28 มีนาคม 2552 09:03 น.
แจ้นเอง
นั่งอยู่หน้าจอทีวีฤดีมั่น
ตั้งใจพลันดูละครตอนที่ว่าง
แต่ละครน้ำเน่าไม่เข้าทาง
จึงเปลี่ยนช่องอื่นบ้างแล้วนั่งดู
นั่ง นั่งอยู่ดูแล้วพาน้ำตาไหล
ด้วยหัวใจถูกบีบเค้นภาพเห็นอยู่
ชายชราหน้าดำน้ำตาพรู
ชี้ให้ดูที่เคยได้อาศัยกัน
แล้วเล่าเรื่องแต่ต้นจนสุดท้าย
ไม่เคยพ่ายแก่ชะตาดูน่าขัน
เฝ้าหักร้างถางไร่ไม่เว้นวัน
แล้วรัฐพลันมาไล่ให้ไปโพ้น
บอกจะสร้างระยองให้ยิ่งใหญ่
เกษตรไทยล้าหลังอย่าหวังผล
ปรับเกษตรเป็นอุตสาฯให้น่ายล
ปรับเสียจนธรรมชาติหาดเปลี่ยนแปลง
ชาวประมงจนง่อยด้อยทรัพย์สิน
โรครุมกินแขนขาน่าแขยง
เป็นปุ่มปมผมเผ้าร่วงโรยแรง
รัฐตะแบงไม่เคยผิดใครคิดทำ
นายทุนยังเบียดบังไม่ยอมเลิก
ลุงบุกเบิกที่ใหม่ด้วยใจช้ำ
ยังตามติดคิดเอาดูเขาทำ
ยังขย้ำตามรอยไปอยู่ใกล้กัน
พืชผลลุงเสียหายหลานชายเอ๋ย
ลุงมิรู้จะลงเอยอย่างไรนั่น
ผลละหมากรากไม้ฉิบหายพลัน
อนาคตลุงนั้นสะบั้นแล้ว
ลุงสะอื้นกลืนกล้ำน้ำตาไว้
ลุงเสียดายธรรมชาติชายหาดแก้ว
เกษตรกรถูกเขาทำจนไร้แวว
หมดสิ้นแล้วด้วยร้างหนทางเดิน
ปรับระยองให้ระย้าไฟฟ้าสวย
พัฒนาให้ร่ำรวยไม่ขวยเขิน
ทั้งเทคนิค เทคโนโก้เหลือเกิน
รัฐทำเมินปล่อยเกษตรกรให้นอนตาย
๒๘ มีนาคม ๒๕๕๒
25 มีนาคม 2552 14:15 น.
แจ้นเอง
เมื่อเราขว้างก้อนหินออกไปแล้ว
คงไม่แคล้วหล่นหายในกลางหน
เหมือนบางสิ่งได้หายไปในบัดดล
และหลุดพ้นเหมือนก้อนหินที่บินไป
เหมือนคำพูดพูดไปแล้วไม่คิด
เสียจริตคิดพูดใหม่คงไม่ได้
พูดไม่ถูกพูดพล่อยๆพูดบ่อยไป
คำพูดไซร้ให้ระวังหมั่นชั่งตวง
อีกเวลาวารีมิรอท่า
ปล่อยเวลาล่วงไปไม่แหนหวง
ครั้นจะหมุนคืนใหม่เสียดายดวง
ก็เลยล่วงเสียไปไม่หวนคืน
อันโอกาสเสียไปก็หายสูญ
จะเกื้อหนุนสิ่งใดให้รู้ตื่น
รู้สติรู้หยั่งให้ยั่งยืน
โอกาสขืนให้หลุดไปเสียดายแท้
ใคร่ครวญคิดอย่าด่วนตัดสินใจ
พูดบวกไว้ได้กำไรหลายเท่าแน่
เวลาเวียนเปลี่ยนหมุนไปวัยชะแร
โอกาสแท้คว้าไว้ให้ได้เอย
16 มีนาคม 2552 19:21 น.
