26 พฤษภาคม 2553 17:00 น.
แก้วประเสริฐ
ช้ำทรวง
ระบัดความแพร้วเพริศบรรเจิดจ้า
ด้อยวาสนาวิปโยคแสนโศกศัลย์
สุดปั่นป่วนห้วงสถิตผลิตรำพัน
อเนกอนันต์ผ่านฟ้าโปรดปราณี
ม่านหลากสีฝากไว้จากไกลแล้ว
ที่เคยแพร้วรวยรินจากกลิ่นฉวี
พล่านจืดจางน้ำใจปราศไมตรี
ห้วงเริงทวีรัญจวนจนป่วนใจ
หยาดฝนหยดโรยรินไร้สิ้นฉ่ำ
เหลือเพียงร่ำเรียกหาคราสดใส
เน้นความหลังซาบซ่านผ่านวิไล
หนีจากไกลสุดหวังครั้งเรืองรอง
ยิ่งคิดไปผ่านห้วงคล้ายยวงเศร้า
อบอุ่นเคล้าเคลือบไว้คราได้สนอง
วันผ่านคืนล่วงลับยากนับครอง
สุดหมายปองเพียงฝันอันจินตนา
สายลมวสันต์ครานี้สุดที่กล่าว
หวานเคยเคล้าฝากไว้ให้ครวญหา
เดือนและดาวหนีร้างกลางเมฆา
ม่านท้องฟ้ามืดคล้ำพร่ำร้องคราง
แม้นตะวันร้อนแรงยังแฝงเศร้า
เหมือนปวดร้าวฤดีที่เศร้าหมาง
สร้างวิกฤตตอกสิ่งอิงเลือนราง
สุดอ้างว้างแลมองครองระทม
ต่อนี้ไปยากแล้วแพร้วเพริศพร่ำ
หวานเลิศล้ำเจือจางสร้างขื่นขม
ฝากกลางห้วงพลิกไว้ให้เป็นลม
ว้าเหว่ตรมสุดกล่าวเคล้าลิดรอน
สร้างฝากไว้มาสถิตยาพิษสร้าง
เป็นบ่วงขวางกรีดกั้นพลันสังหรณ์
เจ็บช้ำทรวงแนบไว้คล้ายเปียกปอน
ผลิตไหลย้อนห้วงหทัยให้ทรมาน.
* แก้วประเสริฐ. *
10 พฤษภาคม 2553 16:43 น.
แก้วประเสริฐ
ลึกลับ
ลึกล้ำย้ำนึกจนตรึกกล้ำ
นำมาพร่ำตกผลึกเป็นปึกขำ
งำปนยุ่งปลงไว้ให้จดจำ
ยิ่งระกำงุ่นง่านพาลงงงัน
รุกแลรับมาฝากจนลากลิ้น
กับถูกปลิ้นซวนเซเป็นเล่ห์สันต์
ตื่นกับหลับพาดพิงหลังอิงกัน
วิวัฒน์ผันแปรปรวนจนป่วนตา
ร้อนคลุกเย็นน่าสุขกับทุกข์ยิ่ง
รอบทุกสิ่งงุ่นง่านจนซ่านหา
วันกับคืนเหลือเดือนกับดารา
มิระอาหวังแต่มาแพ้ลวง
ฮักเจ้าหลายมาพ้อกับป้อจิต
ยวงสิ่งคิดผูกพันด้วยดันหวง
เขาว่าผิดโน่นถูกหลุดลูกพวง
หล่นจากยวงงี่เง่าจนเศร้าใจ
ทำไหร๊พรื้อยื้อยุดจนฉุดลาก
เก่งเพียงปากนำสิ่งสู่อิงไหว
ยวนเย้าวนหันเหแล้วเซไป
ปัดโธ่ในเจ้าเล่ห์เพทุบาย
ม่วนงามแต้แผนการมิผ่านใส
ฝากแค่ใยแมงมุมที่รุมสลาย
อกอีแป้นจะแตกแยกวอดวาย
ซึ่งลวดลายสู่กลับพับเรืองรอง
ฮิฮิฮิจันหมองร้องเสียงข่ม
สูหลอกต้มแปรไปใยเป็นสอง
คิดหลงเชื่อคมแฝกแยกจนกอง
ได้แต่มองสองตาหมาข่มเงา
นี่ก็สวยงามยิ่งอิงพิลาส
โน่นก็ปราชญ์บัณฑิตที่คิดเฝ้า
ลับลึกซ้อนซ่อนเงื่อนขี้กลากเอา
ตาลอยเศร้าเวียนที่ศรีธัญญา.
* แก้วประเสริฐ. *
5 พฤษภาคม 2553 14:49 น.
แก้วประเสริฐ
แก้วกานดา
๐ ยลพิศเพ่งนวลน้อง กัลยา
วงพักตร์งามเสน่หา เลิศล้ำ
ดุจอัปสรพสุธา เกิดก่อ จริงแฮ
ชื่นฉ่ำดุจสายน้ำ รดห้วงดวงฤดี ฯ
๐ยามบังอรยาตรเยื้อง แลมอง
หลงใฝ่คิดหมายปอง แด่เจ้า
คมเนตรเหลื่อมเรืองรอง สดชื่น ฉ่ำเฮย
เอวอ่อนพิลาสเคล้า อร่ามแท้ป่วนถวิล ฯ
๐ ปทุมมาศล้วนเบ่งล้ำ อาภรณ์
โขนงแม่ดุจคันศร โก่งย้ำ
เยื้ององค์แกว่งไหวกร เรียวยิ่ง งามแฮ
พิศยิ่งจิตใจกล้ำ เรียกร้องดวงสมร ฯ
๐แสงเกิดก่อม่านริ้ว มุมมณี
ทิพากรรัศมี หลากย้ำ
ชูไสวสู่นวลฉวี พราวปลั่ง มากนอ
ดุจดั่งเก็จพรายล้ำ เปรียบรุ้งวาวไสว ฯ
๐นวลนางใยเลิกร้าง พรากจร
ฝันใฝ่ถูกลิดรอน ห่อนแท้
ม่านถูกปิดบัญชร มวลสิ่ง จบแฮ
ดุจสุดสิ้นมาดแม้ เพียรเฝ้าหวังปอง ฯ
๐ หวังพิรุณหยาดฟ้า ชโลมดิน
แววสีรุ้งมอบกวิน หลากย้ำ
พอลับดับมวลถวิล สานก่อ เกิดเฮย
เคยโปรยปรายสิ่งซ้ำ ยากแล้วใฝ่ถวิล ฯ
๐ ฝันคิดปองลับสิ้น กลับกลาย
งามก่อเกิดมากมาย พลิกแล้ว
เก็จแก้วลับแลหาย สุดก่อ ซ่านแฮ
โอ้สิ่งเฝ้าเพริศแพร้ว หลบลี้หนีสลาย ฯ
๐รัตนางามเพริศพริ้ง กานดา
แสงเหลี่ยมสิเน่หา แหล่งหล้า
เรืองรองจากทิวา หวังก่อ ใหม่เฮย
เพียรแค่คอยนางฟ้า ผ่องแผ้วคืนสนอง.ฯ-
* แก้วประเสริฐ. *