7 มีนาคม 2552 22:03 น.
แจ้นเอง
วันนี้มีความสุข
ได้สนุกสุขสดใส
สุขกว่าวันไหนๆ
เหมือนหัวใจจะโบยบิน
เคยเจ็บกับน้ำคำ
ที่ตอกย้ำให้ได้ยิน
รักเรามันพังภินท์
หมดสิ้นไปไม่ต่อเติม
เมื่อเธอก้าวจากไป
เพียงหวังให้ใจฮึกเหิม
กับความจริงสิ่งเดิมๆ
ค่อยๆเติมสิ่งดีดี
ไม่จดและไม่จำ
กับน้ำคำสิ้นไมตรี
สุขล้นในครานี้
กับใจที่เราได้คืน
กับวันที่เธอก้าวไป
เคยร้องไห้ด้วยขมขื่น
วารที่เคยกล้ำกลืน
ได้พลิกฟื้นแล้วนะใจ
เมื่อเธอคิดย้อนกลับ
และยอมรับผิดพลาดไป
ซ้ำขอย้อนคืนใหม่
สายเกินให้...อภัยแล้ว
4 มีนาคม 2552 22:09 น.
แจ้นเอง
ในท่ามกลางความเงียบเหงาเราเศร้าจิต
วนเวียนคิดถึงแต่เขาเฝ้าห่วงหา
นี่ก็นานหลายวันหลายเพลา
ไม่มีข่าวเหมือนทุกคราที่ร้างไกล
เธออยู่ไหนเป็นอย่างไรให้รู้บ้าง
ระยะทางใช่กางกั้นให้หวั่นไหว
บอกให้รู้ทุกวันอยู่อย่างตรอมใจ
ห่างแสนห่างยังรักใคร่ไม่จืดจาง
"กลิ่นกายหอมยังถนอมไม่ทิ้งหาย
รักษาไว้ท่ามดวงใจแจ่มกระจ่าง
หอมเอ๋ยหอมรวยรินกลิ่นแก้มนาง
ยังครวญครางพร่ำเพ้อเธอผู้เดียว"
ในท่ามกลางความเงียบเหงายิ่งเศร้าสร้อย
คิดถึงถ้อยคำเขาสุดเปล่าเปลี่ยว
พรอดคำรักมิทิ้งให้อยู่ดายเดียว
รักคลายเกลียวหรือไรไม่หวนคืน
2 มีนาคม 2552 09:22 น.
แจ้นเอง
เรียกร้องกันมานาน
ได้ประทานแล้วนางสาว
โจษขานกันนานยาว
แต่ถึงคราวใช่สำคัญ
ผู้หญิงหยิ่งในศักดิ์
กับความรักอย่าหุนหัน
คำนำหน้าที่ควรนั้น
อยู่ที่ฉันหรือที่ใคร
เพียงแค่ใช้เรียกขาน
ใช่ประจานความเป็นไป
โสดหรือควรครวญใคร่
เรื่องที่ใหญ่ควรคิดทำ
ชาติไทยจะเรืองรุ่ง
เจิดจรุงเมืองสยาม
สตรีไทยกับสงคราม
ไม่เคยคร้ามหญิงอาจอง
ครวญคิดพิจารณา
ทั้งโสภามากพิษสง
มุ่งหวังหญิงดำรง
ใช่แต่งองค์แค่ความงาม
มาเถิดสตรีไทย
อย่าหวั่นไหวใครเหยียดหยาม
สามัคคีทุกโมงยาม
รับมือความอยุติธรรม์
มาช่วยมาร่วมสร้าง
สตรีย่างสงบพลัน
คิด นำ อย่างสร้างสรรค์
นำไทยนั้นให้เจริญ
19 กุมภาพันธ์ 2552 21:36 น.
แจ้นเอง
คลี่อารมณ์บ่มรักกับตักแม่
อบอุ่นแท้แม่จ๋าคราถาโถม
ทุกข์โศกไร้ลูกยาคราตรอมตรม
อกอุ่นบ่มรักษาหายในเร็ววัน
รักใดใดมากมายหลายรักร้าง
รักมิจางเหือดหายจากใจฉัน
รักของแม่รักเดียวที่เกี่ยวพัน
ไม่เคยร้างห่างกันสักวันเดียว
ผิดหวังมากี่หนเหลือทนแล้ว
รักคลาดแคล้วทุกข์แท้แม่แลเหลียว
จะผิดหวังครั้งเท่าไหร่ไม่ดายเดียว
ผู้ชาญเชี่ยวปลอบขวัญแม่ฉันเอง
คลี่อารมณ์ตรมรักร้างอย่างวันนี้
เป็นวันที่สุดแสนเหงาเขาข่มเหง
ไร้อกแม่ซบกับเข่าเศร้าละเลง
ย้ำตัวเองรักจริงแท้แม่คนเดียว
หยิบกลอนเก่ามาเกลาใหม่
๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒
18 กุมภาพันธ์ 2552 09:19 น.
แจ้นเอง
ประตูสองบาน
ดึงใช้งานนานมาได้อาศัย
เมื่อมีดึงก็มีผลักเปลี่ยนกันไป
สองบานได้รับเข้า-ออกตลอดเวลา
ประตูมีไว้ปิด - เปิด
อย่าเตลิดหาว่าปิดตายหนา
อ่านดูก่อนผลักไปหรือสไลด์มา
โจรเห็นท่าคงหัวเราะเยาะในใจ
ประตูทำหน้าที่
รับสิ่งดี สิ่งร้ายเข้ามาใส่
เพียงเปิดเข้า - เปิดออกบอกกันไป
ไม่ปิดขังกันไว้ในประตู
เปรียบประตูเป็นจิตใจ
รับสุข - ทุกข์เข้าไว้น่าอดสู
ไม่ยอมแง้มเปิดออกหรอกโฉมตรู
ทุกข์อุดอู้อยู่ในใจไม่คลายปม
ดั่งประตูที่ปิดตาย
เปิดไม่ได้วุ่นวายจนขื่นขม
พังประตูก็บอบช้ำจำอกตรม
เปิดออกชม ชื่นความสุขทุกข์ จากไป
การใช้ชีวิต
อย่ายึดติดดึงดันฉันต้องได้
ปล่อยวาง เลื่อนข้างบ้างเป็นไร
ชีวิตใช่ของเราเขาเล่ามา
ประตูที่แท้ใช่ประตู
ตัวของกูแท้จริงใช่หรอกหนา
เป็นแค่จิตคิดเองหมั่นตรวจตรา
ใช้ชีวิต พิจารณา เปิดอ้าใจ
๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