31 พฤษภาคม 2549 18:11 น.

น้ำเอ๋ยน้ำใจ

แก้วประเสริฐ


             น้ำเอ๋ยน้ำใจ

     ใยถึงเป็นเช่นนี้นารีเอ๋ย
สิ่งที่เคยผูกพันก่อนกาลนั้น
รสอาบอิ่มลิ้มซ่านผ่านชีวัน
ไม่เหลือสัมพันธ์ส่งให้โรยลา
     สื่อสวาทเฝ้าครองต้องโหยหวน
แสนรัญจวนป่วนหทัยส่งใจหา
ลองตรองดูสาเหตุด้วยเจตนา
สิ่งผ่านมาใครก่อล่อลวงกัน

     ความหมองหม่นส่งไว้โอ้ใครเล่า
ที่เพน้าพะนอฤทัยให้เหหัน
แม้แต่เคยผูกสวาทวิลาวัลย์
ต้องมีอันเฝ้าระทมข่มอาลัย
     วันเวลาเปลี่ยนไปเสียแล้วหรือ
สิ่งยึดถือคำมั่นพลันแตกสลาย
ให้ชอกช้ำน้ำจิตมากลับกลาย
ห้วงผ่านไปไม่คิดติดใจจำ


     เสียแรงรักภักดีมิมีกำหนด
ต้องถูกปลดจากบ่วงลวงจนช้ำ
สมคุณค่าหรือไรที่ได้ทำ
เพียงน้ำคำของเขาเฝ้าจากจร
     โธ่น้ำเอ๋ยน้ำใจให้ฟุ้งซ่าน
สุดทรมานหัวใจคล้ายถูกศร
บั่นในรักหักสวาทต้องขาดตอน
สุดร้าวรอนตอนพรากฝากน้ำตา.

        ***   แก้วประเสริฐ.   ***
				
29 พฤษภาคม 2549 10:46 น.

เงินหรือคือวิมาน

แก้วประเสริฐ


               เงินหรือคือวิมาน

     ยามยากแค้นเงินตราหาสิ่งรัก
ดุจเกวียนหักสิ้นควายมาไถลาก
คนใกล้ชิดบอกรักยังหนีจาก
เปรียบไม้สากครกแตกแยกทางเดิน
     ครั้นมีทรัพย์นับอนันต์พลันรุมล้อม
ล้วนตะล่อมคำหวานซ่านดุจเหิร
หัวใจพองปองชิดจิตเพลิดเพลิน
พอดำเนินหมดราคาคล้ายซาตาน

     เหล่าเนื้ออ่อนเร่ร่อนสวาทหา
ทอดสายตาอ้อนออดซ่อนสิ่งซ่าน
กว้านหาเหยื่อเพื่อลิ้มชิมตระการ
วกเวียนผ่านโบยบินหากินไกล
     กลิ่นแมงดาหอมตลบอบอวลฝัน
บุปผานั้นพลันหลงตรงผ่องใส
ทั้งท่วงท่าพาทีที่เกรียงไกร
ล่วงเลยไปไร้ทรัพย์นับผีทะเล

     ด้วยภาษาท่าทางวางกำหนด
บุคลิกจรดวาจาพาสิ่งเท่
หอมหวนล้วนชวนใจดูไร้เล่ห์
สร้างเสน่ห์วางห่วงลวงใจรัก
     ยุคโลกาพาสนุกคลุกเคล้าหา
นำวาสนาพาเหิรเกินภาพลักษณ์
แม้นขาดสิ้นเงินตราหาประจักษ์
ดุจประตักฟาดกระหน่ำช้ำหัวใจ

     ภาษารักฝากไว้ให้สิ้นแล้ว
สิ่งเพริศแพร้วมีไว้ไม่สดใส
หมดทรัพย์นับวันสิ้นสิ่งวิไล
เปรียบดังคล้ายละอองหมองราคิน
     นี่แหละหนอสิ่งนี้ที่ว่าไว้
ไร้น้ำใจไกลรักแทบหมดสิ้น
เทพเจ้าเงินตรามาพายลยิน
สิ่งถวิลภินท์พินาศปราศเงินตรา.

      ***   แก้วประเสริฐ.   ***
				
19 พฤษภาคม 2549 13:28 น.

