30 สิงหาคม 2551 11:41 น.
แก้วประเสริฐ
*** อัปรีย์จัญไร ***
มาเถิดมาฆ่ากันช่วยผลาญชาติ
ด้วยอำนาจเงินตราไขว่คว้าหา
ใครอย่างไรช่างมันกระสันมา
มินำพาให้สิ้นแผ่นดินไทย
มาเถิดมาแบ่งแยกแตกเป็นเสี่ยง
อย่าหลบเลี่ยงหันหน้าคว้าปืนใส่
ยิงให้แหลกแบ่งแยกเชื้อชาติไว้
รบกันไปจนหมดจรดแผ่นดิน
มาเถิดมาอยู่กันไปใยเล่า
แก่งแย่งเข้ารวมพวกบวกจนสิ้น
แก่หนุ่มสาวเด็กเล็กอย่าแลบลิ้น
ให้แดดิ้นค้นหาช่วยฆ่ากัน
มาเถิดมาทำลายมันให้สิ้น
ปากกับลิ้นบอกต่อจ้อขับขาน
ประเทศไทยเหลือไว้แค่ตำนาน
ช่วยกันผลาญหมดสิ้นถิ่นอาศัย
มาเถิดมาอย่าอิงทำนิ่งเฉย
อย่าละเลยมีดพร้ามาแก้ไข
ฆ่าให้หมดผืนดินสิ้นจัญไร
ให้เหลือไว้แค่เพียงเยี่ยงผืนดิน
ปากรักชาติกู้ชาติปราศอาวุธ
ร้ายที่สุดปากกาหาสุดสิ้น
ทั้งวิทยุโทรทัศน์พาดกวิน
จนขวานบิ่นสิ้นชาติปราศอัปรีย์
มาเถิดมารบกันอย่าสิ้นสุด
ร่วมกันฉุดพวกพ้องให้ผ่องศรี
ฆ่าให้หมดแผ่นดินสิ้นธรณี
เลือดนองทวีคนสิ้นผืนดินไทย
มาเถิดมาอัปรีย์และจัญไร
จะอยู่ใยอย่าช้ามาผลักไส
เหลือแต่กูผู้เดียวมิเป็นไร
แม้เครื่องในหมดแล้วแป้วฤดี.
*** แก้วประเสริฐ. ***
19 สิงหาคม 2551 21:21 น.
แก้วประเสริฐ
*** หนึ่งเดียว ***
สุดแพรวพรรณลักขณาลาวัลย์ยิ่ง
อบอวลสิ่งแย้มยวนชวนคิดถึง
พิลาศพักตร์ประจักษ์ไว้ให้คนึง
เย้าล้วนตรึงสิ่งหอมย้อมห้วงหทัย
วิภูษณะโชยรินประทินโฉม
มิกล้าโน้มนวลน้องผิวผ่องไสว
ปราศเชยชิดแนบสนิทประชิดใน
แม้นโปรยไว้ปรายตาฝากผ่านมา
สิ่งล้ำลึกคงคลายสลายเพริศแพร้ว
สวยผ่องแผ้วหนีหลีกปลีกชันษา
ล้วนฝากหอมดอมกลิ่นสิ้นนำพา
หลงเสน่หาผันเปลี่ยนเวียนวนเงา
วิลาวัณย์ลักขณามาย้ำสลาย
แล้วก็คลายดั่งเดือนเยือนอับเฉา
สิ่งประคองห้วงรักยากบรรเทา
แค่ดมเฝ้าหวานโชยโรยสู่ทรวง
ใจหนึ่งเดียวแสนยากลำบากเข็ญ
ยิ่งประเด็นพริ้มเพราราวสาวสรวง
ประทินโฉมโน้มกลิ่นหอมใยยวง
พลิกทั้งปวงฝากไว้แอบแปลบฤดี
ประโลมจิตยิ่งคิดจิตแสนหวั่น
สุดแสนพรั่นห้วงรักประจักษ์ฉวี
ย้อนความหลังสร้างไว้ฝากให้ทวี
เปี่ยมเปรมปรีดิ์บัดนี้ที่พลิกแพลง
ความพิลาสผนึกไว้ในทรวงจิต
ย้อนหวนคิดจรรโลงนี่คงแสลง
เคยฝากไว้ในสิ่งที่เคลือบแคลง
สร้างแอบแฝงผ่านห้วงดวงหทัย
เหลือหนึ่งเดียวดวงใจในร่างนี้
ปั่นป่วนทวีรักหวานสุดซ่านไฉน
สิ่งเพริศพริ้งอิงแนบแอบห่างไกล
กลิ่นหอมไซร้เผยสร้างหวั่นร้างจร.
