ฝนเอ๋ยฝน สายลมพัดพรมมาคราสดชื่น แสนระรื่นฉ่ำเย็นเน้นหรรษา โลมรำลึกตรึกไว้คล้ายนำพา โอ้วาสนาปมเด่นเน้นใจเรา สุรีย์แสงแข่งแขสดใสสล้าง งามกระจ่างพรายรุ้งมุ่งแลเฝ้า ใยลมหนาวพรูพร่างที่ร้างเงา ใจที่เขลาวูบวาบซาบซึ้งทรวง ทั้งสายลมแผ่เคล้าเย้าดวงจิต มานั่งคิดนอนฝันนั้นดุจสรวง รำลึกไว้ผู้เดียวมิเกี่ยวดวง อดเป็นห่วงดวงแดแม้ลำเค็ญ เคยถูกหลอกเย้ายั่วด้วยมัวเล่น พลิกผันเป็นหนามร้ายให้แลเห็น ทั้งทิ่มแทงภายในให้กระเซ็น หลบหนีเร้นมานั่งลำพังเดียว ฝนเอ๋ยฝนเปียกไว้คล้ายชุ่มชื้น กายระรื่นแนบไว้ไม่ฉุนเฉียว โอ้หนาวซิพลิกผันสั่นขนเกลียว มิแลเหลียวหลบหลีกแทบฉีกใจ นี่ก็หนาวแล้วหนาหาชื่นจิต ฟ้าลิขิตหยอกเย้าเคล้าสดใส ฝนและหนาวเข้ามาซิผ่านไป ที่คงไว้สายลมบ่มห้วงจินต์ หนาวฤดูเข้ามาข้าอกสท้อน คิดถึงตอนผ่านไปไม่สบถวิล ต้องนั่งเพ้อเหม่อเฝ้าเย้าชีวิน พอหลงถิ่นอำลาข้าเดียวดาย ฝนจ๋าฝนใช่ข้าหาคิดไม่ เหล่าพฤกษ์ไพรคิดถึงกึ่งสลาย รอฝนพร่างคืนอยู่พรูกระจาย สู่โลมไล้พสุธาข้าเหนื่อยแทน หนึ่งบวกหนึ่งเป็นสามงามไฉน เธอรู้ไหมฉันรอหนอเหนื่อยแสน เพียรฝากห้วงสายลมพรมดินแดน ทั่วแว่นแคว้นหลากค้นจนรำพัน ไม่คิดเลยวันนี้มีวันนั้น ผ่านโศกศัลย์พรรณามานึกขัน สีดอกเลาแซมไว้ในห้วงกัน ทุกทุกวันฉันเฝ้าเคล้ารำพึง อเน็จอนาถมาดแมนแล่นเผ่นหนี คงเหลือที่ซากศพลบความถึง เมื่ออายุผ่านไปคล้ายสิ่งกลึง ลบเหลี่ยมตรึงสู่แก้วแวววับคลาย ทั้งโลกนี้โลกหน้าฉันล้าแล้ว เหลือดวงแก้วคงไว้มิให้สลาย สร้างผูกจิตเหลือไว้มิให้กลาย ทิ้งร่างกายฝากนามยามลือชา ฉันอ่อนล้าห่วงใจในครานี้ โลดแล่นที่ค้นหามาไกลหนา เหลือเพียงรักฝากไว้ใกล้โรยลา ด้วยวาสนาเสน่หาปลิดลาไกล. * แก้วประเสริฐ. *
ตะวันลับฟ้า ๐ แสงสุริยาลาลับเหลี่ยมโลก เวลาเล่าเคล้าโบกโยกปีใหม่ กาลเก่าหนออำลาล้าหนีไป ใยเหตุไฉนรักเดิมมิเริ่มมา ๐ อนิจจาความฝันแสนบรรเจิด โอ้ตะเริดหายไปไม่หรรษา ทิ้งคนเก่าอ้างว้างซิโรยลา ดุจแสงลาทิ้งเราเฝ้าอาลัย ๐ ฝนเคยพร่างชื่นฉ่ำล้ำสู่จิต หนาวสู่ปลิดโบกมาข้าสงสัย หรือสาวเจ้าอ่อนล้าไม่อาลัย ทิ้งอาศัยห่วงหาพามืดมน ๐ กระต่ายน้อยเต้นรำย้ำสู่ห้วง สีแสงล่วงเหลี่ยมเขาเราสับสน ปีใหม่นี้เปลี่ยนไปคล้ายมืดมน วามเคยบ่มเพิ่มปีซิพลิกกลาย ๐ เขาเคล้าดาวเมื่อคืนระรื่นจิต แต่ฉันคิดคอยเจ้าเฝ้าลับหาย คล้ายตะวันลาลับนับละลาย กระวนวายใจเราหนอเฝ้ารอ ๐ วันนี้เล่าเจ้ากระต่ายพลิกสรวล ฉันปั่นป่วนจนดึกนึกฝากขอ สิ่งที่รักหมักหมมดมยาคลอ โอ้ละหนอเฝ้าเจ้าเคล้าอาดูร ๐ จะเหลือบแลหาเจ้าเฝ้าถวิล ซากแห่งจินต์อุบัติซิจัดสูญ จะมีใครไหนเล่าเคล้าเกื้อกูน โอ้เนื้ออุ่นเคล้าดาวเย้าหยอกกัน ๐ คิดถึงฉันบ้างไหมใครคนนี้ ที่ยอมพลีทุกสิ่งระวิงสันต์ แด่น้องนางฝากอิ่มยิ้มกำนัล ปีใหม่นั้นย่างมาข้าหลงรอ ๐ นั่งคนเดียวเคล้านี้ซิละห้อย หยดรินย้อยนี่หรือคือสิ่งขอ ดาวระยิบจิบไวท์ใส่ลงคอ สิ่งพนอพลุไสวในเที่ยงคืน ๐ จวบปีใหม่เที่ยงคืนระรื่นแล้ว โอ้หวานแจ้วรอบด้านฉันสะอื้น เขาสนุกฉันทุกข์คลุกเที่ยงคืน รอวันตื่นยามเธอเผลอเห็นใจ ๐ กระต่ายเอ๋ยเฉลยระคนแจ้ว สายลมแผ่วเย็นเยือกเกลือกไฉน ข้านั้นเพียงสิ่งอุ่นกรุ่นภายใน มิสดใสเหมือนเจ้าเฝ้าคอยนาง ๐ น้ำค้างพรมหยดแล้วเจ้าแก้วเอ๋ย กลิ่นรำเพยหลบลี้หนีอรุณสาง ดุจตะวันลาลับนับเลือนลาง สู่อ้างว้างหงายเก๋งเคล้งนิทรา. * แก้วประเสริฐ. *