17 ธันวาคม 2553 19:25 น.

อทิสมานกาย ๕๑

แก้วประเสริฐ

76.gif
                               อทิสมานกาย  ๕๑

     ครั้นสินชัยผละจากสารวัตรแล้ว  ก็นำกำลังเขาทั้งหมดมุ่งหน้าเดินฝ่าแนวกระสุนปืน
ของฝ่ายตรงกัน ข้ามเขาเดินไปหาแสงสีทันที พลางเอ่ยขึ้นว่า
     “พี่แสงสี นายเราสั่งไว้ให้ผมนำกำลังมาช่วยพี่ด้วย ทางโน้นเรียบร้อยแล้ว
นายเรามาด้วยพร้อมกับอาจารย์แม่นางอัปสรทั้งสองแต่มาร่างกายทิพย์
ไม่มีใครเห็นหรอก เรียกผมไปให้รีบมาทางนี้ด้วยทราบว่าพวกลำเลียงไม้จากฝั่งโน้น
ส่งคนมาช่วยเหลือจำนวนมาก  
        แต่บัดนี้ที่มาตลบหลังฝ่ายเรานั้นต่างตกตายและถูกจับกุมได้ประมาณสิบคนเห็นจะได้ 
 นอกนั้นตายเรียบหมดพี่”
      “หรือน้องสินชัย นายเรามาด้วยหรือ ทางนี้ทางฝ่ายเราเท่านั้นที่ได้เปรียบอยู่
 ส่วนทางด้านตำรวจพี่ไม่ให้เขาออกมาเนื่องจากไม่ไว้วางใจความปลอดภัยนั่นเอง 
 เหลือคนทางนี้อีกไม่เท่าไหร่แล้วก็จะเรียบร้อย  พี่เองตอนแรกก็เวทนามันหรอก 
เมื่อมาคิดถึงภัยอันใหญ่หลวงแก่แผ่นดินมากนัก

       จึงระงับไว้เสียนึกว่าเราช่วยขจัดเสี้ยนหนามแผ่นดินก็เป็นบุญกุศลเราอย่างหนึ่ง 
ที่มองเห็นกำนันยังอยู่อีกสองคนส่วนหัวหน้าฝ่ายลำเลียงไม้มานั้น คงจะเหลืออีก
แค่รองๆมันเท่านั้นที่ควบคุมฝ่ายมัน    นอกนั้นตายหมดแล้วล่ะ  ส่วนหัวหน้าการใหญ่
       เสี่ยหว่างนั้นมันหนีรอดไปได้ไม่รู้ว่าจะติดตามอย่างไร??..”
      “เรื่องนี้นายหญิงสั่งกำชับและบอกหนทางให้แก่ผมแล้วครับพี่
   ฉะนั้นผมจะรีบติดตามมันไปด้วยเราไปอย่างไม่ใช่คนธรรมดา ใช้เวลาไม่นานนัก
 เพียงขึ้นเขาไปสะกัดก็คงจะทันหรอกพี่    ถ้าอย่างงั้นผมจะทิ้งลูกน้องไว้ให้พี่
คอยควบคุมแทนไว้ด้วย ผมเองจะรีบไปกับพวกประมาณสักห้าตนก็คงจะเพียงพอแล้ว 
 จะต้องขึ้นข้ามภูเขาไปดักทางไว้คงทันแน่นอนครับพี่”
      “ถ้าเป็นอย่างที่นายหญิงเราแจ้งไว้ก็ดี  พี่เองจะได้ไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลังคิดมาก
  เจ้ารีบไปเถอะนะ  ทางนี้พี่จะคงจัดการได้อีกในไม่ช้านี้แหละ
 ยิ่งได้พวกเรามาล้วนแต่ชำนาญอาวุธทั้งสิ้น   คิดว่าเวลาคงจะกำจัดได้ไม่นานนัก

     เห็นลูกน้องของน้องพี่นำเอาปืนอาก้ามาเกือบทั้งหมด คงอีกไม่ถึงชั่วโมงหรอก
พี่ก็จะจัดการได้เรียบร้อยแล้ว 
 น้องไปเถอะอย่าให้พลาดได้เชียวนะเดี๋ยวนายหญิงจะเสียใจ”  แสงสีกล่าว
     “ครับพี่ผมจะสั่งลูกน้องผมก่อนแล้วจะคัดคนไปแล้วรีบเดินลัดข้ามภูเขาไป
 ด้วยหนทางนี้ต้องอ้อมตามไหล่เขาวกวนไปมา พวกมันคงใช้เวลานาน
กว่าจะถึงทางสายตรง”      สินชัยกล่าว
        พลางหันไปสั่งลูกน้องและคัดคนออกมาห้าคน  ให้ทุกๆคนฟังคำสั่งพี่แสงสี
ทุกๆครั้งด้วย   ทางลูกน้องของสินชัยหัวหน้าเริ่มได้สั่งลูกน้องให้ทราบทุกๆคน
 หัวหน้าพ่วงฝ่ายแสงสีก็หันมาไหว้สินชัย  พลางเอ่ยขึ้นว่า
       “ทางนี้ไม่ต้องห่วงหรอกครับนาย  ผมคิดว่าไม่นานหรอกก็จะจัดการได้
เรียบร้อยแล้วด้วย  ตอนนี้พวกมันต่างกลัวพวกเราอีก  ต่าง ขวัญหนีดีฝ่อไปตามๆกัน
 มันกำลังคิดหาหนทางหนีอย่างเดียว   ผมได้คุยกันกับหัวหน้าเริ่มแล้วว่าจะแยกย้ายกัน
ตีตลบหลัง ด้านหน้าผมเองจะเข้าตลุยส่วนด้านตลบหลังนั้นหัวหน้าเริ่มจะอ้อมไป
ทางแม่น้ำแล้ววกกลับตีตลบหลังอีกทีครับ” เจ้าพ่วงรายงาน

       “ อืมๆๆๆ....นับว่าเป็นแผนการณ์ที่ใช้ได้ทีเดียวแหละมันจะได้หนีไปกันไม่ได้ 
ขอบใจมากนะพ่วง   เอาล่ะเดี๋ยวข้าจะรีบออกเดินทางไปสะกัดเจ้าหว่างเสียหน่อยนะ” 
สินชัยเอ่ยขึ้น
       “ครับนายไม่ต้องห่วงหรอก  ผมจะทำตามแผนที่เจ้าพ่วงบอกไว้ครับ” 
ทั้งสองเอ่ยตอบ
 พลางหันหน้าไปทางแสงสี  พลางเอ่ยบอกกล่าวทันที
        “พี่แสง ผมจะออกเดินทางไปเดี๋ยวนี้นะครับ หากเสร็จกำจัดมันได้หมดแล้ว
จะรีบเดินทางมาสมทบทันที”
         “  ไปเถอะน้องรัก คิดว่าแค่นี้ไม่พอมือน้องหรอก ข้ามภูเขาทางด้านทิศใต้
นั่นแหละเห็นว่าเหมาะสมที่สุดด้วยพี่เองก่อนนั้นเคยไปสำรวจมาแล้วล่ะ”
  แสงสีตอบน้องมัน

       ดังนั้นเจ้าสินชัยก็เรียกคนที่มันคัดมาห้าคนออกเดินทางด้วยอำนาจ
ที่มีพลังงานอีกมิติหนึ่งนั้นทั้งหมดก็หายตัวข้ามเขาไปทางทิศใต้   
ก็เห็นไหล่เขาเป็นทางผ่านที่คดเคี้ยวไปๆมาๆ  จึงนำลูกน้องมันลงยังด้าน
ก่อนทางจะลงไปยังทางทอดลงไปยังที่ราบเข้าสู่ตัวเมือง  
 ครั้นถึงแล้วก็สั่งให้คนนำขอนไม้แห้งใหญที่วางไว้ข้างทางมาขวางกั้นรถบน
ถนนทันที  รอคอยมาของรถยนต์  สินชัยก็พลันนึกได้ว่าทำไมรถของเจ้าเสี่ยชั่วร้ายนี้
ถึงได้ฝ่าวงล้อมออกมาได้ คงจะไม่ใช่รถธรรมดาแน่นอน หรือว่าเอ๊ะ???.... 
 ใช่แล้วรถมันคงจะเป็นรถแบบหุ้มเกราะป้องกันกระสุนนาๆชนิดได้   
       จึงหันไปทางลูกน้องมันว่า 
   “เจ้าสองคนนี่ให้รีบไปนำขอนไม้มาวางกั้นไว้อีกชั้นหนึ่งก่อน
ด้วยรถของเจ้าเสี่ยนี้ไม่ใช่รถธรรมดาและยิ่งวิ่งหนีมาด้วยความเร็วเช่นนี้
คงจะชนกับขอนไม้ให้นำขอนไม้มาขวางอีกชั้นหนึ่งด้วยพร้อมหินดันไม้ไว้
    หากมันผ่านชั้นแรกไปก็ต้องปะทะกับชั้นสองดังนั้นรถมันต้องตกเขาแน่นอน  
ให้เจ้าสองคน พลางชี้มือไปสั่ง ให้ลงไปรอยังเบื้องล่างของเขา 
หากรถมันตกไม่ระเบิดขึ้น  ก็ให้จัดการส่งมันไปเกิดใหม่ทันที”

   เจ้าทั้งห้าพอฟังคำของสินชัยพลางเอ่ยว่า
    “ครับนาย ผมจะดำเนินการเดี๋ยวนี้เลยครับ “  แล้วมันทั้งสี่ก็แยกย้ายกันไปทำงาน
 สองคนด้านซ้ายมือก็รีบไปเอาขอนไม้มาขวางกั้นอีกชั้นหนึ่งพร้อมนำก้อนหินก้อนใหญ่
มาหกก้อนวางระหว่างหัวท้ายและตรงกลางอีกด้วยดันไม้ไว้ด้านในกันไหลของไม้ได้
 แล้วรีบเดินมารายงานผลให้สินชัยหัวหน้าใหญ่มันทันที
  ส่วนอีกสองคนก็รีบลงไปยังตีนเขาแล้วพากัน ต่างแยกย้ายกันหลบยังต้นไม้ใหญ่ 
แต่ไม่ห่างไกลกันมากนัก คอยรอจังหวะดูอยู่
     เมื่อการสั่งงานของสินชัยเห็นลูกน้องมันทำงานอย่างว่องไวเรียบร้อยแล้ว 
มันจึงสั่งให้อีกสามคน หลบไปยังไหล่เขาหาที่กำบังรวมทั้งตัวสินชัยเองด้วย
 ต่างแยกย้ายหาที่หลบซ่อน เพื่อมิให้รถของเจ้าเสี่ยหว่างรู้
  ในขณะเดียวกันเจ้าสินชัยนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึง ตะโกนเรียกหุ่นตนหนึ่ง
ออกมาพบเข้าทันที
ครั้นหุ่นที่ถูกเรียกมายืนตรงหน้าเขาแล้ว  เจ้าสินชัยก็เอ่ยขึ้นว่า
       “ หากมันแลเห็นท่อนไม้ขวางหน้ามันคงจะชะลอรถแน่นอน พวกเราจะยิงมัน
นอกรถก็ไม่มีประโยชน์อันใด หากมันมิได้ออกมานอกรถจะยุ่งยากแก่พวกเรา 
 ฉะนั้นเอ็งจงแฝงกายไปด้านหลังรถมันแล้วระดมยิงไปรถของมันทันที
  พวกมันจะได้ตกใจรีบขับหนีอย่างรวดเร็วคงนึกว่า ตำรวจแอบแฝงตัวไว้หากเป็นเช่นนี้
   มันก็จะรีบขับรถหนีไปอย่างสุดแรงเกิด  ก็จะมาปะทะด้วยเบรครถไม่ทันคงจะเป็น
ไปตามแผนเราแน่นอน”  สินชัยวางแผนเอ่ยขึ้น
     “ครับนายผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”  แล้วร่างมันก็เดินหายลับไปทันที

    ครั้นแสงสีเห็นน้องสินชัยของมันนำคนออกเดินทางไปแล้ว ก็กวักมือเรียกหัวหน้าเริ่ม
และหัวหน้าพ่วง  มาแล้วนั่งลงเขียนแผนที่ต่างๆลงบนพื้นดินทันที อธิบายให้หัวหน้า
ทั้งสองทราบ  ครั้นต่างเข้าใจกันแล้ว  แสงสีก็ยกเท้าขึ้นลบแผนที่ต่างๆนั้นแล้วออกเดินไป
    หัวหน้าเริ่มก็รีบนำกำลังพลมันทั้งหมดตีฝ่าวงล้อมหนีออกไปทางแม่น้ำทันที พร้อม
พากันเดินเลาะไปตามริมฝั่งน้ำ โดยกระจายคนออกวกขึ้นไปตามไหล่เนินเขาอีกครั้งหนึ่ง
ทุกๆคนต่างคืบคลานโดยมีปืนอาก้าอยู่ด้านหลัง  หัวหน้าเริ่มก็ค่อยๆคืบคลานตลบวกเข้า
หาพวกมัน  เมื่อถึงเห็น พวกมันต่างกระจายกำลังออกต่อสู้ทางด้านหน้าอยู่  จึงยกมือขึ้น
เพื่อให้สัญญาณแก่พวกเขาทันที
    แสงสีครั้นเห็นหัวหน้าเริ่มนำกำลังออกไป ประมาณพักใหญ่ ก็ให้หัวหน้าพ่วงนำกำลัง
เข้าโจมตีอีกครั้งหนึ่ง   ทุกๆตนต่างเดินหน้าเข้าหาฝ่ายทางโน้นย่อร่างก้มพร้อมอยู่ในท่ายิง
ครั้นได้ระยะผลก็พลางสาดกระสุน เสียงดังพรืดๆๆๆไม่ขาดสายออกไปยังเหล่าร้ายที่เห็น
สลับไป ข้างหน้าเป็นข้างหลัง ข้างหลังเป็นข้างหน้า  ฝ่ายกำนันบางกำนันแช่มและรอง
หัวหน้าฝ่ายลำเลียงไม้กำลังปรึกษาหารือกันอยู่ถึงแผนการหลบหนีนั้น

