13 มีนาคม 2553 10:19 น.
แจ้นเอง
ชั่วชีวิตวิกฤติก็หลายครั้ง
แต่ก็ยังตั้งใจไม่ทำเฉย
ไม่เคยนิ่งปล่อยปละหรือละเลย
ชีวิตเอยไม่เคยสุขช่างทุกข์นัก
แสนเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าเจ้าข้าเอ๋ย
หวังเสบยพักสบายได้ประจักษ์
มีแต่เส้นแต่สายการย้ายยัก
หวังจะพักก่อนเกษียณจะเวียนมา
อนิจจาหนอเราเฝ้ารอหวัง
อนิจจังไม่เที่ยงเกินเลี่ยงหนา
วอนให้ท่านเห็นใจวัยชรา
จะหลับตาให้ปลอดตลอดคืน
ก้อนสะอื้นกลืนกล้ำคำขอร้อง
หวังจะให้เพื่อนพ้องได้ลองฝืน
อยากจะยืดกายใจหมายหยัดยืน
ผ่านวันคืนเช่นไรให้นายรู้
สี่สิบปีเนิ่นนานผ่านหนาวเหน็บ
หลายครั้งเจ็บปางตายใจยังสู้
มิเคยกลัวโจรร้ายไพรริปู
มิหยุดดูนิ่งเฉยเลยสักวัน
ขอเวลาได้หลับตาเต็มตาบ้าง
อยากจะร้างราวีสักทีฉัน
จนวันนี้วันที่แรงกระแทกพลัน
ระเบิดมันทำลาย ส บ า ย แ ล้ ว
หลับให้สบายเถิดผู้กล้า
ขอร่วมไว้อาลัยแด่ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา
01.35 น.13/3/53
แจ้นเอง
17 กันยายน 2552 12:42 น.
แจ้นเอง
เป็นแค่ต้นกล้าน้อยที่คอยฝน
ที่ปะปนความในใจใคร่บอกกล่าว
อยากให้เมฆฝนมาเป็นคราคราว
อย่ายืดยาวเกินไปจะไม่ดี
และมีลมพัดมาคราฝนหล่น
อย่าปะปนลูกเห็บเจ็บเหลือที่
แค่ฝนพรมทั่วพื้นธรณี
ต้นกล้าน้อยก็ยินดีตอบแทนคุณ
จะค่อยๆแตกกิ่งกอให้พออยู่
จะกอบกู้อากาศธาตุดินหนุน
จะหยั่งรากยาวไกลได้ค้ำจุน
พายุหมุนดินไม่กลับขยับตน
จะเติบใหญ่ให้ยิ่งใหญ่แผ่ไพศาล
แผ่กิ่งก้านสาขากลางฟ้าฝน
สรรพสัตว์ได้อาศัยร่มใบบน
สร้างรังตนครองคู่อยู่สบาย
จะพลิกฟื้นผืนป่าให้น่าอยู่
นกกาผู้ขยายพันธุ์ดังมั่นหมาย
ช่วยกันกู้วิกฤติผิดกาลกลาย
ให้สมดังที่ฝันใฝ่ในใจตน
แม้นกิ่งแห้งแข็งขืนทำฟืนได้
ถึงฤดูที่สมวัยก็ให้ผล
ผลิดอกสีสดใสให้ได้ยล
ให้ทั้งผลให้ทั้งดอกงอกงามตา
เป็นแค่ต้นกล้าน้อยที่คอยฝน
หวังให้รัฐฯอย่าปะปนคนอิจฉา
ให้กล้าน้อยได้เติบใหญ่มีวิชา
และแข็งกล้ากับอาชีพตลอดไป
๑๗ กันยายน ๒๕๕๒
27 กรกฎาคม 2552 07:07 น.
