแบม) น้องสาวที่สูญเสียคุณพ่อเหมือนกัน ที่ให้น้ำใจคำปลอบโยนกับคนในบ้านกลอนสม่ำเสมอ น้องวุ่นที่แสนอ่อนหวานและบทกลอนที่ละมุนละไม คุณลุงแก้วประเสริฐต้องเรียกว่าคุณครูเพราะมีคนขอเป็นลูกศิษย์ในบ้านกลอนมากมาย คุณฝากฝันผู้มีรักเดียวและแบ่งปันความรู้ให้กับทุกผู้ คุณก่องกิกไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นพี่ชายเพราะความกุ๊กกิ๊ก ลุงแทนคอยปลอบโยนเสมอเวลายุ่งยากลำบากใจ คุณยาแก้ปวด คุณเฌอมาลย์ คุณอาราเล่ ที่เก่งด้านโคลง กลอนที่อ่านแล้วก็กลับไปอ่านอีก คุณกานต์(เพลียงพลิ้ว)นักกลอนที่ใช้ถ้อยคำสุภาพและไพเราะมีน้ำใจไมตรีมากมายให้ยามเหงา พี่พุดที่มากความสามารถรักพี่นะคะ พี่ดอกแก้วติดตามงานพี่มากมายและคำสอนที่แจ้นเองพร้อมน้อมรับมีบ้างที่อึดอัดแต่เมื่อมาอ่านบทกลอนของพี่ดอกแก้วแล้วรู้สึกดีขึ้น คุณไร้อันดับทั้งกลอนและคอมเม้นท์ที่แสดงออกถึงความจริงใจตลอดมา คุณหนุ่มน้อย(ที่หายหน้าไปเสียแล้ว)แต่ก็อดที่จะคิดถึงไม่ได้ คุณกันนาบทกลอนที่สื่อถึงความรักในธรรมชาติ วิถีชีวิตและตัวตนของตัวเอง คุณครูกระดาษทราย ผู้มุ่งมั่นและมั่นคง คุณรัมณีย์คุณครูผู้สุภาพและอ่อนโยน คุณนิลวรรณบทกลอนคุณเยี่ยมเสมอมา คุณแมวคราว คุณคนบนเกาะ คุณคอนพูทน ผู้มีความหลากหลายในจินตนาการ ทั้งการบ้านการเมืองและแม้กระทั่งอาหารการกิน คุณผู้หญิงไร้เงาคุณทำให้แจ้นเองมีกำลังใจเสมอและคอยเข้ามาเป็นเพื่อนเวลาเหงา ขอบคุณมากค่ะ
คุณฝนทอง คุณอรุโณทัย คุณพิมญดา คุณไหมไทย คุณเฮาชาวดอย คุณช่ออักษราลี คุณกิ่งโศก
คุณแสงเหนือ คุณเอื้องคำ คุณบุหงารำไป คุณพรไพร คุณอรุณสุข คุณร้อยแปดพันแก้ว คุณนายธนา ล้วนแต่เป็นนักกลอนที่น่ารักบทกลอนที่แจ้นเองแวะเวียนเข้าไปอ่านและถึงแม้บางครั้งไม่ได้คอมเม้นท์ก็ตาม คุณไหมแก้วสีฟ้าคราม เพื่อนที่ไม่เคยทิ้งกันและมีเวลามักจะแวะเวียนมาหาเสมอ คุณแมงกุ๊ดจี่ ชอบชื่อคุณมากค่ะ คุณวิทย์ ศิริ คุณแมวเหลือง คุณจิตรำพัน คุณกิตติเวทย์ คุณTiki คุณกวี ซีม่า คุณหมอวฤก คุณเพลย์บอย คุณยิปซี4 คุณนกยูง คุณชัยชนะ คุณโจ้เอง คุณพริ้มเพรา คุณก้าวที่กล้า คุณไพรน้ำผึ้ง คุณแมวแต้ม คุณน่าน นามเมือง คุณประทีปดาว คุณล้นใจ คุณดอกบัว
คุณตรากลม คุณthepchandhra ล้วนแล้วแต่เป็นนักกลอนที่แจ้นเองชื่นชมผลงานของทุกท่าน แจ้นเองติดตามอ่านตลอดมา คุณคนกุลา คุณภาสุรีย์ คุณอินสวนท่าน บนข ล้วนเป็นผู้มีความรอบรู้และฉกาจด้านบทกวี คุณคนลานเทวา คุณกฤตศิลป์ ชินบุตร ที่มีหนังสือเป็นของตนเอง ชื่นชมมากๆค่ะ
และอีกหลายท่านที่แจ้นเองไมได้เอ่ยนามแจ้นเองไม่ได้ทักทายในที่นี้ขออภัยด้วยนะคะ
ท้ายบันทึกฉบับนี้แจ้นเองขอขอบคุณในน้ำใจไมตรีตลอดขวบปีที่ได้ให้โอกาส แจ้นเองได้พักอาศัยในบ้านกลอน ขอบคุณจากใจแจ้นเอง