27 กรกฎาคม 2551 16:35 น.
แขม่วแมน
หมดแล้วหรือเลือดไทยในวันนี้
หมดแล้วหรือสามัคคีสมัครสมาน
หมดแล้วหรือความเห็นใจความเจือจาน
เห็นมีแต่ประหัตประหารผลาญให้จม
ยกธงชาติมาฟาดฟันอุตลุด
มิมีหยุดนั่นหรือคือเหมาะสม
ทำกันไปตามแต่ใจแต่อารมณ์
แค่คิดต่างจากผมคือคุณผิด
บอกโหยหาประชาธิปไตย
คิดหรือไม่ที่ทำไปไม่ใช่สิทธิ์
ทุกทุกคนมีเกียรติในความคิด
อย่างตัดสินว่าถูกผิดเพราะคิดต่าง
บอกรักชาติเทิดศาสน์ประกาศไว้
แต่ที่เกิดคือสิ่งใดใครคิดบ้าง
หรือตอนนี้เลือดไทยมันเจือจาง
สนแต่แค่สินจ้างเงินรางวัล
ใส่เสื้อเหลืองสายข้อมือสื่อสิ่งใด
รักในหลวงใช่มั้ยช่างน่าขัน
ที่กระทำนั่นหรือสื่อคำนั้น
หมดสิ้นกันความคิดประชาชน
ไทยตีไทยคนเจ็บไม่พ้นไทย
ทำกันไว้คิดถึงมั้ยเรื่องเหตุผล
ไทยตีไทยไทยร้องไห้ นะทุกคน
อย่าเป็นเบี้ยที่หล่นเกลื่อนกระดาน....
6 กรกฎาคม 2551 13:30 น.
แขม่วแมน
ครวญคร่ำ รำไร ไยเจ้า
คิดถึง เรื่องเก่า ให้หมอง
ฟากฟ้า งดงาม ไม่มอง
มามัว ร่ำร้อง ทำไม
ผิดพลั้ง พลาดแล้ว สำนึก
ก็พอ ให้ตรึก ดูได้
ย้ำคิด ย้ำทำ ได้ไร
แก้ไข นี่คือ ยอดคน
ผิดแล้ว ใครซ้ำ ช่างเขา
ระลึก ด้วยเรา สักหน
แก้ไข ด้วยแรง แห่งตน
ผ่านพ้น ด้วยใจ เปรมปรีดิ์
ไม่นาน เวลา ไหลผ่าน
ความทุกข์ ร้าวราน จะหนี
เริ่มใหม่ เริ่มเอง สักที
เวที ชีวิต อีกยาว
คนพลาด มิใช่ คนชั่ว
อย่ากลัว คำคน ว่ากล่าว
ก็แค่ ส่วนหนึ่ง เรื่องราว
ผ่านไป ก็เก่า เท่านั้น
มีตัว มีตน คนหนึ่ง
จงสู้ จงยืน อย่าหวั่น
คำคน มากมาย สารพัน
ก็แค่ ความฝัน ผ่านไป
คำคน อาจฆ่า ชีวิต
ความคิด จักอยู่ ต้านได้
คิดเถิด พลาดแล้ว ทำใจ
พลาดแล้ว เริ่มใหม่ ยังทัน...
4 กรกฎาคม 2551 21:05 น.