        พลันสายตาของกำนันบางแลเห็นฝ่ายแสงสีซึ่งนำโดยหัวหน้าพ่วง กำลังรุกคืบเข้า
โจมตี  ก็รีบแจ้งให้พรรคพวกทราบถึงการรุกโจมตีของตำรวจเกิดขึ้นอีกแล้ว 
      “ เฮ้ยๆๆๆ!!!....มันมากันอีกแล้วโว้ย แยกกันเลยว๊ะ พวกใครพวกมันหนีโว้ย”
      “ไอ้ว๊อกๆ  มึงรีบนำคนไปทางริมแม่น้ำ หาทางลัดเลาะหนีไปอีกทางหรือหาที่ข้าม
แม่น้ำไปทางฝั่งโน้นก็ได้แล้วมาพบกันที่หมู่บ้านก็แล้วกัน  กูจะอยู่ยิงสะกัดมันให้มีงนำ
กำลังส่วนใหญ่ไปเดี๋ยวนี้เลย” กำนันแช่มกล่าว
      “ครับกำนัน” แล้วไอ้ว๊อกก็หันไปทางพรรคพวกนำกำลังส่วนใหญ่เพื่อจะหนีไปทาง
แม่น้ำทันที
     ฝ่ายลำเลียงไม้ล่องมาจากฝั่งโน้นและอีกฝั่งเขตติดต่อกัน  ก็รีบแจ้งให้พรรคพวกรีบ
หนีไปทางทิศตรงข้ามกับพวกตำรวจยิงชลอไว้แล้วหาทางหลบหนีไป  
      ทั้งหมดก็กระจายกำลังออกเป็นสามฝ่ายนำกำลังคนเข้าต่อสู้แต่พวกมันทั้งหมด
เพื่อสะกัดกันให้พวกตนหลบหนีไป   หมดกำลังใจกันเสียแล้วด้วยลูกปืน
ไม่สามารถทำอะไรกับพวกเหล่านั้นได้เลย แค่ชลอเวลาไว้ช้าๆลง

   เมื่อพวกมันที่วางแผนการหลบนี้ได้กำหนดไว้ว่าให้ต่างตีฝ่าวงล้อมไป
คนละทิศทางกัน   ตามเหตุสิ่งแวดล้อมและเหตุการณ์อาศัยภูมิประเทศคอยช่วยเหลือ
 พยายามสั่งลูกน้องอย่าได้ปะทะกับฝ่ายชาวบ้าน   ที่แปลกประหลาดนั้นๆ 
ให้รีบนำกำลังคนออกหลบหนีให้ไกลๆที่สุด ตามแผนการหลบหนีไว้ที่แจ้งให้รู้แล้ว
   กำนันแช่มก็หันไปทางคนสนิทสั่งให้รีบนำกำลังพลส่วนใหญ่หนีหลบไปทางเขาเลียบ
ชายเขาหาทางพาพวกหลับหนี  ส่วนมันและพวกอีกจำนวนหนึ่งจะคอยยิงสะกัดกันไว้ให้
    ระหว่างที่กำนันบางกำลังยิ่งสะกัด ฝ่ายหุ่นที่นำโดยแสงสีก็ใกล้ถึงตัวที่เสียเวลาด้วยแรง
ของกระสุนนั้นทำให้มิสามารถรุกคืบหน้าไปได้เร็วถึงว่าจะไม่เป็นอันตรายก็ตามที 
ด้านหลัง ผู้กองจรัสก็นำตำรวจทะยอยมาสบทบด้วยเป็นจำนวนมากร่วมเข้าต่อสู้กัน
   ที่มั่นของกำนันบางขณะยิงสะกัดอยู่นั้น มันก็ต้องสะดุ้งสุดตัวด้วยร่างมันพรุน
ไปด้วยกระสุนยามที่มันยืนสั่งการให้พวกหลบหนีไป
  ร่างมันเต้นเร่าๆตามแรงของกระสุนจนกระเด็นไปชนกับแนวฝากระต๊อบเบื้องหลัง
แล้วฟุบร่างมันสิ้นชีวิตกองอยู่กับพื้นทับด้วยฝากระต๊อบที่ล้มครืนลงมา
ทับร่างมันอีกที  ที่กำลังสะกัดต่างตกอกตกใจกัน พากันลุกขึ้นหมายจะวิ่งหนีคนละทาง
แต่แล้วทุกๆคนก็ต่างร่วงผล๊อยๆ  กระเด็นไปตามแรงของกระสุน ที่มีอานุภาพรุนแรง
ไม่มีใครสามารถหนีเอารอดไปได้สักคนเดียว  ร่างมันกระเด็นไปในสถานที่ต่างๆกัน

    ด้านฝ่ายลำเลียงไม้เถื่อนนั้น มันนำพวกตีฝ่าวงล้อมหมายจะไปที่แม่น้ำที่แห้ง
พอจะใช้ข้ามไปยังฝั่งโน้นได้ก็ปะทะกับฝ่ายตลบหลังมันชะงักรีบหลบเข้าโคนต้นไม้
  แต่แล้วรองหัวหน้ามันก็ต้องสังเวยชีวิตอันโสมมไว้ในผืนแผ่นดินไทยอีกคนหนึ่ง
  ติดตามพร้อมหรือใกล้เคียงพวกของมันไปล้วนทิ้งร่างไร้วิญญาณฝากลง
บนผืนแผ่นดินนี้ เลือดสาดหลั่งไหลนองไปทั่วบริเวณแนวป่าจนทำให้พุ่มไม้แดง
เต็มไปด้วยรอยเลือดตามสุมทุมพุ่มไม้ไปทั่วๆหมด
 ในเวลาไล่เลี่ยกันเมื่อยามปะทะกับคนหัวหน้าเริ่มที่คอยสะกัดตีตลบหลังอยู่
  พวกมันล้วนแล้วมาสังเวยชีวิตในป่าด้านแถบริมน้ำทั้งสิ้น ไม่มีใครเล็ดรอด
หนีไปได้แม้แต่สักคนเดียว
       ด้านกำนันแช่มได้ให้ลูกน้องคนสนิทมันช่วยยิงสะกัดกั้นไว้ นำกำลังคน
เพื่อจะหลบหนีไปทางตามไหล่เขาเพื่อขึ้นเนินแล้ววกเลาะเลี้ยวไปยังหนทางที่มัน
ค่อนข้างชำนาญบ้าง  แต่แล้วเมื่อหันหลังกลับไปมองพวกคนสนิทของพวกมัน
ที่เสียงปืนเงียบหายไป  ก็รู้ทันที่ว่าคนสนิทของมันนั้นได้ตายไปหมดแล้ว
รีบพากัน   วิ่งพลางตะโกนพลางให้พวกรีบหลบหนีอย่าหมายปะทะตำรวจอีกต่อไป
  พอมันระหว่างยืนชี้มองสั่งให้ลูกน้องมันไปทางโน้นเพื่อข้ามเนินไปก็ต้องมีอันถูก
กระสุนร่างมันฟุบหงายล่างปะทะกับขอนไม้เสียชีวิตติดตามเหล่ากำนันและพวก
ทั้งหลายไปทันที ทุกๆร่างต่างชโลมไปด้วยเลือดที่หลั่งออกมาตามรูกระสุนปืน

       บรรดาลูกน้องหมู่บ้านโนนสูงครั้นเห็นกำนันมันตาย ต่างร้องบอกต่อๆกัน
 บางคนใจเซาะก็ทิ้งอาวุธปืน ขึ้นเพื่อจะเข้ามอบตัวแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
เพื่อจะรักษาชีวิตมันไว้  ขณะที่ทิ้งอาวุธนั้นพวกมันที่เห็นต่างก็ระดมยิงร่างที่ใจเซาะ
ของมันทันที เสียงปืนดังระงมไป  ร่างที่หมายที่จะมอบตัวต่างเต้นเร่าๆกันสิ้นชีวิต
ด้วยน้ำมือจากปืนของพวกพ้องมันกันเอง
   “ไอ้ห่า!!!!....คิดเอาตัวรอดอย่างนี้หากมันรอดก็จะแจ้งว่ามีใครบ้างร่วมมือ
ซิว๊ะ ยิงแหม่งมันเล๊ยพวกเรา” 
เสียงคำพูดยังไม่สิ้นเสียงทั่วร่างมันก็ถูกกระสุนพรุนตาเหลือกค้างไปหงายร่างทิ้งยังพื้น
สิ้นใจไปอีก  พวกที่เห็นดังนั้นก็ต่างลุกขึ้นวิ่งหนีไปคนละทางที่มันคิดว่าสามารถเอาตัว
รอดจากที่นี่ได้  แต่แล้วก็ถูกฝ่ายตลบหลังยิงใส่จนกระทั่งพวกมันสิ้นชีวิตไปทั้งหมด
      เสียงปืนทางด้านนี้เงียบเชียบ ตำรวจและพวกหุ่นทั้งหลายก็เข้าเคลียร์ยังพื้นที่ทันที 
 ด้วยความระมัดระวังตัวอย่างระมัดระวังไว้ด้วย

      ภายในกระต๊อบที่อยู่ติดกับริมป่าด้านท้ายสุด ครั้นพวกหุ่นเข้าไปตรวจสอบดู
  ก็เห็นร่างชายสองสามคน แต่ไม่มีอาวุธใดๆกำลังแนบร่างฟุบทำเป็นตาย
      มันสามารถหลอกพวกผู้คนอื่นได้  แต่กับพวกหุ่นนี้ที่สร้างจากพวกผีทั้งหลายไม่ได้
 ดังนั้นมันจึงถูกเตะกระทืบร่างมัน ครั้นทนเจ็บไม่ไหวก็ลุกขึ้นและถูกจับกุม เดินออกมา
ข้างนอกกระต๊อบมีประมาณ สามคนทั้งหมดล้วนเป็นพวกป่าไม้ร่วมมือทำผิดกฏหมายทั้งสิ้น
และได้นำถูกตัวมามอบให้แก่ตำรวจซึ่งสารวัตรและผู้กองเองก็ยืนสั่งงานอยู่ใกล้บริเวณที่สุม
เต็มไปด้วยกองไม้แปรรูปทั้งยังยึดได้ตราที่ใช้ตีประทับไม้พร้อมด้วยหมึกที่หล่นใกล้
กับกองไม้แปรรูปที่กระจัดล้มทับระเนระนาดไป จากการปะทะกันทั้งสองฝ่าย ไม้เหล่านี้ต่าง
เป็นรอยกระสุนทะลุบ้างไม่ทะลุบ้าง ฉีกขาดบ้าง เปื้อนรอยเลือดต่างๆเต็มไปหมด
   หลังจากทุกๆอย่างสงบเรียบร้อยแล้ว  สารวัตรก็ให้สำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นใน
การปะทะกันร่วมกับผู้กองพบว่า ฝ่ายทางผิดกฏหมายต่างเสียชีวิตกันเกือบหมด 
ยกเว้นพวกที่มอบตัวที่จับกุมได้ก่อนแล้วเท่านั้น
  ส่วนฝ่ายตำรวจนั้นได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยด้วยตำรวจเหล่านี้ไม่ได้นำเอาพระเครื่อง
ที่ได้รับการปลุกเสกมาใหม่นำติดตัวมา  เนื่องจากไม่ค่อยจะเชื่อถือเห็นเป็น
พระพึ่งปลุกเสกมาใหม่ๆ คงห้อยแต่พระรุ่นเก่าๆเท่านั้น

       สารวัตรและผู้กองก็ให้หน่วยพยาบาลเป็นทั้งหน่วยจู่โจมในตัวเสร็จพันบาดแผล
แก่พวกตำรวจหลายสิบนาย บ้างถูกกระสุนฝังในจนต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลเพื่อ
ผ่าตัดเอากระสุนออก  บ้างขาหักแต่ร่างกายไม่ได้รับบาดแผลแต่อย่างใด ส่วนที่บาดเจ็บ
นั้นล้วนถูกที่ไม่สำคัญทั้งๆสิ้น   ร่างผู้ก่อการผิดกฏหมายที่เสียชีวิตต่างนำมาสุมรวมกัน
ในลานใกล้ๆกับกองไม้แปรรูปที่ขจัดขจายไปทั่วบริเวณ ส่วนผู้ถูกจับกุมได้แยกออก
เป็นสองฝ่ายระหว่างเจ้าหน้าที่ป่าไม้และฝ่ายทางฝั่งที่ลำเลียงไม้เถื่อนมา ทุกๆคนถูก
ผูกติดกับเสาหลักไม้ที่ทำขึ้นภายหลังใกล้ๆกับกองศพที่สุมๆกันหลายกองเป็นร่างที่
ไร้วิญญาณทั้งสิ้น  ข้างๆกองสุมไปด้วยกองอาวุธปืนนานาชนิดสุมสูงพร้อมกระสูนปืน
       ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจบางคนก็กำลังถ่ายรูปกันเป็นการยกใหญ่ตามสถานที่ต่างๆกัน
รวมถึงบริเวณทั้งหมด ทั้งภายในลานและนอกลานที่ใช้ทำงานฝ่ายผิดกฏหมายตลอด
จนฝ่ายที่ถูกจับกุมไว้ด้วย  ส่วนเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็ถ่ายใบหน้าที่ให้เงยหน้าแต่บางคน
ไม่ยอมต้องใช้วิธีจับเงยหน้าขึ้นเพื่อถ่ายรูป เพื่อใช้ดำเนินคดีประกอบหลักฐานต่อไป....

                     *   แก้วประเสริฐ.  *

qp011.gifCartoon_Animation_08.gif692823n68ya60jv9.gif				
17 ธันวาคม 2553 14:58 น.

