26 เมษายน 2548 11:32 น.
แก้วประเสริฐ
ระยองแห่งความฝัน
ครืนครืนคลื่นซ่านซัดสู่ชายหาด
ฟองสะอาดสาดฟุ้งพุ่งเป็นฝอย
แสงตะวันสาดส่องพลิ้วเป็นริ้วลอย
ไหลทยอยซัดหาดทรายกระจายไป
ลมพัดสนโอนเอนใบสั่นพลิ้ว
ใบละลิ่วปลิวสะบัดพัดหนีหาย
นกนางนวลบินคลอคู่ดูวิไล
เสียงไหวไหวหญิงชายคล้ายรำพัน
สนธยายามเย็นงามเด่นนัก
ช่างน่ารักธรรมชาติมาเสกสรร
รุ้งตะวันกระทบน้ำยากจำนรรจ์
ดุจสวรรค์ในแดนดินถิ่นคนจร
แว่วเสียงเพลงกีตาร์มาคลอคลุ้ง
อีกคนมุ่งบรรเลงงามดั่งอัปสร
คนร้องเล่าหล่อเคล้าเพลงอาวรณ์
ช่างสะท้อนย้อนอดีตฝังติดจำ
วันนี้หนอเป็นวันพลันหวนกลับ
สิ่งลาลับกลับสะท้านฝันสู่ร่ำ
คืนถิ่นระยองพองใจเคยได้ทำ
ดุจความจำหวนซึ้งตรึงใจแล
พอค่ำคืนยืนเด่นเห็นเดือนฉาย
โอ้พระพายไหวอ่อนรอนกระแส
ระยิบระยับคลื่นไหวในดวงแด
ขอบฟ้าแผ่ความวิไลไหวรอบกานท์
กองไฟโชนโอนเอนระริกส่อง
เสียงร่ำร้องสรวลเฮฮาพากระสาน
สนุกสนานคลอเคล้าใจเบิกบาน
สนุกสนานเต้นรอบข้างกองไฟ
บ้างแยกคู่ไปนั่งข้างเคียงไม้
ฉอเลาะไปเสียงกระซิกคิกหวั่นไหว
ฟังเพลงเก่าเคล้าคลอพะนอไป
แสนสบายในงานวันลำลอง
เดือนพฤษภาครานี้จะมีขึ้น
คงระรื่นฟื้นความหลังครั้งที่สอง
มีน้องพี่ผองเพื่อนเยือนระยอง
คงจะต้องร้องร่ำสำราญหทัย
โอ้วาสนาครานี้คงบรรจบ
หากไม่พบโรคภัยในกายไซร้
จะมุ่งมั่นสร้างฝันอันไฉไล
กลับคืนในถิ่นงามแม่ทรามเชย.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
25 เมษายน 2548 14:02 น.