แจ้นเอง
มองเห็นช่อมะลิที่ทำไว้
เคยทำให้ใส่กระเช้าแม่เย้าหัว
ทำให้ใครมากมายหรือแม่ตัว
ลูกยิ้มยั่วมิรู้ให้ใครทั้งนั้น
ลูกตั้งหน้าตั้งตาวางท่าเฉย
แกล้งมิใส่ใจเลยเหมือนเคยนั่น
แล้วรวบช่อมะลิสวยเข้าด้วยกัน
ริบบิ้นอันสดใสผูกให้งาม
ครั้นถึงวันที่สิบสองของสิงหา
ลูกเตรียมพร้อมข้าวปลาคราตีสาม
ปลุกลูกๆทุกคนจนโครมคราม
ลุกทำความสะอาดกายให้ใยยอง
พอฟ้าสางต่างรีบรัดจัดตระกร้า
จัดข้าวปลาเพื่อจะได้ถวายของ
ไปยังวัดจัดถวายเป็นก่ายกอง
ให้บุญครองใจอยู่ทุกผู้ไป
ด้วยผลบุญหนุนนำให้สำเร็จ
เรื่องเลวร้ายให้ระเห็จอย่ากรายใกล้
ลูกร่ำเรียนเขียนอ่านปัญญาไว
ชนะภัยคลาดศัตรูทั้งหมู่มาร
แล้วรีบจูงมือกันด้วยมั่นหมาย
ที่ทำคล้ายไม่ใส่ใจเมื่อวานนั่น
คลานเข้าไปด้วยใจที่ชื่นบาน
ก้มกราบกรานแทบเท้า...แม่เข้าใจ
27 มิถุนายน 2552 12:46 น.
แจ้นเอง
ช่วงเวลาดีดีขวบปีผ่าน
สร้างอักษรกลอนกานท์งานทั้งสิ้น
ด้วยดวงใจรักงานกานท์กวิน
ท่ามดวงจินต์สุขสงบเมื่อจบความ
อ่านคอมเม้นท์พี่น้องเหล่าผองเพื่อน
ช่วยย้ำเตือนความห่วงใยคอยไถ่ถาม
บางครั้งเหงาเศร้าใจในทุกยาม
ยังถ้อยความปลอบให้คลายทุกข์ตรม
ชายคาบ้านลานกวีเป็นที่พัก
ยามงานหนักละห้อยนักเพราะหักโหม
หลายมือของน้องพี่ปลอบประโลม
ดุจดังโคมโลมใจหายเหนื่อยพลัน
แจ้นเองค้อมน้อมพักตร์รักนะคะ
ขอพรพระช่วยประทานงานสร้างสรรค์
ให้น้องพี่ ลุงป้าครูอาจารย์
สุข ทุกวารรื่นรมย์ สมฤดี
อยากทักทายถ้วนทั่วทุกๆท่าน
แจ้นเขียนลงเรื่องสั้นนะคุณพี่
ได้ทักทายหลายหลากมากวจี
ซาบซึ้งในไมตรีทุกท่านเลย
เปิดบันทึกถึงทุกท่านในบ้านกลอน
5 มิถุนายน 2552 17:44 น.
แจ้นเอง
ผู้คนหลั่งไหลจากหลายทิศ
หมู่มิตรมวลศัตรูอยู่ไม่ห่าง
คอยกลั่นคอยแกล้งหวังล้างบาง
ดูช่างวุ่นเสียจังหลังเหลือบแล
มีเรื่องราวหลากหลายให้ศึกษา
ต่างทยอยกันมาเพื่อตีแผ่
บ้างร้องโฮโถระกำถูกรังแก
ต่างก็ร้องเอาแน่แชร์นายทุน
ตรึกความถามใจกระไรหนอ
แล้วที่ว่าเพียงพอไม่พอหนุน
ต่างมากคิดมากเล่ห์มารวมรุน
ชุลมุลวุ่นวายไม่กลั่นกรอง
มากผู้คนมากความคิดปริศนา
มากปัญญาล้วนหลากมากสนอง
แลรอบข้างนั่งคิดจิตตรึกตรอง
อกกลับหมองหม่นเศร้าเหงาเหลือเกิน
ยิ่งพูดพร่ำทำท่าล้วนน่าคิด
เพียงแต่เราวิตกจริตคิดห่างเหิน
มากผู้คนมากหลายการดำเนิน
เราเผชิญความคิดจิตตนเอง
อยากหลบลี้หนีหายไปจากนี้
ทำอวดดีมากท่าพาข่มเหง
อยู่ในท่ามคนมากมายหมายกริ่งเกรง
แต่ตัวเองกลับเหงาเศร้าลำพัง