19 สิงหาคม 2549 18:43 น.
แก้วประเสริฐ
หัวใจเพ้อ
ใจเอ๋ยใจลอยไปที่ไหนเล่า
ทุกค่ำเช้าเฝ้าคิดรำพึงหา
พบเพียงผ่านสบเห็นเด่นตรึงตา
หรือวาสนาจะมีคู่แล้วเรา
ยิ่งพินิจติดตรึงรำพึงหวน
ให้ปั่นป่วนล้วนเห็นเป็นรูปเขา
นั่งก็คิดนอนฝันแม้เพียงเงา
แต่ก็เฝ้าครวญคร่ำฉ่ำหัวใจ
สู้อุตส่าห์เก็บรักใยหนักจิต
สั่นระริกยิ่งคิดผิดวิสัย
โอ้รุ่มร้อนอ่อนระริกพลิกใน
ส่งใจกายวิปริตติดระรัว
หลงละเมอเพ้อหวนดุจชวนหา
ภาพตรึงตาหักไว้ยิ่งคล้ายยั่ว
ช่างฟุ้งซ่านหวั่นไหวมิได้กลัว
ดั่งเมามัวเสน่หาพล่าอารมณ์
อกหนออกตกรักหนักเพียงนี้
เสมือนชีวีสรรค์หามาสู่สม
ว่าจะเป็นคานทองมิหมายชม
สิ่งนิยมชมชื่นตื่นวิญญาณ์
เห็นจะต้องเสี่ยงรักอีกสักครั้ง
ด้วยความหวังหลังคิดเป็นปริศนา
หยิบบัวดอกเหนือไว้ให้พิจารณา
หากมีปัญญาตอบได้จะให้ชม.
*** แก้วประเสริฐ. ***
18 สิงหาคม 2549 11:24 น.
แก้วประเสริฐ
วันสุดซึ้ง
มีรักหนึ่งซึ้งสู่อยู่ในจิต
วิปริตบิดผันพลันสิ้นสลาย
งามพิลาสยาตรเยื้องดูมิคลาย
ห้วงฤทัยเรียกร้องต้องตาแล
มิเป็นสองรองใครได้เป็นหนึ่ง
ช่างสวยซึ้งตรึงใจในกระแส
นำหน้าเหล่าดุริยางค์ลออแด
คทาแม่ควงสะบัดจัดสู่บน
ตวัดพลิ้วปลิวไปในอากาศ
ช่างผงาดดุจหงส์หลงเวหน
ถลาร่อนอ่อนไหวดั่งสายชล
ละลิ่ววนจนต้องร้องฮือฮา
ล่วงลงหัตถ์ตวัดควงสิบรอบ
แล้วย่อนอบแนบทรวงล่วงนำหน้า
อิริยาบถงดงามดุจนางฟ้า
ร่อนเมฆามโหรีที่กึกก้อง
เธอยิ้มย่องผ่องใสไฉไลยิ่ง
งามเพริศพริ้งหยิบผ้าโรยโปรยสนอง
ภูษาพลิ้วปลิวสะบัดจัดเรืองรอง
ดุจนวลน้องเสี่ยงใจในพวงมาลา
ลอยละลิ่วพลิ้วไปพระพายพัด
กลิ่นหอมจัดปะหน้าคละนาสา
มือหนึ่งน้อยคอยจ้องแล้วหยิบมา
ชิ้นภูษาถูกแย่งแฝงเงาเพื่อน
เหมือนมีบุญหนุนกรรมเข้านำสร้าง
มองตาค้างภูษาหายใจถูกเฉือน
เป็นคนอื่นมิแน่ไม่แชเชือน
คงต้องเปื้อนด้วยกำปั้นฉันละเลง
แต่นี่เป็นเพื่อนเข้าเรารักมาก
ชีวิตฝากกินอยู่ดูกระฉับเฉ่ง
ยิ้มละห้อยมองเธอแสนวังเวง
ดุจดั่งเพลงรักโศกโยกคลอนใจ.
*** แก้วประเสริฐ.
17 สิงหาคม 2549 13:31 น.
