18 ธันวาคม 2553 18:54 น.

* ตำรายาสมุนไพรกลางบ้าน ๓*

แก้วประเสริฐ

76.gif
                         
                          *  ตำรายาสมุนไพรกลางบ้าน ๓  *

                                      ยาแก้อหิวาตกโรค

ขนานที่ ๑  ท่านให้เอา ผลมะกรูด ๑ ซีก  ผ่านเอาเฉพาะผิว กับ พริกไทยร่อน 
๒๐  เม็ด นำมาตำให้ละเอียด ผสมกับ สุรา ครึ่งถ้วยชา ใช้รับประทานทันที
ในขณะที่ท้องเดินอย่างแรง  จะหยุดท้องเดินทันที มีสรรพคุณอย่างชะงัดนักแล
เคยใช้รักษาได้ผลดีมาแล้วแลฯ
(พระครูวิสุตธรรมรส วัดดอนเมือง กรุงเทพมหานครฯ)

ขนานที่ ๒  ท่านให้เอา เกลือทะเล (เกลือใส่แกง) กับ เนื้อมะขามเปียกตัวยา
ทั้ง ๒ อย่างนี้ เอาอย่างละเท่าๆกัน นำมาผสมกันแล้ว ใช้รับประทาน 
มีสรรพคุณจนะทำให้ถ่ายเอาพิษออกมาจนหมดท้อง ยานขนานนี้เคยใช้
รักษาได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ
(รตอ. เปี่ยม บุญยะโชติ กรุงเทพมหานคร)

ขนานที่ ๓  ท่านให้เอา เมล็ดในลูกกะบูน กับ การบูร ตัวยาทั้ง  ๒ อย่างนี้
เอาอย่างละพอประมาณ นำมาตำผสมกันให้ละเอียด ผสมกับ น้ำปูนใส
(น้ำปูนแดงกินกับหมาก) ใช้รับประทาน มีสรรพคุณอย่างชะงัดนักแล
เคยใช้รักษาได้ผลดีมามากแล้วแลฯ
(วิทยาทานสงวนนาม)

ขนานที่ ๔  ท่านให้เอาเปลือกมังคุด (สด หรือแห้ง ก็ได้)  กับ การบูร ตัว
ยา ๒ อย่างนี้ เอามาอย่างละพอสมควร นำมาตำให้ละเอียด ผสมกับน้ำปูน
ใส(น้ำปูนแดงกินกับหมาก) ใช้รับประทาน มีสรรพคุณอย่างชะงัดนักแล
เคยใช้รักษาได้ผลดีมามากแล้วแลฯ
(วิทยาทานสงวนนาม)

ขนานที่ ๕  ท่านให้เอา ผ้าขี้ริ้ว (ผ้าเช็ดถูเรือน ยิ่งสกปรกมากๆก็ยิ่งดี)
นำมาเผาไฟแล้วบดให้ละเอียด ผสมกับ สุรา หรือ ผสมกับน้ำร้อนก็ได้
ใช้รับประทาน มีสรรพคุณอย่างชะงัดนักแล เมื่อหยุดเดินแล้ว ให้รีบนำตัว
ผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลต่อไปฯ)
(วิทยาทานสงวนนาม)

ขนานที่ ๖  ท่านให้เอาพริกไทยร่อน ๗ เม็ด พริกขี้หนู ๗ เม็ด เกลือตัวผู้
(เกลือทะเลที่เม็ดยาวๆ ๗ เม็ด ตัวยาทั้ง ๓ อย่างนี้ นำมาตำให้ละเอียด ผสม 
กับ สุรา ๑ ช้อนโต๊ะ กวนให้เข้ากัน ใช้รับประทานเพียงครั้งเดียว
มีสรรพคุณแก้อหิวาตกโรคได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ
(พระอธิการสุดใจ อิสิญาโณ วัดสว่างเนตร อ.ชายแดน เพชรบูรณ์)

ขนานที่ ๗  ท่านให้เอา  รากต้นสลอด นำมาล้างน้ำให้สะอาดแล้ว หั่นเป็น
แว่นบางๆใส่หม้อดินกับน้ำปูนใส (น้ำปูนแดงกินกับหมาก) มากพอสมควร
ใช้รับประทานประมาณ ๑ ถ้วยชา  เมื่อรับประทานยานี้แล้ว ท้องก็ยังจะถ่าย
อยู่แต่น้อยลง ไม่ต้องตกใจ มีสรรพคุณแก้อหิวาตกโรคได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล
เคยใช้รักษาได้ผลดีมามากแล้ว แม้จะเป็นมากอย่างไรก็หายแลฯ
(พระคุณเทพสุวรรณธัช วัดสระพังลาน สุพรรณบุรี)

ขนานที่ ๘  ท่านให้เอา กาแฟดำ ๑ ถ้วยชา (ชงให้แก่ๆข้นๆจนเป็นยางเหนียว
ไม่ต้องใส่นม ไม่ต้องใส่น้ำตาล) นำมาให้ผู้ป่วยรับประทาน ถ้าผู้ป่วยอาการหนัก
หมดสติไม่รู้สึกตัว  ให้พยายามงัดขากรรไกร กรอกน้ำยาทีละน้อยๆ จนยาหมด
ถ้วยชา  ผู้ป่วยจะหายจากโรคอหิวาต์ได้อย่างน่าอัศจรรย์  เคยใช้รักษาหายมาแล้ว
มีสรรพคุณอย่างชะงัดนักแลฯ เมื่อหลังจากหายโรคแล้ว ๗ วัน ให้รับประทานยา
ระบายท้องอ่อนๆ เพื่อให้ระบบการขับถ่ายเป็นไปตามปกติฯ
(พระครูสิริเลขการ  วัดด่านสำโรง อ.เมือง สมุทรปราการ

                               ยาแก้คนกินยาพิษ

ขนานที่ ๑  ท่านให้เอา ไข่ขาว (ไข่ไก่ หรือ ไข่เป็ด ก็ได้ คัดเอาไข่แดงออกเสีย)
นำมากวนให้ละลายดีแล้ว ใช้รับประทาน ชั่วเวลาครู่หนึ่งเท่านั้น ผู้กินยาพิษนั้น
จะอาเจียนเอายาพิษออกมาจนหมดท้อง   แล้วนำผู้ป่วยนั้นส่งโรงพยาบาลต่อไปฯ
(บุญผ่อง ชัยนาท (หมอชาวบ้าน))

ขนานที่ ๒  ท่านให้เอา น้ำปลาร้าหลน (ที่เย็นลงแล้ว กรองเอาเฉพาะน้ำปลาร้าเท่านั้น)
นำมากรอกลงในปากของคนกินยาพิษนั้น ชั่วเวลาเพียง ๓-๔ นาทีเท่านั้น  ผู้กิน
ยาพิษนั้นจะอาเจียนเอายาพิษออกมาจนหมดท้อง แล้วรีบนำตัวผู้ป่วยนั้นส่ง
โรงพยาบาลต่อไปฯ
(พุทธบุตรภิกขุ นครราชสีมา (หมอชาวบ้าน))

                         ยาแก้พิษงูกัดทุกชนิด

ขนานที่ ๑  ท่านให้เอา ต้นกระเพราแดงทั้งห้า (เอาทั้งต้น กิ่ง ก้าน ใบ และราก)
นำมาล้างน้ำให้สะอาด ตำให้ละเอียด ผสมกับ เหล้า คั้นเอาเฉพาะน้ำยา ใช้รับประทาน
ให้กากยาพอกปากแผล มีสรรพคุณรักษาพิษงูกัดได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล 
เคยใช้รักษาได้ผลดีมามากแล้วฯ
(พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ วัดสุวรรณาราม เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานครฯ)

ขนานที่ ๒  ท่านให้เอา รากต้นนุ่น นำมาล้างน้ำให้สะอาด ฝนกับฝาละมีหม้อดิน
ผสมกับ สุรา ประมาณน้ำยา ๑ ถ้วยชา ให้ผู้ป่วยรักประทาน และบดรากต้นนุ่นให้
ละเอียด ผสมกับ สุรา ใช้พอกที่ปากแผล มีสรรพคุณแก้พิษงูกัดได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ
(พระครูรัตนานุรักษ์  วัดปงสนุกใต้ ลำปาง)

ขนานที่ ๓  ท่านให้เอา ต้นเสลดพังพอนทั้งห้า  (เอาทั้งต้นตลอดถึงราก) น้ำมาล้างน้ำ
ให้สะอาด ตำให้ละเอียด ผสมกับ สุรา คั้นเอาเฉพาะน้ำยา ใช้รับประทาน  ใช้กากยา
พอกที่ปากแผล หรือตำต้นเสลดพังพอน ผสมกับ สุรา อีกส่วนหนึ่ง ใช้พอกปากแผล
ก็ยิ่งดี  มีสรรพคุณแก้พิษงูกัดได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล เคยใช้รักษาได้ผลดีมากแล้วฯ
พระครูปรีชา ปริยืดกิจ วัดศิลามูล อ.บางเลน นครปฐม)

ขนานที่ ๔  ท่านให้เอา ยาฉุน (ยาเส้นที่ใช้มวนกับใบตองหรือใบจากสูบ) นำมาขยำใน
น้ำปัสสาวะ  (ที่ไม่มีเชื้อโรค)  คั้นเอาเฉพาะน้ำยา  ใช้กรอกปากคนที่ถูกงูพิษกัด  ใช้กาก
ยาพอกที่ปากแผล รับรองหายเด็ดขาด เคยใช้รักษาได้ผลดีมามากแล้ว ฯ
(พระครูปลัดบรรจบ วัดช่องลม ราชบุรี)

ขนานที่ ๕ ท่านให้เอา ต้นเสลดพังพอนทั้งห้า (เอาทั้งต้นตลอดถึงราก) นำมาล้างน้ำให้
สะอาด ตำให้ละเอียด  ผสมกับ น้ำปลา  (น้ำปลาใส่แกง) คั้นเอาเฉพาะน้ำยา กรองด้วย
ผ้าขาวบาง  ใช้น้ำยารับประทาน ผู้ป่วยที่ถูกงูพิษกัดจะอาเจียนเอาพิษออกมา 
มีสรรพคุณอย่างชะงัดนักแล  เคยใช้รักษาได้ผลดีมาแล้ว ฯ
(พระครูปรีชา ปริยัตกิจ วัดศิลามูล อ.บางเลน นครปฐม)

ขนานที่ ๖  ท่านให้เอา ต้นน้อยหน่าทั้งห้า (ถอนเอาต้นเล็กๆทั้งต้น ตลอดถึงราก)
กับ ต้นก้างปลาทั้งห้า (เอาทั้งต้นตลอดถึงราก) นำมาล้างน้ำให้สะอาด
ตำให้แหลก ผสมกับ สุรา คั้นเอาเฉพาะน้ำยา ใช้รับประทาน ใช้กากยาพอกที่ปากแผล
มีสรรพคุณแก้พิษงูกัดได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ
(พระครูใบฎีกาประพันธ์ วัดหงษ์อรุณรัศมี สมุทรสาคร)

ขนานที่ ๗   ท่านให้เอาผักเสี้ยนผีทั้งห้า  (เอาทั้งต้นตลอดถึงราก) นำมาล้างน้ำให้สะอาด
ตำให้ละเอียด ผสมกับ เหล้า คั้นเอาเฉพาะน้ำยา ใช้รับประทาน ใช้กากยาพอกที่ปากแผล
มีสรรพคุณแก้พิษงูกัดได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล เคยใช้รักษาได้ผลดีมามากแล้วฯ
(วิทยาทานสงวนนาม)

ขนานที่ ๘  ท่านให้เอา ใบต้นลูกใต้ใบ ๑ กำมือ นำมาใส่ปากเคี้ยวพอแหลกแล้ว
 คายออกมาผสมกับ สุรา คั้นเอาน้ำยา ใช้รับประทาน ใช้กากยาพอกที่ปากแผล
อาการที่เจ็บปวดเพราะพิษงูจะพลันหายไปภายใน ๕ นาที ยาขนานนี้มีสรรพคุณ
แก้พิษตะขาบกัด  แมงป่องต่อย ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ
(พระสมุห์ปักษ์ โชติปญฺโณ วัดทะเล อ.สูงเนิน นครราชสีมา)

ขนานที่ ๙  ท่านให้เอาหัวอุตพิด นำมาล้างน้ำให้สะอาด ตำให้แหลก ผสมกับ สุรา
คั้นเอาเฉพาะน้ำยา ประมาณ ๑ ถ้วยชา  ให้ผู้ป่วยรับประทาน เพียงครั้งเดียวใช้กาก
ยาพอกที่ปากแผล มีสรรพคุณแก้พิษงูกัดได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล เคยใช้รักษา
ได้ผลดีมาแล้วฯ
(พระครูประสาธน์นวกิจ วัดโพธิ์งาม อ.เขาย้อย เพชรบุรี)

ขนานที่  ๑๐  ท่านให้เอา ต้นฟ้าทะลายโจรทั้งห้า (เอาทั้งต้นตลอดถึงราก) ๑ กำมือ
น้ำมาล้างน้ำให้สะอาด ตำให้แหลก ผสมกับ สุรา  คั้นเอาเฉพาะน้ำยา ประมาณ ๑ ถ้วยชา
ใช้รับประทาน ใช้กากยาพอกที่ปากแผล มีสรรพคุณแก้พิษงูกัดได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ
(พระมหาสุเทพ ผุสสธมฺโม วัดพระปฐมเจดีย์ นครปฐม)

ขนานที่  ๑๑  ท่านให้เอา  ใบเสลดพังพอน ๑ กำมือ นำมาล้างน้ำให้สะอาด ตำให้แหลก
ผสมกับ น้ำซาวข้าว คั้นเอาเฉพาะน้ำยา ประมาณ ๑ ถ้วยชา ใช้รับประทาน ใช้กากยา
พอกที่ปากแผล มีสรรพคุณแก้พิษงูกัดได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ
ยาขนานนี้ ใช้รักษาโรคพิษไฟลามทุ่ง โรคเริม งูสวัด ได้ผลดีอย่างชะงัด เคยใช้รักษาได้
ผลดีมาแล้ว ฯ
(พระครูไพศาลธรรมวาที วัดดอกยายหอม อ.สามพราน นครปฐม)

ขนานที่ ๑๒  ท่านให้เอา ต้นผักกะเฉด ๑ ต้นผักคราด ๑ ต้นผักเสี้ยนผี ๑ ต้นผักชีใหญ่ ๑
 ตัวยาทั้ง ๔ อย่างนี้เอาอย่างละเท่าๆกัน น้ำมาล้างน้ำให้สะอาด ตำให้แหลก ผสมกับ สุรา
หรือ น้ำซาวข้าว เป็นกระสาย คั้นเอาน้ำยาประมาณ ๑ ถ้วยชา ใช้รับประทาน ใช้กากยา
พอกที่ปากแผล มีสรรพคุณแก้พิษงูกัด  แก้เลือดทำ  ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ
(พระบญส่ง กิตฺติญาโณ  วัดป่าพระเจ้า อ.ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี)

   ยาแก้พิษงูกัดทั้ง ๑๒ ขนานนี้ มีสรรพคุณแก้พิษงูกัดทุกชนิด แก้ได้ทุกกรณี แม้ผู้ถูก
งูกัดนั้นจะสลบหมดสติแน่นิ่ง ไม่รู้สึกตัวแล้วก็ตาม  ก็พึงช่วยกันงัดปากให้อ้าออก
แล้วกรอกน้ำยา ให้สู่ท้องให้ได้ ผู้ป่วยจะฟื้นขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์  เคยใช้รักษา
ได้ผลดีมามากแล้วฯ

                                  ยาแก้พิษงูกัดในขณะตั้งครรภ์
    ท่านให้เอา สารส้ม มากพอสมควร นำมาบดให้ละเอียด ผสมกับ สุรา ประมาณน้ำยา
๑ ถ้วยชา ให้รับประทานเวลาหลังจากคลอดลูกแล้ว  มีสรรพคุณแก้พิษงูกัดได้ผลดีอย่าง
ชะงัดนักแลฯ
(พระอธิการสาคร  วรมงฺคโล วัดวังหิน อ.ตรอน อุตรดิตถ์)

       วันนี้เอาแค่นี้ก่อนนะครับ  พิมพ์ซะตาพร่าไปหมดแล้วครับ หากไม่มีปัญหาใดๆพรุ่งนี้
จะนำมาลง ยาสมุนไพรให้อีก ยาลืมนะครับเขารักษากันหายกันมามากต่อมากนักแล้ว ก่อน
ที่แพทย์แผนปัจจุบันจะกำเนิดขึ้นอีก บางครั้งระยะทางไกลๆยาหญ้าปากคอกนี่แหละช่วย
ชีวิตคนมามากมายแล้ว อย่าดูถูกสมุนไพรไทยเชียวนา มิฉะนั้นสูญพันธุ์ไปนานแล้ว สวัสดี.