* ตำรายาสมุนไพรกลางบ้าน ๒ *

แก้วประเสริฐ

76.gif
   *  ตำราสมุนไพรกลางบ้าน ๒  *

                      ยารักษาแผลไฟลวกน้ำร้อนลวก

ขนานที่ ๑ *** ท่านให้เอาเหล้า ๑ น้ำมันมะพร้าว ๑ น้ำปูนใส(น้ำปูนแดงกินหมาก) ๑
ตัวยาทั้งสามอย่างนี้ กำหนดเอาอย่างละเท่าๆกัน นำมาผสมกวนให้เข้ากันเป็นอย่างดี
จนมีลักษณะคล้ายน้ำนมข้น ใช้สำลีพันปลายไม้จุ่มยาทาบริเวณที่ถูกไฟลวก หรือ
น้ำร้อนลวก อาการเจ็บปวดแสบร้อนจะพลันหายไปเป็นปลิดทิ้งทันที และใช้เป็น
ยารักษาบาดแผลให้หายไปอีกด้วย  มีสรรพอย่างชงัดนักแล (ใช้กับแผลได้ทุกชนิด
แก้วประเสริฐ)   
       ขณะที่กวนผสมยาและทายานี้ ท่านให้บริกรรมภาวนาด้วยบท พระพุทธคุณ
พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ  ( หรือ นะ โม พุท ธา ยะ...แก้วประเสริฐ.) ตลอดเวลาจนกว่า
ตัวยาจะเข้ากันเป็นอย่างดีและจนกว่าจะทายาเสร็จ ขณะทายาพึงพาเบาๆ ระวังอย่า
ให้หนังกำพร้าถลอก ยาขนานนี้ ใช้เป็นยาดับพิษและรักษาบาดแผลได้ผลดีอย่างชะงัด
นักแลฯ  ยาขนานนี้ควรทำเตรียมไว้จำนวนมากเก็บใส่โหลปิดฝาให้มิดชิด เพื่อให้
บริการช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงทีแลฯ (ควรใช้ขนไก่จุ่มยาทา...
แก้วประเสริฐ เสริมบางอย่าง) ***
(พระราชสุเมธาภรณ์ วัดบางหลวง ปทุมธานี)

ขนานที่ ๒ ท่านให้เอาเหล้า ๑ น้ำมันมะพร้าว ๑ น้ำฝน ๑  ตัวยาสามอย่างนี้เอาอย่างละ
เท่าๆกัน นำมาผสมกับ ปูนแดง (ปูนแดงกินกับหมาก)เพียงเล็กน้อย กวนให้เข้ากันเป็น
อย่างดี จนมีลักษณะคล้ายน้ำนมข้น ใช้ทาบริเวณที่ถูกไฟลวก หรือ น้ำร้อนลวก 
มีสรรพคุณอย่างชะงัดนักแลฯ
(พระครูประภาสธรรมคุณ วัดสี่ร้อย อ.วิเศษชัยชาญ อ่างทอง)

ขนานที่ ๓  ท่านให้เอาน้ำมันมะพร้าว ๒ ส่วน น้ำปูนใส (น้ำปูนแดงกินหมาก) ๒ ส่วน
น้ำมันยาง ๑ ส่วน  นำมาผสมกัน กวนให้เข้ากันเป็นอย่างดี แล้วใช้สำลีชุบน้ำยาทาบริเวณ
ที่ถูกไฟลวก หรือ ถูกน้ำร้อนลวก  หรือ ถูกน้ำมันลวก มีสรรพคุณอย่างชะงัดนักแลฯ
(พระครูอาทรสมุทรกิจ จ.สมุทรปราการ)

ขนานที่ ๔ ท่านให้เอา เมล็ดมะขาม นำมาคั่วไฟให้ไหม้ กระเทาะเอาเฉพาะเปลือกเท่านั้น
บดให้ละเอียด ผสมกับน้ำกะทิมะพร้าวก้นกะลา (เวลาคั้นกะทิไม่ต้องใส่น้ำ คั้นเอาเฉพาะ
น้ำกระทิมะพร้าวเท่านั้น)  ใช้พอกบริเวณที่เป็นแผล  มีสรรพคุณอย่างชะงัดนักแลฯ
รับรองว่าจะไม่เกิดเป็นแผลเป็นอย่างเด็ดขาดฯ
(คุณประยงค์ วีรวงศ์ กรุงเทพมหานคร)

ขนานที่ ๕  ท่านให้เอา เปลือกข้าวเหนียว ๓ กำมือ นำมาใส่กระบอกไม้ไผ่ให้เต็มหนึ่งปล้อง
เผาไฟให้ไหม้  เอาเฉพาะข้าวเหนียวไหม้นั้น นำมาบดให้ละเอียด ผสมกับ น้ำมันมะพร้าว
พอสมควร ใช้ขนไก่ หรือสำลีพันปลายไม้ ชุบยาทาบริเวณ ที่ถูกไฟลวก หรือ น้ำร้อนลวก
ใช้ทาทุกวันจนกว่าแผลจะหายสนิท มีสรรพคุณรักษาแผลได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ
(พระฉัน ทีปโก วัดบางสะแก อ.สองพี่น้อง สุพรรณบุรี)

ขนานที่ ๖  ท่านให้เอา ใบผักบุ้งไทย กับ น้ำตาลโตนด พอสมควร นำมาตำผสมกันให้ละเอียด
ใช้พอกบริเวณที่ถูกไฟลวก หรือ น้ำร้อนลวก  ถ้าถูกไฟลวกหรือน้ำร้อนลวกทั้งตัว ใช้พอกเฉพาะ
ที่หน้าอกและที่กลางหลังเท่านั้น อาการปวดแสบร้อนจะพลันหายไปทันที เคยใช้รักษาได้ผลดี
อย่างชะงัดนักแลฯ
( วิทยาทานสงวนนาม)

ขนานที่ ๗  ท่านให้เอา รากเจตมูลเพลิงสด ๗ ท่อน พริกชี้ฟ้าสด ๗ เม็ด ข่าสด ๗ ท่อน ใบพลู 
(พลูกินกับหมาก)สด ๗ ใบ  ตัวยาทั้ง ๔ อย่างนี้ นำมาตำให้ละเอียด ผสมกับ สุรา ใช้พอกบริเวณ
ที่ถูกไฟลวก หรือ น้ำร้อนลวก  อาการปวดแสบร้อนจะพลันหายไปทันที เคยใช้ผลดีอย่างชะงัด
มามากแล้วนักแลฯ
( วิทยาทานสงวนนาม)

ขนานที่ ๘  ท่านให้เอาแผ่นทองคำเปลว ชนิด ๑๐๐% นำมาปิดบริเวณที่ถูกไฟลวก หรือ น้ำร้อนลวก
ให้ทั่วแล้ว ใช้ผ้าสะอาดพันปิดปากแผลให้มิดชิด  ระวังอย่าให้ถูกน้ำเป็นอันขาด บาดแผลจะหายไปแลฯ
( วิทยาทานสงวนนาม)

ขนานที่ ๙  ท่านให้เอา ยางตะเคียน กับ น้ำมันมะพร้าว ตัวยาทั้ง ๒ ชนิดอย่างนี้ เอาอย่างละพอสมควร
นำมาใส่กะทะตั้งไฟเคี่ยวให้ละลายเข้ากันดีแล้ว ใช้สำลีพันปลายไม้จุ่มน้ำยาทาบริเวณที่ถูกไฟลวก หรือ
น้ำร้อนลวก ทาวันละหลายๆครั้ง รับรองว่าจะไม่มีแผลเป็น เคยใช้รักษาได้ผลดีมามากแล้ว  มีสรรพคุณ
ชะงัดนักแลฯ
( พระครูใบฎีกา กมล ยมโก วัดทุบบอนวนาราม อ.ศรีราชา ชลบุรี )

ขนานที่ ๑๐  ท่านให้เอา น้ำมันมะพร้าว ผสมกับ ขี้เถ้าขาว กวนให้เข้ากันแล้ว ปล่อยให้ขี้เถ้านอนก้น ใช้
ทาบริเวณอวัยวะ ที่ถูกไฟลวก  หรือ น้ำร้อนลวก มีสรรพคุณที่จะทำให้หายปวดแสบร้อน จะไม่เป็นแผลเป็น
จะไม่เกิดรอยด่าง ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ
(พระอธิการเรียน ลชฺชิโต  วัดพิหารแดง อ.เมือง สุพรรณบุรี)

ขนาดที่ ๑๑  ท่านให้เอา ใบผักบุ้ง มากพอสมควร นำมาตำให้ละเอียด ผสมกับ สุรา ใช้พอกบริเวณที่ถูกไฟลวก
หรือ ถูกน้ำร้อนลวก มีสรรพคุณบำบัดอาการปวดแสบร้อนให้หายไป ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ
(พระครูนิ่ง ติสฺสวํโส  วัดห้วยเจริญสุข  อ.บางระจัน สิงห์บุรี)

         วันนี้เอาแค่นี้ก่อนนะครับ ต่อไปจะเป็นตัวยาในการใช้รักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ  อนึ่ง ในขนานที่ ๑ นั้น
ในความเห็นส่วนตัวข้าพเจ้า เป็นตัวยา  ที่สามารถเก็บไว้ใช้ได้นานๆและยังสามารถช่วยคนอื่นได้อย่างดี
อย่างกระทันหันฉับพลันและรวดเร็ว ไม่ต้องไปเที่ยวค้นหาในเวลาที่ฉุกเฉินและควรใช้ขนไก่อ่อนๆจุ่มตัวยา
ทาบริเวณดังกล่าวไว้ ซ้ำยังรักษาบาดแผลอื่นๆ ได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย  อีกประการหนึ่งสามารถ
ใช้ได้ทั่วร่างกายได้อีก   ในกรณีย์โดนทั่วๆตัว ด้วยเป็นน้ำมันค่อนข้างข้นๆพอสมควร
การรักษาได้ผลดีชะงัดนักแลฯ (แก้วประเสริฐ)

                             * แก้วประเสริฐ. *

qp011.gifCartoon_Animation_08.gif692823n68ya60jv9.gif				
16 ธันวาคม 2553 22:41 น.

อทิสมานกาย ๕๐

แก้วประเสริฐ

76.gif
                               อทิสมานกาย  ๕๐

     เสียงปืนดังปั๊งๆๆๆพรืดๆๆๆ  สนั่นกึกก้องในบริเวณลานกว้างที่ ใช้ในที่เก็บไม้แปรรูป
เถื่อนทั้งหลายประทับตราและไม่ประทับตรา กองสูงเนินอย่างเป็นระเบียบ  รถบางคันก็
บรรทุกออกไปบ้างแล้ว
  เจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่กำลังประทับตราอยู่ก็พลันทิ้งตราไว้พร้อมกับหมึก  ครั้นได้ยินเสียง
ของเจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศให้วางอาวุธยกมือขึ้นเหนือศีรษะ วิ่งหนีเอาตัวรอดไปตามๆกัน
  หาที่แอบยังบริเวณแถวนั้น เข้าไปที่ปลูกกระต๊อบไว้หลายๆหลัง  บ้างหลบซ่อนแอบแถว
กองไม้ที่สุมขึ้นสูงไว้เพื่อที่จะใส่สายพานลำเลียงมาเพื่อใช้ประทับตราให้ถูกกฏหมาย
   เสียงร้องตะโกนของ เสียหว่างดังขึ้นระหว่างเสียงปืนที่กำลังยิงใส่ร่างของหุ่นที่ถือดาบโล่ห์
หอก อาวุธโบราณที่วิ่งเข้ามาหา แข่งกับเสียงประกาศของเจ้าหน้าทีตำรวจ
   “  เฮ้ยๆๆๆ....พวกเราไม่ต้องกลัวไม่ต้องถอย ยิ่งแหม่งมันเข้าไป  น๊านๆๆต้องอย่างนั้นซิ ”
    “ พวกมันล้อมเราไว้หมดทุกๆด้านนะเสี่ย   ผมคิดว่าให้เสี่ยหาทางหลบหนีไปก่อนมิดีหรือ”
เสียงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบางกระดี่ตะโกนตอบ พร้อมันก็ส่งกระสุนปืนไปแถวบริเวณล้อมรอบ
แนวป่าทันที

     “  ไม่กูไม่ไปทั้งนั้นโว้ยๆ!!!!....  มึงยิงมันเข้าไปคนมันน้อยกว่าเราไม่เท่าไหร่หรอกว๊ะ
เดี๋ยวคงตายห่าหมดล่ะ”  เสี่ยหว่างเอ่ย พร้อมยิงโต้ตอบกับตำรวจทันที
     “ ไปเถอะน่าเสี่ย  ไม่ต้องห่วงทางนี้หรอกเดี๋ยวพวกเราจัดการได้แหละ”  
กำนันถ้วน แห่งบ้านบึ้งห้วยเอ่ยเตือนอีกครั้ง  มันเองก็หันไปทางแนวป่าที่เห็นเงาตะคุ่มๆยิ่งใส่
เข้าทันที   เห็นร่างนั้นพลันผงะและล้มลง  
       พลางส่งเสียงหัวร่อ  ด้วยความดีใจที่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจล้มลง
       “จะเท่าไหร่กันว๊ะ นึกว่าแน่ๆ”  
     แต่แล้วเสียงหัวเราะมันก็หยุดชะงักอ้าปากค้าง เมื่อแลเห็นร่างที่เห็นนั้นกลับลุกขึ้นยืนอีกพร้อม
หันมายิงมันทันใด กระสุนปืนถูกที่ไหล่ซ้ายมันถึงกับทรดกายนั่งทันทีและยังติดตามมาอีกหลายๆ
ลูก อาศัยเสาไม้บังไว้กระนั้นมันก็ยังโดนที่หน่องขาอีก
     เมื่อลูกน้องกำนันถ้วนเห็นลูกพี่ดังนั้นก็วิ่งสลับฟันปลามา ช่วยเหลือหัวหน้ามันทันที
     “ เป็นอย่างไรบ้างกำนัน  ”    มันพยุงร่างกำนันพร้อมมือก็หันปืนยิงเร็วส่งกระสุนออกไปทันที
     “ กูยังไม่ตายว๊ะ  เออๆดีให้มันได้อย่างนั้นซิไอ้เวก ”  กำนันชม แต่มันก็กัดฟันกรอดๆพลางล้วง
ไปในกระเป๋าหยิบยาแก้ปวดฉีกซองออกมายกซองเทขึ้นกินทันที  เป็นยากลางบ้านคือทันใจ อัน
เป็นที่นิยมกันอย่างมากสำหรับแถวชนบท ใช้ทั้งรักษาไข้และปวดได้อีกด้วย

     แต่กระนั้นมันก็หันไปมองทางลูกน้องมันและพวกลำเลียงไม้มาส่ง ต่างก็ยิงต่อสู้กันทุกๆคน  แล
เห็นร่างพวกลำเลียงไม้ต่างล่วงผล๊อยๆกันไปหลายคน ส่วนทางพวกมันก็ล่วงๆลง แต่ที่เหลือก็ต่าง
ยิงกันปะทะอย่างไม่เกรงกลัว  พลางส่งกระสุนปืนยิงออกไปอีกอย่างไม่หวาดหวั่น
    “ เฮ้ยไอ้ถ้วน  มึงไม่เป็นไรมากนักหรือว๊ะ”  เสียงกำนันแช่มบ้านเนินสูงตะโกนถาม
    “ยังโว้ยกูยังไม่ตายไอ้แช่ม  มีอย่าหนีมันนะโว๊ยเห็นไหมพวกเรามากกว่ามัน หากน้อยกว่ามัน
คงบุกเข้ามาแล้วล่ะ????....”
     “เออดีว๊ะ ให้มันได้อย่างน๊านซิว๊ะ”   ก็แลเห็นประกายไฟวูบวาบออกจากปืนของไอ้แช่มมัน
ที่ต่อสู้อย่างไม่เกรงกลัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหลียวไปมองยังพวกของไอ้กำนันบาง บ้านนางลอย 
ที่ขมักเขม่นสั่งลูกน้องให้ต่อสู้ อย่างไม่ถดถอย  ส่วนเสี่ยหว่างเองก็ใจถึงมันไม่ยอมหนีไปไหน
เหมือนกัน  สร้างขวัญกำลังใจให้แก่พวกมันและพวกลำเลียงเมื่อมันมองมายังเสี่ยหว่างเห็นกำลัง
ยิงต่อสู้อย่างไม่ถอยหนี เหมือนกับพวกมัน
        เสียงร้องของกำนันบาง ก็ตะโกนถามกำนันถ้วนเหมือนกัน
    “เฮ้ยไอ้ถ้วน มึงไม่เป็นอะไรแน่นะโว้ย????....”