แก้วประเสริฐ
อนงค์นารถหยาดฟ้า
ยลโฉมอนงค์สุคนธ์ธารทิพย์เร้าหอม
แม่ดอกพะยอมกลิ่นฟุ้งจรุงศรี
โกมุทเกศเนตรพักตร์นวลนารี
ดุจอิสสตรีงามหล้ามาประโลม
ฤทัยสั่นวูบวาบกำซาบซ่าน
เพียงคำหวานไหวหวั่นดั่งแสงโสม
ยุพานเจ้าเคล้ากระตุ้นหนุนประโคม
แฝงเหน้าโน้มบ่มฝากจากคำวอน
ยามนวยนาดสง่าเผยเฉลยวจี
เพียงวลีปรีดิ์เปรมดั่งอัปสร
แย้มยิ้มยวนชวนฝันถึงบังอร
สวาทออมร่อนสู่ห้วงทรวงปรีดา
กว่าจะสิ้นสุดจันทร์พลันหลบหล้า
สายสุดาฝังจำล้ำหวนหา
อีกโฉมรูปรวยรสซึ้งตรึงอุรา
ปั่นป่วนมาหลงเอื้อเกื้อทรงจำ
กึ่งราตรีนี้อร่ามโสมส่องนัก
กลิ่นดอกรักแก้วกานดาพาใจพร่ำ
แซมบุบผามาลาชาดนารถงามงำ
เรไรร่ำกู่ร้องก้องกังวาน
ขอฝากโอษฐ์ถ้อยล้ำนำอักษร
แม่เนื้ออ่อนจงจำคำกล่าวขาน
จวบสามภพจบแดนแคว้นวิมาน
วอนนงคราญผ่านห้วงดวงฤทัย
จันทร์ประโลมโน้มดาวเฝ้าเรียกหา
แสงแจ่มฟ้าพาประกายส่องแสงใส
หล้ายลโฉมโน้มสลวยแช่มไฉไล
ดุจดั่งคล้ายห้วงหทัยใกล้เคียงกัน
แม้นเป็นดาวพี่เป็นดินถิ่นเกสร
ใคร่อาวรณ์อยู่ใกล้ยากใฝ่ฝัน
เพียงรำลึกตรึงลงห้วงดวงชีวัน
ปักอนันต์แค่เพียงห้วงช่วงราตรี.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
22 เมษายน 2548 14:09 น.
แก้วประเสริฐ
ประตูแห่งชีวิตจริงฤา
..๏สิ่งใดในโลกล้วน อนิจจัง จริงนา
สรรพสิ่งเวียนวนยัง ก่อไว้
บันลือส่งทุกข์ปลั่ง สุขถอย หลีกฤา
มนุษย์ที่หลงลืมไซร้ ยากแท้สรวงสวรรค์ ฯ
กรรมใดใครก่อนั้น มากมี
ยากที่สุดเปรมปรีดิ์ ยิ่งแท้
อายตนะส่งชีวี ภพสู่ วนเฮย
สุขทุกข์สุดยากแก้ ยกเว้นทางธรรม ฯ
จตุรธาตุสี่ห้อง เวียนวน
เสริมก่อร่างกายตน แม่นแท้
จิตนำสู่ธาตุกมล ยากยิ่ง รวมนา
ละสิ่งรอบออกแก้ ดิ่งห้วงปวงมรรค ฯ
วิเวกหวานผ่านเวิ้ง มรรคธรรม แน่เฮย
แลส่งประพฤติกรรม สู่ห้วง
เสียงรอบที่เวียนทำ แยะยิ่ง รอบแล
อบอวลกลิ่นรินล้วง รสลิ้มหลงทาง ฯ
หลายหลากรสวนเว้า หวานออม
สัมผัสจัดประนอม มุ่งแก้
จรุงจิตแว่วมิถนอม แยกบั่น สลายแฮ
ทางสู่หากมิแก้ แน่แท้อบายภูมิ ฯ
กุ๊กกิ๊กเกิดก่อแก้ว กงกรรม แกมเฮย
ไขขุ่นขอบเขตขาม แขนข้าง
คงคิดครุ่นควรความ ครอบคู่ เคียงนา
งอมงุ่นง่านงามง้าง เงียบเง้างมงาย ฯ
มรรคธรรมนำส่องสร้าง จิตคน จริงแฮ
รู้ว่ายแหวกเวียนวน สู่หล้า
แนะนำส่งปวงชน กอบก่อ ละนา
ใครที่สู่ทางช้า ว่ายข้องวัฏฏะสาร ฯ
ประตูทองผ่องแผ้ว บรรพกาล
มวลสิ่งแหวกนมนาน ยิ่งแท้
อดีตธรรมก่อเบิกบาน ภพสู่ นานแฮ
ชวนท่านมากอบแก้ หมั่นสร้างทางธรรม.๚ะ๛
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
21 เมษายน 2548 14:53 น.
แก้วประเสริฐ
โฉมฟ้าเพียงดิน.
