13 สิงหาคม 2549 15:08 น.
แก้วประเสริฐ
สวรรค์ฝันสล้าง
โอ้สวรรค์รักเอยเฝ้าเคยฝัน
สุดเสกสรรสิ่งตระการอันผ่องใส
ใจนี้หนอคลอไว้ในสิ่งไฉไล
บรรเจิดใจใยรักเฝ้าภักดิ์ดี
เสมือนคลายสลายสิ้นจินต์จากห้วง
ดุจคล้ายบ่วงคลี่คลายมลายศักดิ์ศรี
เสื่อมสิ้นแล้วแนวถวิลสิ้นปราณี
ดั่งกวีสิ้นอักษรามาร้อยเรียง
โลมเร้าจิตคิดเศร้ายิ่งเฝ้าหมอง
โลกทั้งผองเสมือนดับไปกับเสียง
ที่เคยเว้าเพน้าพรอดสอดกายเคียง
เหลือแต่เพียงจำเรียงเคล้าเศร้าใจ
หรือจะเป็นบัญชาสวรรค์ลิขิต
สิ่งตรึงจิตสิ้นสูญอาดูรผ่องใส
แปลบปลาบหวิวพลิ้วล่วงเข้าทรวงใน
โฉมไฉไลไร้สิ้นจินต์เมตตา
ชาตินี้หนอขอจารึกผนึกจิต
จะไม่คิดย้อนมาเฝ้าแลหา
คงปล่อยไว้ในห้วงช่วงกาลเวลา
อีกวาสนาไม่นำพาหาสิ่งปอง
สวรรค์เอยเคยสรรค์สวรรค์สร้าง
จำต้องร้างเหลือไว้ที่ได้สนอง
ลาแล้วหนอพอทีที่หมายปอง
แด่นวลน้องเหลือฝันสุดรัญจวน.
*** แก้วประเสริฐ. ***
12 สิงหาคม 2549 15:47 น.
แก้วประเสริฐ
คำนึงจันทร์
รัญจวนคิดพินิจรักสลักจิต
สิ่งวิจิตรติดตรึงคะนึงหวน
ดุจเงาใจฝากลงตรงเนื้อนวล
เสมือนล้วนสิเน่หาครารำพึง
โลกหญิงจริงหรือคือบทสล้าง
จำต้องสร้างวิไลให้สุดซึ้ง
อ่อนช้อยถ้อยเสนาะเพาะติดตรึง
จึงจะถึงแก่นห้วงแห่งดวงใจ
ปริศนาต้องสร้างฝังกระแส
วกวนแผ่จริงเห็นเป็นเกล็ดใส
ทั้งขาวผ่องรองรับกับภายใน
ป้อนเยื้อใยใฝ่ดำรงตรงงาม
วิจิตรแก้วแววทองสนองเสนอ
อย่าเผลอเลอต่อสิ่งอิงตรงข้าม
วิวิธหวามคำพูดเสนาะตาม
วิลาสล้ำนำเสนอเธอคนเดียว
คำนึงพินิจดั่งจันทร์อันผ่องแผ้ว
หากโกรธแล้ววงพักตร์จักเป็นเสี้ยว
สะบัดสะบิ้งอิงขมวดดุจลวดเกลียว
อาการเปรี้ยวปรี๊ดปราดวาดอารมณ์
อย่าลนลานขันชะเนาะเพาะไว้
ประกายไฟใช้หิมะจะงามสม
หากเป็นน้ำมิได้ใจหมองตรม
แล้วเลือกปมรมไว้คล้ายชมจันทร์.
*** แก้วประเสริฐ. ***
11 สิงหาคม 2549 12:16 น.
แก้วประเสริฐ
จันทร์เพ็ญเด่นอังคาร
งามสวยเด่นเพ็ญสกาวพราวสล้าง
แลกระจ่างรงรองสนองศิลป์
หวนใกล้ฟ้าคราจันทร์วิจิตรจินต์
ดุจชีวินสิ้นเทวษเฉดรอยทุกข์
ฉัพพรรณรังสีรัศมีวงกว้าง
แสงกระจ่างพร่างพรายคล้ายโกสุม
ไร้กลิ่นรสเริงร่ามิร้อนรุม
สร้างสุมทุมนุ่มเอื้อเจือวิไล
ดาวอังคารเบิกฟ้าคราใกล้โลก
สีแดงโฉลกวงสว่างกระจ่างใส
ยี่สิบเจ็ดหนอคลอเคล้าจันทร์ไฉไล
ตะวันออกบอกนัยหัวใจรัก
นับพันปีที่เฝ้าเพน้าสรวง
เสมือนบ่วงห้วงคอยมิประจักษ์
เพียงโน้มเหน้าเร้าฤดีที่ใจภักดิ์
โอ้นงลักษณ์นารีที่รอคอย
มาบัดนี้สวรรค์ท่านเปิดแล้ว
หากคลาดแคล้วแปดพันปีจึงประจักษ์
ใกล้มานี้ขอบอกแม่นงลักษณ์
ว่าพี่รักยอดชีวันขวัญชีวา
ต่อหน้ามนุษย์สุดเทพปวงเทวา
โปรดทัศนารักข้าที่มาหา
เป็นพยานในชีวีมีต่อกัลยา
พ้นเวลาเดือนนี้แปดพันปีเอย.