                     *  แก้วประเสริฐ.  *

qp011.gifCartoon_Animation_08.gif692823n68ya60jv9.gif				
18 ธันวาคม 2553 16:17 น.

อทิสมานกาย ๕๒

แก้วประเสริฐ

76.gif
                               อทิสมานกาย ๕๒

   สารวัตรและผู้กองทั้งสองหลังจากที่เหตุการณ์สงบเรียบร้อย ก็เตรียมตัวจะกลับ
โดยจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยหนึ่งเฝ้าดูแลสิ่งของที่ยึดมาได้ไว้  วิทยุไปยังสถานี
ตำรวจเพื่อขอรถมายกสิ่งของตลอดจนผู้จับกุมเพื่อนำตัวไปยังโรงพัก  ทันใดนั้น
เจ้าแสงสีก็มารายงานว่า
   “ท่านสารวัตรครับ  นายผมสั่งไว้ว่าหลังจากเหตุการณ์ราวตกเที่ยงๆจะมีผู้ใหญ่
ทางกรุงเทพฯพร้อมท่านรองผู้กำกับมาตรวจดูการจับกุมเหล่านี้ครับ”
   “อย่างนั้นหรือแสงสี  ขอบใจมากนะเอ๊ะ??ท่านมาเมื่อไหร่ผมไม่ยักจะเห็น
ท่านเลยนี่นา????....”  ท่านสารวัตรถามขึ้นอย่างแปลกใจ
   “ท่านสั่งมาทางเจ้าสินชัยครับ ว่าหากเหตุการณ์ทางนี้เรียบร้อยให้เรียนท่านสารวัตร
ด้วยครับ  ตอนนี้เจ้าสินชัยกำลังออกไปทำการจับกุมเสี่ยหว่างอยู่ ยังไม่กลับมาเลย”
   “นั่นซินะถึงไม่เห็นหน้าสินชัยเลย ยังสงสัยเหมือนกันอยู่  ตรวจสอบดูแล้วด้วยสาย
รายงานว่า งานนี้เสี่ยหว่างมาควบคุมงานเองด้วย ตรวจสภาพศพทุกศพแล้วไม่มีเสี่ย
หว่างอยู่เลย ก็ยังสงสัยเหมือนกันว่าจะถามแสงสีว่ามันหลบหนีไปทางไหนทางเรา
ถึงไม่ได้เห็นเลย  และผมยังได้รับรายงานจากสายเพิ่มเติมอีกว่า บรรดารถขนไม้เถื่อน
ที่ออกเดินทางไปแล้ว ถูกด่านสะกัดจับกันได้อีกหสายสิบคันรถหมดแล้ว ตอนนี้ทั้ง
ของและคนขับตลอดจนผู้นำทางก็ถูกจับกุมจากด่านสะกัดจนหมดสิ้น นับว่าเป็น
งานที่จะต้องอึกกระทึกครึกโครมเป็นแน่แท้  หนังสือพิมพ์คงจะพาดหัวหน้าแรก
ถึงผลงานการจับกุมรายใหญ่ๆนี้ล่ะแสงสี” 
   “ครับเรื่องผู้ใหญ่นั้นให้ท่านสารวัตรเตรียมต้อนรับ  ป่านฉะนี้เจ้าสินชัยยังไม่มาเลย
หากยังไม่เสร็จธุระกระมัง หากเสร็จก็คงจะมาแหละครับ”  แสงสีรายงานเพิ่มเติม
     ครั้นแล้วสารวัตรก็เดินไปแจ้งผู้กองทั้งว่า   ให้จัดเจ้าหน้าที่เตรียมตัวด้วยจะมี
ท่านรองผู้กำกับนำผู้ใหญ่ทางกรุงเทพฯมาตรวจสภาพด้วย   ดังนั้นผู้กองจึงหันไปสั่ง
ตำรวจทั้งหลายให้เตรียมต้อนรับผู้ใหญ่ที่จะมาตรวจงานทันที

     เสียงปืนดังแว่วมาแต่ไกลพร้อมกับเสียงรถยนต์แล่นมาด้วยความรวดเร็ว ใกล้เข้ามา
สินชัยก็สั่งให้ทั้งหมดเตรียมตัวให้พร้อม
    ภายในรถยนต์ส่วนตัวของเสี่ยหว่างนั้น  มันหันไปมองทางด้านหลังก็เห็นเจ้าหน้าที่
ตำรวจวิ่งสลับกันไปๆมาๆตามหลังมาพร้อมยิงใส่รถของมัน  แต่กระสุนไม่สามารถ
จะทำอันตรายแก่มันทั้งสองได้  เสี่ยหว่างจึงสั่งเจ้าเว้งเร่งเครื่องทันที
     “เฮ้ยๆๆๆ!!!!....มันยกพวกมาไล่ยิงเราแล้วว๊ะ???...มันตามหลังมาติดๆเชียวเลย
มึงเร่งเครื่องให้สุดเลยนะ อย่างไรรถกูแต่งเครื่องไว้สูงมันจะคงไล่มาไม่ทันหรอก”
     “ครับเสี่ย  อั้วก็เร่งเหยียบจนเต็มคันเร่งแล้วล่ะ” ไอ้เว้งกล่าวแก่เสี่ยหว่าง
     “เออดีๆๆว๊ะ  กูก็เห็นข้างทางมองไม่ทันเลยล่ะ แต่นี่เสียงปืนเงียบสงสัยมันจะตาม
เรามาไม่ทันแล้ว “  เสี่ยหว่างเอ่ยขึ้นด้วยความโล่งใจ
     แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงปืนยิงมายังรถมันอีก รีบแจ้งให้ไอ้เว้งรู้ ไอ้เว้ง
หน้าตาตื่น รีบเหยียบคันเร่งด้วยเมื่อกี้นี้มันผ่อนคันเร่งลง ด้วยคิดว่าหากขับไปใน
ลักษณะนี้อันตรายมาก หากกระทบอะไรเข้า  รถจะประคองตัวไม่ได้มันคิดขับไป
หัวใจมันเต้นตุ้มๆตั้มๆ  แต่ความกลัวถูกจับมีมากกว่า จึงเหยียบจนสุดคันเร่ง
รถวิ่งราวกับลูกธนูที่ถูกยิงออกจากแหล่งด้วยความเร็วมาก

      ฝ่ายลูกน้องสินชัยที่ตามหลังรถเสี่ยหว่างมาติดๆกันนั้น ซึ่งมีเพียงตนเดียว แต่มัน
อาศัยวิ่งด้วยพลังงานที่เหนือกว่าคนธรรมดาจะทำได้  สลับไปตามต้นไม้ข้างทางบ้าง
ลวงล่อว่ามีพวกตำรวจหลายนาย ให้เสี่ยหว่างเห็นซึ่งมองดูด้านข้างหลังรถยนต์
พร้อมยิงปืนสลับกันไปมาเป็นระยะๆ
    เมื่อไอ้เว้งมองไปทางข้างหน้าใจมันหายวูบทันที จะเลี่ยงหลบก็ไม่ได้ด้วยทางรถแคบ
มีทางแค่เฉพาะรถสวนกันเท่านั้น  
 ด้านหน้ามันวางด้วยขอนไม้ใหญ่ขวางทางไว้หากมันหากขับรถด้วยความเร็วสูงเช่นนี้ 
 มันรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากไม่ชะลอรถลง  แต่ไม่ทันเสียแล้ว  
จึงรีบร้องบอกเสี่ยหว่างด้วยความตกใจยิ่ง
    “ไอ้หย่าซีเลี้ยววา   อาเฮียเอ๋ย ลื้อดูซิข้างหน้ามีอะไรมาขวางโว้ย”  มันลืมตัวด้วย
ความกลัว นัยน์ตามันเหลือกโพลงครั้นจะชลอรถไม่ทันวิ่งมาด้วยความเร็วสูง
เมื่อหากเหยียบเบรครถก็จะพลิกคว่ำหลายตลบทันที  ระยะก็กระชั้นชิดเกิน
ไปที่จะห้ามรถโดยเหยียบเบรคในระหว่างความเร็วสูงกว่าไม่ได้อีก
 นัยน์ตามันเหลือกโพลงด้วยความตกใจสุดขีด มันช้าเกินกว่าจะแก้ไขเสียแล้ว

      ครั้นเสี่ยหว่างหันไปมองข้างหน้าด้วยมันมัวแต่มองด้านหลังอยู่ พอกลับมามอง
เห็นข้างหน้าเท่านั้น หน้ามันเปลี่ยนสีทันทีมันรู้แล้วว่าอะไรจะเกิดขึ้น ยิ่งข้างทางที่
รถใช้วิ่งนั้นด้านหนึ่งติดเขา อีกด้านหนึ่งเป็นเหวลึก นัยน์ตามันเหลือกลานขึ้นทันที
   “ไอ้เว้งโว้ยๆๆๆ.....”เสียงยังไม่ทันขาดคำรถก็ปะทะกับขอนไม้ที่ขวางกันชั้นแรก
ตวัดกระทบข้างรถยนต์มันทันที รถส่ายไปส่ายมายังกับงู จนหมุนไปรอบๆและ
แล้วก็ไปกระทบยังขอนไม้ใหญ่ชั้นที่สองอีก รถพลันพลิกคว่ำกลับไปกลับมาหลาย
ตลบพลัดตกลงไปยังเหวข้างทางทันที
     “ไอ้เว้งๆๆๆช่วยกูด้วยโว้ย” เงียบเสียงไอ้เว้งตอบไม่ได้ด้วยหน้าอกมันถึงจะมี
เครื่องป้องกันเป็นถุงลมแต่ความเร็วเกินขนาดและยิ่งเป็นรถที่
ตบแต่งขึ้นใหม่เป็นซุปเป้อร์สปรี๊ดอีกด้วย  จึงทำให้หน้าอกมันแทกกับพวงมาลัย
อย่างจังจนมันสลบไปทันที
รถที่ขาดการควบคุมก็ถลาลงจากถนนพุ่งตกลงไปข้างทางถลาสู่ยังเหวลึกข้างทาง

      เสียงร้องของเสี่ยหว่างร้องอย่างโหยหวนลอยละลิ่วตามไปด้วยตัวมันเอง
ก็มีเข็มขัดป้องกันคาดไว้อยู่ด้วย   เสียงดังสนั่นยามเมื่อรถปะทะกับต้นไม้ต่างๆ
ที่เรียงรายตามไหล่เขา ปะทะต้นโน้นทีต้นนี้ที ม้วนตัวตลบไปตลบมา 
จนรถมันขาดกลางเป็นสองท่อน
     ประกายไฟแลบหม้อน้ำมันแตก  น้ำมันภายในรถโดนประกายไฟก็เกิดระเบิด
ขึ้นทันทีด้วยความเร็วแรง ต้นไม้บางต้นขาดจากกัน  ฟาดครูดไปตามเขาลงสู่เบื้อง
ล่างทำให้ต้นไม้ต่างๆที่เล็กๆต่างหักระเนระนาดไปตามๆกันล่วงลงสู่ก้นเหวไป
    ส่วนท่อนหลังที่เสี่ยหว่างนั่งอยู่ขาดกลางนั้นกลิ้งไปพร้อมกับไฟที่แลบเผาร่าง
มันซีกหนึ่ง เสียงระเบิดของท่อนรถส่วนหน้าแหลกเป็นชิ้นๆพร้อมต้นไม้ต่างๆ
        แต่มันก็ยังไม่ตายด้วยท่อนหลังรถไม่ระเบิดคงระเบิดส่วนที่ขาดด้านหน้ารถ
ที่ไอ้เว้งขับอยู่มันคิดว่าไอ้เว้งคงตายพร้อมกับรถที่ระเบิดไปแล้ว  ไปค้างยังต้นไม้
ระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว  ไฟลุกท่วมด้านหน้าจนกระทั่งไปไหม้ยังบรรดาเหล่า
ใบไม้แห้งอีกด้วย   แต่ท่อนที่มันนั่งมานั้นไฟบัดนี้มันดับไปแล้วแต่ท่อนล่างรถ
มันยังไม่ได้ปะทะกับต้นไม้อีก  หล่นลงไปยังเบื้องล่างทันที