    “ เออยังไม่ตายห่าหรอกว๊ะ” ปากตะโกนตอบกำนันบางทันที  แต่แล้วตัวมันก็สะดุ้งเฮือกตาเหลือก
ลานเมื่อหน้าอกด้านซ้ายมันโดนกระสุนปืนเข้าไปหลายๆนัด  ร่างมันกระโดดขึ้นเต้นเร่าๆแล้ว
หงายผึ่งลงทันที ส่วนลูกน้องมันก็ล่วงตามนายมันอีกคน
    กำนันบางกำนันแช่มและผู้ช่วยกำนันมั่นเห็นว่าทางกำนันถ้วนไม่เป็นอะไร ก็ไม่มองหันหน้าไปยิง
ต่อสู้ทันที    เสียงปืนดังสนั่นลั่นป่าไปหมด ร่างของเจ้าหน้าที่ป่าไม้คนหนึ่งถึงกับผงะเมื่อเจอกระสุน
เข้าใส่หลายๆนัด ร่างมันกระเด็นออกจากกองไม้ทันที  ที่กระสุนเล็ดรอดเข้ามาได้ถูกมันอย่างจัง ถึง
กับเซแซดๆกระเด็นออกจากที่กำบังล้มลงสิ้นใจตาย
     เสียงทางด้านฝ่ายลำเลียงไม้มาส่ง ก็ตะโกนบอกทันทีว่า....
     “ พวกเรามาช่วยกันแล้วล่ะโว้ย!!!!...ไม่ต้องกลัวอะไรมันตีโอบล้อมพวกตำรวจไว้แล้วว๊ะ???...”
     “เฮ้ยๆๆๆพวกเราโว้ยพวกกูมาช่วยแล้วล่ะไม่ต้องพวกกลัวมันหรอก”  เสียงปืนอาก้าดั่งสนั่นลั่นขึ้น
อีก  พรืดๆๆๆๆ....ดังขึ้น  พร้อมกับเสียงตะโกนบอก
     “ทางเราแบ่งกำลังโอบล้อมพวกมันอีกด้วยว๊ะ!!!!!....เสี่ยหว่างโว้ยไม่ต้องกลัวพวกเรามากันอีกแยะ”
มันร้องตะโกนบอกทางเสี่ยหว่างและพวกเพื่อเรียกขวัญกำลังให้มากๆยิ่งขึ้น

        คล้ายพวกตำรวจได้สัญญาณอะไรบางอย่างก็เห็น เหล่าชาวบ้านถือโล่ห์หอก ดาบ วิ่งออกมากจากชายป่า
เหมือนไม่เกรงกลัวอาวุธปืน อันร้ายแรงของพวกมัน
    “เฮ้ยๆๆพวกมันออกมาแล้วล่ะว๊ะ ยิงโว้ยยิงมัน”  เสียงร้องตะโกนออกมาจากพวกกำนันและพวกลำเลียงไม้
เถื่อนมา ทุกๆคนแลเห็น พวกมันขณะวิ่งบ้างถูกปืนล้มลง บ้างเซผงะ บ้างถูกระสุนทะลุออกหลัง
พวกที่ล้มต่างก็ ลุกขึ้นวิ่งมาหามันได้อีก กระสุนปืนแค่ทำให้เซและล้มลงเท่านั้น
หาได้ทำอันตรายแก่มันได้ไม่ต่างก็ยืนถือปืนจังงังกันไปตามๆกัน
  เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวพวกชาวบ้านก็เข้ามาถึงมันเสียแล้ว พลางยกดาบหอก มีดแหลมแทงพวกมัน
ที่อยู่ด้านหน้าล้มตายลงไปมากทันที
  “เฮ้ยๆๆมันตำรวจผีหรือคนว๊ะ ยิงมันไม่ตายว๊ะกลับลุกขึ้นมาได้อีก”  เสียงร้องลั่นจากพวกผิดกฏหมาย
  “พวกกูจะรู้หรือว๊ะ ก็เห็นเหมือนพวกมึงนั่นแหละโว้ย  ยิงมันก่อนเถอะว๊ะไม่ต้องถามมากโว้ย”

        เสียปืนดังเปรี้ยงปร้าง ปั๊งๆๆ พรืดๆๆระงมไปทั่วบริเวณแถบริมแม่น้ำและลานไม้แปรรูป
  เสียงระเบิดดังกึกก้องตามมาอีก  ด้วยบรรดาเรือที่นำพวกมาส่งต่างถูกระเบิดขว้างเข้าใส่หลายๆลูกระเบิด
  เศษไม้เกลื่อนกระจายไปบ้าง กระเด็นลอยเข้ามาในลานที่ใช้ทำงานกัน
   “เฮ้ยพวกเรามันแอบไปทางแม่น้ำแล้วโว้ย  ไอ้ห่ามันทำลายเรือพวกเราเสียหมดด้วย”  เสียงตะโกนร้อง
บอกกันไปทั่ว  สู้ๆๆๆโว้ยๆๆๆสู้ๆๆๆ....เสียงตะโกนของพวกลำเลียงของเถื่อนมาส่งตะโกนดังก้อง
     การยิ่งต่อสู้กันตั้งแต่เที่ยงคืนจวบจนฟ้าสาง  การยิงก็ยังไม่เลิกรากัน ต่างฝ่ายต่างระดมยิงโต้ตอบกันไปๆ
มาๆ    เมื่อแสงสว่างเกิดขึ้นพวกมันก็พากันตกใจยิ่งขึ้นเมื่อเห็นพวกชาวบ้านป่าที่ถือโล่ห์อาวุธโบราณต่างๆ
นั้นพากันเก็บอาวุธหมด  แล้วต่างกันก็เข้ามาคว้าอาวุธพวกมันที่ตกเรี่ยระเนระนาดที่ล้มตายไปขึ้นมายิงอีก
มันไม่คิดว่าพวกชาวบ้านป่าจะสามารถใช้อาวุธทันสมัยเป็น  กว่าจะตั้งสติได้ด้วยจิตใจเสียไปเมื่อเห็นพวก
มันกับถูกปืนของพวกมันเอง ล้มดิ้นชักตายระเนระนาดไป
      พวกกำนันทั้งหลาย หากปืนมันเป็นปืนเก่าหน่อยก็ได้ยินแต่เสียงดังแช๊ะๆแล้วก็ระเบิดทำเอาพวกมันเสีย
ชีวิตด้วยปืนของมันเอง  พวกปืนทันสมัยหน่อยก็ยิงไป บ้างก็ขัดลูกปืนขัดลำกล้องเสียอีก ยิงได้บ้างไม่ได้บ้าง
ทำความงุนงงต่อมันมากนัก   ครั้นเสี่ยหว่างเห็นเช่นนั้นก็ปากอ้าตาค้างไปเมื่อใกล้ตัวมันลูกน้องมันซ้ายขวา
ยิงไปเสียงดังแช๊ะๆพอแช๊ะที่สามปืนของลูกน้องมันก็แตกระเบิดทันที   ทำเอาลูกน้องมันถึงกับล้มหงายดิ้น
พลาดๆไป เมื่อเหลียวหลังไปดูพวกมันก็เห็นต่างล้มตายด้วยกระสุนปืนของฝ่ายตำรวจบ้าง  ปืนระเบิดตายเอง
บ้าง  เลือดนองไปทั่วบริเวณลานกว้างที่ใช้เก็บไม้แปรรูป สายพานที่ส่งด้วยเครื่องจักรก็ถูกทำลายเสียสิ้นด้วย
ระเบิดของพวกตำรวจที่ขว้างมา

    ส่วนตัวเสี่ยหว่างก็โดนสะเก็ดปืนที่แตกออกกระจายเข้าใส่ร่างมันและใบหน้า เลือดไหลโทรมกาย
แต่นี่แค่สะเก็ดระเบิดเล็กๆเท่านั้นหากเป็นกระสุนจริงปานนี้มันคงจะตายไปเสียแล้ว
    บัดนี้อากาศสว่างขึ้นแล้วในยามเช้าตรู่ของวันใหม่ แต่ก็ยังมีหมอกเบาบางเรี่ยราดพื้นอยู่  แต่ก็มองเห็น
สภาพได้อย่างชัดเจน  ยามที่พวกมันขว้างระเบิดใส่ร่างของชาวบ้านป่าที่ต่างสาระวนในการเก็บปืนร่าง
พวกมันกระดอนกระเด็นลอยสู่ท้องฟ้า แต่พอตกมายังพื้นดันกลับลุกขึ้นวิ่งเข้าไปคว้าปืนอีก
    เสี่ยหว่างถึงกับอ้าปากค้างในสายตามันถึงกับขยี้ตามมันทั้งสองข้าง พร้อมกับหยิกแขนตัวเองก็รู้สึกว่า
เจ็บมันถึงกับสะดุ้งนึกว่ามันถูกหลอกหลอนด้วยผี  แต่ๆๆๆนี่ๆๆสว่างแล้วพระอาทิตย์ขึ้นแล้วหากเป็น
พวกผีก็ต้องหายไป  แต่ที่มันเห็นเป็นร่างคนชัดๆ ไฉนลูกปืนระเบิดก็ไม่สามารถทำลายร่างกายมันได้เลย
และไม่มีเลือดไหลออกจากร่างมันสักนิดเดียว
    “ไอ้หย่า!!!!???....จะว่าอั้วถูกผีหลอกก็ไม่ใช่นี่หว่า มันคนชัดๆ พระอาทิตย์ขึ้นแล้วสว่างหรือก็สว่าง
แล้วนี่ก็สายแล้วด้วย  หากเป็นผีมันต้องหายไปซิว๊ะ???....”  มันพูดกับตัวเอง

        ทันใดนั้นพวกชาวบ้านป่าครั้นหยิบปืนได้ก็หันไปยิงพวกลำเลียงไม้เถื่อนอีก  เห็นพวกมันก็งุนงงแต่
ร่างมันไม่งุนงงด้วยเต้นเร่าๆไปตามแรงกระสุนปืนที่พวกชาวบ้านยิงใส่ ล้มตายระเนระนาด บ้างวิ่งหนีไป
ด้วยขวัญหนีดีฝ่อไปตามๆกัน
      “ไอ้หย่าๆ...อั๊วจะซี้เลี้ยวหน่อ??....”  มันหันหลังกลับวิ่งหนีไปทางรถยนส่วนตัวมันทันทีหลบหลีกวิ่ง
ทะแยงไปๆมาๆ
        “ไอ้เว้งๆๆโว้ยๆๆ...มึงอยู่ไหนว๊ะไอ้ห่าๆ...ไปกันโว้ยกูอยู่ไม่ได้แล้วล่ะว๊ะ ยิงเท่าไหร่มันก็ไม่ตายสักที”
เสียงเสี่ยหว่างร้องแรกแหกกระเฌอ
         “อั๊วอยู่นี่อาเสี่ย กำลังสตาร์ทรถให้ลื้อจะไปหรือไม่ไปล่ะ???...”  ไอ้เว้งถาม
         “อยู่ห่าเตี่ยมึงเร๊อะ???....กูไม่กลัวคนโดนปืนตายว๊ะ แต่ไอ้พวกห่านี้ปืนยิงไปมันเสือกไม่ตายกูกลัวว๊ะ???.. 
มึงรีบออกรถได้ไปตามทางที่กูบอกมึงไว้ก่อนนะโว้ย อย่าเสือกไปตามทางที่มาเสี่ยล่ะ” เสี่ยหว่างเปิดประตู
หลังรีบขึ้นรถไป พอรถปิดประตูแทบไม่ทันเสียงปืนก็ระดมยิงมาแต่อาศัยว่ารถมันกันกระสุนปืนได้จึงไม่
เป็นไร   รถมันกระชากส่ายไปส่ายมาก็ลับหายไปจากลานต่อสู้กันทันที

        ครั้นรถเลยไปเลือดมันยังไหล จึงล้วงหยิบผ้าเช็ดหน้ามาอุดรอยแผลไว้ทางนี้ทีทางโน้นที 
แต่อาศัยเพียงแค่เป็นสะเก็ดระเบิดของปืนแตกเท่านั้นบาดแผลถึงไม่ลึกแค่ทำให้เลือดมันไหลได้เท่านั้น
เมื่อรถมันแล่นพ้นเสียงการต่อสู้ไปแล้วแต่ข้างรถมันเป็นแค่รอยกระสุนปืนพรุนๆไปแต่ไม่เข้ามาในตัวรถ
    “สงสัยว่าพวกเราที่มากันมีมึงกับกูเท่านั้นที่จะรอดว๊ะ  สงสัยมันจะซี้เลี๊ยวหน่อ มึงคิดอย่างกูไหมไอ้เว้ง”
    “คงจะเป็นแบบอาเสี่ยว่าแหละ สงสัยมันจะซี้หมดแล้วล่ะ”   ไอ้เว้งตอบ
     “ไอ้ห่างานนี้กูทุ่มมากมายเสียด้วย เจ๊งๆๆๆก็คราวนี้แหละแต่ช่างเถอะ  ไอ้ห่าเสี่ยเล้งมันจะคิดอย่างไร
บ้างล่ะ ไหนมึงลองช่วยกูคิดหน่อยซิว๊ะ”
      “อั้วจะไปรู้เหรอเสี่ย  ขนาดเสี่ยสมองดีกว่าอั้วยังคิดไม่ออก ถ้าอั้วมีสมองยังกับเสี่ยป่านนี้ไม่ต้องมา
นั่งเป็นคนขับรถให้เสียหรอกจริงไหมเสี่ย”  ไอ้เว้งตอบ
      “อืมมๆๆ...มึงพูดก็ถูกของมึง  แล้วกูจะทำอย่างไรดีว๊ะ หากไอ้เล้งมันรู้เรื่องโว้ย  โอ้ยๆๆกลุ้มๆๆโว้ย!!!...”
พลางยกมือที่เปื้อนเลือดกุมหัวมันทันที  พลางเหลียวไปข้างหลังก็ไม่เห็นใครติดตามมาค่อยโล่งใจนัก