*** แก้วประเสริฐ. ***
10 สิงหาคม 2549 21:19 น.
แก้วประเสริฐ
ไข่มุกกับเหล้าไวท์
พบภาพหนึ่งประจักษ์ซึ้งตรึงตา
จึงนำมาตกแต่งแฝงเล่าเรื่อง
ประกอบขึ้นรจนามาประเทือง
สิ่งฟุ้งเฟื่องความสวยด้วยชีกอ
ด้วยหนึ่งสาวเจ้าเสน่ห์สุดเก๋ไก๋
ทั้งเหล้าไวท์วางไว้ให้น้ำลายสอ
เทกระเป๋าเพื่อซื้อเงินไม่พอ
ได้แต่รอพูดพร่ำเฝ้ารำพัน
โน่นไข่มุกสุกสกาวขาวกระจ่าง
อีกนวลนางแสนสวยด้วยสีสัน
ผิวเจ้าพราวราวหิมะวิลาวัลย์
ส่งยิ้มพลันฉันตลึงพิศพึงตา
ยกไวท์เหลือเพื่อลิ้มแทบอิ่มแล้ว
เสียงหวานแจ้วแว่วก้องร่ำร้องหา
หันไปมองต้องผวานั่นภรรยา
เฝ้าถลึงตาว่ามองดูอะไรกัน
สำเนียงอ่อยถ้อยคำนำมาตอบ
อ๋อพี่ชอบเหล้าไวท์ที่ในนั่น
เป็นของต่างประเทศมีทั้งสีสัน
สามขวดนั้นหามานะเมียจ๋า
คงจะแพงนะพี่ที่ภาพนั่น
ไม่เท่าไหร่จอมขวัญห้าพันกว่า
โอโอ้โอ๋ไวท์ไทยพอแล้วนา
อย่าเสือกมาลิ้มรสหมดอารมณ์.
พอก็พอจ้า...จบ
*** แก้วประเสริฐ. ***
9 สิงหาคม 2549 11:09 น.
แก้วประเสริฐ
ทับทิมดำ
แม้นถึงดำก็ขำงามยิ่งนัก
รูปทรงลักษณ์ระหงส์วงสดใส
ฉวีผ่องละอองเงาพราววิไล
วาวแววไล้ด้วยแสงแห่งนิลกาฬ
วงพักตร์สวยด้วยศิลป์จินดามณี
ช่างเฉิดฉวีดังบุบผามาเสกสรร
หอมระรื่นชื่นจิตรพินิจพรรณ
ยามจรจรัลให้สะท้านสั่นอารมณ์
แสงสีพรายพรรณรายวิไลเอ๋ย
คำเปรียบเปรยมุกมณีที่งามสม
หอมกลิ่นเนื้อเอื้อสนิทคิดชวนชม
อภิรมย์สมสล้างระหว่างหทัย
สวยวิจิตรยิ่งพิศจิตไหวหวั่น
หัวใจพรั่นสั่นฤดีมณีฉาย
ดั่งไข่มุกดำแพรวแววเรียงราย
อยากได้ไปสู่หอคลอทับทิม
ถึงนอกดำแฝงแดงแสงระรื่น
สิ่งสดชื่นตื่นผวาคราเนื้อนิ่ม
ประโลมรูปร่ำไปให้เต็มอิ่ม
ยังรอยยิ้มพริ้มเพราเคล้าทุกคืน
ทับทิมดำขำสว่างสล้างเวหน
ลอยระคนปนวิจิตรยากจิตฝืน
ชูตระหง่านสั่นภิรมย์ชมระรื่น
แสนสดชื่นตื่นนัยน์นาพาสุขใจ
นวลลออหนอเทวีศรีกระจ่าง
หยาดน้ำค้างชื่นชมปมหวั่นไหว
ห้วงสะท้านสั่นชีวิตคิดคนไกล
สิ่งเหลือไว้เพียงเงาเฝ้าตราตรึง.
*** แก้วประเสริฐ. ***