      เมื่อท่อนหลังรถตกยังบนพื้นที่ไม่มีหินรองรับ พลิกหงายขึ้น ประตูยังปิดอยู่แน่น
ด้วยล๊อคที่มันล๊อคเอง สภาพรถแทบจะแบนติดกับพื้น มีส่วนที่เสี่ยหว่างอยู่เนื่องจาก
ด้านหลังรถที่ยาวบี้มาจนถึงแทบจะติดมัน   มันแทบสลบอาศัยที่มันใจแข็งทรหด
อดทนยิ่งนัก  จึงแลเห็นท่อนขาดระหว่างเบาะที่กั้นไว้  จึงค่อยๆพยุงคลานออกมาได้ 
 พอมันโผล่หน้าออกจากตัวรถที่ขาด มันก็ต้องสะดุ้งตาเหลือกค้าง   
    เมื่อมันเห็นชายสองคนถือปืนอาก้ายืนรอต้อนรับมันอยู่แล้ว  มันตาเหลือกโพลง
คิดจะเอ่ยคำจะพูด  แต่ช้าไปแล้วเสียงที่มันได้ยินคือเสียงของปืนอาก้าดังพรืดๆๆๆ
ร่างท่อนบนที่ยังไม่พ้นรถก็เต้นเร่าๆไปตามแรงกระสุนที่ยิงมาเป็นชุดๆ ซีกหนึ่ง
ของใบหน้ามันที่ส่วนหัวหายแตกกระจายไปทันที  สมองและเลือดสาดไปทั่วรถ
แต่ร่างมันยังสั่นๆอยู่ไปๆมาๆ คล้ายปลาช่อนที่ถูกทุบที่หัว
      จนกระทั่งร่างสั่นๆนั้นพลันชะลอลงเงียบสงบทันที  แม้แต่หน้าคนยิงมันยังไม่
ทันได้เห็นเหมือนกันว่าเป็นใครที่ยิงมัน  วิญญาณอันชั่วร้ายด้วยจิตใจอันโสมมก็
ลอยละล่องไปทันใด

      ชายทั้งสองที่เป็นหุ่นมองดูสักพักหนึ่งแล้ว  ก็ต่างทะยอยกันขึ้นเขาไปตรวจยัง
สภาพรถที่ขาดท่อนหน้ารถ  เห็นสภาพแล้วก็รู้ว่าไม่มีใครเหลือรอดชีวิตไปได้ด้วย
เห็นร่างหนึ่งที่พวงมาลัยไหม้เกรียมเป็นก้อนสีดำๆอมน้ำตาลเกาะอยู่กับพวงมาลัย
ที่ถูกไฟไหมคงเหลือแต่ซากเศษเหล็กเท่านั้น
       ดังนั้นร่างทั้งสองก็ขึ้นมายังปากเหวริมถนน เข้าไปรายงานผลแก่เจ้านายมันทันที
   “เรียบร้อยครับนาย ไม่มีใครรอดชีวิตไปได้ตายกันหมดแล้วครับ” หนึ่งในสอง
กล่าวรายงานทันที 
    “ดีแล้วล่ะ ขอบใจมากนะที่ส่งคนชั่วไปอีกทำให้แผ่นดินนี้สูงขึ้นอีกหน่อย  มันไม่
เป็นบาปหรอก ด้วยเราไม่ได้เกิดความอาฆาตเราทำตามหน้าที่ปกป้องคนดีจีงถือว่า
เป็นบุญกุศลอย่างหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะผิดศีลไปบ้างแต่เราทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจนะ
ไม่ต้องคิดอะไรมากหรอก  ไปรวมกันได้แล้วจะได้รีบกลับไปหาพี่แสงเสียทีเพื่อแจ้ง
ให้ทราบว่าภาระกิจทางนี้เรียบร้อย”  สินชัยกล่าวกลับลูกน้องทั้งห้าของมัน”
“ครับหัวหน้า”  ทั้งหมดรับคำเพียงรอคำสั่ง   

     พวกเราพร้อมหรือยังล่ะ สินชัยหันไปถาม 
   “พร้อมแล้วครับ ผมทางนี้ได้เก็บสิ่งของต่างๆบนถนนให้เรียบร้อยดังเดิมแล้ว
ตามคำสั่งนายแหละครับ”  พวกมันสามคนเอ่ยขึ้นพร้อมๆกัน
     “ดีแล้วอย่างนั้นเรากลับไปหาพี่แสงกันดีกว่า  เอ๊าๆๆข้ามเขากันตรงนี้แหละพวก
เราขึ้นไปกันได้ด้วยอาศัยพลังงานของพวกเราที่ ตอนนี้ข้ารู้สึกว่าพลังงานของพวกเจ้า
เพิ่มขึ้นกว่าเดิมอีกมากมายนักนะ”  สินชัยกล่าวแก่ลูกน้องมันทั้งให้กำลังใจแก่พวกมัน
อีกด้วย  ทำให้ลูกน้องมันทั้งห้าพากันยิ้มด้วยความพึงพอใจที่นายมันชมเชย
      เพียงเวลาไม่นานนักทั้งหกก็เดินทางมาถึง เมื่อสินชัยมองไปที่ลานที่ใช้เป็นที่เก็บ
ของต่างๆนั้น  ซึ่งตอนนี้พวกช่างภาพหนังสือพิมพ์ต่างๆ ก็กำลังถ่ายรูปและมีบางกลุ่ม
เข้ามาสอบสัมภาษณ์เหตุการณ์จากท่านตลอดท่านรองผู้กำกับฯอยู่อีกด้วย
    สินชัยก็ทราบทันทีว่าผู้ใหญ่ทางกรุงเทพฯมากันหลายนาย  แต่ละคนบ้างเดินตรวจดู
บริเวณต่างๆ พร้อมทั้งถ่ายรูปไว้อีกด้วย บ้างก็ทำการบันทึกข้อมูลต่างไว้อย่างขมักเขม่น  
    ในขณะที่ผู้ใหญ่ทางกรุงเทพฯกำลังให้สัมภาษณ์อยู่นั้น  ท่านรองผู้กำกับกำลังรับฟังคำ
รายงานจากสารวัตรชัชวาลย์ถึงเหตุการณ์ต่างๆเพิ่มเติมอยู่
   ด้านหลังเป็นผู้กองจรัสและนายตำรวจบางนายอยู่คอยต้อนรับผู้ใหญ่เหล่านี้ ตำรวจอื่นๆ
ต่างก็นำพวกมาดูงาน  เดินตรวจตราชี้แจงเหตุการณ์ไปพลางๆกัน ให้คนบันทึกทำรายงาน
 แต่ไม่เห็นผู้กองจำลองคงจะเดินทางกลับไปเตรียมตัวทางด้านโน้นอยู่ตามคำสั่งของนายแล้ว
     มันหันไปสั่งทางลูกน้องทั้งห้าให้ไปร่วมกลุ่มกลับพวกเราทั้งหมดที่ยืนเป็นแถว
อย่างเป็นระเบียบ  มันทั้งห้าต่างแสดงความเคารพแก่หัวหน้าทั้งสอง  แล้วก็เข้าไปต่อแถว
สินชัยก็เข้าไปหาแสงสีทันที แล้วรายงานว่า

   “ พี่แสง...เจ้าเสี่ยหว่างและพวกต่างตายหมดสิ้นแล้วไม่มีใครเหลือรอดไปได้สักคนเดียว
พร้อมทั้งกล่าวเหตุการณ์ต่างให้ฟังอย่างละเอียด”
   “ดีมากน้องสิน...เห็นไปช้าพี่เองก็เป็นห่วงอยู่ที่จริงเรื่องแค่นี้ควรจะใช้เวลาไม่นานนัก แต่
เห็นน้องหายไปนานผิดปกติก็รู้สึกเป็นห่วงนะ”  แสงสีกล่าวแก่น้องมัน
   ระหว่างที่มันทั้งสองกำลังคุยกันสนทนาอยู่ในกลุ่มของพวกมันอยู่นั้น พร้อมไปทักทาย
กลุ่มของตนด้วยความยินดียิ่งที่งานที่รับภาระจากนายมันนั้นลุล่วงไปได้ด้วยดี
    ทางผุ้ใหญ่ทางกรุงเทพฯ ครั้นมองมายังทั้งสองก็จำเจ้าสินชัยได้   จึงกวักมือเรียกให้ไปหา
สร้างความแปลกใจแก่ท่านรองผู้กำกับและสารวัตรผู้กองด้วยกัน  ต่างคนต่างหันหน้ามองกัน
ไปๆมาๆ ไม่คิดว่าผู้ใหญ่ของเขาจะรู้จักกับสินชัยได้  เมื่อแลหันไปมองทางสินชัยซึ่งกำลังคุย
กับแสงสีอยู่นั้น แสงสีเห็นเข้าก็บอกแก่น้องมันให้รู้ไว้ว่าทางผู้ใหญ่กำลังเรียกสินชัยอยู่
     “น้องสิน  ผู้ใหญ่ทางกรุงเทพฯท่านกำลังเรียกน้องอยู่ให้ไปหานะ” แสงสีเอ่ย
เจ้าสินชัยหันไปตามมือชี้ของพี่ชาย  ก็หัวร่อพลางกล่าวกับพี่ชายว่า
      “อ้อๆๆท่านนี่เอง คงจำผมได้ครับด้วยผมไปหาท่านในเวลากลางคืนดึก
ปลุกท่านตื่นขึ้นมาตามนายสั่งให้ไปส่งหนังสือให้ทราบ”
      “ถ้าอย่างนั้นน้อง รีบไปเถอะท่านเป็นผู้ใหญ่หากช้าจะไม่ดีนะน้อง” แสงสีกล่าว
      “ครับพี่.....ผมจะไปหาเดี๋ยวนี้แหละครับ”
       กล่าวแล้วเจ้าสินชัยก็ผละจากพี่ชายมันเดินไปหาท่านผู้ใหญ่ทางกรุงเทพฯทันที

    ครั้นเมื่อเดินมาถึงตรงหน้าท่าน พลางยกมือขึ้นไหว้ทำความเคารพ
  ท่านนั้นก็รีบเดินผละจากรองผู้กำกับและสารวัตรตลอดจนผู้กองตำรวยที่คอยต้อนรับ
เดินเข้ามาหาสินชัย พลางสวดกอดเขย่าตัวสินชัยไปๆมาๆ พลางกล่าวว่า
    “คงเหนื่อยมากซินะ เสียดายจริงๆไม่ยอมมารับราชการ  ในขณะที่ผมยังอยู่นั้น 
 มิฉะนั้นผมอาจจะช่วยให้เร็วขึ้นไปอีกในขณะที่ผมยังมีอำนาจอยู่นี้ เสียดายจริงๆ
 คนดีๆมีฝีมืออย่างนี้หายากเสียด้วย”  ท่านกล่าว
    “ขอบพระคุณท่านมากครับ แต่ว่าผมอยู่กับนายผมสบายใจกว่าครับผมกับพี่แสงสีอยู่กับท่าน
ซึ่งเป็นทั้งนายญาติและอาจารย์ผมด้วยครับ 
    แต่ทว่าก็เหมือนอยู่กับท่านแหละครับเพราะต้องคอยช่วยเหลือราชการ
ตามนายผมสั่งอยู่แล้วครับ”  สินชัยกล่าวด้วยความเคารพนอบน้อม
    ทำให้ท่านผู้ใหญ่ทางกรุงเทพฯหัวร่อชอบใจ  ผละออกจากสวมกอดแล้วตบหัวไหล่แทน
       พลางหันไปทางรองผู้กำกับแล้วแจ้งให้ฟังว่า
   “เห็นไหมคุณ นี่ขนาดเด็กของเขายังร้ายกายถึงเพียงนี้แล้วนายมันล่ะจะร้ายกาจขนาดไหน”
   เล่นเอาท่านรองผู้กำกับงงไปกันใหญ่ ท่านทราบด้วยหรือว่านายของสินชัยกับแสงสีเป็นใครกัน
ยกเว้นท่านสารวัตรและผู้กองเท่านั้นที่แสร้งทำสีหน้าเฉยเมย แต่ภายในใจอดอมยิ้มเสียไม่ได้

    แล้วหันมากล่าวกับสินชัยถึงเรื่องงานที่ได้ออกติดตามเสี่ยหว่างไปนั้น  สินชัยก็รายงาน
เหตุการณ์ทั้งหมดให้ท่านผู้ใหญ่ทางกรุงเทพฯทราบอย่างละเอียดหมดสิ้น
    ท่านหัวร่อร่าพลางกล่าวชมเชยทันที
    “ฉลาดนี่ฉลาดจริงๆวางแผนการได้เหมาะสมกับเหตุการณ์ได้ยังกับตาเห็นแน๊ะ พวกมัน
คงคิดไม่ถึงว่าจะเจอเหตุการณ์ซ่อนเงื่อนแบบนี้”  ท่านกล่าวกับสินชัยพร้อมส่งเสียงหัวร่อลั่น
    “แล้วนายเจ้าไม่มาด้วยหรือ” ท่านถามด้วยความสงสัย
    “ท่านมาดูทั้งสองทางแหละครับแต่ท่านแฝงตัวมาไม่ให้ใครรู้นอกจากผมและพี่เสงสีเท่านั้น”
    “อืมมๆๆๆ!!!...สมแล้วที่ผมไว้วางใจมากติดตามผลงานตลอดเวลาเลย ไม่เคยคลาดสายตา
วางกลไกแผนการณ์ได้อย่างดีเยี่ยม   ทำให้ฝ่ายตรงกันข้ามนึกไม่ถึงจริงๆ” ท่านเอ่ยขึ้น
    “แล้วพวกเจ้ามากันกี่คนละเดี๋ยวจะสั่งให้เบิกค่าเบี้ยเลี้ยงพิเศษให้ทุกๆคน แล้วมีใครเป็นอะไร
ไปหรือเปล่าล่ะสิน”
     “ประมาณร้อยคนคิดว่าทั้งสองฝ่ายรวมกันแล้วครับท่าน  ทุกๆคนปลอดภัยดีไม่ได้รับบาดเจ็บ
อะไรเลยครับ”  สินชัยรายงาน