* นางฟ้าซาตาน *

แก้วประเสริฐ


                *นางฟ้าซาตาน*

     งามสวยซึ้งตรึงจริตวิจิตรตระการ
รสซาบซ่านผ่านคำนึงพึงแลเห็น
อรชรหยาดหยดพราวสาวเนื้อเย็น
ยามซ่อนเร้นเรือนร่างกลางสายชล
     ปานหนึ่งเทพธิดามาแหวกว่าย
มัจฉาอายเลี่ยงพบหลบสับสน
พลิ้วระรื่นคลื่นน้อยพลอยกังวล
นฤมลสวยอลังการผ่านสายตา

     สำเนียงแว่วแจ๋วหวานปานเสียงสังข์
ดุจระฆังใบระกาฟ้าสรรค์หา
ภูษาน้อยก้อยเกี่ยวประทุมมา
ดวงลัดดาห่อร้อยสร้อยวับแวม
     ระริกระรี้พลีว่ายกลางสายน้ำ
เสียงตอกย้ำหนุ่มใหญ่ใบหน้าแย้ม
สำเนียงออกปนไทยคล้ายลุงแซม
หล่อนก็แพลมของแถมแฉล้มกราย

     อนิจจานารีศรีนางฟ้า
ช่างเจิดจ้ากล้าเกินเพลินเหลือหลาย
ไม่คำนึงถึงข้างเคียงอีกมากมาย
เฝ้าเฉิดฉายไร้สิ้นกลิ่นประเพณี
     โอ้วิวัฒน์พัฒนาโลกาเข้า
โน้มน้าวเอาเฝ้าคิดปลิดโฉมศรี
แลกเงินตรามาสู่ไว้ในชีวี
สร้างอัปรีย์ฝากให้ไม่สนใจ

     สุดงามจริงพริ้งเพราเงาเรือนร่าง
เคล้าอำพรางรอยด่างกลางชลใส
ความอำไพในจิตช่างห่างไกล
ผิดร่างไซร้งามจรดหมดราคิน
     กายกริยาวาจาพาแตกต่าง
อล่างฉ่างนอกในสลายสิ้น
รูปนางฟ้าหาวิไลได้ยลยิน
แฝงโรยรินกลิ่นซาตานผ่านอารมณ์.

          ***   แก้วประเสริฐ.   ***
				
17 พฤษภาคม 2549 13:40 น.

พงไพรไร้มายา

แก้วประเสริฐ


                พงไพรไร้มายา

     น้ำตกพลิ้วปลิวละอองผ่องนงนุช
แสนพิสุทธิ์ดุจฟากฟ้านภาสวรรค์
ธารน้ำไหลอ้อยอิ่งอิงตระการ
แหวกหมอกม่านมารยาล้าอารมณ์
     หมู่นกไพรบินไปในเวหาส
งามพิลาสอิสรภาพปราศขื่นขม
เหล่าผีเสื้อหมู่ภมรว่อนเริงรมย์
ทุกข์ตรอมตรมบ่มไว้ไร้สิ้นเชิง

     ดอกพุดตานบานแย้มแซมสีแสง
ขาวออกแดงแย้งตะวันอันว่างเวิ้ง
เที่ยวเสาะหาจันทราพาแดงเพลิง
ที่หลงระเริงกับหมู่ดาวพราวงามตา
     ระรื่นสุขคลุกเคล้าช่างเฝ้าฉงน
สิ่งปะปนวนเวียนเพียรสร้างหา
พฤกษาไพรในสัตว์ชอบกลนา
วิสุทธิ์พาอเนกชาติปราศสิ่งลวง

     ลิงค่างชะนีเรียกร้องก้องหาผัว
มิผิดตัวทั่วไปคล้ายแสนหวง
ผิดมนุษย์ฉุดมายาหาทั้งปวง
เฝ้าทักท้วงชุลมุนฉุนวุ่นวาย
     ดูเถาวัลย์พันเกี่ยวเหนี่ยวหาต้น
แล้ววกวนด้นไปหาไม้หลาย
เพื่อเกาะเกี่ยวฝากตนคนหลายใจ
พอสุดท้ายไร้ที่พึ่งจึงซบเซา

     ธรรมชาติป่าไพรทั้งในน้ำ
แสนชื่นฉ่ำล้ำจริงละสิ่งเศร้า
สมานสมัครรักผูกใส่ไว้ทำเนา
ทุกค่ำเช้าเฝ้าถนอมย้อมสิ่งเพลิน
     สายน้ำไหลไล้หินผาพาร้องก้อง
ใบไม้คล้องต้องสายลมชมนกเหิร
บุปผาชาติอวลกลิ่นถิ่นร้องเชิญ
แว่วสรรเสริญเจริญตาฟ้าเบิกบาน