สิ่งถวิลหวนหาคราพานพบ
ผลลัพธ์ลบความหวังหลังฝากฟ้า
เลี่ยงหลบลี้สู่ห้วงช่วงกาลเวลา
พอยลมาหวนระทึกสู่ตรึกตรอง
สุดที่รักความหวังดั่งลมหวน
ยิ่งปั่นป่วนล้วนกำซาบฤทธิ์สนอง
แรงรสเก่าเคล้าคลุกรุกคะนอง
เยี่ยงทำนองเพลงเก่าเฝ้าดำเนิน
ใยฟ้าสร้างแนวทางวางกฎเสมอ
ล้วนเลิศเลอถ้อยคำจนเคอะเขิน
พสุธากว้างใหญ่หาใช่บังเอิญ
ดุจเขาเขินเนินผายากฝ่าคีรี
มวลความหลังมาดแม้นสู่แผ่นฟ้า
หากนำมาบอกกล่าวเป็นสักขี
อเนจอนาถยากรับมิตรไมตรี
ด้วยศักดิ์ศรีสูงล้นพ้นเหลือคณา
ฤทัยแม้นมั่นคงอาลัยอยู่
ความอดสูยากผดุงมุ่งเรียกหา
เปรียบนกน้อยอยู่ในกลางวนา
มิเกินค่ากว่าร้อยคอยเฝ้าชม
โอ้ฟ้าดินนั้นหรือคืออากาศ
สุดพันพาดคบอยู่เป็นคู่สม
เพียงรอยฝากรำลึกตรึกภิรมย์
ห้วงอารมณ์จินตนามาเรืองรอง
อันบทละครกำหนดไว้เฉกเช่นนี้
ยากหวนที่ปักลงตรงสนอง
สายตามองต่ำต้อยดุจสำรอง
แม้นใฝ่ปองต้องพร่ำร่ำน้ำตา
ฟ้าเอ๋ยคนเดียวอยู่ช่างเป็นสุข
ไร้ความทุกข์สุขกายมิใฝ่หา
ไปเถิดหนอขอโชคดีมีราคา
แม้นศรัทธาว่าฟ้าหาใช่ดิน.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
20 เมษายน 2548 15:27 น.
แก้วประเสริฐ
เรียงรสระรื่นรายเรียง
..๏แสงมหิทธิเปล่งฟ้า ทินกร
อิทธิฤทธิ์ภฤศดากร เจิดจ้า
รัศมีแห่งศศิธร แจ่มใส งามเฮย
ทิวาราตรียลหล้า แช่มชื่นสราญรมย์ ฯ
ปวงชนหลายแซ่ซ้อง มวลธรรม
กรรมก่อแสดงบทงาม ทุกข์ไว้
ดุจสุริยะเปล่งแสงนำ กอบก่อ ชนแล
เวรที่ติดตามไซร้ หลบลี้หนีจร ฯ
อริยะสัจจะมุ่งสร้าง ทางจร
บาทสี่สานเรืองขจร เปล่งฟ้า
สุขบ่ส่องถูกรอน ทุกข์ก่อ เกิดแฮ
ตอแห่งความยากกล้า เร่งเร้าสมุทัย ฯ
นิโรธกรายผ่านเข้า ดับมวล
สรรพสิ่งแปรผันรวน เร่าร้อน
ดับแสงส่งดุจตรวน แตกซ่าน แปรนา
เพียงแต่ยากห่อนก้อน บ่รู้ทางเดิน ฯ
รอบเรียนเพียรห่อนรู้ หลักธรรม
นิโรธส่งมรรคนำ แปดไซร้
ขจรขจายเยี่ยงสุรีย์ทำ แผดเผา วอดเฮย
สุขก่อเกิดเย็นไว้ ดั่งฟ้าจันทร์ฉาย ฯ
บุญเอยบาปก่อเกื้อ ทุกชน เจียวนา
สานส่งทุกข์สุขมา เหล่าพ้อง
กรรมเวรก่อตามตา ติดต่อ บานแฮ
อายตนะมันจับจ้อง ร่ำร้องเรียกชวน. ๚ะ๛
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