    “เป็นกองกำลังที่นายเจ้าสร้างขึ้นไว้หรือ”
    “ครับเป็นกองกำลังลับๆครับ ท่านฝึกซ้อมด้วยตนเองครับ  ไม่มีใครสามารถตรวจสอบได้
หรอกครับท่าน”
    “อ้าวทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะจึงไม่สามารถตรวจสอบได้นะ???...”  ท่านถามด้วยความสงสัย
    “ทุกๆคนเสร็จงานแล้วก็จะกระจายกันไปหลบซ่อนตัวครับท่าน ยกเว้นหากมีคำสั่ง
จากนายมา ถึงจะออกมาปฏิบัติงานครับ” สินชัยแก้ตัวให้นายมัน
     “ถ้าอย่างนั้นเวลาจะรวมพลล่ะใช้วิธีการใดหรือสินชัย???....”
     “ท่านก็ส่งสัญาณรหัสลับที่ท่านสร้างขึ้นมาใหม่ ทุกๆคนรู้หมดครับเพียงแค่รับสัญญาณ
ที่ทางคนหนึ่งก็จะทราบกันไปทั่ว ก็จะออกมายังที่นัดหมายพร้อมเพรียงกันครับท่าน”
     “นั่นซิผมเองเห็นทุกๆคนล้วนแต่ใช้อาวุธทันสมัยคล่องท่วงทีการจับปืนกระฉับกระเฉง
กันทุกๆคน แม้แต่แถวก็เป็นระเบียบวินัยคล้ายดั่งทหารที่ผ่านสงครามกันมาแล้วทั้งสิ้น”
     “สำคัญๆๆนายเจ้านะ สมแล้วที่แม้แต่ผู้บังคับบัญชาผมยังให้ความรักนับถืออย่างจริงใจ
   อ้อๆกลับไปแล้วบอกนายเจ้าด้วยว่าจะทำอะไรอย่างวู่วามนัก จะแสดงตัวได้นั้น
ก็ต่อเมื่อได้รับคำสั่งจากผมเท่านั้นนะสินชัย ผมมีคนประสานงานกับนายเจ้าไว้แล้วล่ะ”
     “ครับท่านเมื่อผมกับพี่ไปหานายแล้วจะรายงานตามที่ท่านสั่งมาครับท่าน”
  ผู้ใหญ่ทางกรุงเทพฯก็ตบไหล่ของสินชัย เอ่ยขึ้นว่า 
     “เดี๋ยวผมจะต้องไปทางด้านโน้นอีกนะสำหรับงานพวกของสินชัยกับแสงสีเห็นว่าคง
จะไม่มีอะไรอยู่แล้วกลับกันได้แล้วล่ะเพื่อนายเจ้าจะได้ไม่ต้องห่วงกังวล
อย่าลืมแจ้งด้วยว่าผมขอขอบใจมาก นี่ก็ใกล้จะพิจารณาตำแหน่งอีกแล้ว  งานชิ้นนี้เห็นที
ผมต้องไปเรียนผู้บังคับบัญชาด้วยตนเองเสียแล้วเพราะเป็นงานใหญ่มากๆ
เกี่ยวกับทรัพย์สินความเสียหายของประเทศและตลอดความมั่นคงอีกด้วย จะเสนอความดี
ความชอบอีกในกรณีย์พิเศษให้ด้วย บอกว่าผมขอบคุณนายสินชัยมากๆนะ ให้อยู่เหมือน
เดิมไปก่อนจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเท่านี้แหละ”
     “ครับท่าน ถ้าอย่างนั้นผมก็จะไปบอกพี่แสงสีนำกำลังพลกลับฐานที่ตั้งทั้งหมดเลยครับ”
แล้วสินชัยก็แสดงความเคารพผู้ใหญ่ทางกรุงเทพฯอีกครั้ง  แล้วต่างผละออกจากกัน
     ส่วนสินชัยก็ไปแจ้งให้พี่ชายมันฟัง  เมื่อแสงสีรับฟังจากน้องชายดังนี้แล้ว ก็หันไปทางกลุ่ม
ของพวกตนให้เดินทางกลับได้แล้ว  ดังนั้นกลุ่มดังกล่าวพร้อมด้วยสินชัยและแสงสีก็เดินไป
ยังลาน ทุกๆคนปลดอาวุธออกหมด นำมาวางพาดกันหันปลายกระบอกปืนขึ้นฟ้าบั้นท้ายปืน
วางบนดินสลับกันไปๆมาๆ  หลายสิบกองแล้วพากันเข้ายืนเป็นระเบียบรอคำสั่งต่อไป
      แสงสีและสินชัยก็แจ้งยังกลุ่มให้ทราบทันที  
    “พวกเราทั้งหมดกลับฐานเดิมได้แล้ว ให้ทุกๆคนกระจายกำลังแยกย้ายกันไปกลุ่มละสอง
จนถึงฐานแล้วรอคำสั่งต่อไป”    เสียงดังกังวานสนั่นไปทั่วบริเวณลานกว้าง
“ครับผ๊มๆ....”  เสียงดังขึ้นพร้อมๆกัน  แล้วแยกเป็นสองฝ่ายออกเดินทางกลับลับหายไปใน
ป่าข้างๆทันที ไม่ได้ยินเสียงของใบไม้แห้งดังกร๊อบแกร๊บดังเกิดขึ้น
  ยิ่งทำให้ทุกๆคนแปลกใจกันไปตามๆกัน เมื่อเห็นคนจำนวนมากเดินทางหายไปในป่าจนหมด 
    เหตุการณ์นี้ต่างอยู่ในสายตาของท่านผู้ใหญ่ในกรุงเทพฯท่านรองผู้กำกับตลอดจนผู้กองตำรวจ
อีกหลายๆนายต่างปากอ้าค้างไปตามๆกันทุกๆนาย  นี่มันเป็นการเดินทางกลับที่มีระเบียบวินัย
ยิ่งนักดั่งกองทัพของทหารที่ผ่านการรบมาอย่างโชกโชนมิปาน......................

                     *  แก้วประเสริฐ.  *

qp011.gifCartoon_Animation_08.gif692823n68ya60jv9.gif				
17 ธันวาคม 2553 19:25 น.

อทิสมานกาย ๕๑

แก้วประเสริฐ

76.gif
                               อทิสมานกาย  ๕๑

     ครั้นสินชัยผละจากสารวัตรแล้ว  ก็นำกำลังเขาทั้งหมดมุ่งหน้าเดินฝ่าแนวกระสุนปืน
ของฝ่ายตรงกัน ข้ามเขาเดินไปหาแสงสีทันที พลางเอ่ยขึ้นว่า
     “พี่แสงสี นายเราสั่งไว้ให้ผมนำกำลังมาช่วยพี่ด้วย ทางโน้นเรียบร้อยแล้ว
นายเรามาด้วยพร้อมกับอาจารย์แม่นางอัปสรทั้งสองแต่มาร่างกายทิพย์
ไม่มีใครเห็นหรอก เรียกผมไปให้รีบมาทางนี้ด้วยทราบว่าพวกลำเลียงไม้จากฝั่งโน้น
ส่งคนมาช่วยเหลือจำนวนมาก  
        แต่บัดนี้ที่มาตลบหลังฝ่ายเรานั้นต่างตกตายและถูกจับกุมได้ประมาณสิบคนเห็นจะได้ 
 นอกนั้นตายเรียบหมดพี่”
      “หรือน้องสินชัย นายเรามาด้วยหรือ ทางนี้ทางฝ่ายเราเท่านั้นที่ได้เปรียบอยู่
 ส่วนทางด้านตำรวจพี่ไม่ให้เขาออกมาเนื่องจากไม่ไว้วางใจความปลอดภัยนั่นเอง 
 เหลือคนทางนี้อีกไม่เท่าไหร่แล้วก็จะเรียบร้อย  พี่เองตอนแรกก็เวทนามันหรอก 
เมื่อมาคิดถึงภัยอันใหญ่หลวงแก่แผ่นดินมากนัก

       จึงระงับไว้เสียนึกว่าเราช่วยขจัดเสี้ยนหนามแผ่นดินก็เป็นบุญกุศลเราอย่างหนึ่ง 
ที่มองเห็นกำนันยังอยู่อีกสองคนส่วนหัวหน้าฝ่ายลำเลียงไม้มานั้น คงจะเหลืออีก
แค่รองๆมันเท่านั้นที่ควบคุมฝ่ายมัน    นอกนั้นตายหมดแล้วล่ะ  ส่วนหัวหน้าการใหญ่
       เสี่ยหว่างนั้นมันหนีรอดไปได้ไม่รู้ว่าจะติดตามอย่างไร??..”
      “เรื่องนี้นายหญิงสั่งกำชับและบอกหนทางให้แก่ผมแล้วครับพี่
   ฉะนั้นผมจะรีบติดตามมันไปด้วยเราไปอย่างไม่ใช่คนธรรมดา ใช้เวลาไม่นานนัก
 เพียงขึ้นเขาไปสะกัดก็คงจะทันหรอกพี่    ถ้าอย่างงั้นผมจะทิ้งลูกน้องไว้ให้พี่
คอยควบคุมแทนไว้ด้วย ผมเองจะรีบไปกับพวกประมาณสักห้าตนก็คงจะเพียงพอแล้ว 
 จะต้องขึ้นข้ามภูเขาไปดักทางไว้คงทันแน่นอนครับพี่”
      “ถ้าเป็นอย่างที่นายหญิงเราแจ้งไว้ก็ดี  พี่เองจะได้ไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลังคิดมาก
  เจ้ารีบไปเถอะนะ  ทางนี้พี่จะคงจัดการได้อีกในไม่ช้านี้แหละ
 ยิ่งได้พวกเรามาล้วนแต่ชำนาญอาวุธทั้งสิ้น   คิดว่าเวลาคงจะกำจัดได้ไม่นานนัก

     เห็นลูกน้องของน้องพี่นำเอาปืนอาก้ามาเกือบทั้งหมด คงอีกไม่ถึงชั่วโมงหรอก
พี่ก็จะจัดการได้เรียบร้อยแล้ว 
 น้องไปเถอะอย่าให้พลาดได้เชียวนะเดี๋ยวนายหญิงจะเสียใจ”  แสงสีกล่าว
     “ครับพี่ผมจะสั่งลูกน้องผมก่อนแล้วจะคัดคนไปแล้วรีบเดินลัดข้ามภูเขาไป
 ด้วยหนทางนี้ต้องอ้อมตามไหล่เขาวกวนไปมา พวกมันคงใช้เวลานาน
กว่าจะถึงทางสายตรง”      สินชัยกล่าว
        พลางหันไปสั่งลูกน้องและคัดคนออกมาห้าคน  ให้ทุกๆคนฟังคำสั่งพี่แสงสี
ทุกๆครั้งด้วย   ทางลูกน้องของสินชัยหัวหน้าเริ่มได้สั่งลูกน้องให้ทราบทุกๆคน
 หัวหน้าพ่วงฝ่ายแสงสีก็หันมาไหว้สินชัย  พลางเอ่ยขึ้นว่า
       “ทางนี้ไม่ต้องห่วงหรอกครับนาย  ผมคิดว่าไม่นานหรอกก็จะจัดการได้
เรียบร้อยแล้วด้วย  ตอนนี้พวกมันต่างกลัวพวกเราอีก  ต่าง ขวัญหนีดีฝ่อไปตามๆกัน
 มันกำลังคิดหาหนทางหนีอย่างเดียว   ผมได้คุยกันกับหัวหน้าเริ่มแล้วว่าจะแยกย้ายกัน
ตีตลบหลัง ด้านหน้าผมเองจะเข้าตลุยส่วนด้านตลบหลังนั้นหัวหน้าเริ่มจะอ้อมไป
ทางแม่น้ำแล้ววกกลับตีตลบหลังอีกทีครับ” เจ้าพ่วงรายงาน

       “ อืมๆๆๆ....นับว่าเป็นแผนการณ์ที่ใช้ได้ทีเดียวแหละมันจะได้หนีไปกันไม่ได้ 
ขอบใจมากนะพ่วง   เอาล่ะเดี๋ยวข้าจะรีบออกเดินทางไปสะกัดเจ้าหว่างเสียหน่อยนะ” 
สินชัยเอ่ยขึ้น
       “ครับนายไม่ต้องห่วงหรอก  ผมจะทำตามแผนที่เจ้าพ่วงบอกไว้ครับ” 
ทั้งสองเอ่ยตอบ
 พลางหันหน้าไปทางแสงสี  พลางเอ่ยบอกกล่าวทันที
        “พี่แสง ผมจะออกเดินทางไปเดี๋ยวนี้นะครับ หากเสร็จกำจัดมันได้หมดแล้ว
จะรีบเดินทางมาสมทบทันที”
         “  ไปเถอะน้องรัก คิดว่าแค่นี้ไม่พอมือน้องหรอก ข้ามภูเขาทางด้านทิศใต้
นั่นแหละเห็นว่าเหมาะสมที่สุดด้วยพี่เองก่อนนั้นเคยไปสำรวจมาแล้วล่ะ”
  แสงสีตอบน้องมัน

       ดังนั้นเจ้าสินชัยก็เรียกคนที่มันคัดมาห้าคนออกเดินทางด้วยอำนาจ
ที่มีพลังงานอีกมิติหนึ่งนั้นทั้งหมดก็หายตัวข้ามเขาไปทางทิศใต้   
ก็เห็นไหล่เขาเป็นทางผ่านที่คดเคี้ยวไปๆมาๆ  จึงนำลูกน้องมันลงยังด้าน
ก่อนทางจะลงไปยังทางทอดลงไปยังที่ราบเข้าสู่ตัวเมือง  
 ครั้นถึงแล้วก็สั่งให้คนนำขอนไม้แห้งใหญที่วางไว้ข้างทางมาขวางกั้นรถบน
ถนนทันที  รอคอยมาของรถยนต์  สินชัยก็พลันนึกได้ว่าทำไมรถของเจ้าเสี่ยชั่วร้ายนี้
ถึงได้ฝ่าวงล้อมออกมาได้ คงจะไม่ใช่รถธรรมดาแน่นอน หรือว่าเอ๊ะ???.... 
 ใช่แล้วรถมันคงจะเป็นรถแบบหุ้มเกราะป้องกันกระสุนนาๆชนิดได้   
       จึงหันไปทางลูกน้องมันว่า 
   “เจ้าสองคนนี่ให้รีบไปนำขอนไม้มาวางกั้นไว้อีกชั้นหนึ่งก่อน
ด้วยรถของเจ้าเสี่ยนี้ไม่ใช่รถธรรมดาและยิ่งวิ่งหนีมาด้วยความเร็วเช่นนี้
คงจะชนกับขอนไม้ให้นำขอนไม้มาขวางอีกชั้นหนึ่งด้วยพร้อมหินดันไม้ไว้
    หากมันผ่านชั้นแรกไปก็ต้องปะทะกับชั้นสองดังนั้นรถมันต้องตกเขาแน่นอน  
ให้เจ้าสองคน พลางชี้มือไปสั่ง ให้ลงไปรอยังเบื้องล่างของเขา 
หากรถมันตกไม่ระเบิดขึ้น  ก็ให้จัดการส่งมันไปเกิดใหม่ทันที”

