23 กันยายน 2549 22:42 น.
แค่ปลายปากกา
ฉันเป็นเพียงแก้วร้าว
ไม่อาจเทียบดวงดาวดวงไหน
เป็นเพียงแก้วร้าวหนึ่งใบ
ที่ใครต่อใครไม่ต้องการมัน
มีค่าไม่มากไปกว่านี้
ย้ำเตือนทุกทีให้ตื่นจากโลกของความฝัน
อย่าเอาตัวเองไปปะปนกับดาวนับร้อยพัน
เอาตัวเองไปผูกพัน...ค่าของฉันก็ไม่มากไปกว่าเดิม
21 กันยายน 2549 22:59 น.
แค่ปลายปากกา
ห่างหายออกไปทุกที
คนดีทำอะไรอยู่ไหน
แอบยิ้มแก้มปริกับใครต่อใคร
หรือทั้งหมดหัวใจมีฉันคนเดียวก็พอ
ขอให้เป็นข้อหลัง
จะได้มีพลังไม่ทุกข์ท้อ
ถึงแม้จะอยู่อย่างคนเฝ้ารอ
แต่ก็ดีกว่าตัดพ้อกับลมหายใจที่อ่อนลงทุกที
21 กันยายน 2549 22:54 น.
แค่ปลายปากกา
ตรงไหนที่เธอว่ารัก
เหมือนว่าจะแน่นหนักไม่หันเห
แต่ทุกครั้งก็เหมือนลมพัดลมเพ
ปล่อยให้บทกล่อมเหของน้ำตาทับถมกัน
จะให้ฉันแน่ใจในสิ่งใดได้บ้าง
ทำไมถึงปล่อยให้ความอ้างว้างเกาะกินใจฉัน
ปล่อยฉันให้จมกับความสับสนอยู่ทุกวัน
แล้วจะเอาอะไรมารับประกัน
........ว่าฉันสำคัญสำหรับเธอ................
21 กันยายน 2549 22:48 น.
แค่ปลายปากกา
ยิ้มกับตัวเองทุกครั้ง
แล้วยังนั่งริมหน้าต่างเสมอ
ลมหายใจเข้าออกยังเป็นเธอ
อีกยังเผลอเรียกเธอประจำทุกที
ไม่เคยเข้าใจตัวเองเหมือกัน
ว่าฉันทำอะไรอยู่ตอนนี้
ทำไมนะถึงยอมซื่อสัตย์จงรักภักดี
ทั้งๆที่ไม่เห็นจำเป็นอะไร
เธอก็จากไปนานแล้ว
ก็ไม่เห็นวี่แววว่าคนดีอยู่ไหน
ดึกดื่นคืนนี้เคล้าคลอเคียงใคร
แค่คิดหัวใจก็ร้าวรอน
แต่คงได้แต่รอ
ทั้งๆที่เริ่มท้อเริ่มไหวอ่อน
เหนื่อยเต็มทีก็เข้านอน
ถึงแม้ทุกตอนของค่ำคืนฝันร้ายทุกที
17 กันยายน 2549 18:53 น.
แค่ปลายปากกา
เคยคิดว่า...บนหนทางที่เลือกเดิน
ต่างคนต่างเผชิญสิ่งแปลกใหม่
ต่างคนต่างทิศทางที่เดินไป
ก้าวเท้าไม่เหยียบใครเป็นดี
แต่วันนี้ได้มองเห็นหลายมุมอับ
ซึ่งมันซ่อนลึกลับเต็มที่
ยังมีอีกกลุ่มคนคลุกฝุ่นผงธุลี
ใต้ฝ่าเท้าที่มีของสิ่งที่เรียกว่าคนด้วยกัน
มองภาพตรงหน้า
ด้วยใจอ่อนล้าไร้ฝัน
ไฉนหนอโลกอีกมุมจึงไร้ซึ่งจรรยาบรรณ
ก้าวสู่จุดหมายนั้นแต่เหยียบย้ำความฝันของหลายๆคน
ก่อนเคยคิดว่าโลกสวยใส
งดงามยิ่งใหญ่ทุกแห่งหน
แต่วันนี้ได้เข้าใจในตัวตน
ว่าคนบางคนก็ไม่ต่างจากหุ่นยนต์เท่าไหร่เลย