23 มิถุนายน 2549 11:24 น.
แก้วประเสริฐ
คำมั่นสัญญา
ยามสายัณห์ตะวันเย็นเด่นกระจ่าง
ท้องฟ้ากว้างลมพัดโชยใบไม้ไหว
แพรชมพูพลิ้วสะบัดจัดแกว่งไกว
ห้วงภายในสุดรำลึกนึกถึงนาง
ก่อนเคยเคล้าเย้าหยอกล้อหลอกเล่น
แสงยามเย็น ณ ริมฝั่งครั้งขนาง
งามเพริศพริ้งกริ่งเกรงแทบวายปาง
สุดจะสร้างสว่างไว้สู่ใจเรา
ระยิบระยับจับศาลม่านไทรย้อย
ผ้าผืนน้อยห้อยสู่ไว้ให้ซึมเศร้า
แฝงผนึกตรึกถึงวันนั้นดั่งเงา
ที่คอยเฝ้าปลุกคำมั่นครั้งสัญญา
วิกฤติกาลผ่านมาพาโศกศัลย์
ฉกาจฉกรรจ์พันผูกถูกเสาะหา
สิ้นความหลังครั้งสร้างไว้ให้โรยลา
ลิดรอนพาคราพบจบสิ้นกัน
แกะผ้าน้อยห้อยศาลพลันสะอื้น
สู่พลิกฟื้นคืนสัญญามาเสกสรร
บรรจงจูบลูบไล้ใจรำพัน
ถึงก่อนกาลฝากไว้ในคำรัก
ต่อนี้ไปจะได้ใกล้เคียงคู่
ยอดพธูชู้ชื่นคืนประจักษ์
ใต้เงาจันทร์ไทรย้อยคอยพิทักษ์
สมานสมัครมิห่างเจ้าเฝ้าคลอเคียง
สะบัดสไบใส่คาคบบรรจบคล้อง
พร้อมเสียงร้องก้องกังวานนั้นสุดเสียง
เพรียกหาเจ้าน้องนางพลางเผดียง
อยู่ข้างเคียงศาลน้อยร้อยดวงใจ
ใต้ร่มไทรในคืนเพ็ญเด่นสว่าง
เงาสองร่างเคล้าคู่ดูผ่องใส
แว่วกระซิกระริกระรี้พี้พิไล
แวดวงไซร้เป็นตำนานคนผ่านจร.
*** แก้วประเสริฐ. ***
20 มิถุนายน 2549 13:29 น.
แก้วประเสริฐ
* ภินทนาการ *
น้ำซับหยาดราดรินจากถิ่นห้วง
หยดไหลล่วงทรวงระทึกตรึกขื่นขม
ห่วงแห่งกรรมซ้ำเติมเสริมระทม
สร้างรอยปมถมทับจับราคิน
สิ้นแล้วหนอขอลาหนีพาห่าง
สุดอ้างว้างร้างอารมณ์ทับถมสิ้น
ภินท์หัวใจใยสลายละลายบิน
เหลือเพียงกลิ่นเงารสยังจดจำ
ผินไปไกลขอบฟ้าถิ่นลาล่วง
ทิ้งใยบ่วงช่วงสิ่งรักที่หักช้ำ
หนีขอบเขตขัณฑสีมาพาระกำ
แฝงลำนำพ้นฟ้ามาเดียวดาย
อกหนอเคยเผยกว้างดั่งแผ่นฟ้า
ต้องโหยหาหม่นหมองละอองสาย
ห่อเหี่ยวแห้งแล้งน้ำจิตระยิบพราย
หมดสิ้นไร้คล้ายดาวตกโลกลืมเรา
ต่อนี้ไปใครเล่าจะเฝ้าเห็น
ดุจดั่งเช่นดาวน้อยลอยโง่เขลา
ห้วงนภาจะลาลับไม่เหลือเงา
เหลือสิ่งเคล้าตำนานผ่านจากจร
ลาแล้วหนอขอพรากจากสิ่งเฉลย
สิ่งที่เคยสร้างสรรค์นั้นพลันหลอน
สู่หยดเลือดเหือดหายใจร้าวรอน
แม้นสะท้อนก่อนไปให้สุขเอย.
*** แก้วประเสริฐ. ***
13 มิถุนายน 2549 10:33 น.
แก้วประเสริฐ
อลวนจนเพ้อ
ลมสวาทแปรผันจนฉันเหงา
แม้นซึมเซาแต่ใจเหมือนได้ฝัน
เคยออดอ้อนงอนง้อพะนอกัน
แสนสุขสันต์เธอพรากยามจากไป
เปรียบชีวิตเกิดใหม่จนได้แก้ว
ที่เพริศแพราวแจ่มจรัสมาจัดให้
ช่วงอิสระเสรีที่เคยไกล
กลับสู่ไว้ให้คืนฟื้นชีวี
ต่อนี้ไปใครเล่าจะเข้าครอง
เห็นจะต้องมองดูให้สูสี
สร้างกลไกตรองไว้ในฤดี
ไม่หลงที่ว่าสวยร่ำรวยทรัพย์
แม้ยากจนไร้เงินกลับเพลินกว่า
ไม่ตีค่าศักดินาเข้ามานับ
กดเสียจนตัวเราเฝ้าย่อยยับ
เพื่อนฝูงกลับนินทาว่าหลงเมีย
โลกเอ๋ยโลก..โลกว๊ะ..นะโลกเหวย
แสนเสบยเปรมปรีดิ์ที่สูญเสีย
เขาทิ้งเราจากไปแม้ใจละเหี่ย
แม้นจะเพลียก็สุขทุกข์ไม่มี
จะเที่ยวท่องร้องเพลงบรรเลงชีวิต
มุ่งลิขิตปิดลบกลบศักดิ์ศรี
ฟ้าสว่างกระจ่างแล้วแนวชีวี
ต่อแต่นี้ปฐพีมีแต่เรา.