   เจ้าทั้งห้าพอฟังคำของสินชัยพลางเอ่ยว่า
    “ครับนาย ผมจะดำเนินการเดี๋ยวนี้เลยครับ “  แล้วมันทั้งสี่ก็แยกย้ายกันไปทำงาน
 สองคนด้านซ้ายมือก็รีบไปเอาขอนไม้มาขวางกั้นอีกชั้นหนึ่งพร้อมนำก้อนหินก้อนใหญ่
มาหกก้อนวางระหว่างหัวท้ายและตรงกลางอีกด้วยดันไม้ไว้ด้านในกันไหลของไม้ได้
 แล้วรีบเดินมารายงานผลให้สินชัยหัวหน้าใหญ่มันทันที
  ส่วนอีกสองคนก็รีบลงไปยังตีนเขาแล้วพากัน ต่างแยกย้ายกันหลบยังต้นไม้ใหญ่ 
แต่ไม่ห่างไกลกันมากนัก คอยรอจังหวะดูอยู่
     เมื่อการสั่งงานของสินชัยเห็นลูกน้องมันทำงานอย่างว่องไวเรียบร้อยแล้ว 
มันจึงสั่งให้อีกสามคน หลบไปยังไหล่เขาหาที่กำบังรวมทั้งตัวสินชัยเองด้วย
 ต่างแยกย้ายหาที่หลบซ่อน เพื่อมิให้รถของเจ้าเสี่ยหว่างรู้
  ในขณะเดียวกันเจ้าสินชัยนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึง ตะโกนเรียกหุ่นตนหนึ่ง
ออกมาพบเข้าทันที
ครั้นหุ่นที่ถูกเรียกมายืนตรงหน้าเขาแล้ว  เจ้าสินชัยก็เอ่ยขึ้นว่า
       “ หากมันแลเห็นท่อนไม้ขวางหน้ามันคงจะชะลอรถแน่นอน พวกเราจะยิงมัน
นอกรถก็ไม่มีประโยชน์อันใด หากมันมิได้ออกมานอกรถจะยุ่งยากแก่พวกเรา 
 ฉะนั้นเอ็งจงแฝงกายไปด้านหลังรถมันแล้วระดมยิงไปรถของมันทันที
  พวกมันจะได้ตกใจรีบขับหนีอย่างรวดเร็วคงนึกว่า ตำรวจแอบแฝงตัวไว้หากเป็นเช่นนี้
   มันก็จะรีบขับรถหนีไปอย่างสุดแรงเกิด  ก็จะมาปะทะด้วยเบรครถไม่ทันคงจะเป็น
ไปตามแผนเราแน่นอน”  สินชัยวางแผนเอ่ยขึ้น
     “ครับนายผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”  แล้วร่างมันก็เดินหายลับไปทันที

    ครั้นแสงสีเห็นน้องสินชัยของมันนำคนออกเดินทางไปแล้ว ก็กวักมือเรียกหัวหน้าเริ่ม
และหัวหน้าพ่วง  มาแล้วนั่งลงเขียนแผนที่ต่างๆลงบนพื้นดินทันที อธิบายให้หัวหน้า
ทั้งสองทราบ  ครั้นต่างเข้าใจกันแล้ว  แสงสีก็ยกเท้าขึ้นลบแผนที่ต่างๆนั้นแล้วออกเดินไป
    หัวหน้าเริ่มก็รีบนำกำลังพลมันทั้งหมดตีฝ่าวงล้อมหนีออกไปทางแม่น้ำทันที พร้อม
พากันเดินเลาะไปตามริมฝั่งน้ำ โดยกระจายคนออกวกขึ้นไปตามไหล่เนินเขาอีกครั้งหนึ่ง
ทุกๆคนต่างคืบคลานโดยมีปืนอาก้าอยู่ด้านหลัง  หัวหน้าเริ่มก็ค่อยๆคืบคลานตลบวกเข้า
หาพวกมัน  เมื่อถึงเห็น พวกมันต่างกระจายกำลังออกต่อสู้ทางด้านหน้าอยู่  จึงยกมือขึ้น
เพื่อให้สัญญาณแก่พวกเขาทันที
    แสงสีครั้นเห็นหัวหน้าเริ่มนำกำลังออกไป ประมาณพักใหญ่ ก็ให้หัวหน้าพ่วงนำกำลัง
เข้าโจมตีอีกครั้งหนึ่ง   ทุกๆตนต่างเดินหน้าเข้าหาฝ่ายทางโน้นย่อร่างก้มพร้อมอยู่ในท่ายิง
ครั้นได้ระยะผลก็พลางสาดกระสุน เสียงดังพรืดๆๆๆไม่ขาดสายออกไปยังเหล่าร้ายที่เห็น
สลับไป ข้างหน้าเป็นข้างหลัง ข้างหลังเป็นข้างหน้า  ฝ่ายกำนันบางกำนันแช่มและรอง
หัวหน้าฝ่ายลำเลียงไม้กำลังปรึกษาหารือกันอยู่ถึงแผนการหลบหนีนั้น

        พลันสายตาของกำนันบางแลเห็นฝ่ายแสงสีซึ่งนำโดยหัวหน้าพ่วง กำลังรุกคืบเข้า
โจมตี  ก็รีบแจ้งให้พรรคพวกทราบถึงการรุกโจมตีของตำรวจเกิดขึ้นอีกแล้ว 
      “ เฮ้ยๆๆๆ!!!....มันมากันอีกแล้วโว้ย แยกกันเลยว๊ะ พวกใครพวกมันหนีโว้ย”
      “ไอ้ว๊อกๆ  มึงรีบนำคนไปทางริมแม่น้ำ หาทางลัดเลาะหนีไปอีกทางหรือหาที่ข้าม
แม่น้ำไปทางฝั่งโน้นก็ได้แล้วมาพบกันที่หมู่บ้านก็แล้วกัน  กูจะอยู่ยิงสะกัดมันให้มีงนำ
กำลังส่วนใหญ่ไปเดี๋ยวนี้เลย” กำนันแช่มกล่าว
      “ครับกำนัน” แล้วไอ้ว๊อกก็หันไปทางพรรคพวกนำกำลังส่วนใหญ่เพื่อจะหนีไปทาง
แม่น้ำทันที
     ฝ่ายลำเลียงไม้ล่องมาจากฝั่งโน้นและอีกฝั่งเขตติดต่อกัน  ก็รีบแจ้งให้พรรคพวกรีบ
หนีไปทางทิศตรงข้ามกับพวกตำรวจยิงชลอไว้แล้วหาทางหลบหนีไป  
      ทั้งหมดก็กระจายกำลังออกเป็นสามฝ่ายนำกำลังคนเข้าต่อสู้แต่พวกมันทั้งหมด
เพื่อสะกัดกันให้พวกตนหลบหนีไป   หมดกำลังใจกันเสียแล้วด้วยลูกปืน
ไม่สามารถทำอะไรกับพวกเหล่านั้นได้เลย แค่ชลอเวลาไว้ช้าๆลง

   เมื่อพวกมันที่วางแผนการหลบนี้ได้กำหนดไว้ว่าให้ต่างตีฝ่าวงล้อมไป
คนละทิศทางกัน   ตามเหตุสิ่งแวดล้อมและเหตุการณ์อาศัยภูมิประเทศคอยช่วยเหลือ
 พยายามสั่งลูกน้องอย่าได้ปะทะกับฝ่ายชาวบ้าน   ที่แปลกประหลาดนั้นๆ 
ให้รีบนำกำลังคนออกหลบหนีให้ไกลๆที่สุด ตามแผนการหลบหนีไว้ที่แจ้งให้รู้แล้ว
   กำนันแช่มก็หันไปทางคนสนิทสั่งให้รีบนำกำลังพลส่วนใหญ่หนีหลบไปทางเขาเลียบ
ชายเขาหาทางพาพวกหลับหนี  ส่วนมันและพวกอีกจำนวนหนึ่งจะคอยยิงสะกัดกันไว้ให้
    ระหว่างที่กำนันบางกำลังยิ่งสะกัด ฝ่ายหุ่นที่นำโดยแสงสีก็ใกล้ถึงตัวที่เสียเวลาด้วยแรง
ของกระสุนนั้นทำให้มิสามารถรุกคืบหน้าไปได้เร็วถึงว่าจะไม่เป็นอันตรายก็ตามที 
ด้านหลัง ผู้กองจรัสก็นำตำรวจทะยอยมาสบทบด้วยเป็นจำนวนมากร่วมเข้าต่อสู้กัน
   ที่มั่นของกำนันบางขณะยิงสะกัดอยู่นั้น มันก็ต้องสะดุ้งสุดตัวด้วยร่างมันพรุน
ไปด้วยกระสุนยามที่มันยืนสั่งการให้พวกหลบหนีไป
  ร่างมันเต้นเร่าๆตามแรงของกระสุนจนกระเด็นไปชนกับแนวฝากระต๊อบเบื้องหลัง
แล้วฟุบร่างมันสิ้นชีวิตกองอยู่กับพื้นทับด้วยฝากระต๊อบที่ล้มครืนลงมา
ทับร่างมันอีกที  ที่กำลังสะกัดต่างตกอกตกใจกัน พากันลุกขึ้นหมายจะวิ่งหนีคนละทาง
แต่แล้วทุกๆคนก็ต่างร่วงผล๊อยๆ  กระเด็นไปตามแรงของกระสุน ที่มีอานุภาพรุนแรง
ไม่มีใครสามารถหนีเอารอดไปได้สักคนเดียว  ร่างมันกระเด็นไปในสถานที่ต่างๆกัน

    ด้านฝ่ายลำเลียงไม้เถื่อนนั้น มันนำพวกตีฝ่าวงล้อมหมายจะไปที่แม่น้ำที่แห้ง
พอจะใช้ข้ามไปยังฝั่งโน้นได้ก็ปะทะกับฝ่ายตลบหลังมันชะงักรีบหลบเข้าโคนต้นไม้
  แต่แล้วรองหัวหน้ามันก็ต้องสังเวยชีวิตอันโสมมไว้ในผืนแผ่นดินไทยอีกคนหนึ่ง
  ติดตามพร้อมหรือใกล้เคียงพวกของมันไปล้วนทิ้งร่างไร้วิญญาณฝากลง
บนผืนแผ่นดินนี้ เลือดสาดหลั่งไหลนองไปทั่วบริเวณแนวป่าจนทำให้พุ่มไม้แดง
เต็มไปด้วยรอยเลือดตามสุมทุมพุ่มไม้ไปทั่วๆหมด
 ในเวลาไล่เลี่ยกันเมื่อยามปะทะกับคนหัวหน้าเริ่มที่คอยสะกัดตีตลบหลังอยู่
  พวกมันล้วนแล้วมาสังเวยชีวิตในป่าด้านแถบริมน้ำทั้งสิ้น ไม่มีใครเล็ดรอด
หนีไปได้แม้แต่สักคนเดียว
       ด้านกำนันแช่มได้ให้ลูกน้องคนสนิทมันช่วยยิงสะกัดกั้นไว้ นำกำลังคน
เพื่อจะหลบหนีไปทางตามไหล่เขาเพื่อขึ้นเนินแล้ววกเลาะเลี้ยวไปยังหนทางที่มัน
ค่อนข้างชำนาญบ้าง  แต่แล้วเมื่อหันหลังกลับไปมองพวกคนสนิทของพวกมัน
ที่เสียงปืนเงียบหายไป  ก็รู้ทันที่ว่าคนสนิทของมันนั้นได้ตายไปหมดแล้ว
รีบพากัน   วิ่งพลางตะโกนพลางให้พวกรีบหลบหนีอย่าหมายปะทะตำรวจอีกต่อไป
  พอมันระหว่างยืนชี้มองสั่งให้ลูกน้องมันไปทางโน้นเพื่อข้ามเนินไปก็ต้องมีอันถูก
กระสุนร่างมันฟุบหงายล่างปะทะกับขอนไม้เสียชีวิตติดตามเหล่ากำนันและพวก
ทั้งหลายไปทันที ทุกๆร่างต่างชโลมไปด้วยเลือดที่หลั่งออกมาตามรูกระสุนปืน

       บรรดาลูกน้องหมู่บ้านโนนสูงครั้นเห็นกำนันมันตาย ต่างร้องบอกต่อๆกัน
 บางคนใจเซาะก็ทิ้งอาวุธปืน ขึ้นเพื่อจะเข้ามอบตัวแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
เพื่อจะรักษาชีวิตมันไว้  ขณะที่ทิ้งอาวุธนั้นพวกมันที่เห็นต่างก็ระดมยิงร่างที่ใจเซาะ
ของมันทันที เสียงปืนดังระงมไป  ร่างที่หมายที่จะมอบตัวต่างเต้นเร่าๆกันสิ้นชีวิต
ด้วยน้ำมือจากปืนของพวกพ้องมันกันเอง
   “ไอ้ห่า!!!!....คิดเอาตัวรอดอย่างนี้หากมันรอดก็จะแจ้งว่ามีใครบ้างร่วมมือ
ซิว๊ะ ยิงแหม่งมันเล๊ยพวกเรา” 
เสียงคำพูดยังไม่สิ้นเสียงทั่วร่างมันก็ถูกกระสุนพรุนตาเหลือกค้างไปหงายร่างทิ้งยังพื้น
สิ้นใจไปอีก  พวกที่เห็นดังนั้นก็ต่างลุกขึ้นวิ่งหนีไปคนละทางที่มันคิดว่าสามารถเอาตัว
รอดจากที่นี่ได้  แต่แล้วก็ถูกฝ่ายตลบหลังยิงใส่จนกระทั่งพวกมันสิ้นชีวิตไปทั้งหมด
      เสียงปืนทางด้านนี้เงียบเชียบ ตำรวจและพวกหุ่นทั้งหลายก็เข้าเคลียร์ยังพื้นที่ทันที 
 ด้วยความระมัดระวังตัวอย่างระมัดระวังไว้ด้วย

      ภายในกระต๊อบที่อยู่ติดกับริมป่าด้านท้ายสุด ครั้นพวกหุ่นเข้าไปตรวจสอบดู
  ก็เห็นร่างชายสองสามคน แต่ไม่มีอาวุธใดๆกำลังแนบร่างฟุบทำเป็นตาย
      มันสามารถหลอกพวกผู้คนอื่นได้  แต่กับพวกหุ่นนี้ที่สร้างจากพวกผีทั้งหลายไม่ได้
 ดังนั้นมันจึงถูกเตะกระทืบร่างมัน ครั้นทนเจ็บไม่ไหวก็ลุกขึ้นและถูกจับกุม เดินออกมา
ข้างนอกกระต๊อบมีประมาณ สามคนทั้งหมดล้วนเป็นพวกป่าไม้ร่วมมือทำผิดกฏหมายทั้งสิ้น
และได้นำถูกตัวมามอบให้แก่ตำรวจซึ่งสารวัตรและผู้กองเองก็ยืนสั่งงานอยู่ใกล้บริเวณที่สุม
เต็มไปด้วยกองไม้แปรรูปทั้งยังยึดได้ตราที่ใช้ตีประทับไม้พร้อมด้วยหมึกที่หล่นใกล้
กับกองไม้แปรรูปที่กระจัดล้มทับระเนระนาดไป จากการปะทะกันทั้งสองฝ่าย ไม้เหล่านี้ต่าง
เป็นรอยกระสุนทะลุบ้างไม่ทะลุบ้าง ฉีกขาดบ้าง เปื้อนรอยเลือดต่างๆเต็มไปหมด
   หลังจากทุกๆอย่างสงบเรียบร้อยแล้ว  สารวัตรก็ให้สำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นใน
การปะทะกันร่วมกับผู้กองพบว่า ฝ่ายทางผิดกฏหมายต่างเสียชีวิตกันเกือบหมด 
ยกเว้นพวกที่มอบตัวที่จับกุมได้ก่อนแล้วเท่านั้น
  ส่วนฝ่ายตำรวจนั้นได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยด้วยตำรวจเหล่านี้ไม่ได้นำเอาพระเครื่อง
ที่ได้รับการปลุกเสกมาใหม่นำติดตัวมา  เนื่องจากไม่ค่อยจะเชื่อถือเห็นเป็น
พระพึ่งปลุกเสกมาใหม่ๆ คงห้อยแต่พระรุ่นเก่าๆเท่านั้น