แจ้นเอง
สวรรค์พลันล่มแล้ว ล้านนา
น้ำตาหลั่งไหลมา อาบแก้ม
ทั่วพื้นพสุธา แดงเถือก
ไฟป่าจุดแต่งแต้ม ทั่วพื้น พงพี
มองเห็นผืนป่าท่าว ด่าวดิ้น
เลือดในกายแทบสิ้น คราวนี้
มึงปลูกสักผีกลิ้น หรือเล่า
มึงเผาจนป่นปี้ ไม่เหลือ แม้ตอ
เผาป่าป่าถูกเผา นานวัน
ชวนปลูกต้นไม้กัน ไม่เว้น
คนจิตหยาบหยามหยัน รุกป่า
แฝงประโยชน์เหลือบเร้น ซ่อนไว้ นายตัว
เจ็บแค้นไอ้คนชั่ว ชาติยับ
ให้ตายสักร้อยกัปป์ ยังน้อย
ต้องจับมาหั่นสับ ให้สิ้น
สมกับที่มันร้อย ป่าไว้ ในมือ
สวรรค์ล้านนาล่ม แล้วเอย
ไฟป่าผลาญอย่างเคย สุดช้ำ
งบเงินไม่มาเลย เผาป่า
กรรมใดจึงตอกย้ำ แต่ผู้ ไม่ทำ
ฝากฝันฝากถ้อยไว้ จำนรรจ์
ทุกคำล้วนรำพัน เศร้าสร้อย
ล้านนาดุจสวรรค์ ปั้นแต่ง
คงเหลือเพียงเรียงร้อย บทไว้ ท่องจำ
แรงบันดาลใจจากบทกลอนของคุณฝากฝัน
๑๖ มีนาคม ๒๕๕๒
7 มีนาคม 2552 22:03 น.
แจ้นเอง
วันนี้มีความสุข
ได้สนุกสุขสดใส
สุขกว่าวันไหนๆ
เหมือนหัวใจจะโบยบิน
เคยเจ็บกับน้ำคำ
ที่ตอกย้ำให้ได้ยิน
รักเรามันพังภินท์
หมดสิ้นไปไม่ต่อเติม
เมื่อเธอก้าวจากไป
เพียงหวังให้ใจฮึกเหิม
กับความจริงสิ่งเดิมๆ
ค่อยๆเติมสิ่งดีดี
ไม่จดและไม่จำ
กับน้ำคำสิ้นไมตรี
สุขล้นในครานี้
กับใจที่เราได้คืน
กับวันที่เธอก้าวไป
เคยร้องไห้ด้วยขมขื่น
วารที่เคยกล้ำกลืน
ได้พลิกฟื้นแล้วนะใจ
เมื่อเธอคิดย้อนกลับ
และยอมรับผิดพลาดไป
ซ้ำขอย้อนคืนใหม่
สายเกินให้...อภัยแล้ว
4 มีนาคม 2552 22:09 น.
แจ้นเอง
ในท่ามกลางความเงียบเหงาเราเศร้าจิต
วนเวียนคิดถึงแต่เขาเฝ้าห่วงหา
นี่ก็นานหลายวันหลายเพลา
ไม่มีข่าวเหมือนทุกคราที่ร้างไกล
เธออยู่ไหนเป็นอย่างไรให้รู้บ้าง
ระยะทางใช่กางกั้นให้หวั่นไหว
บอกให้รู้ทุกวันอยู่อย่างตรอมใจ
ห่างแสนห่างยังรักใคร่ไม่จืดจาง
"กลิ่นกายหอมยังถนอมไม่ทิ้งหาย
รักษาไว้ท่ามดวงใจแจ่มกระจ่าง
หอมเอ๋ยหอมรวยรินกลิ่นแก้มนาง
ยังครวญครางพร่ำเพ้อเธอผู้เดียว"
ในท่ามกลางความเงียบเหงายิ่งเศร้าสร้อย
คิดถึงถ้อยคำเขาสุดเปล่าเปลี่ยว
พรอดคำรักมิทิ้งให้อยู่ดายเดียว
รักคลายเกลียวหรือไรไม่หวนคืน