แก้วประเสริฐ
สุดห้ามใจรัก
ดูสายชลวนเชี่ยวดุจเกลียวรัก
กระแสมักผันเปลี่ยนเวียนสับสน
ยอกย้อนซ่อนเงื่อนงำซ้ำวกวน
ระลอกป่วนล้วนจนฤทัยคราง
สุดจะห้ามรำพึงคะนึงหวน
อารมณ์ชวนล้วนพบสบสิ่งร้าง
ดั่งสายธารรินไหลไปรอบทาง
สิ่งอ้างว้างวางไว้ล้วนไขว่คว้า
ดุจหลักรักไม้เลื้อยเอยเฉลยรัก
ฝากพำนักพักไว้คิดใฝ่หา
เฝ้าพันผูกคลุกคลอพะนอมา
คอยเวลาหนีหายคลายสิ่งชม
สายลมเล่าเฝ้าลอยมาคอยฝาก
มีแต่พรากยากนักมักขื่นขม
สายธารเคยเย็นฉ่ำล้ำอารมณ์
ยังสร้างตรมฝากไว้ให้สิ้นแรง
รักต้องห้ามยังคำนึงซึ้งเสมอ
สิ่งเผยอเผลอวจีที่แอบแฝง
มาฝากลงตรงใจให้เปลี่ยนแปลง
ดุจดั่งแกล้งยั่วเย้าเศร้าชีวัน
พินิจมองหมองปนดุจชลเชี่ยว
หมุนเป็นเกลียวเลี้ยวไปคล้ายไม้นั่น
หลักนี้อิ่มพริ้มแล้วเลื้อยจากพลัน
เหมือนหลักนั้นยากห้ามสุดข้ามรัก.
*** แก้วประเสริฐ. ***
15 สิงหาคม 2549 12:10 น.
แก้วประเสริฐ
** หยาดน้ำใจ **
สุคนธราผกากรองต้องหมองหม่น
สิ้นสุคนธ์หล่นพร่างกลางเวหน
ลอยละลิ่วปลิวรักมาหักชนม์
ซ้ำใจตนปนห้วงบ่วงน้ำตา
ระรินโรยโปรยนักมาหักรส
ชื่นสลดกรดกัดตัดห่วงหา
เปื้อนใจจิตติดสวาทมัดตรึงตา
ยะเยือกพาสั่นห้วงหน่วงฤดี
นึกความงามรำลึกยิ่งนึกแค้น
ช่างโลดแล่นลอยลิ่วผิวศรี
ปรีดิ์เปรมยอกตอกย้ำช้ำชีวี
เมื่อได้ดีหนีพรากมาจากไป
ไม่คำนึงถึงสิ่งเคยอิงรัก
แต่นำชักหักชีวันขวัญสลาย
นี่นะหรือคือสิ่งที่อิงกาย
มอบสิ่งไว้เรรวนป่วนอารมณ์
เมื่อยามอยู่กู่ก้องร้องเรียกหา
จนสั่นผวาในคราวเฝ้าสู่สม
สมใจอยากแล้วหายคล้ายสายลม
ลอยเริงรมย์ขมขื่นก็ช่างมัน
สวยแต่นอกเนื้อในคล้ายปีศาจ
ถึงแม้ฉลาดเหลี่ยมเล่ห์แต่เหหัน
หยอดสิ่งหวานซ่านลงคงผูกพัน
เปี่ยมกระสันราคะเพื่อจะชม
ฝากหยาดน้ำฉ่ำใจคล้ายระรื่น
ยังคิดคืนหวนกลับมาเสพย์สม
เงาบ่มรักฝากเจ้าเคล้าอารมณ์
ติดภิรมย์ปมสวาทคงพลาดแล้ว
ต่อไปนี้เหลือไว้ให้รำลึก
สิ่งสู้ศึกนำมาหาผ่องแพร้ว
ชู้ใหม่หรือสู้เก่าเข้าใจแนว
ฝากเนินแถวแผ่วซ่านพล่านหัวใจ.
*** แก้วประเสริฐ. ***
14 สิงหาคม 2549 10:29 น.
แก้วประเสริฐ
รักเดียว
มีรักเคยใจเดียว
มิคดเคี้ยวเหลียวแลหา
ปรนนิบัติกานดา
เสน่หาพาล้นใจ
กาลวันผันแปรเปลี่ยน
ดุจดังเสี้ยนหนามตอกไว้
ทิ่มแทงเกิดหนองใน
เจ็บแทบตายในรักนี้
หลงหรือคือวิปโยค
ถูกสับโขกจากโฉมศรี
หาเรื่องทุกราตรี
ผันชีวีเพื่อมีใหม่
สู้ทนจนแห้งเหือด
ดุจเขาเชือดเลือดหัวใจ
รินหลั่งทั้งนอกใน
คล้ายใกล้ตายวายชีวัน
นี่หรือคือความรัก
มอบใจภักดิ์ยังแปรผัน
นกน้อยต้องล่วงพลัน
เหลือเพียงฝันสั่นอารมณ์
ผู้ใดมิกลอกกลิ้ง
อย่าหวังอิงสิ่งภิรมย์
ร้อยเล่ห์เขาเห่ชม
คือลิ้นลมตรมกายใจ.
*** แก้วประเสริฐ.***