       สารวัตรและผู้กองก็ให้หน่วยพยาบาลเป็นทั้งหน่วยจู่โจมในตัวเสร็จพันบาดแผล
แก่พวกตำรวจหลายสิบนาย บ้างถูกกระสุนฝังในจนต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลเพื่อ
ผ่าตัดเอากระสุนออก  บ้างขาหักแต่ร่างกายไม่ได้รับบาดแผลแต่อย่างใด ส่วนที่บาดเจ็บ
นั้นล้วนถูกที่ไม่สำคัญทั้งๆสิ้น   ร่างผู้ก่อการผิดกฏหมายที่เสียชีวิตต่างนำมาสุมรวมกัน
ในลานใกล้ๆกับกองไม้แปรรูปที่ขจัดขจายไปทั่วบริเวณ ส่วนผู้ถูกจับกุมได้แยกออก
เป็นสองฝ่ายระหว่างเจ้าหน้าที่ป่าไม้และฝ่ายทางฝั่งที่ลำเลียงไม้เถื่อนมา ทุกๆคนถูก
ผูกติดกับเสาหลักไม้ที่ทำขึ้นภายหลังใกล้ๆกับกองศพที่สุมๆกันหลายกองเป็นร่างที่
ไร้วิญญาณทั้งสิ้น  ข้างๆกองสุมไปด้วยกองอาวุธปืนนานาชนิดสุมสูงพร้อมกระสูนปืน
       ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจบางคนก็กำลังถ่ายรูปกันเป็นการยกใหญ่ตามสถานที่ต่างๆกัน
รวมถึงบริเวณทั้งหมด ทั้งภายในลานและนอกลานที่ใช้ทำงานฝ่ายผิดกฏหมายตลอด
จนฝ่ายที่ถูกจับกุมไว้ด้วย  ส่วนเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็ถ่ายใบหน้าที่ให้เงยหน้าแต่บางคน
ไม่ยอมต้องใช้วิธีจับเงยหน้าขึ้นเพื่อถ่ายรูป เพื่อใช้ดำเนินคดีประกอบหลักฐานต่อไป....

                     *   แก้วประเสริฐ.  *

qp011.gifCartoon_Animation_08.gif692823n68ya60jv9.gif				
17 ธันวาคม 2553 14:58 น.

* ตำรายาสมุนไพรกลางบ้าน ๒ *

แก้วประเสริฐ

76.gif
   *  ตำราสมุนไพรกลางบ้าน ๒  *

                      ยารักษาแผลไฟลวกน้ำร้อนลวก

ขนานที่ ๑ *** ท่านให้เอาเหล้า ๑ น้ำมันมะพร้าว ๑ น้ำปูนใส(น้ำปูนแดงกินหมาก) ๑
ตัวยาทั้งสามอย่างนี้ กำหนดเอาอย่างละเท่าๆกัน นำมาผสมกวนให้เข้ากันเป็นอย่างดี
จนมีลักษณะคล้ายน้ำนมข้น ใช้สำลีพันปลายไม้จุ่มยาทาบริเวณที่ถูกไฟลวก หรือ
น้ำร้อนลวก อาการเจ็บปวดแสบร้อนจะพลันหายไปเป็นปลิดทิ้งทันที และใช้เป็น
ยารักษาบาดแผลให้หายไปอีกด้วย  มีสรรพอย่างชงัดนักแล (ใช้กับแผลได้ทุกชนิด
แก้วประเสริฐ)   
       ขณะที่กวนผสมยาและทายานี้ ท่านให้บริกรรมภาวนาด้วยบท พระพุทธคุณ
พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ  ( หรือ นะ โม พุท ธา ยะ...แก้วประเสริฐ.) ตลอดเวลาจนกว่า
ตัวยาจะเข้ากันเป็นอย่างดีและจนกว่าจะทายาเสร็จ ขณะทายาพึงพาเบาๆ ระวังอย่า
ให้หนังกำพร้าถลอก ยาขนานนี้ ใช้เป็นยาดับพิษและรักษาบาดแผลได้ผลดีอย่างชะงัด
นักแลฯ  ยาขนานนี้ควรทำเตรียมไว้จำนวนมากเก็บใส่โหลปิดฝาให้มิดชิด เพื่อให้
บริการช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงทีแลฯ (ควรใช้ขนไก่จุ่มยาทา...
แก้วประเสริฐ เสริมบางอย่าง) ***
(พระราชสุเมธาภรณ์ วัดบางหลวง ปทุมธานี)

ขนานที่ ๒ ท่านให้เอาเหล้า ๑ น้ำมันมะพร้าว ๑ น้ำฝน ๑  ตัวยาสามอย่างนี้เอาอย่างละ
เท่าๆกัน นำมาผสมกับ ปูนแดง (ปูนแดงกินกับหมาก)เพียงเล็กน้อย กวนให้เข้ากันเป็น
อย่างดี จนมีลักษณะคล้ายน้ำนมข้น ใช้ทาบริเวณที่ถูกไฟลวก หรือ น้ำร้อนลวก 
มีสรรพคุณอย่างชะงัดนักแลฯ
(พระครูประภาสธรรมคุณ วัดสี่ร้อย อ.วิเศษชัยชาญ อ่างทอง)

ขนานที่ ๓  ท่านให้เอาน้ำมันมะพร้าว ๒ ส่วน น้ำปูนใส (น้ำปูนแดงกินหมาก) ๒ ส่วน
น้ำมันยาง ๑ ส่วน  นำมาผสมกัน กวนให้เข้ากันเป็นอย่างดี แล้วใช้สำลีชุบน้ำยาทาบริเวณ
ที่ถูกไฟลวก หรือ ถูกน้ำร้อนลวก  หรือ ถูกน้ำมันลวก มีสรรพคุณอย่างชะงัดนักแลฯ
(พระครูอาทรสมุทรกิจ จ.สมุทรปราการ)

ขนานที่ ๔ ท่านให้เอา เมล็ดมะขาม นำมาคั่วไฟให้ไหม้ กระเทาะเอาเฉพาะเปลือกเท่านั้น
บดให้ละเอียด ผสมกับน้ำกะทิมะพร้าวก้นกะลา (เวลาคั้นกะทิไม่ต้องใส่น้ำ คั้นเอาเฉพาะ
น้ำกระทิมะพร้าวเท่านั้น)  ใช้พอกบริเวณที่เป็นแผล  มีสรรพคุณอย่างชะงัดนักแลฯ
รับรองว่าจะไม่เกิดเป็นแผลเป็นอย่างเด็ดขาดฯ
(คุณประยงค์ วีรวงศ์ กรุงเทพมหานคร)

ขนานที่ ๕  ท่านให้เอา เปลือกข้าวเหนียว ๓ กำมือ นำมาใส่กระบอกไม้ไผ่ให้เต็มหนึ่งปล้อง
เผาไฟให้ไหม้  เอาเฉพาะข้าวเหนียวไหม้นั้น นำมาบดให้ละเอียด ผสมกับ น้ำมันมะพร้าว
พอสมควร ใช้ขนไก่ หรือสำลีพันปลายไม้ ชุบยาทาบริเวณ ที่ถูกไฟลวก หรือ น้ำร้อนลวก
ใช้ทาทุกวันจนกว่าแผลจะหายสนิท มีสรรพคุณรักษาแผลได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ
(พระฉัน ทีปโก วัดบางสะแก อ.สองพี่น้อง สุพรรณบุรี)

ขนานที่ ๖  ท่านให้เอา ใบผักบุ้งไทย กับ น้ำตาลโตนด พอสมควร นำมาตำผสมกันให้ละเอียด
ใช้พอกบริเวณที่ถูกไฟลวก หรือ น้ำร้อนลวก  ถ้าถูกไฟลวกหรือน้ำร้อนลวกทั้งตัว ใช้พอกเฉพาะ
ที่หน้าอกและที่กลางหลังเท่านั้น อาการปวดแสบร้อนจะพลันหายไปทันที เคยใช้รักษาได้ผลดี
อย่างชะงัดนักแลฯ
( วิทยาทานสงวนนาม)

ขนานที่ ๗  ท่านให้เอา รากเจตมูลเพลิงสด ๗ ท่อน พริกชี้ฟ้าสด ๗ เม็ด ข่าสด ๗ ท่อน ใบพลู 
(พลูกินกับหมาก)สด ๗ ใบ  ตัวยาทั้ง ๔ อย่างนี้ นำมาตำให้ละเอียด ผสมกับ สุรา ใช้พอกบริเวณ
ที่ถูกไฟลวก หรือ น้ำร้อนลวก  อาการปวดแสบร้อนจะพลันหายไปทันที เคยใช้ผลดีอย่างชะงัด
มามากแล้วนักแลฯ
( วิทยาทานสงวนนาม)

ขนานที่ ๘  ท่านให้เอาแผ่นทองคำเปลว ชนิด ๑๐๐% นำมาปิดบริเวณที่ถูกไฟลวก หรือ น้ำร้อนลวก
ให้ทั่วแล้ว ใช้ผ้าสะอาดพันปิดปากแผลให้มิดชิด  ระวังอย่าให้ถูกน้ำเป็นอันขาด บาดแผลจะหายไปแลฯ
( วิทยาทานสงวนนาม)

ขนานที่ ๙  ท่านให้เอา ยางตะเคียน กับ น้ำมันมะพร้าว ตัวยาทั้ง ๒ ชนิดอย่างนี้ เอาอย่างละพอสมควร
นำมาใส่กะทะตั้งไฟเคี่ยวให้ละลายเข้ากันดีแล้ว ใช้สำลีพันปลายไม้จุ่มน้ำยาทาบริเวณที่ถูกไฟลวก หรือ
น้ำร้อนลวก ทาวันละหลายๆครั้ง รับรองว่าจะไม่มีแผลเป็น เคยใช้รักษาได้ผลดีมามากแล้ว  มีสรรพคุณ
ชะงัดนักแลฯ
( พระครูใบฎีกา กมล ยมโก วัดทุบบอนวนาราม อ.ศรีราชา ชลบุรี )

ขนานที่ ๑๐  ท่านให้เอา น้ำมันมะพร้าว ผสมกับ ขี้เถ้าขาว กวนให้เข้ากันแล้ว ปล่อยให้ขี้เถ้านอนก้น ใช้
ทาบริเวณอวัยวะ ที่ถูกไฟลวก  หรือ น้ำร้อนลวก มีสรรพคุณที่จะทำให้หายปวดแสบร้อน จะไม่เป็นแผลเป็น
จะไม่เกิดรอยด่าง ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ
(พระอธิการเรียน ลชฺชิโต  วัดพิหารแดง อ.เมือง สุพรรณบุรี)

ขนาดที่ ๑๑  ท่านให้เอา ใบผักบุ้ง มากพอสมควร นำมาตำให้ละเอียด ผสมกับ สุรา ใช้พอกบริเวณที่ถูกไฟลวก
หรือ ถูกน้ำร้อนลวก มีสรรพคุณบำบัดอาการปวดแสบร้อนให้หายไป ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ
(พระครูนิ่ง ติสฺสวํโส  วัดห้วยเจริญสุข  อ.บางระจัน สิงห์บุรี)

         วันนี้เอาแค่นี้ก่อนนะครับ ต่อไปจะเป็นตัวยาในการใช้รักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ  อนึ่ง ในขนานที่ ๑ นั้น
ในความเห็นส่วนตัวข้าพเจ้า เป็นตัวยา  ที่สามารถเก็บไว้ใช้ได้นานๆและยังสามารถช่วยคนอื่นได้อย่างดี
อย่างกระทันหันฉับพลันและรวดเร็ว ไม่ต้องไปเที่ยวค้นหาในเวลาที่ฉุกเฉินและควรใช้ขนไก่อ่อนๆจุ่มตัวยา
ทาบริเวณดังกล่าวไว้ ซ้ำยังรักษาบาดแผลอื่นๆ ได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย  อีกประการหนึ่งสามารถ
ใช้ได้ทั่วร่างกายได้อีก   ในกรณีย์โดนทั่วๆตัว ด้วยเป็นน้ำมันค่อนข้างข้นๆพอสมควร
การรักษาได้ผลดีชะงัดนักแลฯ (แก้วประเสริฐ)

                             * แก้วประเสริฐ. *

qp011.gifCartoon_Animation_08.gif692823n68ya60jv9.gif				
16 ธันวาคม 2553 22:41 น.