*** แก้วประเสริฐ. ***
12 มิถุนายน 2549 12:52 น.
แก้วประเสริฐ
น้ำค้างนางฟ้า
จันทร์สว่างกระจ่างแล้วแก้วตาเอ๋ย
สิ่งที่เคยพรอดพร่ำร่ำเรียกหา
ใยบัดนี้เหลือไว้เพียงน้ำตา
โปรยพรมมาให้ข้าช้ำระกำชีวี
สิ้นสุดหรือคือรักประจักษ์เจ้า
ที่เคยเคล้าคลอเคียงเลี่ยงหลบหนี
เป็นใยรักฝากลงตรงฤดี
ยากที่พี่กล่าวคำสุดช้ำใจ
ยืนคอยเจ้าเฝ้ามองจันทร์แสงส่อง
หยาดละอองต้องกายไม่สดใส
ด้วยรำลึกนึกถึงสิ่งตรึงหทัย
ลับเจ้าไปให้สะท้านพล่านอกตรม
ลมเอยลมบ่มฤทัยในคืนนี้
สุดที่พี่อาลัยใจขื่นขม
คิดถึงนวลชวนมองสนองอารมณ์
ที่เคยชมชี้ชวนแสงนวลจันทร์
สายสวาทที่รักของข้าเอ๋ย
ใยทรามเชยหนีลับนับโศกศัลย์
หัวอกพี่แทบสลายในคืนวัน
ที่แสงนั้นทอดไว้แต่ไกลตา
น้ำค้างพร่างพรมไว้ให้เย็นฉ่ำ
คิดถึงคำนางฟ้าในคราอุษา
ก่อนลาลับกลับไปไม่กลับมา
เหลือน้ำค้างต่างหน้ามาเชยชม.
*** แก้วประเสริฐ. ***
7 มิถุนายน 2549 11:27 น.
แก้วประเสริฐ
ของขวัญจากในหลวง
1) อย่าทำลายความหวังของใคร...เพราะอาจเหลืออยู่แค่นั้น...
2) รู้จักฟังให้ดี...โอกาสทองบางทีมันก็มาถึงแบบแว่วๆเท่านั้น...
3) จะคิดการใด...จงคิดการให้ใหญ่เข้าไว้
แต่เติมความสนุกสนานลงไปด้วยเล็กน้อย...
4) หัดทำสิ่งดีๆ ให้กับผู้อื่นจนเป็นนิสัยโดยไม่จำเป็นต้องให้เขารับรู้...
5) จงจำไว้ว่าข่าวทุกชนิดถูกบิดเบือนมาแล้วทั้งนั้น...
6) ใครจะวิจารณ์อย่างไรก็ช่าง...ไม่ต้องเสียเวลาโต้ตอบ...
7) ให้โอกาสผู้อื่นเป็นครั้งที่ 2 แต่อย่าให้ถึง 3....
8) เราไม่ได้ต่อสู้กับคนโหดร้าย แต่เราต่อสู้กับความโหดร้ายในตัวคน...
9) เมื่อมีใครสวมกอดคุณ...ให้เขาเป็นฝ่ายปล่อยก่อน...
10) อย่าไปหวังเลยว่าชีวิตนี้จะมีความยุติธรรม...
11) ประเมินตัวเองด้วยมาตรฐานของตัวเองไม่ใช่มาตรฐานของคนอื่น...
12) คงไว้ซึ่งความเป็น คนเปิดเผย อ่อนโยน และอยากรู้อยากเห็น...
13) ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายเพียงใด สุขุมเยือกเย็นไว้...
14) อย่าวิจารณ์นายจ้าง...ถ้าทำงานกับเขาแล้วไม่มีความสุขก็ลาออกซะ...
15) คำนึงถึงการมีชีวิต กว้างขวาง มากกว่าการมีชีวิต ยืนยาว...
ใครไม่เคยถูกตี ถูกทุบ เจอเรื่องเลวร้ายในชีวิตมาเลยนั้น
จงอย่าได้หาญคิดทำการใหญ่
พระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
น้อมเกล้าน้อมกระหม่อม...อัญเชิญมาเพื่อเตือนสติแก่ปวงชนชาวไทยเนื่องในวโรกาสครองราชย์ครบ 60 พรรษา ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งๆขึ้นเทอญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท
ข้าพระพุทธเจ้า... แก้วประเสริฐ.