       ขณะนั้นฝ่ายกำลังที่มาทางเรือก็ค่อยๆย่องมาทางด้านหลังฝ่ายของตำรวจ มันมาอย่างเงียบเชียบนัก
แต่ทันใดพวกมันก็สะดุ้งเกือบทุกๆคน ประมาณสามสี่สิบคนได้ต่างหันหลังไปทันที ก็เห็นร่างของพวก
ชาวบ้านที่ถือปืนออกมาเรียงรายล้อมมันอีกที  ทำให้พวกมันตกใจยิ่งนัก มันคิดไม่ถึงว่าจะถูกตลบหลังอีก
      ก็สายมันรายงานแล้วว่าทางโน้นนั้นตายห่าเรียบไปหมดเหลือจับกุมก็ไม่กี่คนนี่หว่า แต่จะมาช่วยทางนี้
คงไม่ทันแน่  ถ้ามาเสียงรถก็คงจะได้ยินดังมาก่อนแล้วแต่ก็ต้องเวลาเป็นหลายชั่วโมงกว่าจะมาถึง แต่นี้
มันมาได้อย่างกันกัน ต่างก็ถามกันไปๆมาๆกันหมด ทุกๆคนก็ไม่รู้ได้แต่ส่ายหน้ากันไปมา
      ดังนั้นมันจึงรีบแบ่งกำลังกันหันหน้าไปทางฝ่ายตำรวจ  โดยต่างหันหลังชนกันมาทางชาวบ้าน
ที่ถือปืนเรียงรายกระจายกันเข้ามา เป็นกลุ่มได้ห้ากลุ่มตามที่หัวหน้ามันคิด มันห้าสิบกว่าๆ
ทางเราแค่สามสี่สิบ สู้สีว๊ะพวกมันคิดกัน       หัวหน้ามันสั่งทันที
   “สู้ๆๆโว้ย...โอ้ยๆๆๆ”  เสียงร้องสู้ๆโว้ยยังไม่ทันกล่าวต่อร่างหัวหน้ามันก็
ทะลึงพรวดขึ้นฟ้าแล้วตกมาเต้นเร่าๆ
เมื่อมันถูกพวกตลบหลังชาวบ้านป่ายิงปืนอาก้าใส่มาเป็นชุดๆ  พรืดๆๆๆ  เท่านั้นเองก็เกิดเสียงปืนดัง
ขึ้นทันทีต่างระดมกันยิงใส่กันและกันอย่าเมามันส์ไม่ยั้งมือ ทั้งสองฝ่าย

     ทางด้านสารวัตรสังวาลย์ ผู้กองจรัส ก็รู้ตัวสั่งแบ่งกำลังกันออกต่อสู้ทันที  ส่วนเจ้าแสงสีนั้นนำพวกออก
นำหน้าไปต่อสู้กับพวกกำนันและพวกลำเลียงไม้เถื่อนมาอยู่ในบริเวณลานที่กองสุมไปด้วยไม้แปรรูปแล้ว
    ก่อนไปเจ้าแสงสีหันมาบอกเขาว่าให้เขาและผู้กองไม่ต้องออกไปให้สั่งหาชัยภูมิเหมาะสมไว้แค่เพียงยิง
ออกไปเท่านั้นไม่ต้องออกไปเด็ดขาด  พวกนั้นทำอะไรลูกน้องมันไม่ได้เหมือนเชื่อมั่นเสียเหลือเกิน ก็จริง
ดังที่สารวัตรและผู้กองเห็น  พวกลูกน้องของเจ้าแสงสี ตลอดจนเจ้าแสงสีเองก็โดนกระสุนปืนหงายหลังล้ม
ไปแต่กระสุนทำอะไรเจ้าแสงสีไม่ได้ เพียงแค่ผงะหงายหลังแล้วกลับลุกขึ้นเดินเข้าไปต่อสู้อีก  
     เมื่อเจ้าแสงสีและลูกน้องมันได้ปืนฝ่ายตรงข้ามแล้วก็นำปืนมันยิงใส่ไปหาพวกมันอีก ทำให้ผู้กองแปลกใจ
เรื่องคงกะพันชาตรีนั้นผู้กองไม่สงสัย  แต่สงสัยว่าเหตุใดลูกน้องเจ้าแสงสีมันถึงใช้อาวุธทันสมัยได้อย่างคล่อง
แคล่วว่องไวราวกับได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีเยี่ยม  และอีกอาวุธนั้นเป็นจำพวกอาก้าที่ผู้ก่อการร้าย
ต่างประเทศเพื่อนบ้านเรือนเคียงใช้ด้วย  กับชำนาญยิ่งกว่าตำรวจพวกเขาเสียอีก อาวุธอาก้าทั้งเบาและมี
กระสุนมากกว่าปืนเอ็ม๑๖มากนัก  ซึ่งมีแต่อาวุธทันสมัยที่เขาได้รับและมอบให้ตำรวจเท่านั้นถึงจะดีกว่าอาวุธนั้น
    “ผู้กองเห็นเหมือนผมไหมล่ะผู้กอง”  สารวัตรถาม
     “ครับผมเห็นครับก็แปลกใจนักว่าทำไมพวกลูกน้องเจ้าแสงสีถึงได้ใช้อาวุธประเภทนี้เป็นและเชี่ยวชาญด้วย”
ผู้กองจรัสตอบทันที
      “นั่นซิ ผมถึงแปลกใจมากนัก ฝ่ายเราเสียอีกยังไม่ชำนาญเท่าพวกลูกน้องแสงสีเลย”
      “  แต่ช่างเถอะครับสารวัตร แบ่งกำลังออกปะทะตีโอบพวกลำเลียงไม้ทางเรือมาช่วยดีกว่านะ”
      “ จริงซิผู้กอง”   พลางตะโกนแจ้งรหัสไปทันที  
       ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่ครั้นได้รับทราบแล้วก็แบ่งกำลังกันทันที จากสองคนกลายเป็นหนึ่งคนแยกกันทำงานทันที

      ตอนนี้ฝ่ายมาช่วยเหลือก็ตกอยู่ในวงล้อมทันทีไม่สามารถจะหนีไปไหนก็แบ่งกำลังกันต่างหันหน้าหลังเข้าต่อสู้
ทันที
      เสียงดังพรืดๆๆระงมไปทั่ว ทางสารวัตรและผู้กอง แยกกันนำคนเข้าต่อสู้ทันที  สารวัตรพลางหันมาทางผู้กอง
แล้วสั่งทันที
       “ผุ้กองไม่ต้องไปให้คอยคุมกำลังทางด้านนี้ไว้คอยช่วยเจ้าแสงสี  ผมจะนำกำลังไปช่วยพวกมาช่วยเหลือเรา”
       “ครับสารวัตร”   แล้วผู้กองก็หันหลังกลับไปยิงต่อสู้กับพวกในลานกว้างทันที  
    ฝ่ายทางด้านช่วยเหลือครั้นโดนกระหนาบทั้งหน้าหลังก็ค่อยทะยอยตายลงกัน ทีคนละคนด้วยอาวุธนั้นต่างทัดเทียม
กัน ด้านฝ่ายสารวัตรเป็นอาวุธทันสมัยใหม่ ส่วนทางมาช่วยเหลือครั้นสารวัตรมองเห็นถึงกับอ้าปากค้างแต่มือก็ยัง
ยิงไป ด้วยสายตาบัดนี้เห็นแล้วว่า เป็นใครมาช่วย คือเจ้าสินชัยนั่นเอง มันนำหน้าพวกลูกน้องมันเดินยิงเข้ามาไม่
เกรงกลัวกระสุนฝ่ายด้านลำเลียงไม้เถื่อนเลย  แค่ผงะนิดหน่อยแล้วก็เดินเข้ามาอีก ที่ทำให้สารวัตรแปลกใจยิ่งขึ้น
     คือเจ้าสินชัยใช้ปืนอาก้าและลูกน้องที่เดินเรียงหน้ากันเข้ามาก็ถือปืนอาก้ากันแทบทุกคน
เสียงดังพรืดๆๆๆระงมไปทั้งสองฝ่าย ส่วนด้านตำรวจนั้นดีหน่อยที่มีทำเลเหมาะสูงได้เปรียบกว่า 
         แต่ด้านเจ้าสินชัยเสียเปรียบด้านชัยภูมิแต่อาศัยที่กระสุนนั้นไม่สามารถระแคะระคายผิวหนังมันได้เลย
 นอกจากพวกนั้นจะเซบ้างผงะบ้างแต่ก็เดินตรงเข้ามาไม่มีที่กำบังอะไรเลย พวกผิดกฏหมาย
เมื่อเห็นพวกมันล้มตายระเนระนาด ที่เหลือต่างก็ทิ้งปืนยกมือขึ้นยอมแพ้  
เลยถูกตำรวจของสารวัตรจับได้เกือบสิบคน ทุกๆคนถูกสวมกุญแจมือทั้งสิ้น  ถูกนำมานั่งรวมกลุ่มอีกด้านหนึ่ง
       เจ้าสินชัยและพวกต่างเดินมาอย่างเป็นระเบียบกระจายกำลังออกระวังภัยให้ทันที   ส่วนสินชัยก็เข้าไป
หาสารวัตร พลางเอ่ยขึ้นว่า
    “ทางด้านโน้นเป็นอย่างไรบ้างครับสารวัตร”
    “ กำลังต่อสู้กันหนักอยู่ แต่แสงสีนำกำลังพลไปออกรบเองกับพวก  แต่ไม่ใหัพวกเราออกไปให้คอยยิงช่วยเหลือ”
สารวัตรเอ่ยขึ้น
     “ถ้าอย่างนั้น ผมลาไปช่วยพี่แสงสีก่อนนะแล้วกลับมาค่อยคุยกัน”  มันไม่รอคำตอบก็หันไปสั่งทางลูกน้องมัน
ทันที  เหล่าลูกน้องมันก็เดินผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งทุกๆคนอ้าปากค้างด้วยเห็นอาวุธในมือของพวกชาวบ้านล้วน
แล้วแต่เป็นอาก้าที่ผู้ก่อการร้ายใช้นั่นเอง............

                        *  แก้วประเสริฐ.  *

qp011.gifCartoon_Animation_08.gif692823n68ya60jv9.gif				
16 ธันวาคม 2553 17:02 น.

* ตำรายาสมุนไพรกลางบ้าน *

แก้วประเสริฐ

76.gif
                     *  ตำรายาสมุนไพรกลางบ้าน  *

                                       คำนำ

    อันสืบเนื่องมาจากศิษย์ข้าพเจ้า “ ช่ออักษราลี “เกริ่นเรื่องเกี่ยวสมุนไพรและ
 “  ตำราในเรื่องสมุนไพร ”ของไทยนั้น   จากการค้นคว้าที่ข้าพเจ้าประสบมา
ด้วยตนเองและทราบจากตำราต่างๆบ้าง ครั้นได้รวบรวมไว้ได้นั้นหลายๆทาง
  จากบิดามารดาครูอาจารย์ที่มอบไว้ให้ได้สูญหายไปหมดสิ้น จำได้ไม่มากนัก
   สาเหตุจากการย้ายไปย้ายมาของข้าพเจ้า  จึงเป็นเหตุให้ตำราและได้รับจากที่อื่นๆ
ที่น่านับถือเชื่อได้     ทั้งพระและฆราวาส ต่างสูญหายไปหมดสิ้นคงเหลือเพียงส่วน 
ที่จำได้ก็เพียงส่วนน้อยเท่านั้น
     แต่คงจะเป็นวาสนาหรืออย่างไรก็ตาม ทำให้ข้าพเจ้าวันหนึ่งได้ไปช่วยเขา
ในการย้ายบ้าน ซึ่งเจ้าของเดิมได้ทิ้งไว้นั้น ข้าพเจ้าพบตำราเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซุกซ่อนไว้
ได้มาสองเล่มเป็นหนังสือที่มีปกสีเหลืองอ่อนค่อนข้างแก่บันทึกไว้เกี่ยวกับเรื่องนี้
 จึงได้ขออนุญาตเขาแล้ว  เขาไม่ค่อยจะสนใจใยดีนักในเรื่องเกี่ยวกับสมุนไพรโบราณ 
    ซ้ำยังถามข้าพเจ้าว่าจะเอาไปทำไมกันมันโบราณมากๆ  ข้าพเจ้าหัวร่อบอกว่า
ข้าพเจ้าสนใจในเรื่องเหล่านี้มานานแล้วตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ เขาก็หัวร่อบอกว่าหัวโบราณ 
    จึงขอไว้เป็นการส่วนตัวด้วยข้าพเจ้าเองสนใจในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก และดีใจยิ่งนัก
 ครั้นต่อมาได้มีผู้ที่ใส่ใจเช่นเดียวกับข้าพเจ้าครั้นมาสนทนากันเกี่ยวกับยารักษาโบราณ
   ข้าพเจ้าได้ นำหนังสือนั้นมาให้เขาอ่านเขาอ่านไปอย่างสนอกสนใจ ตั้งใจอ่านได้หน่อย
 ก็เอ่ยกับข้าพเจ้าว่าจะขอยืมไปคัดลอก เนื่องจากจะหาไม่ได้อีกแล้วที่ค้นพบมักจะจารึกใน
ใบลานบ้าง กระดาษข่อยต่างๆบ้าง ก็เช่นเดียวกับข้าพเจ้าเหมือนกันคือสูญหายไปหมดสิ้น
     ดังนั้นข้าพเจ้าเมื่อทราบเจตนาดีของเขา  ที่จะเผยแพร่เป็นวิทยาทานให้กับคนทั้งหลาย
ที่เชื่อถือและสนใจในเรื่องเกี่ยวกับสมุนไพรไทยจึงมอบให้แก่เขาไปหนึ่งเล่ม เขายกมือ
ขึ้นไหว้ข้าพเจ้าพลางสวดกอดอย่างดีอกดีใจ  ยิ่งทำให้ข้าพเจ้าปลาบปลื้มยินดีเชื่อมั่น
อย่างสนิทใจ  ในการที่จะนำไปวิทยาทานเผยแพร่รักษาไว้ซึ่งตำราเกี่ยวกับการรักษาแบบ
แผนโบราณด้วยสมุนไพรต่างๆของไทยเรา ให้แพร่กระจายกว้างขวางออกไป สมเจตนารมย์
ของข้าพเจ้าที่ตั้งใจนานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสสักครั้งเดียวจึงเก็บเงียบไว้คนเดียว คอยหาโอกาส
จังหวะเหมาะสมนั้น  บัดนี้สมควรและได้โอกาสแล้วด้วยอายุอานามก็โขอยู่เหมือนกัน
     ซึ่งอาจจะเป็นหนึ่งแนวทางที่จะได้สร้างผลานิสงฆ์ผลบุญขึ้นไว้ให้แก่ชาวไทยอีกทางหนึ่ง
หากการใช้นี้เลือกเอาที่เหมาะเจาะแก่โรคนั้นๆ หากรักษาหายก็ควรจะทำบุญสุนทานแผ่กุศล
ให้แก่เจ้าของตำราที่เขียนไว้ และเจ้าเวรนายกรรม  ผลแห่งกรรมที่เคยกระทำมาได้อีกทางหนึ่ง   
และเพื่อที่จะไม่ให้ตำรานี้สูญหายไปเช่นเดียวกับที่เคยรวบรวมไว้  เจตนาต้องการเพื่อจะเผยแพร่
สิ่งเหล่านี้อยู่แล้วจึงเป็นปัจจัยที่ได้มาพบคนที่สนใจในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน  
   ครั้นคุยกับศิษย์ช่ออักษราลีที่สนใจในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน  จึงจะนำมาลงไว้เพื่อเผยแพร่
ของดีโบราณที่ได้รักษาคนป่วยไข้ต่างๆหายมานักต่อนักแล้ว จึงได้รจนาไว้ในใบลาน
หรือกระดาษข่อยออกมา เผยแพร่ในเวปฯไทยกลอนนี้ไว้เป็นวิทยาทาน
เพียงแค่หวังในผลานิสงฆ์ผลบุญกุศลที่จะได้ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บแก่ข้าพเจ้าอีกในภพใดๆด้วย
  แต่ก่อนจะใช้นั้นควรไตร่ตรองให้รอบคอบและได้โปรดขอให้ใช้วิจารณญานด้วย
      หนังสือเล่มนี้จารึกไว้ในการรวบรวมจากบรรดาสถานที่ต่างๆ จึงใคร่จะเอ่ยชื่อท่านไว้
ณ ที่นี้ด้วย ตลอดจนชื่อเจ้าของตำรา    เพื่อจะเทิดทูนไว้ที่มีความอุตสาหะวิริยะทุ่มเทเวลามาก
ที่ได้รวบรวมของไทยๆเราไว้สืบสานให้ลูกหลานสืบต่อไป
     ตลอด จนเป็นวิทยาทาน  หากผู้ใดใช้แล้วได้ผลดี  ข้าพเจ้าขอให้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่เจ้า
ของตำราและท่านที่รวบรวมไว้ด้วย ก็ถือว่าเป็นกตัญญุตาทิคุณประการหนึ่ง  บัดนี้ได้เวลา
พอสมควรแล้วจึงจะขอรจนาไว้เพียงเท่านี้ เพื่อนำลงมาเผยแพร่ต่อไป
      ตำรายากลางบ้าน  รวมรวบโดย  “ พระเทพวิมลโมลี (บุญมา คุณสัมปันโน ป.๙ ประโยค”
วัด เบญจมาบพิตรฯ กรุงเทพมหานคร เป็นผู้รจนาไว้และรายชื่อจากบรรดาหมอยาสมุนไพร
โบราณต่างๆ   ที่จะพรรณาจัดไว้เป็นหมวดหมู่ง่ายแก่การรักษา และข้าพเจ้าจะเพิ่มเติมจากการ
ใช้รักษาตนเองและคนอื่นไว้สักสามเรื่องเท่านั้นเป็นสังเขปฯ ดังต่อไปนี้คือ

