9 พฤศจิกายน 2552 13:51 น.
แก้วประเสริฐ
นางฟ้าจำแลง
ประกายส่องรองเรืองบรรเจิดผ่อง
ดุจละอองเมฆาคราพลิ้วไสว
ขาวพิสุทธิ์เรืองรองผ่องอำไพ
ตระการไว้ในห้วงสรวงแดนดิน
ชมพูพลิ้วอาภรณ์ออดอ้อนไหว
เฉิดไฉไลแนบเนื้อยามเอื้อถวิล
ดั่งบาศคล้องคนึงหาเป็นอาจินต์
ยามยุพินเริงร่ายพรรณรายกาย
แสงรังสีหลากหลายขจายขยับ
พลิ้วประดับแวววับรับเรือนฉาย
องค์เอวอ่อนช้อยร่างระหว่างกราย
งามพริ้มพรายภิรมย์ชมเมืองแมน
ปานประหนึ่งอัปสรจรจากฟ้า
แฝงกายาร่วมร่ายจับใจแสน
สู่ทำนองคล้องซึ้งตรึงผ่านแดน
ทั้งสองแขนพลิ้วไสวคล้ายเมฆา
เสียงระนาดเอกหวานซึ้งตรึงจิต
ขลุ่ยรับสนิทฆ้องวงประโทนหา
เข้าขานรับฉิ่งกรับล้วนนำมา
ซออู้พาด้วงสายกรีดกรายพราว
ระนาดทุ้มลุ่มลึกผ่านเสียงนุ่ม
เสียงปี่คลุมรับกับจระเข้สาว
ขิมบรรเลงเพลงไว้กับเรื่องราว
กลองวงสกาวผ่านฟ้ายามราตรี
อัปสรจำแลงแฝงล่วงหน้าเด่น
เปรียบเดือนเน้นดาราล้อมราศี
ช่างวาบหวามซ่านซึ้งตรึงห้วงฤดี
ดุจอัญมณีพลิกสลับแวววับพราย
ไร้วาสนาหมายชมภิรมย์ชื่น
ยากจะคืนวันกลับนับใจหาย
ได้เฝ้ามองภาพไว้แสนเสียดาย
เพียงบรรยายให้ฟังดั่งลอยลม.
*** แก้วประเสริฐ. ***