อทิสมานกาย ๕๐

แก้วประเสริฐ

76.gif
                               อทิสมานกาย  ๕๐

     เสียงปืนดังปั๊งๆๆๆพรืดๆๆๆ  สนั่นกึกก้องในบริเวณลานกว้างที่ ใช้ในที่เก็บไม้แปรรูป
เถื่อนทั้งหลายประทับตราและไม่ประทับตรา กองสูงเนินอย่างเป็นระเบียบ  รถบางคันก็
บรรทุกออกไปบ้างแล้ว
  เจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่กำลังประทับตราอยู่ก็พลันทิ้งตราไว้พร้อมกับหมึก  ครั้นได้ยินเสียง
ของเจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศให้วางอาวุธยกมือขึ้นเหนือศีรษะ วิ่งหนีเอาตัวรอดไปตามๆกัน
  หาที่แอบยังบริเวณแถวนั้น เข้าไปที่ปลูกกระต๊อบไว้หลายๆหลัง  บ้างหลบซ่อนแอบแถว
กองไม้ที่สุมขึ้นสูงไว้เพื่อที่จะใส่สายพานลำเลียงมาเพื่อใช้ประทับตราให้ถูกกฏหมาย
   เสียงร้องตะโกนของ เสียหว่างดังขึ้นระหว่างเสียงปืนที่กำลังยิงใส่ร่างของหุ่นที่ถือดาบโล่ห์
หอก อาวุธโบราณที่วิ่งเข้ามาหา แข่งกับเสียงประกาศของเจ้าหน้าทีตำรวจ
   “  เฮ้ยๆๆๆ....พวกเราไม่ต้องกลัวไม่ต้องถอย ยิ่งแหม่งมันเข้าไป  น๊านๆๆต้องอย่างนั้นซิ ”
    “ พวกมันล้อมเราไว้หมดทุกๆด้านนะเสี่ย   ผมคิดว่าให้เสี่ยหาทางหลบหนีไปก่อนมิดีหรือ”
เสียงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบางกระดี่ตะโกนตอบ พร้อมันก็ส่งกระสุนปืนไปแถวบริเวณล้อมรอบ
แนวป่าทันที

     “  ไม่กูไม่ไปทั้งนั้นโว้ยๆ!!!!....  มึงยิงมันเข้าไปคนมันน้อยกว่าเราไม่เท่าไหร่หรอกว๊ะ
เดี๋ยวคงตายห่าหมดล่ะ”  เสี่ยหว่างเอ่ย พร้อมยิงโต้ตอบกับตำรวจทันที
     “ ไปเถอะน่าเสี่ย  ไม่ต้องห่วงทางนี้หรอกเดี๋ยวพวกเราจัดการได้แหละ”  
กำนันถ้วน แห่งบ้านบึ้งห้วยเอ่ยเตือนอีกครั้ง  มันเองก็หันไปทางแนวป่าที่เห็นเงาตะคุ่มๆยิ่งใส่
เข้าทันที   เห็นร่างนั้นพลันผงะและล้มลง  
       พลางส่งเสียงหัวร่อ  ด้วยความดีใจที่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจล้มลง
       “จะเท่าไหร่กันว๊ะ นึกว่าแน่ๆ”  
     แต่แล้วเสียงหัวเราะมันก็หยุดชะงักอ้าปากค้าง เมื่อแลเห็นร่างที่เห็นนั้นกลับลุกขึ้นยืนอีกพร้อม
หันมายิงมันทันใด กระสุนปืนถูกที่ไหล่ซ้ายมันถึงกับทรดกายนั่งทันทีและยังติดตามมาอีกหลายๆ
ลูก อาศัยเสาไม้บังไว้กระนั้นมันก็ยังโดนที่หน่องขาอีก
     เมื่อลูกน้องกำนันถ้วนเห็นลูกพี่ดังนั้นก็วิ่งสลับฟันปลามา ช่วยเหลือหัวหน้ามันทันที
     “ เป็นอย่างไรบ้างกำนัน  ”    มันพยุงร่างกำนันพร้อมมือก็หันปืนยิงเร็วส่งกระสุนออกไปทันที
     “ กูยังไม่ตายว๊ะ  เออๆดีให้มันได้อย่างนั้นซิไอ้เวก ”  กำนันชม แต่มันก็กัดฟันกรอดๆพลางล้วง
ไปในกระเป๋าหยิบยาแก้ปวดฉีกซองออกมายกซองเทขึ้นกินทันที  เป็นยากลางบ้านคือทันใจ อัน
เป็นที่นิยมกันอย่างมากสำหรับแถวชนบท ใช้ทั้งรักษาไข้และปวดได้อีกด้วย

     แต่กระนั้นมันก็หันไปมองทางลูกน้องมันและพวกลำเลียงไม้มาส่ง ต่างก็ยิงต่อสู้กันทุกๆคน  แล
เห็นร่างพวกลำเลียงไม้ต่างล่วงผล๊อยๆกันไปหลายคน ส่วนทางพวกมันก็ล่วงๆลง แต่ที่เหลือก็ต่าง
ยิงกันปะทะอย่างไม่เกรงกลัว  พลางส่งกระสุนปืนยิงออกไปอีกอย่างไม่หวาดหวั่น
    “ เฮ้ยไอ้ถ้วน  มึงไม่เป็นไรมากนักหรือว๊ะ”  เสียงกำนันแช่มบ้านเนินสูงตะโกนถาม
    “ยังโว้ยกูยังไม่ตายไอ้แช่ม  มีอย่าหนีมันนะโว๊ยเห็นไหมพวกเรามากกว่ามัน หากน้อยกว่ามัน
คงบุกเข้ามาแล้วล่ะ????....”
     “เออดีว๊ะ ให้มันได้อย่างน๊านซิว๊ะ”   ก็แลเห็นประกายไฟวูบวาบออกจากปืนของไอ้แช่มมัน
ที่ต่อสู้อย่างไม่เกรงกลัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหลียวไปมองยังพวกของไอ้กำนันบาง บ้านนางลอย 
ที่ขมักเขม่นสั่งลูกน้องให้ต่อสู้ อย่างไม่ถดถอย  ส่วนเสี่ยหว่างเองก็ใจถึงมันไม่ยอมหนีไปไหน
เหมือนกัน  สร้างขวัญกำลังใจให้แก่พวกมันและพวกลำเลียงเมื่อมันมองมายังเสี่ยหว่างเห็นกำลัง
ยิงต่อสู้อย่างไม่ถอยหนี เหมือนกับพวกมัน
        เสียงร้องของกำนันบาง ก็ตะโกนถามกำนันถ้วนเหมือนกัน
    “เฮ้ยไอ้ถ้วน มึงไม่เป็นอะไรแน่นะโว้ย????....”

    “ เออยังไม่ตายห่าหรอกว๊ะ” ปากตะโกนตอบกำนันบางทันที  แต่แล้วตัวมันก็สะดุ้งเฮือกตาเหลือก
ลานเมื่อหน้าอกด้านซ้ายมันโดนกระสุนปืนเข้าไปหลายๆนัด  ร่างมันกระโดดขึ้นเต้นเร่าๆแล้ว
หงายผึ่งลงทันที ส่วนลูกน้องมันก็ล่วงตามนายมันอีกคน
    กำนันบางกำนันแช่มและผู้ช่วยกำนันมั่นเห็นว่าทางกำนันถ้วนไม่เป็นอะไร ก็ไม่มองหันหน้าไปยิง
ต่อสู้ทันที    เสียงปืนดังสนั่นลั่นป่าไปหมด ร่างของเจ้าหน้าที่ป่าไม้คนหนึ่งถึงกับผงะเมื่อเจอกระสุน
เข้าใส่หลายๆนัด ร่างมันกระเด็นออกจากกองไม้ทันที  ที่กระสุนเล็ดรอดเข้ามาได้ถูกมันอย่างจัง ถึง
กับเซแซดๆกระเด็นออกจากที่กำบังล้มลงสิ้นใจตาย
     เสียงทางด้านฝ่ายลำเลียงไม้มาส่ง ก็ตะโกนบอกทันทีว่า....
     “ พวกเรามาช่วยกันแล้วล่ะโว้ย!!!!...ไม่ต้องกลัวอะไรมันตีโอบล้อมพวกตำรวจไว้แล้วว๊ะ???...”
     “เฮ้ยๆๆๆพวกเราโว้ยพวกกูมาช่วยแล้วล่ะไม่ต้องพวกกลัวมันหรอก”  เสียงปืนอาก้าดั่งสนั่นลั่นขึ้น
อีก  พรืดๆๆๆๆ....ดังขึ้น  พร้อมกับเสียงตะโกนบอก
     “ทางเราแบ่งกำลังโอบล้อมพวกมันอีกด้วยว๊ะ!!!!!....เสี่ยหว่างโว้ยไม่ต้องกลัวพวกเรามากันอีกแยะ”
มันร้องตะโกนบอกทางเสี่ยหว่างและพวกเพื่อเรียกขวัญกำลังให้มากๆยิ่งขึ้น

        คล้ายพวกตำรวจได้สัญญาณอะไรบางอย่างก็เห็น เหล่าชาวบ้านถือโล่ห์หอก ดาบ วิ่งออกมากจากชายป่า
เหมือนไม่เกรงกลัวอาวุธปืน อันร้ายแรงของพวกมัน
    “เฮ้ยๆๆพวกมันออกมาแล้วล่ะว๊ะ ยิงโว้ยยิงมัน”  เสียงร้องตะโกนออกมาจากพวกกำนันและพวกลำเลียงไม้
เถื่อนมา ทุกๆคนแลเห็น พวกมันขณะวิ่งบ้างถูกปืนล้มลง บ้างเซผงะ บ้างถูกระสุนทะลุออกหลัง
พวกที่ล้มต่างก็ ลุกขึ้นวิ่งมาหามันได้อีก กระสุนปืนแค่ทำให้เซและล้มลงเท่านั้น
หาได้ทำอันตรายแก่มันได้ไม่ต่างก็ยืนถือปืนจังงังกันไปตามๆกัน
  เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวพวกชาวบ้านก็เข้ามาถึงมันเสียแล้ว พลางยกดาบหอก มีดแหลมแทงพวกมัน
ที่อยู่ด้านหน้าล้มตายลงไปมากทันที
  “เฮ้ยๆๆมันตำรวจผีหรือคนว๊ะ ยิงมันไม่ตายว๊ะกลับลุกขึ้นมาได้อีก”  เสียงร้องลั่นจากพวกผิดกฏหมาย
  “พวกกูจะรู้หรือว๊ะ ก็เห็นเหมือนพวกมึงนั่นแหละโว้ย  ยิงมันก่อนเถอะว๊ะไม่ต้องถามมากโว้ย”

        เสียปืนดังเปรี้ยงปร้าง ปั๊งๆๆ พรืดๆๆระงมไปทั่วบริเวณแถบริมแม่น้ำและลานไม้แปรรูป
  เสียงระเบิดดังกึกก้องตามมาอีก  ด้วยบรรดาเรือที่นำพวกมาส่งต่างถูกระเบิดขว้างเข้าใส่หลายๆลูกระเบิด
  เศษไม้เกลื่อนกระจายไปบ้าง กระเด็นลอยเข้ามาในลานที่ใช้ทำงานกัน
   “เฮ้ยพวกเรามันแอบไปทางแม่น้ำแล้วโว้ย  ไอ้ห่ามันทำลายเรือพวกเราเสียหมดด้วย”  เสียงตะโกนร้อง
บอกกันไปทั่ว  สู้ๆๆๆโว้ยๆๆๆสู้ๆๆๆ....เสียงตะโกนของพวกลำเลียงของเถื่อนมาส่งตะโกนดังก้อง
     การยิ่งต่อสู้กันตั้งแต่เที่ยงคืนจวบจนฟ้าสาง  การยิงก็ยังไม่เลิกรากัน ต่างฝ่ายต่างระดมยิงโต้ตอบกันไปๆ
มาๆ    เมื่อแสงสว่างเกิดขึ้นพวกมันก็พากันตกใจยิ่งขึ้นเมื่อเห็นพวกชาวบ้านป่าที่ถือโล่ห์อาวุธโบราณต่างๆ
นั้นพากันเก็บอาวุธหมด  แล้วต่างกันก็เข้ามาคว้าอาวุธพวกมันที่ตกเรี่ยระเนระนาดที่ล้มตายไปขึ้นมายิงอีก
มันไม่คิดว่าพวกชาวบ้านป่าจะสามารถใช้อาวุธทันสมัยเป็น  กว่าจะตั้งสติได้ด้วยจิตใจเสียไปเมื่อเห็นพวก
มันกับถูกปืนของพวกมันเอง ล้มดิ้นชักตายระเนระนาดไป
      พวกกำนันทั้งหลาย หากปืนมันเป็นปืนเก่าหน่อยก็ได้ยินแต่เสียงดังแช๊ะๆแล้วก็ระเบิดทำเอาพวกมันเสีย
ชีวิตด้วยปืนของมันเอง  พวกปืนทันสมัยหน่อยก็ยิงไป บ้างก็ขัดลูกปืนขัดลำกล้องเสียอีก ยิงได้บ้างไม่ได้บ้าง
ทำความงุนงงต่อมันมากนัก   ครั้นเสี่ยหว่างเห็นเช่นนั้นก็ปากอ้าตาค้างไปเมื่อใกล้ตัวมันลูกน้องมันซ้ายขวา
ยิงไปเสียงดังแช๊ะๆพอแช๊ะที่สามปืนของลูกน้องมันก็แตกระเบิดทันที   ทำเอาลูกน้องมันถึงกับล้มหงายดิ้น
พลาดๆไป เมื่อเหลียวหลังไปดูพวกมันก็เห็นต่างล้มตายด้วยกระสุนปืนของฝ่ายตำรวจบ้าง  ปืนระเบิดตายเอง
บ้าง  เลือดนองไปทั่วบริเวณลานกว้างที่ใช้เก็บไม้แปรรูป สายพานที่ส่งด้วยเครื่องจักรก็ถูกทำลายเสียสิ้นด้วย
ระเบิดของพวกตำรวจที่ขว้างมา

    ส่วนตัวเสี่ยหว่างก็โดนสะเก็ดปืนที่แตกออกกระจายเข้าใส่ร่างมันและใบหน้า เลือดไหลโทรมกาย
แต่นี่แค่สะเก็ดระเบิดเล็กๆเท่านั้นหากเป็นกระสุนจริงปานนี้มันคงจะตายไปเสียแล้ว
    บัดนี้อากาศสว่างขึ้นแล้วในยามเช้าตรู่ของวันใหม่ แต่ก็ยังมีหมอกเบาบางเรี่ยราดพื้นอยู่  แต่ก็มองเห็น
สภาพได้อย่างชัดเจน  ยามที่พวกมันขว้างระเบิดใส่ร่างของชาวบ้านป่าที่ต่างสาระวนในการเก็บปืนร่าง
พวกมันกระดอนกระเด็นลอยสู่ท้องฟ้า แต่พอตกมายังพื้นดันกลับลุกขึ้นวิ่งเข้าไปคว้าปืนอีก
    เสี่ยหว่างถึงกับอ้าปากค้างในสายตามันถึงกับขยี้ตามมันทั้งสองข้าง พร้อมกับหยิกแขนตัวเองก็รู้สึกว่า
เจ็บมันถึงกับสะดุ้งนึกว่ามันถูกหลอกหลอนด้วยผี  แต่ๆๆๆนี่ๆๆสว่างแล้วพระอาทิตย์ขึ้นแล้วหากเป็น
พวกผีก็ต้องหายไป  แต่ที่มันเห็นเป็นร่างคนชัดๆ ไฉนลูกปืนระเบิดก็ไม่สามารถทำลายร่างกายมันได้เลย
และไม่มีเลือดไหลออกจากร่างมันสักนิดเดียว
    “ไอ้หย่า!!!!???....จะว่าอั้วถูกผีหลอกก็ไม่ใช่นี่หว่า มันคนชัดๆ พระอาทิตย์ขึ้นแล้วสว่างหรือก็สว่าง
แล้วนี่ก็สายแล้วด้วย  หากเป็นผีมันต้องหายไปซิว๊ะ???....”  มันพูดกับตัวเอง

