11 มีนาคม 2551 14:03 น.
แก้วประเสริฐ
** อาภัพ **
ยามไร้เงินคนหนีเดินลี้ห่าง
สู่อ้างว้างหมองหม่นระคนเหลือ
มองรอบข้างหวังปองสนองเจือ
เพื่อนเคยเผื่อทั้งหลายหายลับตา
สู้โดดเดี่ยวเดียวดายในโลกกว้าง
สิ้นทุกอย่างหวังจรุงใฝ่ผดุงหา
แสนดิ้นรนกอบเกื้อมิเอื้อเวลา
ที่ปรารถนาย่อมกลับอาภัพทน
จะขอสู้โชคชะตาหวังมาสร้าง
ในท่ามกลางร้อนหนาวเฝ้าสับสน
ท่ามกลางฝนสู้ลำบากความยากจน
เพื่อสร้างตนมุ่งหวังครั้งเรืองรอง
สิ่งเพื่อนรักดูถูกเหมือนผูกหนาม
เฝ้าเหยียดหยามทิ่มแทงแต่งสนอง
ล้วนนินทาหาเหตุดุจเปรตคะนอง
โลดแล่นล่องขับขานผลาญทั้งปวง
โอ้อนิจจานี่หรือคือเพื่อนรัก
สมานสมัครผูกพันนั้นแสนหวง
ท่องเที่ยวไปทั่วแคว้นแดนใยยวง
ทั้งเป็นห่วงเจือจุนหนุนครอบครัว
มิหมายคิดเสียดายในสิ่งสนอง
หลงใฝ่ปองในโลกีย์แสงสีสลัว
สมองเพียงความสุขสนุกระรัว
ลืมหมองมัวเงินสิ้นถวิลละลาย
พอความทุกข์เข้าครองสนองแล้ว
สิ่งเพริศแพร้วหนีลับกลับสลาย
เพื่อนเคยรักหลบลี้หนีห่างไกล
แต่เหตุไฉนเปรยเขลาโง่เง่าเอง
เป็นบทเรียนชีวิตติดฝังผลึก
คอยจารึกไว้กระฉับกระเฉง
พอสิ้นทุกข์พบสุขปลุกละเลง
เพื่อนคนเก่งขอกลับหันลับจร.
*** แก้วประเสริฐ. ***
7 มีนาคม 2551 19:18 น.
แก้วประเสริฐ
** เพื่อเธอคนเดียว **
พิศดาวเดือนล่องลอยคล้อยเวหาส
แสงพิลาสผ่องพรรณประชันโฉม
หฤทัยพรั่นตรึงห้วงดวงโพยม
สิ้นแสงโสมสาดซึ้งคนึงรำพัน
รักแรกพบสูดกลิ่นหอมผกามาศ
แสงโสมคลาดหนีลับมิกลับหัน
ห้วงเสน่หาหลงอาลัยใฝ่ลาวัลย์
ดุจดังฝันหลงชะแง้แลห่วงคอย
ฉันใฝ่ปองเธอคนเดียวเท่านั้น
มิอาจหันสิ่งต้องสนองละห้อย
มาดแม้นฤทัยพินิจจิตเฝ้าลอย
หยดรินย้อยพลีลงตรงอกตรม
ผันอารมณ์ข่มไฉนฝากไขว่ฟ้า
ยากสรรค์มาภิรมย์บ่มเสกสม
สุดอาลัยแม้นงามยามปองชม
ที่ลอยลมยากหาคว้าดาวเดือน
ต่อนี้ไปใครเล่าจะโลมสมร
แม้นอาวรณ์เสน่หาที่มาเฉือน
มาดสุดสิ้นสิ่งรักยากจักเยือน
มิลาเลือนเพื่อเธอเสมอหัวใจ
ดุจดั่งคล้ายดวงแขที่แลลับ
แสงระยับฟากฟ้าดาราใส
บ้างกระพริบอิงไว้ในวิไล
เหมือนสิ่งในอยู่ห้วงดวงฤดี
เพื่อเธอคนเดียวเกี่ยวใจใฝ่ฝัน
มิมีวันเสมือนเก่าเฝ้าโฉมศรี
คงแต่คอยค้นหาน้ำค้างราตรี
สู่เปรมปรีดิ์ดุจเธอเสมอนภา
มาดเสน่หาอาลัยได้เพียงเศร้า
ความว่างเปล่าชีวิตจิตหรรษา
ขอสุขสรรค์ต่อชีวิตอาจปิดลา
ยากที่หาเปรียบได้ดุจคล้ายเธอ.
*** แก้วประเสริฐ. ***