                     สมุนไพรใช้รักษาแผลถูกน้ำร้อนลวก
    ให้หาว่านหางจระเข้มาฝานเอาเมือกของว่านนั้นมาทายังที่ถูกไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวก 
แล้วปิดสิ่งที่เหลือลงบนปากแผล  หากเป็นมากก็เอาเมือกว่านหางจระเข้ทาไว้ทั้งหมด
ส่วนที่ปิดนั้นควรจะนำมาปิดที่เกิดเหตุ ที่จะมีสีขาวๆมองให้เห็นลางๆไว้ 
ด้วยว่านนั้นคงจะไม่เพียงพอ  สรรพคุณ จะช่วยบรรเทาความร้อน ความเจ็บปวด
ให้ทุเลาลงได้บ้างหรือจะหายทันทีทันใดหากเป็นมากหรือน้อย  
และจะไม่เกิดอาการพองเกิดขึ้นอีกด้วย 
    ตลอดช่วยระงับผลข้างเคียงไว้ด้วย ครั้นหายบาดแผลนั้นจะไม่เป็นแผลเป็นเกิดขึ้นอีกเลย
สิ่งนี้ประสบแก่ตัวเองและครอบครัว จากตำราสืบทอดกันมา ได้ผลชะงัดนักแลใช้ประกอบ
ยาแก้ปวด แก้อักเสบไว้ด้วยก็ดี)
(นายประเสริฐ ขำเข็มแก้ว “แก้วประเสริฐ.”)

            พิษจากถูกแมลงมีพิษกัดต่อยจากตะขาบแมงป่อง
    หากผู้ใดที่ถูกสัตว์มีพิษดังกล่าวที่พิษไม่ร้ายแรงนัก ให้หาตัวคางคกเป็นๆมา
 แล้วใช้ไม้ตีบนหลังไม่ต้องให้ตาย จะเป็นบาปกรรม  ปรากฏเหมือกสีขาวๆใหัใช้
สิ่งที่สะอาดนำน้ำเหมือกสีขาวๆนั้นมาทายังบริเวณที่ถูกกัด  
สรรพคุณจะหายปวดทันที ยิ่งหากสภาพร่างกายนั้นสามารถต่อต้านพิษนั้นด้วยแล้ว
จะเห็นผลทันที ใช้รักษาคนอื่นมากแล้วได้ผลชะงัดมากนักแล (เรียกว่าพิษขจัดพิษ)
  ใช้ประกอบยาแก้ปวด แก้อักเสบไว้ด้วยก็ดี
(นายประเสริฐ ขำเข็มแก้ว “แก้วประเสริฐ.”)

                  ยาหยอดตาด้วยสมุนไพรธรรมชาติ
   ให้นำเมล็ดของผลทับทิมที่ใช้ทานกัน หากได้ผลที่เกิดจากของไทยเองแล้ว
จะยิ่งเห็นผลได้รวดเร็วกว่าผลทับทิมจากต่างประเทศ  นำเมล็ดภายในสีเป็นสี
แดงขาวอมชมพู  มาบีบใส่ในดวงตาทั้งสองข้าง หลับตาเหลือกดวงตาหมุนไปรอบๆ
เพื่อให้น้ำในเมล็ดทับทิมขจายไปทั่ว  ตอนแรกจะรู้สึกแสบเจ็บๆคันๆสักครู่หนึ่ง
ก็จะเริ่มเย็นหายคัน สรรพคุณ ทำให้ตาสว่างยามลืมตาขึ้นทันที ไม่มีผลข้างเคียง
ใดๆเกิดขึ้นทั้งสิ้น รักษาสายตาให้อายุใช้งานได้ดีอีกด้วย
 เป็นตำราได้รับการถ่ายทอดสืบกันมาแต่โบราณกาลของครอบครัวข้าพเจ้า และ
ข้าพเจ้าใช้ในการรักษานี้ โดยไม่ต้องพึงพายาหยอดตาที่โฆษณาขายซึ่งบางครั้ง
อาจจะมีผลข้างเคียงทำให้เป็นตาแดงหรืออื่นๆได้   หากรักษาแบบสมุนไพรนั้น
ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ได้ผลชงัดนักแล  ไม่จำเป็นต้องทานยาอื่นใดทั้งสิ้น
(นายประเสริฐ ขำเข็มแก้ว “แก้วประเสริฐ.”)  ฯลฯ

                         ตำรายากลางบ้าน
พระเทพวิมลโมลี (บุญมา คุณสัมปันโน )เปรียญ ๙ ประโยค แห่งวัด เบญจมบพิตรฯ
กรุงเทพมหานครฯ รวบรวมรจนาไว้เป็นเล่มหนังสือ ดังต่อไปนี้

                     หมวดยาบำบัดอาการเจ็บป่วยรีบด่วน

                             ยาดับพิษไฟลวกน้ำร้อนลวก
ขนานที่  ๑  ท่านให้เอา น้ำมะนาว หรือ น้ำส้มสายชู  ก็ได้ นำมาชะโลมบริเวณที่ถูกไฟลวก
หรือ ถูกน้ำร้อนลวก มีสรรพคุณดับพิษปวดแสบร้อน ได้ผลอย่างชะงัดนักแล แต่ต้องรักษา
ด้วยยาขนานอื่นอีกต่อไปฯ
(พระครูเมธีสาครเขต วัดตึกมหาชยาราม สมุทรสาคร)

ขนานที่ ๒  ท่านให้เอา ใบเสลดพังพอนตัวเมีย (มีลักษณะใบแหลมคล้ายหอก หน้าใบเป็นมัน)
นำมาตำให้ละเอียด ผสมกับ สุรา ใช้พอกบริเวณที่ถูกไฟลวก หรือน้ำร้อนลวก มีสรรพคุณ
ดับพิษปวดแสบร้อนให้หายไปทันที แต่ต้องรักษาบาดแผลด้วยยาขนาดอื่นอีกต่อไปฯ
(พระมหาบุญเรือง ปภัสสโร วัดหางแขยง อ.มโนรมย์ ชัยนาท)

ขนานที่  ๓  ท่านให้เอา หัวหอมแดง (หัวหอมใส่แกง) นำมาตำให้ละเอียด ใช้พอกบริเวณที่ถูกไฟลวก
หรือ น้ำร้อนลวก มีสรรพคุณดับพิษปวดแสบร้อนให้พลันหายไปทันที แต่ต้องรักษาบาดแผลด้วยยา
ขนานอื่นอีกต่อไปฯ
(วิทยาทานสงวนนาม)

ขนานที่  ๔  ท่านให้เอา  ใบชาจีน (ใบชาที่ใช้ชงน้ำร้อน) มากน้อยตามต้องการ นำมาแช่น้ำแข็งจัดๆ
ให้ใบชาคลี่ออกแล้ว ใช้ใบชานั้นพอกบริเวณที่ถูกไฟลวก หรือ ถูกน้ำร้อนลวก ทิ้งไว้สักครู่หนึ่ง
แล้วแกะออก เปลี่ยนยาพอกใหม่อีก มีสรรพคุณจะดูดพิษปวดแสบร้อนให้หายพลันไป และทำให้
ไม่เกิดเป็นบาดแผลอีกด้วย เคยใช้ได้ผลดีอย่างชะงัดมาแล้วฯ
(พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ วัดสุวรรณาราม เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานครฯ)

ขนานที่ ๕  ท่านให้เอาสำลีแปะลงบริเวณที่ถูกไฟลวก หรือ น้ำร้อนลวก แล้วเอาแอลกอฮอล์เทลาด
ลงบนสำลีนั้น ประมาณ ๓ นาที อาการปวดแสบร้อนจะพลันหายไป และจะไม่เป็นบาดแผลเป็นอีก
ด้วย มีสรรพคุณอย่างชะงัดนักแลฯ
(พระสมุห์โว ถิรจิตฺโต วัดไผ่จระเข้ อ.บางเลน นครปฐม)

ขนานที่ ๖  ท่านให้เอาต้นหางจระเข้  นำมาคั้นเอาน้ำเมือกของต้นหางจระเข้นั้น ใช้ทายังบริเวณอวัยวะ
ที่ถูกไฟลวก หรือ น้ำร้อนลวก ใหัทั่ว มีสรรพคุณบำบัดอาการปวดแสบร้อนให้หายไปทันที เคยใช้ได้
ผลดีอย่างชะงัดมาแล้วฯ
(พระอธิการบุญมี รมณีโย วัดหนองเต่า อ.บ้านหมี่ ลพบุรี)

ขนานที่  ๗  ท่านให้เอา เกลือป่น (เกลือใส่แกง) นำมาพอกบริเวณที่ถูกไฟลวก หรือถูกน้ำร้อนลวก
แล้วใช้น้ำสะอาดประพรมพอเปียก จะทำให้เกิดความเย็นสบาย ไม่ปวดแสบร้อน และจะทำให้ไม่
เกิดอาการพองอีกด้วย มีสรรพคุณอย่างชะงัดนักแล
(พระครูวิจิตรศาสนคุณ วัดหนองบอนแดง อ.บ้านบึง ชลบุรี)

         วันนี้เอาแค่นี้ก่อนนะครับ  ด้วยผมจะต้องไปเขียนนิยายต่ออีกครับ ยังมีอีกมากมายนัก ด้วยเป็น
หนังสือเล่มหนาๆใหญ่พอสมควร คิดว่าจะนำมาลงให้หมดครับ หากไม่ตายเสียก่อนจะนำมาลงให้
อ่านทุกวันเว้นแต่จะไม่สบายมากจริงๆ  รออ่านต่อไปก็แล้วกัน รักเสมอ
(เริ่มนำลง วันที่ ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓)

                       *  แก้วประเสริฐ.  *

qp011.gifCartoon_Animation_08.gif692823n68ya60jv9.gif				
15 ธันวาคม 2553 19:39 น.