        ทันใดนั้นพวกชาวบ้านป่าครั้นหยิบปืนได้ก็หันไปยิงพวกลำเลียงไม้เถื่อนอีก  เห็นพวกมันก็งุนงงแต่
ร่างมันไม่งุนงงด้วยเต้นเร่าๆไปตามแรงกระสุนปืนที่พวกชาวบ้านยิงใส่ ล้มตายระเนระนาด บ้างวิ่งหนีไป
ด้วยขวัญหนีดีฝ่อไปตามๆกัน
      “ไอ้หย่าๆ...อั๊วจะซี้เลี้ยวหน่อ??....”  มันหันหลังกลับวิ่งหนีไปทางรถยนส่วนตัวมันทันทีหลบหลีกวิ่ง
ทะแยงไปๆมาๆ
        “ไอ้เว้งๆๆโว้ยๆๆ...มึงอยู่ไหนว๊ะไอ้ห่าๆ...ไปกันโว้ยกูอยู่ไม่ได้แล้วล่ะว๊ะ ยิงเท่าไหร่มันก็ไม่ตายสักที”
เสียงเสี่ยหว่างร้องแรกแหกกระเฌอ
         “อั๊วอยู่นี่อาเสี่ย กำลังสตาร์ทรถให้ลื้อจะไปหรือไม่ไปล่ะ???...”  ไอ้เว้งถาม
         “อยู่ห่าเตี่ยมึงเร๊อะ???....กูไม่กลัวคนโดนปืนตายว๊ะ แต่ไอ้พวกห่านี้ปืนยิงไปมันเสือกไม่ตายกูกลัวว๊ะ???.. 
มึงรีบออกรถได้ไปตามทางที่กูบอกมึงไว้ก่อนนะโว้ย อย่าเสือกไปตามทางที่มาเสี่ยล่ะ” เสี่ยหว่างเปิดประตู
หลังรีบขึ้นรถไป พอรถปิดประตูแทบไม่ทันเสียงปืนก็ระดมยิงมาแต่อาศัยว่ารถมันกันกระสุนปืนได้จึงไม่
เป็นไร   รถมันกระชากส่ายไปส่ายมาก็ลับหายไปจากลานต่อสู้กันทันที

        ครั้นรถเลยไปเลือดมันยังไหล จึงล้วงหยิบผ้าเช็ดหน้ามาอุดรอยแผลไว้ทางนี้ทีทางโน้นที 
แต่อาศัยเพียงแค่เป็นสะเก็ดระเบิดของปืนแตกเท่านั้นบาดแผลถึงไม่ลึกแค่ทำให้เลือดมันไหลได้เท่านั้น
เมื่อรถมันแล่นพ้นเสียงการต่อสู้ไปแล้วแต่ข้างรถมันเป็นแค่รอยกระสุนปืนพรุนๆไปแต่ไม่เข้ามาในตัวรถ
    “สงสัยว่าพวกเราที่มากันมีมึงกับกูเท่านั้นที่จะรอดว๊ะ  สงสัยมันจะซี้เลี๊ยวหน่อ มึงคิดอย่างกูไหมไอ้เว้ง”
    “คงจะเป็นแบบอาเสี่ยว่าแหละ สงสัยมันจะซี้หมดแล้วล่ะ”   ไอ้เว้งตอบ
     “ไอ้ห่างานนี้กูทุ่มมากมายเสียด้วย เจ๊งๆๆๆก็คราวนี้แหละแต่ช่างเถอะ  ไอ้ห่าเสี่ยเล้งมันจะคิดอย่างไร
บ้างล่ะ ไหนมึงลองช่วยกูคิดหน่อยซิว๊ะ”
      “อั้วจะไปรู้เหรอเสี่ย  ขนาดเสี่ยสมองดีกว่าอั้วยังคิดไม่ออก ถ้าอั้วมีสมองยังกับเสี่ยป่านนี้ไม่ต้องมา
นั่งเป็นคนขับรถให้เสียหรอกจริงไหมเสี่ย”  ไอ้เว้งตอบ
      “อืมมๆๆ...มึงพูดก็ถูกของมึง  แล้วกูจะทำอย่างไรดีว๊ะ หากไอ้เล้งมันรู้เรื่องโว้ย  โอ้ยๆๆกลุ้มๆๆโว้ย!!!...”
พลางยกมือที่เปื้อนเลือดกุมหัวมันทันที  พลางเหลียวไปข้างหลังก็ไม่เห็นใครติดตามมาค่อยโล่งใจนัก

       ขณะนั้นฝ่ายกำลังที่มาทางเรือก็ค่อยๆย่องมาทางด้านหลังฝ่ายของตำรวจ มันมาอย่างเงียบเชียบนัก
แต่ทันใดพวกมันก็สะดุ้งเกือบทุกๆคน ประมาณสามสี่สิบคนได้ต่างหันหลังไปทันที ก็เห็นร่างของพวก
ชาวบ้านที่ถือปืนออกมาเรียงรายล้อมมันอีกที  ทำให้พวกมันตกใจยิ่งนัก มันคิดไม่ถึงว่าจะถูกตลบหลังอีก
      ก็สายมันรายงานแล้วว่าทางโน้นนั้นตายห่าเรียบไปหมดเหลือจับกุมก็ไม่กี่คนนี่หว่า แต่จะมาช่วยทางนี้
คงไม่ทันแน่  ถ้ามาเสียงรถก็คงจะได้ยินดังมาก่อนแล้วแต่ก็ต้องเวลาเป็นหลายชั่วโมงกว่าจะมาถึง แต่นี้
มันมาได้อย่างกันกัน ต่างก็ถามกันไปๆมาๆกันหมด ทุกๆคนก็ไม่รู้ได้แต่ส่ายหน้ากันไปมา
      ดังนั้นมันจึงรีบแบ่งกำลังกันหันหน้าไปทางฝ่ายตำรวจ  โดยต่างหันหลังชนกันมาทางชาวบ้าน
ที่ถือปืนเรียงรายกระจายกันเข้ามา เป็นกลุ่มได้ห้ากลุ่มตามที่หัวหน้ามันคิด มันห้าสิบกว่าๆ
ทางเราแค่สามสี่สิบ สู้สีว๊ะพวกมันคิดกัน       หัวหน้ามันสั่งทันที
   “สู้ๆๆโว้ย...โอ้ยๆๆๆ”  เสียงร้องสู้ๆโว้ยยังไม่ทันกล่าวต่อร่างหัวหน้ามันก็
ทะลึงพรวดขึ้นฟ้าแล้วตกมาเต้นเร่าๆ
เมื่อมันถูกพวกตลบหลังชาวบ้านป่ายิงปืนอาก้าใส่มาเป็นชุดๆ  พรืดๆๆๆ  เท่านั้นเองก็เกิดเสียงปืนดัง
ขึ้นทันทีต่างระดมกันยิงใส่กันและกันอย่าเมามันส์ไม่ยั้งมือ ทั้งสองฝ่าย

     ทางด้านสารวัตรสังวาลย์ ผู้กองจรัส ก็รู้ตัวสั่งแบ่งกำลังกันออกต่อสู้ทันที  ส่วนเจ้าแสงสีนั้นนำพวกออก
นำหน้าไปต่อสู้กับพวกกำนันและพวกลำเลียงไม้เถื่อนมาอยู่ในบริเวณลานที่กองสุมไปด้วยไม้แปรรูปแล้ว
    ก่อนไปเจ้าแสงสีหันมาบอกเขาว่าให้เขาและผู้กองไม่ต้องออกไปให้สั่งหาชัยภูมิเหมาะสมไว้แค่เพียงยิง
ออกไปเท่านั้นไม่ต้องออกไปเด็ดขาด  พวกนั้นทำอะไรลูกน้องมันไม่ได้เหมือนเชื่อมั่นเสียเหลือเกิน ก็จริง
ดังที่สารวัตรและผู้กองเห็น  พวกลูกน้องของเจ้าแสงสี ตลอดจนเจ้าแสงสีเองก็โดนกระสุนปืนหงายหลังล้ม
ไปแต่กระสุนทำอะไรเจ้าแสงสีไม่ได้ เพียงแค่ผงะหงายหลังแล้วกลับลุกขึ้นเดินเข้าไปต่อสู้อีก  
     เมื่อเจ้าแสงสีและลูกน้องมันได้ปืนฝ่ายตรงข้ามแล้วก็นำปืนมันยิงใส่ไปหาพวกมันอีก ทำให้ผู้กองแปลกใจ
เรื่องคงกะพันชาตรีนั้นผู้กองไม่สงสัย  แต่สงสัยว่าเหตุใดลูกน้องเจ้าแสงสีมันถึงใช้อาวุธทันสมัยได้อย่างคล่อง
แคล่วว่องไวราวกับได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีเยี่ยม  และอีกอาวุธนั้นเป็นจำพวกอาก้าที่ผู้ก่อการร้าย
ต่างประเทศเพื่อนบ้านเรือนเคียงใช้ด้วย  กับชำนาญยิ่งกว่าตำรวจพวกเขาเสียอีก อาวุธอาก้าทั้งเบาและมี
กระสุนมากกว่าปืนเอ็ม๑๖มากนัก  ซึ่งมีแต่อาวุธทันสมัยที่เขาได้รับและมอบให้ตำรวจเท่านั้นถึงจะดีกว่าอาวุธนั้น
    “ผู้กองเห็นเหมือนผมไหมล่ะผู้กอง”  สารวัตรถาม
     “ครับผมเห็นครับก็แปลกใจนักว่าทำไมพวกลูกน้องเจ้าแสงสีถึงได้ใช้อาวุธประเภทนี้เป็นและเชี่ยวชาญด้วย”
ผู้กองจรัสตอบทันที
      “นั่นซิ ผมถึงแปลกใจมากนัก ฝ่ายเราเสียอีกยังไม่ชำนาญเท่าพวกลูกน้องแสงสีเลย”
      “  แต่ช่างเถอะครับสารวัตร แบ่งกำลังออกปะทะตีโอบพวกลำเลียงไม้ทางเรือมาช่วยดีกว่านะ”
      “ จริงซิผู้กอง”   พลางตะโกนแจ้งรหัสไปทันที  
       ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่ครั้นได้รับทราบแล้วก็แบ่งกำลังกันทันที จากสองคนกลายเป็นหนึ่งคนแยกกันทำงานทันที

      ตอนนี้ฝ่ายมาช่วยเหลือก็ตกอยู่ในวงล้อมทันทีไม่สามารถจะหนีไปไหนก็แบ่งกำลังกันต่างหันหน้าหลังเข้าต่อสู้
ทันที
      เสียงดังพรืดๆๆระงมไปทั่ว ทางสารวัตรและผู้กอง แยกกันนำคนเข้าต่อสู้ทันที  สารวัตรพลางหันมาทางผู้กอง
แล้วสั่งทันที
       “ผุ้กองไม่ต้องไปให้คอยคุมกำลังทางด้านนี้ไว้คอยช่วยเจ้าแสงสี  ผมจะนำกำลังไปช่วยพวกมาช่วยเหลือเรา”
       “ครับสารวัตร”   แล้วผู้กองก็หันหลังกลับไปยิงต่อสู้กับพวกในลานกว้างทันที  
    ฝ่ายทางด้านช่วยเหลือครั้นโดนกระหนาบทั้งหน้าหลังก็ค่อยทะยอยตายลงกัน ทีคนละคนด้วยอาวุธนั้นต่างทัดเทียม
กัน ด้านฝ่ายสารวัตรเป็นอาวุธทันสมัยใหม่ ส่วนทางมาช่วยเหลือครั้นสารวัตรมองเห็นถึงกับอ้าปากค้างแต่มือก็ยัง
ยิงไป ด้วยสายตาบัดนี้เห็นแล้วว่า เป็นใครมาช่วย คือเจ้าสินชัยนั่นเอง มันนำหน้าพวกลูกน้องมันเดินยิงเข้ามาไม่
เกรงกลัวกระสุนฝ่ายด้านลำเลียงไม้เถื่อนเลย  แค่ผงะนิดหน่อยแล้วก็เดินเข้ามาอีก ที่ทำให้สารวัตรแปลกใจยิ่งขึ้น
     คือเจ้าสินชัยใช้ปืนอาก้าและลูกน้องที่เดินเรียงหน้ากันเข้ามาก็ถือปืนอาก้ากันแทบทุกคน
เสียงดังพรืดๆๆๆระงมไปทั้งสองฝ่าย ส่วนด้านตำรวจนั้นดีหน่อยที่มีทำเลเหมาะสูงได้เปรียบกว่า 
         แต่ด้านเจ้าสินชัยเสียเปรียบด้านชัยภูมิแต่อาศัยที่กระสุนนั้นไม่สามารถระแคะระคายผิวหนังมันได้เลย
 นอกจากพวกนั้นจะเซบ้างผงะบ้างแต่ก็เดินตรงเข้ามาไม่มีที่กำบังอะไรเลย พวกผิดกฏหมาย
เมื่อเห็นพวกมันล้มตายระเนระนาด ที่เหลือต่างก็ทิ้งปืนยกมือขึ้นยอมแพ้  
เลยถูกตำรวจของสารวัตรจับได้เกือบสิบคน ทุกๆคนถูกสวมกุญแจมือทั้งสิ้น  ถูกนำมานั่งรวมกลุ่มอีกด้านหนึ่ง
       เจ้าสินชัยและพวกต่างเดินมาอย่างเป็นระเบียบกระจายกำลังออกระวังภัยให้ทันที   ส่วนสินชัยก็เข้าไป
หาสารวัตร พลางเอ่ยขึ้นว่า
    “ทางด้านโน้นเป็นอย่างไรบ้างครับสารวัตร”
    “ กำลังต่อสู้กันหนักอยู่ แต่แสงสีนำกำลังพลไปออกรบเองกับพวก  แต่ไม่ใหัพวกเราออกไปให้คอยยิงช่วยเหลือ”
สารวัตรเอ่ยขึ้น
     “ถ้าอย่างนั้น ผมลาไปช่วยพี่แสงสีก่อนนะแล้วกลับมาค่อยคุยกัน”  มันไม่รอคำตอบก็หันไปสั่งทางลูกน้องมัน
ทันที  เหล่าลูกน้องมันก็เดินผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งทุกๆคนอ้าปากค้างด้วยเห็นอาวุธในมือของพวกชาวบ้านล้วน
แล้วแต่เป็นอาก้าที่ผู้ก่อการร้ายใช้นั่นเอง............

                        *  แก้วประเสริฐ.  *

qp011.gifCartoon_Animation_08.gif692823n68ya60jv9.gif				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแก้วประเสริฐ