27 สิงหาคม 2554 09:51 น.
แค่ปลายปากกา
ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม กับรอยน้ำตา
ดูเหมือนไม่มีค่าเสียสุดแสน
ยิ้มบางๆ ให้คนที่ดูแคลน
อย่าไปแค้นโกรธเคืองให้เปลืองใจ
หากใจเราไม่สนไม่ได้แคร์
เค้าก็แค่ต้นไม้ที่พริ้วไหว
ไม่กระทบกระเทือนถึงทรวงใน
จะสนใจอะไรกับใจคน
อย่าเอาทุกข์มาเพิ่มทุกข์
หัดที่จะสุขบ้างในบางหน
อย่าลืมว่าเราเองแค่เป็นคน
เขาก็คนสนอะไรให้มากมาย
(ไม่ใช่คูโบต้า หรือสี อ่ะ ถึงทนได้อิๆๆ อย่าได้แคร์)
9 มีนาคม 2554 18:15 น.
แค่ปลายปากกา
น้ำตายคือสิ่งที่เธอมอบให้
แลกกับใจที่เธอได้จากฉัน
นี่เหรอการตอบแทนที่มีให้กัน
ปล่อยคนโง่ๆเฝ้าฝันเลือกรักและภักดี
จะพูดง่ายเกินไปไหม
ใครๆเค้าก็ทำอย่างนี้
เมื่อเธอไม่รักก็ปล่อยเธอไปซะที
ก็ได้จะกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้สัมภเวศรีอย่างเธอ
9 มีนาคม 2554 18:09 น.
แค่ปลายปากกา
เธอคือสีสันของชีวิต
ไม่ว่ามันจะถูกจะผิดหรือไม่
รู้แต่ว่าตอนนี้ความรักที่มีในหัวใจ
กำลังเบ่งบานข้างในทุกวันทุกๆวัน
เธอมาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหาย
ในวันที่ไม่มีใครข้างกายฉัน
เธอเป็นดั่งแสงของดวงจันทร์
ไม่สว่างทุกวันแค่บางครั้งก้ยังดี
ดีใจที่มีเธอ
ข้างกายเสมอไม่หลีกหนี
จะทุกขืจะสุขเหลียวไปก็มีเธอทุกที
ขอตอบแทนเธอคนนี้ด้วยสิ่งดีๆ.....นี่ไงหัวใจ
25 กุมภาพันธ์ 2554 23:34 น.
แค่ปลายปากกา
กลับมาแล้ว..กลับมา
แต่งแต้มปลายปากกาอยากขีดเขียน
หลังจากเจ็บร้าวรวดที่วนเวียน
เป็นเหมือนเสี้ยนทิ่มตำใจ
กลับมาในครั้งนี้
ตั้งใจดีมีกลอนใหม่
ขอต้อนรับความโสดอย่างเต็มใจ
เพิ่มพื้นที่ไว้ใช้ในบทกลอน
ความเจ็บที่ผ่านมา
ถือซะว่าอุทาหรณ์
บทรักถึงเจ็บรอน
แต่บทกลอนรักษาใจ
1 กันยายน 2553 14:43 น.
แค่ปลายปากกา
อย่าถามหาความไว้ใจ หรือศัทธา
เพราะตอนนี้มันไม่มีค่าอะไรจะเหนี่ยวรัง
ใจดวงนี้แตกยับมีเพียงซากที่หักพัง
ตอนนี้ไม่อาจรับฟังเสียงหัวใจ
ของฟังเสียงของสมอง
ซึ่งมันป่าวร้องว่า "เชื่อไม่ไหว"
กับคนที่ฉันคิดถึง ซึ้งแทบเป็นแทบตาย
แต่วันนี้หลงเหลือแค่ความ "เสียงดาย" ในวารวัน
กับภาพเก่าๆ ที่เรียกรอยน้ำตากลับคืน
สิ่งที่เธอหยิบยื่นมาพร้อมกับเสียงสะอื้นที่เหมือนฝัน
แต่มันคือความจริงที่โถมเข้ามาทั้งที่ตั่งตัวไม่ทัน
เพราะงั้น โปรดอย่าฝันถึง "ความเชื่อใจ" ไม่มีทาง