     หากหญิงชายนี้หนารู้หน้าที่
ดั่งวนาลีผูกพันฉันท์ประสาน
มิฝักใฝ่ในตัณหามาประจาน
แยกชนชั้นลงไว้ในห้วงกมล
     รักพอเพียงเยี่ยงนกกาวนาสวรรค์
เฝ้าเสกสรรจำเนียรเพียรฝึกฝน
อบรมจิตคิดให้แตกแยกจากตน
ไม่สับสนหวังค้นหากว่าสิ่งมี.

     ***   แก้วประเสริฐ.   ***
				
15 พฤษภาคม 2549 14:37 น.

เสน่ห์สาวพราวบุบผา

แก้วประเสริฐ


           เสน่ห์สาวพราวบุบผา

     ระรื่นจิตพิศกัลยามาโน้มน้าว
บุบผาพราวราวเทพีศรีสวรรค์
ดอมเด็ดดอกมาลีที่แพรวพรรณ
ช่างเบิกบานซ่านฤทัยในท่าที
     มวลผกานานาพันธุ์ประชันกลิ่น
หอมรวยรินกลิ่นเร้าเคล้าฉวี
ขจรฟุ้งจรุงพล่านผ่านฤดี
อิสตรีภูผาตะวันอันเพริศพราย

     งามประหนึ่งดาวดวงที่พวงพร่าง
ใสกระจ่างกลางนภาฟ้าโฉมฉาย
บรรจงพิณพริ้มดรรชนีที่กรีดกราย
ย่างเยื้องไปคล้ายผีเสื้อเอื้อบุบผา
     สะท้านห้วงล้วงลึกตรึกไหวหวั่น
ดวงตะวันพลันยอแสงแห่งเจิดจ้า
ทั้งสายลมโชยกลิ่นหอมย้อมรจนา
เหล่าสกุณาพาบินว่อนร่อนเริงรมย์

     น้อมฤดีที่บรรเจิดเกิดแตกซ่าน
นึกย้อนวันเคยใฝ่จองปองคู่สม
โอ้บัดนี้เหลือเพียงจิตติดอารมณ์
ยากภิรมย์จึงฝากไว้ในจิตนาการ
     อกเราเอ๋ยเคยคิดจิตฟุ้งซ่าน
หวนถึงวันร่างกายไม่ประสาน
สิ่งเหลือไว้ใยสรีระมาประจาน
เสียงเล่าขานผู้เฒ่าจนเศร้าใจ

     อรุณแจ้งแสงวิจิตรพินิจนี้
สุดกล่าวที่ว่าไว้ไม่สดใส
ล้วนซึมเอาเฝ้าสลดหมดแรงไป
ส่งห้วงหทัยห่อหดหมดสิ้นหวัง
     คำนินทากาแลแห่ไว้เศร้า
ช่างปวดร้าวรอนรุดดุจมนต์ขลัง
ทั้งที่กายในชีวิตจิตมีพลัง
มิวายยังถอยหล่นจนต้องตรม

     อย่าบอกนะหาธรรมมานำจิต
อีกโคคิดกินหญ้าอ่อนต้อนสะสม
สงสารเถอะเจอะเช่นนี้ที่สร้างปม
หัวใจระทมสุดขมขื่นมิชื่นกมล
     หรือถือว่าอัศวบุรุษสุดจะเท่ห์
ใยใช้เล่ห์ลบลายเก่าเฝ้าสับสน
แสร้งเอาใจหลงใหลใคร่ปะปน
คิดเชยชมหวังสล้างสร้างกลไก

     สิ่งเหลือไว้เพียงพิมานสวรรค์สร้าง
อกเวิ้งว้างหวังคอยรอยสดใส
ห้วงรำพึงถึงนงลักษณ์ประจักรใจ
เกิดภาพในจินตนาการซ่านสิ่งปอง
     หลีกหนีชนหมายปองร้องปากเสีย
ทั้งดีดเขี่ยผู้เฒ่าเพื่อเข้าสนอง
อภิโธ่เอ่ยแม้ภาพตามครรลอง
ยังถูกจ้องหนีไปอยู่สู่ในภวังค์.

       ***   แก้วประเสริฐ.   ***
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแก้วประเสริฐ