อทิสมานกาย ๔๙

แก้วประเสริฐ

76.gif
                        อทิสมานกาย  ๔๙

     ทางด้านกำนันหวนหลังจากแยกทางกับกำนันทั้งสองแล้ว อาศัยประสบการณ์
ที่เคยผ่านการต่อสู้มาแล้ว  ด้วยเคยเป็นทหารผ่านศึกมาก่อนมาเป็นกำนัน
 ดังนั้นมันจึงใช้วิธีคลานสลับฉากไปๆมาๆ มุ่งหน้าไปทางด้านริมเขา
  ที่ติดต่อกับแม่น้ำหลบไปอีกทางหนึ่งอาศัยความมืดแอบแฝงตัว
ทั้งๆที่ขาและแขนถูกยิงบาดเจ็บเลือดไหลตลอดเวลา แต่น้ำใจอันเด็ดเดี่ยวนั้นถึงแม้
จะเจ็บปวดอย่างไรก็ตาม มันกัดฟันกร๊อดๆเพื่อระงับความเจ็บปวด บาดแผลนั้น
ถึงแม้จะไม่ถึงกระดูกเพียงเนื้อหายไป    จึงใช้ผ้าขาวม้าที่คาดเอวใช้มีดตัดแล้วฉีก
แบ่งเป็นสี่ส่วน ส่วนหนึ่งใช้พันแขนห้ามเลือดอีกส่วนหนึ่งใช้พันแผลทั้งหน่องขา
  เมื่อจัดการเป็นที่เรียบร้อยมันจึงค่อยๆเขยิบคลานไป  โดยไม่ใช้การทรงกายยืน
และเดินหลบหลีกเจ้าหน้าที่ตำรวจ   หูทั้งสองคอยฟังแต่เสียงอย่างสัตว์ระวังภัย
      มันใช้วิธีคลานมุ่งหน้าไปหาแม่น้ำทันทีเลียนแบบวิธีจรเข้ที่คลานจากบกเข้า
สู่แม่น้ำ  แต่มันก็ใจหายเมื่อนึกถึงจรเข้แต่มาคิดได้ว่าแม่น้ำนี้ปราศจากจรเข้แน่นอน

   เมื่อเกิดเสียงผิดปกติมันพยายามสำรวมใจให้มีสติตลอดเวลา หลับตาบ้างลืมตาบ้าง
มองหนทาง  อาศัยคลานจากเบื้องสูงลงต่ำ  ครั้นมีมือมากระตุกขามันบ้าง เสียงร้อง
อย่างโหยหวน    แต่บัดนี้มันกลัวตำรวจมากกว่ากลัวผี  จึงไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นเอา
แต่หนีๆเพียงแค่เดียวหนีแบบสุดชีวิตยามคิดถึงครอบครัวมันที่รออยู่ข้างหน้าเกิดขึ้น
    คิดถึงลูกเมียซึ่งมันมีลูกที่เป็นหญิงเพียงคนเดียวเท่านั้นหากสิ้นมันเสียแล้วใครล่ะ
จะมาคอยช่วยปกป้องเมียและลูกสาวที่เป็นสาวแล้วให้  และลูกมันหรือก็เป็นสาวสวย
ประจำหมู่บ้าน  แม้กำนันมั่นจะมาสู่ขอให้แก่เจ้าแม้นลูกมัน แต่กำนันหวนก็ปฏิเสธ
ด้วยรู้นิสัยสันดานของไอ้แม้นดีว่าเป็นคนเช่นไร  
     กำนันมั่นเองก็ไม่กล้าถึงแม้จะเป็นเพื่อนกันก็ตามที แต่กำนันหวนและกำนันแม้นก็
มีอำนาจคนพอๆกัน กินกันไม่ลงและอีกอย่างมันเป็นทหารผ่านศึกมาแล้วกำนันมั่นเอง
ยังไม่เคยเป็นทหารแต่อย่างไร อาศัยบารมีพ่อมันขึ้นสู่ความเป็นกำนันเท่านั้น ไหนเลย
จะมาสู้กับมันได้  ลูกน้องมันหรือต่างก็ล้วนเชี่ยวชาญการต่อสู้มาอย่างโชกโชนทั้งสิ้น
ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่ยอมตาย อาศัยวิชาทหารหลบหลีกหนี ดังที่เคยเป็นทหารฝ่ายหน่วย
ทหารลาดตะเวณผจญกับศัตรู  มันยังเอาตัวรอดมากับพวกบางคนมารายงานได้

      แม้พวกผีปีศาจของเจ้าป่าเจ้าเขาจะทำการหลอกหลอนอย่างไรมันไม่ฟังเสียง
แม้เสียงนั้นจะหลอกหลอนมันก็ตามที  มันไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นครั้นมาดึงแขนขา
มันก็หยุดแค่นิ่งเฉย วิญญาณเหล่านั้นก็ไม่สามารถทำอะไรมันได้  ใช้วิธีการหลับตาเสีย
ตั้งสติไว้  ครั้นสติมีสิ่งนั้นก็หายไปมันก็รีบคลานหนีต่อไป  
ในไม่ช้าร่างของมันก็ถึงริมแม่น้ำ  
      ถึงเลือดมันจะออกและเจ็บปวดมันก็ไม่สนใจ เนื่องจากมันพันไว้ด้วยผ้าขาวม้า
จะเสียเลือดก็คงไม่มากนักมันคิดไปคลานไป  จึงรอดพ้นจากพวกผีป่าทั้งหลาย
และตำรวจ     ด้วยมันพยายามทำเสียงให้เงียบที่สุดเท่าจะเงียบได้นั่นเองหยุดบ้าง
คลานบ้าง  มีเสียงก็หยุดไม่มีเสียงก็คลานต่อหากมันแน่ใจว่าไม่เกิดอะไรขึ้นแล้ว
      ครั้นร่างมันหย่อนลงแม่น้ำได้ก็ค่อยๆพยุงร่างให้ลอยไปตามกระแสน้ำที่ไหลแล้ว
ก็พบเศษไม้ของเรือที่ถูกระเบิดท่อนใหญ่ จึงรีบไปคว้ามาพยุงร่างมันไว้ปล่อยให้ไม้พา
ร่างมันไป  ในไม้ช้ามันก็พ้นจากบริเวณนี้ โดยอาศัยแสงสะท้อนจากดาวบนท้องฟ้า
ที่สว่างมากระทบกับน้ำในเม่น้ำ  มองหาทางจะขึ้นฝั่งแนวชายป่าที่เหมาะสม
       อาศัยก่อนที่มันจะได้เป็นกำนันมานั้น ตอนหนุ่มๆเคยเป็นพรานป่า
มาก่อนจึงทำให้มันปรับสภาพเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี ก่อนจะไปเป็นทหาร
     ครั้นเห็นว่าปลอดภัยจากตำรวจแล้ว  ก็พยุงร่างขึ้นฝั่งมานั่งพักเหนื่อย

  พอมีแรงแล้วก็อาศัยความเป็นพรานป่ามาก่อน  มองสภาพป่าที่มืดให้สายตาเคยชินแล้ว
ค่อยมองเห็นหนทางที่จะกลับบ้านได้   โดยอาศัยดวงดาวเหนือเป็นที่กำหนดแล้วคำนวน
ระยะทิศทาง  นำมีดมาถากถางต้นไม้แหวกเป็นทาง บนบ่ามันยังสะพายปืน  มันไม่คิดจะ
ใช้แต่อย่างใด  อาศัยมีดเท่านั้นเป็นอาวุธในการฝ่าป่าดงเหล่านี้  
    มันเดินไปท่ามกลางป่าลึกจนถึงป่าโปร่ง มันระบายลมหายใจอย่างเฮือกใหญ่แล้ว
เดินไปพักไปสักพักก็พบทางที่มันมา    จึงไปนั่งหลบยังโคนไม้  คอยดูว่าจะมีรถคันใด
ผ่านมาบ้างจะได้อาศัยกลับบ้าน
    มันนั่งแต่กัดฟันกร๊อดๆๆระงับความเจ็บปวดไว้  จวบจนกระทั่งฟ้าสางจึงพบรถวิ่งมาเพื่อ
ที่นำของไปขายในเมือง  จึงได้เหวี่ยงปืนที่สะพานไว้ทิ้งขว้างเข้าไปในป่าข้างทางทันที
แล้วโบกมือขออาศัยด้วยมันเป็นกำนันคนรถย่อมรู้จักมันดีจึงกลับบ้านได้โดยปลอดภัย
   เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนอันยิ่งใหญ่ให้แก่มัน รำลึกนึกถึงสิ่งผ่านๆมาก็น้ำตาหลั่งไหล
ในสิ่งที่มันกระทำที่เห็นผิดเป็นชอบเพราะความยากจนอาศัยความเป็นกำนันทำไร่ไถนาคง
จะไม่เพียงพอต่อลูกน้องที่มันเมื่อเป็นกำนันปกครองอยู่ จึงทำในสิ่งผิดกฏหมายทั้งๆที่รู้ว่า
มันไม่ดี  เมื่อทำไปแล้วยากที่จะเลิกได้ดุจดั่งนั่งอยู่บนหลังสือมิปาน

     แต่บัดนี้มันตัดใจได้แล้วอะไรเกิดก็ให้มันเกิดไป  เฉพาะมันเท่านั้นสิ่งเดียวที่มันคิด
คือหาคู่ครองให้แก่ลูกสาวมันก่อนหาคนที่เหมาะสม  ในหมู่บ้านมันหรือมองไม่เห็นสักคน
หรือจะหมู่บ้านไอ้มั่นก็ตามที  จึงคิดวางแผนอนาคตลูกสาวมันไว้ก่อน  หาคนที่สามารถ
ปกป้องดูแลครอบครัวมันได้แล้ว   ก็จะขอออกบวชลบล้างสิ่งชั่วร้ายหากตายเพราะอาชีพ
ที่ผ่านมาก็จะขอยอมตายในผ้าเหลืองบูชาในสิ่งที่มันเคารพนับถือที่สุดในชีวิต  
     ถ้ายังคิดที่จะทำการค้าในสิ่งที่ผ่านมาทำให้คนในชาติเดียวกันต้องสูญเสียผู้คนที่หลงใหล
อย่างใหญ่หลวงนัก น้ำตากำนันก็พลันไหลรดไปตามใบหน้ามัน  สะอื้นไปด้วยความเสียใจ
    ดังนั้นมันคิดว่าสงสัยจะต้องวางมือเรื่องทั้งหลายไว้ให้หมดสิ้น   มันเองตอนนี้ก็มีฐานะ
ร่ำรวยแล้ว  ตายไปเงินทองหรือสิ่งต่างๆก็เอาไปไม่ได้สักอย่างเดียว
การหนีครั้งนี้แทบจะเอาชีวิตไม่รอด  ลูกน้องมันคิดว่าต่างตกตายไปสิ้นหมดแล้ว   ด้วยก่อนที่
จะหลบหนีมา  เสียงปืนดังได้สงบจนการหนีพ้นจากสิ่งนั้นไป จึงคิดจะเลิกแล้วต่อสิ่งเหล่านี้
เห็นทีจะต้องเข้าวัดสร้างบุญกุศลด้วย  เพราะมันแก่แล้วจะได้ชดใช้หนีเวรต่างๆได้บ้าง

     ระหว่างรอคอยรถนั้นทั้งปวดก็ปวดทำให้มันเกิดความสำนึกได้  กลับไปพอหายดีแล้วก็จะ
ขอลาออกจากกำนันเสียที  หากยังเป็นกำนันอยู่ก็ต้องยุ่งเกี่ยวกับเรื่องผิดกฏหมายแน่นอนด้วย
ทางเสี่ยเม้งและเสี่ยหว่างคงจะไม่ปล่อยมันแน่ๆ  หากไม่มีอำนาจแล้วเขาคงจะไม่มายุ่งเกี่ยว
รบกวนกับมันอีกแน่นอน แต่อย่างนั้นทางเสี่ยเม้งจะยอมหรือด้วยมันรู้ความลับต่างๆของ
พวกผิดกฏหมายทั้งหมด 
    กำนันหวนเมื่อปลงตกเช่นนั้นตามันก็สว่างทันที  สิ่งเดียวที่จะพ้นคือการออกบวชเป็นพระ
  และจะไม่ยอมสึกออกมาอีก ยิ่งคิดมันก็ยิ่งเห็นทางเอาตัวรอดได้ด้วยมันก็มีอายุมากขึ้นแล้ว
 เมื่อคิดปลงตกก็หลับไปในระหว่างรถกำลังวิ่งอยู่.....
      ทางด้านบริเวณเครื่องจักรเลื่อยไม้ นั้นร่างของพวกผิดกฏหมายถูกนำมาวางสุมใกล้ๆกับ
เครื่องจักร  พร้อมด้วยอาวุธต่างๆมาวางใกล้ๆกันตลอดจนพวกที่จับตัวได้  ให้พวกมันนั่งลง
แล้วทางด้านตำรวจก็ต่างถ่ายรูปในแง่มุมต่างๆเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานประกอบคดีต่อไป
      ระหว่างที่ตำรวจกำลังรวบรวมหลักฐานต่างๆอยู่นั้น  ผุ้กองจำลองและเจ้าสินชัยกำลัง
คุยกัน พลางเจ้าสินชัยก็มองไปยังหัวหน้าเริ่มและลูกน้องทั้งหลายกำลังทำงานกันอย่าง
ขมักเขม่นนั้น  

      พลันสายตาของเจ้าสินชัย ร่างมันสะดุ้งหันไปหันทางผู้กองทันที เนื่องจากมัน
ได้เห็นนายมัน  เดินเคียงคู่กับหญิงสาวสวยสองนางที่ขนาบข้างซึ่งมันจำได้ว่าเป็น
แม่นางอัปสรที่สั่งสอนวิชาอาคมแก่มันด้วย 
       ที่มองผู้กองนั้นว่าจะเห็นร่างนายมันหรือเปล่าแต่เห็นผู้กองมองไปยังตำรวจ
แล้วคุยกันกับมันเท่านั้น   คงจะไม่เห็นนายมันด้วยผู้กองก็รู้แล้วด้วยว่านายมันคือนาย
ของผู้กองด้วยเช่นเดียวกัน
      หากเห็นก็ควรจะรีบเข้าไป แต่นี่กลับทำเฉยๆแล้วหันมาชวนคุยกันเรื่องต่างๆ
ในการต่อสู้  แล้วบอกว่าทางตำรวจนั้นไม่มีใครบาดเจ็บกันสักคน คงเป็นอำนาจ
พระเครื่องของหลวงพ่อทองที่คุ้มกันภัยให้
   ครั้นเหลือบเพื่อหาทางหลีกเลี่ยงจากผู้กองนั้นด้วยแลเห็นนายมันกวักมือเรียกอยู่
  ดังนั้นจึงกล่าวว่า
     “ผู้กองครับผมเห็นจะต้องไปสั่งงานเจ้าเริ่มก่อนนะครับ และลูกน้องด้วยเพราะ
อาจมีบางอย่างขาดหายไป ”
     “ งานคงจะเรียบร้อยกระมังสินชัย ก็เห็นทุกๆคนทำงานกันอย่างเรียบร้อยนี่นา” 
ผู้กองตอบ