*** แก้วประเสริฐ. ***
10 สิงหาคม 2551 17:50 น.
แก้วประเสริฐ
*** นางฟ้าสยาม(ยกน้ำหนัก) ***
ประภาวดีเจริญวัฒนะมานะเลิศ
งามพราวเพริศกว่าใครในสาวสยาม
นครสวรรค์แว่นแคว้นแผ่นดินคาม
เกรียงไกรนามโลกาหาใครเทียม
น้ำหนักร้อยยี่สิบหกกิโลกรัม
เก๋ยกนำหญิงทั้งหลายอายเหนียม
ทั้งน้ำหนักน้อยกว่าหาได้เจียม
จิตใจเปี่ยมด้วยพลังความหวังไทย
คว้าเหรียญทองครองไว้ได้สุดสวย
ยิ้มระรวยโลกาพาหวั่นไหว
ทำลายสถิติสี่ปีหนีห่างไกล
สุดไฉไลใครเทียบมาเปรียบปาน
นครสวรรค์เป็นถิ่นดินแดนสรวง
กำเนิดดวงรัตนามาเสกสรร
สร้างชื่อเสียงให้ไทยวิไลพรรณ
อเนกอนันต์กระฉ่อนร่อนโลกา
โอลิมปิคคือสถานที่ฝันเฟื่อง
ต่างฤาเลื่องหมายปองสนองหา
เพื่อเหรียญทองฝากไว้ยากได้มา
สร้างกีฬาในอดีตคิดหมายปอง
เป็นเหรียญทองของสาวชาวสยาม
เลื่องลือนามนางฟ้ามาฝากสนอง
เป็นเหรียญแรกของไทยที่ได้ครอง
นางฟ้าต้องฝึกฝนทนพากเพียร
ขอเทิดทูนประภาวดีศรีสยาม
ไทยเรืองนามฝากให้จนได้เสถียร
อีกทั้งเจริญวัฒนะแนบเนาเนียน
มาเยี่ยมเยียนกำลังใจให้ตลอดไป
โอ้เธอเป็นนางฟ้าสยามประเทศ
ทั่วอาณาเขตไทยได้สดใส
ต่างปรีดิ์เปรมเกษมศานต์หฤทัย
เฉิดไฉไลประภาวดีแม่ศรีอมร.
*** แก้วประเสริฐ. ***
10 สิงหาคม 2551 13:26 น.
แก้วประเสริฐ
*** คืนหนึ่งนั้น ***
เหมือนฟ้าฟาดกลางทรวงแทบล่วงลับ
ช่างแตกยับสิ้นสลายจากใจฉัน
ตลึงแลพวงผกาวิลาวัลย์
กลิ่นหอมนั้นส่งกลิ่นจินต์รัญจวน
สายสวาทพาดพันจนสั่นสะท้าน
หวานเคยพล่านซาบซึ้งตรึงกำสรวล
วิมานแก้วพลันลับนับเรรวน
แสนปั่นป่วนหฤทัยในราตรี
วจีถ้อยร้อยสำเนียงเคยเคียงข้าง
กลับอ้างว้างเปลี่ยวเปล่าเศร้าราศี
คงเหลือไว้เพียงเงาเฝ้าเปรมปรีดิ์
สุดแสนทวีชอกช้ำย้ำหัวใจ
สิ่งเคยบอกดุจสายลมพรมผ่าน
รักเคยพล่านแปรกลับลับสดใส
มิหลงเหลือแม้คำย้ำยองใย
วาดฝันใฝ่สิ้นแล้วแคล้วจากจร
ความเหนื่อยยากพากเพียรเวียรผันกลับ
ขาวดำสลับยอกซ่อนย้อนสังหรณ์
ครั้งสุดท้ายฝากคำดุจย้ำอาวรณ์
แสนสะท้อนน้ำเสียงเยี่ยงมืนชา
ค่ำคืนนี้เหลือไว้ในความฝัน
ยากหวนหันหวั่นฤดีเสียงโหยหา
มีสำเนียงกึกก้องร้องครวญมา
เสียงนกมาผ่านไปในเที่ยงคืน
ช่างโดดเดี่ยวเดียวดายคล้ายต้นหญ้า
เหยียบย่ำมาผ่านไปไร้ขัดขืน
นี่หรือรักฝากไว้ให้ยั่งยืน
เปลี่ยนเป็นอื่นใครทำย่ำลิดรอน
อันคำรักเคยวอนอ้อนฉอเลาะ
ขอช่วยเพาะตบแต่งมิแฝงหลอน
ต่างกันสร้างวางไว้ให้เป็นตอน
เหลืออาวรณ์ฝากให้หัวใจจาง.