แขม่วแมน
จากบ้านมา สู่เมืองใหญ่ หวังสร้างฝัน
ผ่านคืนวัน เพาะบ่ม ให้ผันผวน
มีหลายรส มีหลายกลิ่น เร้าชักชวน
เกือบเซซวน ล้มไป กลางอบาย
จากบ้านทุ่ง มุ่งสู่กรุง สู้ชีวิต
ไกลห่างมิตร ชิดรู้ใจ เริ่มใจหาย
มาพานพบ มิตรใหม่ แม้มากมาย
แต่จะมี สักกี่ราย เป็นเพื่อนจริง
สิ่งสกปรก สิ่งโสมม เห็นอยู่ทั่ว
ต้องเตือนตัว อย่าหลงผิด ไปสุงสิง
พลาดไปแล้ว หมดอนาคต หมดทุกสิ่ง
ที่หมดยิ่ง คือฝันงาม ที่ร่างกัน
มีวันหยุด จงรุด กลับบ้านเถิด
กลับไปสู่ จุดกำเนิด จุดสร้างฝัน
กลับสู่อก พ่อกับแม่ ที่รอวัน
ลูกกลับมา อยู่พร้อมกัน แม้ชั่วคราว
กลับไปสูด ดมกลิ่น น้ำและหญ้า
อย่าหลงกลิ่น ยาสุรา เพื่อนหนุ่มสาว
พ่อแม่เจ้า ยังเฝ้าคอย ฟังเรื่องราว
ฟังข่าวคราว ลูกไปเรียน ในเมืองกรุง
พ่อทำงาน หาเงิน ส่งเสียเจ้า
อย่าให้เหงื่อ พ่อสูญเปล่า อย่างที่มุ่ง
ลูกได้ดี พ่อคุนเฟื่อง เลื่องทั่วคุ้ง
ลูกจมกรุง พ่อไร้กล้า สู้หน้าใคร
ถนนนี้ กลับสู่ บ้านที่รัก
กลับไปพัก หนุนตัก ให้ผ่องใส
จะได้กลับ มาเรียนต่อ อย่างสุขใจ
โปรดกลับไป ถนนนี้ กลับบ้านเธอ..
3 กรกฎาคม 2551 22:45 น.
แขม่วแมน
เงาไม้ทอด เป็นร่ม ให้นั่งพัก
นั่งเอนหลัง พิงพนัก ปล่อยความคิด
เฝ้าคิดถึง เหตุการณ์ ในชีวิต
ผ่านไปนิด เริ่มวันใหม่ ไวเกินทัน
มองดูคน เดินผ่านไป ใจเหงาลึก
ปล่อยอารมณ์ ปล่อยให้นึก ตามความฝัน
ใจมันหวน คิดถึง คืนและวัน
ที่แปรผัน จากเพื่อนมา สู่เมืองกรุง
เดินเหงาเหงา มีแค่เงา ตามห่างห่าง
เดินมาตาม ความฝัน ที่หวังมุ่ง
ทำไมน้อ หวังเจริญ ต้องมากรุง
ถ้าออกทุ่ง จะไม่รุ่ง หรืออย่างไร
คนเดินไป ไหล่ชนไหล่ ไม่ขอโทษ
แต่ละคน หน้าเหมือนโกรธ แต่ปางไหน
แต่ละคน ไหลลื่น เป็นคลื่นไป
หยุดไม่ได้ คนหลัง ดันเข้ามา
ทุกชีวิต แก่งแย่ง และแข่งขัน
การแบ่งปัน เป็นสิ่งยาก จะค้นหา
มองทางไหน มีบ้างมั้ย ในแววตา
ที่ส่อว่า เมตตา ปรารถนาดี
แง่งดงาม ยังมีอยู่ ในเมืองใหญ่
ยังมีซ่อน น้ำใจ ให้สดสี
ยังมีมุม งดงาม ด้วยความดี
ยังมีมุม ที่เต็มปรี่ ด้วยน้ำใจ
"บริจาค หน่อยครับ สร้างห้องสมุด"
หนุ่มสาวรุ่น พูดไม่หยุด ยิ้มสดใส
สิ่งที่ทำ นั่นแหละเรียก ว่าน้ำใจ
ยังคงมี ในเมืองใหญ่ ให้ได้ดู
เมล็ดพันธุ์ เม็ดใหม่ กำลังก้าว
มีความคิด ต่างจากเก่า อย่างเลิสหรู
มีความคิด ใหม่ใหม่ มาให้ดู
แค่ต้องการ ให้รู้ ไม่ต้องชม
คุ้มเหลือเกิน ได้มาเดิน ในจุดนี้
ชีวิตยัง มีแง่ดี ไม่ได้มีแต่ขม
จะมองโลก ต้องอย่าลืม ว่ามันกลม
มองสังคม มองให้ทั่ว อย่ามั่วเอง..