      “ แต่ว่าไปสักหน่อยก็ดีครับ เดี๋ยวพวกมันจะว่าเอาภายหลังไม่ช่วยมันเลยล่ะครับ”
      “ถ้าอย่างนั้นตามสบายเถอะสินชัย ผมเองก็จะไปสั่งงานทางตำรวจเหมือนกัน “
      “ ผมไปก่อนแหละครับ”  ไม่รอคำตอบมันรีบเดินไปหาเจ้านายมันทันที  
   ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังยืนรออยู่  เพื่อให้ไม่เป็นที่ผิดสังเกตุจึงเสแสร้งเดินเข้าไปหา
คุยกับเจ้าเริ่มนิดเดียวแล้วก็เดินไปหานายมันทันที
        “ ทางนี้เรียบร้อยแล้วล่ะ??...ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจไป  
ให้เจ้านำกำลังทั้งหมดไปช่วยด้านโน้นด้วย  เพราะด้านโน้นกำลังปะทะกันหนักอยู่ ” 
 ชายหนุ่มกล่าวสั่งงานทันที
       “ครับๆนายผมจะนำกำลังไปเดี๋ยวแหละ แต่ต้องไปบอกผู้กองก่อนจะได้
ไม่สงสัยพวกเรา   แล้วก็จะรีบนำกำลังพลไปช่วยทางด้านโน้นทันที 
 แล้วนายไม่ไปด้วยหรือครับ” สินชัยถาม
       “ ดูก่อนนะสินชัย ด้วยเจ้าแสงสีหากทำตามที่วางแผนไว้ก็คงจะคล้ายๆกับที่นี่แหละ แต่
ข้าเห็นว่าตอนนี้กำลังปะทะกันหนักอยู่แล้วล่ะ”  ชายหนุ่มเอ่ย
       “ เจ้าไปบอกแสงสีด้วยนะให้แบ่งพวกไปคุมแถวๆริมแม่น้ำไว้ด้วย เนื่องจากฝั่งโน้นมันมี
เรือมาคอยช่วยเหลืออยู่ด้วย “ แม่นางรัตนาวดีเอ่ยขึ้น
       “ และอย่าลืมล่ะให้เจ้าคอยระหวังพวกเสี่ยหว่างที่คิดกำลังจะหลบหนีออกทางด้านแยกของ
เขาไปอีกทางหนึ่งด้วย “ แม่นางอ้อยวิลาวัลย์กล่าว
        “อ้อๆๆอีกอย่างหนึ่งให้พวกเจ้าคอยตลบหลังพวกมันที่เรือจะมาช่วยเหลือพวกมันไว้
คือให้กระหนาบหน้าและหลัง ภายในเรือคงจะมีไม่มากประมาณสองสามคน เจ้าก็ให้คนเจ้า
หรือแสงสีก็ได้ไปจัดการมันเสียด้วย ”  แม่นางรัตนาวดีกล่าวเสริมขึ้น

      “ ครับนายหญิง  ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละและจะกล่าวให้พี่แสงสีทราบตามคำสั่งครับ”
      “ ถ้าแบบนี้ก็รีบๆไปได้แล้วล่ะ ด้วยกำลังคนทางโน้นแม้จะมากก็จริงแต่ พวกผิดกฏหมายนั้น
มันมีมากกว่า ล้วนแล้วแต่อาวุธร้ายแรงทั้งสิ้น  ให้ระวังตัวไว้ด้วยนะ “  หญิงสาวชายหนุ่มเตือน
      ครั้นแล้วเจ้าสินชัยก้มคาราวะแก่นายทั้งสามทันที  เสแสร้งไปคุยกับพวกหุ่นสักพักเพื่อมิให้
ผู้กองสงสัย  แล้วก็แจ้งความประสงค์ของนายแก่หัวหน้าเริ่มที่นำหุ่นเหล่านี้อยู่ว่าให้รีบเตรียมตัว
จะออกเดินทางไปปฏิบัติงานยังที่อื่นอีก หากได้รับคำสั่งจากมัน  
        หลังจากนั้นมันก็เดินไปหาผู้กองจำลองทันที  พลางเอ่ยปากกล่าวว่า
    “ ผู้กองครับผมเห็นจะต้องไปด้านโน้นแล้วล่ะ??...ด้วยนายแจ้งไว้ว่าเสร็จภาระกิจทาง
นี้แล้วให้รีบไปช่วยทางโน้นด้วยครับ”
    “ ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะนำกำลังตำรวจไปเสริมอีกนะ”  ผู้กองเอ่ย
     “ นายสั่งว่าไม่ให้ผู้กองและตำรวจทางนี้ไป ให้คอยเฝ้าระวังไว้หากอาจจะมีเหตุฉุกเฉิน
เกิดได้อีกเพียงให้พวกผมไปเท่านั้นครับ  อ้อๆๆๆอีกอย่างหนึ่งท่านรองผู้กำกับและผู้ใหญ่
บางคนทางกรุงเทพฯซึ่งตอนนี้  ได้มาถึงโรงพักแล้ว  คงจะปรึกษาหารือกันอยู่กับท่านรองฯ
 ด้วยนายรายงานขึ้นไปแล้วครับ  คงจะราวสายๆหน่อยก็คงจะได้พบเองแหละครับ”  
สินชัยกล่าวแก่ผู้กองจำลอง

       “ อ้อๆๆท่านยังบอกกำชับให้ผู้กองอย่าไปไหนคอยต้อนรับผู้ใหญ่และรายงาน
ผลงานทั้งหมดให้ทราบ หากผู้กองไปแล้วใครจะรายงานผลงานล่ะครับ”  มันเอ่ยเพิ่มเติม
        “ หากเป็นคำสั่งนายเช่นนี้  เห็นทีจะต้องตรวจตราระวังเพิ่มขึ้นอีก 
 เอาล่ะสินชัยนำพวกไปได้แล้วทางนี้ ข้าจะได้ไปสั่งพวกตำรวจทั้งหลายให้เพิ่ม
ความระมัดระวังยิ่งๆขึ้นอีก จะไม่นำพวกที่ถูกจับกุมไปแต่จะมัดไว้แถวๆเครื่องจักรนี่อีก
จนกว่าได้พบผู้ใหญ่แล้ว ดูว่าท่านจะสั่งเพิ่มเติมอย่างใดบ้าง  ไปเถอะ”
     ครั้นผู้กองเอ่ยเสร็จก็รีบตรงไปหาตำรวจคนหนึ่งที่ยืนสั่งงานอยู่แล้วทั้งสองก็ซุบซิบกัน
  ตำรวจคนนั้นก็แสดงความเคารพ  แล้วรีบไปแจ้งตำรวจอื่นให้ทราบ  แบ่งกำลังที่แห่งนี้เฝ้าไว้ 
อีกส่วนก็กระจายกำลังโอบล้อมแนวชายป่าทั้งหมดตลอดจนริมแม่น้ำด้วย
  เพื่อป้องกันเหตุสุดวิสัยอาจจะเกิดขึ้นอีกก็ได้อย่าได้ประมาท
     เมื่อเจ้าสินชัยเห็นดังนั้นก็ตรงไปหาผู้กองแจ้งความจำนงค์ทันทีว่า  พวกเขาเห็นจะต้อง
ขออาวุธปืนที่มากองสุมไว้ไปด้วยตามแต่ถนัด  ผู้กองแปลกใจถามขึ้นว่า
     “ อ้าวๆสินชัย แล้วพวกนั้นจะใช้อาวุธปืนเป็นหรือ มันเป็นอาวุธอาก้าจากฝั่งโน้น
เสียเป็นส่วนมากจะมีลูกซองและเอ็ม ๑๖ ไม่เท่าไหร่นะ” ผู้กองกล่าวด้วยความสงสัยด้วย
เห็นพวกหุ่นล้วนแต่ใช้มีดดาบหอกเกือบทั้งสิ้น”
     “ เรื่องอาวุธปืนนี้นายผมฝึกให้พวกเราหมดแล้ว วิธีการบรรจุกระสุนการยิ่งระยะ
หวังผลและไม่หวังผลตลอดจนอาวุธปืนต่างไว้ให้ชำนาญแล้วครับผู้กอง
ไม่ต้องห่วงหรอกครับ”  สินชัยเอ่ยตอบผู้กองจำลองทันที

     เมื่อรับทราบว่านายของสินชัยฝึกอาวุธปืนต่างให้พวกหุ่นเหล่านี้ด้วยไม่รู้ว่าเป็นหุ่น
คิดว่าเป็นพวกชาวบ้านป่าธรรมดา ก็สิ้นสงสัย  ด้วยทราบดีว่านายเขานั้นชำนาญเก่งเพียงใด
 ไม่ใช่แต่วางแผนอย่างเดียวอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆล้วนชำนาญทั้งสิ้น การเลือกคนใช้งาน
ก็จะคัดเลือกที่ไว้ใจได้อีกด้วย  จึงกล่าวว่า
     “ หากเป็นนายกล่าวเช่นนั้น  ให้พวกเจ้าเลือกเอาตามถนัดก็แล้วกัน
 อ้อๆๆ หีบใส่กระสุนที่เรายึดมาได้นั้นก็มีอีกจำนวนมาก  เอาติดตัวไปด้วยนะ ” 
ผู้กองเอ่ยอนุญาตทันที
      เมื่อเจ้าสินชัยเดินไปหาพวกที่รวมกลุ่มกันหลายสิบคนรอคำสั่งอยู่จากเขา 
และได้รับฟังสินชายกล่าวกับหัวหน้าเริ่มเช่นนั้น   แต่ทั้งหมดก็อยู่ในสายตาผู้กองจำลอง
ที่จ้องมองดูพวกหุ่นทั้งหลายอยู่ว่าจะทำอย่างไรกัน
     ดังนั้นเมื่อหัวหน้าเริ่มกล่าวขึ้นเสร็จ บรรดาหุ่นทั้งหลายก็เก็บอาวุธของตนไว้ พลางเดิน
ตรงไปยังกองปืน  ต่างคัดเลือกอาวุธปืนมาใช้ทดลองแล้ว ปลดล๊อคที่ใส่กระสุนทิ้งไป

     พลางล้วงไปหยิบที่ใส่กระสุนในกล่องขึ้นมาเสียบใหม่ทันที    ผู้กองจำลองมองเห็น
ก็ให้แปลกใจนัก  ด้วยกิริยาท่าทางทุกๆคนต่างกระฉับกระเฉงกัน ไม่มีผู้ใดแสดงอาการ
เคอะเขินต่อการใช้อาวุธปืนแต่อย่างใด  ทุกๆคนล้วนแล้วแต่มีความชำนาญอาวุธปืนทั้งสิ้น
 การกระทำของมันเขามองอยู่ตลอดเวลามิได้คลาดสายตาไปไหน
     ครั้นเห็นพวกหุ่นเหล่านี้นำอาวุธสายสะพายคล้องหัวไหล่ข้างหนึ่ง  มายืนเข้าแถวเรียงกัน
ดั่งทหารที่ได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดี เพื่อรอคำสั่งของเจ้าสินชัยและเจ้าริ่ม  ยิ่งเพิ่มศรัทธา
ต่อนายของเขามากยิ่งขึ้น  
     พลางรำพึงกับตนเองว่า  ไม่คิดเลยว่านายกูพึ่งจะมาได้เพียงเดือนเดียวไฉนหาคนมาฝึก
จำนวนมากได้อย่างเชี่ยวชาญยิ่งนักทั้งยังมีระเบียบวินัยดั่งทหาร   ที่ผ่านสงครามการต่อสู้
มาอย่างโชกโชน  แม้ลูกน้องของเขาก็ไม่อาจะเทียบได้กับบรรดาที่ขึ้นตรงต่อนายของเขาเลย
     พลันผู้กองก็ต้องอ้าปากค้างตลึง  เมื่อเขาแลเห็นเหล่าหมู่ที่เรียบรายเป็นระเบียบนั้นต่าง
พากันแบ่งแยกกระจายยืนเรียงตามลำดับไหล่แบ่งออกได้ห้ากลุ่ม กลุ่มละสิบนาย เห็น
เจ้าสินชัย กับหัวหน้าที่ชื่อว่าเริ่ม เรียก หัวแถวแต่ละกลุ่มคนนำหน้า ก็วิ่งเหยาะมารับฟัง

    คำสั่งของทั้งสอง  แต่ในระยะไกลเสียงสายลมรุนแรงจึงไม่ได้ยินเสียงกล่าวเช่นไร
 สายตาผู้กองมองไม่ขาดสายตา  รวมทั้งตำรวจทั้งหลายที่กำลังทำงานอยู่ต่างก็พาหยุดชะงัก
หันมามองทันที
      เมื่อหัวหน้ากลุ่มวิ่งเหยาะๆมาถึง หัวหน้าเริ่มก็กล่าวอะไรผู้กองไม่ทราบ หัวหน้ากลุ่ม
ก็วิ่งกลับไปเข้าแถวหันหน้าไปทางกลุ่มกล่าวกับพวกกลุ่มทันที  อีกเก้าคนต่างหันหลังกลับ
พลางลดสายสะพายที่คล้องปืนนั้นลงมาในท่าที่พร้อมจะปฏิบัติงานได้แล้วพากันวิ่งออกไป
แยกย้ายกระจายไปจนพ้นลานกว้างแยกย้ายกันไปอย่างมีระเบียบ
      สิ่งที่ยิ่งทำความแปลกใจแก่ผู้กองมากยิ่งขึ้น แต่ละกองนั้นเมื่อย่างเท้าไปยังป่าซึ่งจะต้องมี
ใบไม้แห้ง  แต่นี่เหตุไฉนไม่ได้ยินเสียงของใบไม้แห้งแตกดังเข้ามาเลย ในเมื่อคนจำนวนมาก
ได้วิ่งหายลับไปในป่าหมดสิ้นเปรียบดังแมวหรือเสือที่เดินย่างเท้าย่องหวอดไป
ทุกๆคนต่างวิ่งไปด้วย  แต่ไร้ซึ่งเสียงดังเกิดขึ้นเลย

       ผู้กองนึกคิดไปพลางคำนึงไปพลางว่า  นายกูนี่ช่างเก่งเหลือจริงๆฝึกคนได้อย่างนี้เสมือน
หนึ่งดั่งกองทัพทหารมิปานทีเดียว  หากแม้นว่าคนเหล่านี้เป็นผู้ร้ายแล้วทางฝ่ายตำรวจจะต้อง
เสียชีวิตมากมายนับไม่ถ้วนแน่นอน  ด้วยทั้งระเบียบวินัยการฝึกปรือนั้นบ่งชัดว่าไม่ธรรมดา
ล้วนแล้วแต่เป็นการฝึกของกองทัพทหารทีเดียวมิปาน
      ตะวันสายมากแล้วผู้กองยังสั่งให้ผลัดเปลี่ยนเวรดูแลรักษามาทานอาหารกัน  เฝ้ารักษาสิ่ง
ต่างๆที่ยึดมาได้ตลอดจนให้อาหารแก่พวกที่ถูกจับกุมด้วย  เพื่อรอผู้ใหญ่ต่อไป...........

                              *  แก้วประเสริฐ.  *

Cartoon_Animation_08.gif692823n68ya60jv9.gif				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแก้วประเสริฐ