*** แก้วประเสริฐ. ***
6 สิงหาคม 2551 14:49 น.
แก้วประเสริฐ
*** รัญจวนใจ ***
คนึงตรึงซึ้งสะท้อน เปี่ยมอาวรณ์ออดอ้อนเหลือ
ฝากไว้คล้ายจุนเจือ เคยหลงเชื่อมิเหลือใด
ซ่านสนองผ่านครองรัก นวลนงลักษณ์ยิ้มแย้มใส
อดีตกาลผันแปรไป สร้างสิ่งไว้สู่ห้วงฤดี
เบื้องบนล้นเพียงฝัน ภาพดวงจันทร์นั้นเปรมปรีดิ์
ท่ามกลางแสงนที ยวนเย้ายีนวลสีทอง
คลื่นน้อยลอยล่องพลิ้ว แลลับลิ่วผิวงามผ่อง
สายน้ำฉ่ำละออง เคยแนบน้องฟ้าหมองมัว
แสงดาวพราวระยับ มืดประดับวิจิตรสลัว
เสมือนรักกลางสิ่งกลัว แสนพันพัวยอกย้อนยล
คลื่นลมลอยละล่อง พลิกผันผ่องครองสับสน
หมู่เมฆวนเวียนจน เข้าปะปนวิมลคลาย
ลืมสิ้นทุกสิ่งสร้าง มาลบล้างบ่อนทำลาย
ตักหนุนเคยแนบกาย สิมากลายเลือนลบลา
เสน่หาเคยฝากไว้ ถูกทำลายในพริบตา
ม่านรักมินำพา สิ้นวาสนาเรียกกลับคืน
เสียงสะอื้นชายหาด จินต์ประหลาดคงสุดฝืน
เหมือนเราตอนมายืน พลันพลิกตื่นดุจคล้ายเงา
สาวน้อยใยร้องไห้ คงพลาดไว้ในโฉมเฉลา
เปล่าเปลี่ยวหทัยเอา จึงหวนเฝ้าเคล้าคร่ำครวญ
เรื่องรักช่างหนักจิต แสนวิปริตคิดกำสรวล
คงพรากจากชายชวน ทำให้หวนสิ่งหลงปอง
สองเราคงถูกหลอก ฝากช้ำชอกมาตอกสนอง
สิ้นสิ่งอิงหมายปอง สิ่งเรืองรองแปรเปลี่ยนไป
เสียงคลื่นเลาะริมฝั่ง สิ้นกำลังฟองกระจาย
เป็นละอองผ่องขจาย ดุจรักสลายโลมไล้เยือน
เหมือนสาวเคล้าลำเค็ญ แม่เนื้อเย็นเช่นถูกเฉือน
ความหวังมาลบเลือน อยู่เป็นเพื่อนร่วมราตรี
สองเราไร้วาสนา หมองอุรามาย่ำยี
พลิกเปลี่ยนแปลงชีวี ขอเปรมปรีดิ์มิวอดวาย
ฝากลมบ่มวิปโยค สิ้นทุกข์โศกคงกลับกลาย
เสียงคลื่นก้องกำจาย ลบทิ้งสลายฝากในทะเล.
*** แก้วประเสริฐ. ***