28 ธันวาคม 2548 10:21 น.
แก้วประเสริฐ
หลงทางกลางวิถี
สิ่งมาบอกตอกย้ำอย่าทำหลง
ใฝ่พะวงคิดตรองแล้วมองผล
เท็จหรือจริงอิงเข้าไว้ในกมล
มิกังวลสับสนจนเผยไป
คงคิดอ่านเลอเลิศประเสริฐนัก
มักวางหลักกฎเกณฑ์จนเด่นใส
อย่าหลงถ้อยร้อยคำและน้ำใจ
สิ่งสร้างไว้ให้สนปนปัญญา
ผันชีวิตติดปราชญ์นั้นวางมาด
ชาญฉลาดปราดเปรื่องเรื่องเล่าหา
แสดงละครอ่อนหวานซ่านวิญญาณ์
สร้างศรัทธาหากเชื่อเป็นเหยื่อคน
ยามมิคิดติดพันอันคำถ้อย
สิ่งเล็กน้อยร้อยไปจนให้สน
มิอวดฉลาดหนีได้ในเล่ห์กล
ห้ามวกวนจะสลายไร้หนทาง
รู้หลงตัวมัวเมาเฝ้าหนีท่าน
มิผูกพันปัญหาใดให้สะสาง
จะเสียยศหมดตัวสิ่งชั่ววาง
สิ้นทุกอย่างวางไว้ในถ้อยคำ
เกิดเป็นคนจนปัญหาว่ามิเลิศ
ที่ประเสริฐควรแก้ไขในสิ่งล้ำ
มองให้เห็นคุณค่าก่อนจะทำ
อย่ามองข้ามสิ่งต่ำแล้วช้ำใจ.
* แก้วประเสริฐ. *
26 ธันวาคม 2548 12:57 น.
แก้วประเสริฐ
หัวใจที่เดียวดาย
น้ำใจเอ๋ยเลยไปที่ใดเอย
มิเหมือนเคยอ้างว้างหนทางแล้ว
แฝงรันทดหดหู่มิเพริศแพรว
สดชื่นแผ่วเลือนหายสลายไป
หวานที่เคยซาบซ่านหันมาคิด
ที่ใกล้ชิดสนิทไว้ก็เลือนหาย
น้ำใจคนเคยรักพลันกลับกลาย
พลิกผันไปสู่ร้างกลางใจปอง
ยิ่งหัวใจเคยได้จากไกลแล้ว
สิ่งเพริศแพร้วหักเหมาเทสนอง
ดูอ่อนไหวคล้ายลมพัดเนืองนอง
ดั่งละอองลอยฟ้ายากหากัน
เหตุไฉนใยเป็นดุจเช่นนี้
ยากจะมีหนทางสู่สร้างสรรค์
ความคิดอ่านเหลือไว้ให้ผูกพัน
สิ่งเหล่านั้นพลันพบจบแค่เงา
ฝันที่เหลือหลงไว้สร้างใจโศก
ความวิปโยคแฝงลงจึงคงเศร้า
เยื่อใยรักทำลายดูคล้ายเบา
แต่สู่เหงาเร้าหทัยเฝ้าใจลอย
สะท้านทรวงบ่วงรักหักเสียนี่
โอ้ชีวีแสนเศร้าเฝ้าเหงาหงอย
สิ้นทุกสิ่งลงไว้คล้ายหลงคอย
สู้ให้ถอยปล่อยไว้ใจเดียวดาย.
* แก้วประเสริฐ. *
22 ธันวาคม 2548 10:57 น.
แก้วประเสริฐ
วจีน้อยนิดคิดถึงเจ้า
เพียงวจีเอ่ยอ้างเพื่อสร้างหวัง
ดั่งน้ำค้างกลางหาวยามเฝ้าถวิล
ดุจหยาดเพชรเกล็ดแก้ววาวแววกวิน
สิ่งสูญสิ้นลบหายนัยน์ตาปรอย
แม้นน้อยนิดกอบไว้สู่ใจชื่น
แสนระรื่นตื่นหรรษามาใช้สอย
เพียงถ้อยคำซึ้งซ่านจนฉันลอย
ดุจดาวน้อยลอยล่องสู่ท้องนภา
เฉกหัวใจได้เดือนเป็นเพื่อนคู่
ความอัปยศอดสูมิตามหา
ถ้อยน้ำคำล้ำวจีที่สรรค์มา
ดุจดั่งฟ้ามอบพรเฝ้าสอนจำ
* สู้เถิดหนาที่รักอย่าพักเฉย
อย่าล่วงเลยกอบกู้เพื่อสู้ช้ำ
สิ่งผ่านไปคิดว่าเป็นเวรกรรม
อนาคตล้ำเกินกว่าดั่งค่าทอง*
วันคืนผ่านผันแปรกระแสชีวิต
ดั่งลิขิตพรนางฟ้าเข้ามาสนอง
ยกระดับขับเคลื่อนสิ่งหมายปอง
สร้างฉันล่องเด่นฟ้ายามราตรี
ถ้อยคำนี้มีไว้สู่ใจเสมอ
มิเลิศเลอเชี่ยวชาญดั่งมีศรี
นึกถึงคนเฝ้าพร่ำล้วนสิ่งดี
ในโลกนี้ล้วนชั่วส่วนตัวงาม
เพียงน้ำคำน้อยนิดคิดถึงเจ้า
ลบความเง่าปุถุชนคนคิดหยาม
ด้วยทุกคนสร้างไว้มิได้ทราม
อย่าเหยียดย่ำสิ่งช้ำสร้างน้ำใจ
เธอมิใช่ปราชญ์ทองผุดผ่องศรี
มิใช่กุลสตรีโลกแสร้งยกไว้
สามัญชนคนเดินดินถิ่นห่างไกล
แต่กายใจวจีล้ำงามเหลือคณา.
* แก้วประเสริฐ.*
20 ธันวาคม 2548 22:29 น.
แก้วประเสริฐ
หนาวใจยังใฝ่หลง
สิ่งผันผวนสร้างไว้สู่ใจแท้
โอ้ผันแปรฟุ้งยิ่งในสิ่งเหลือ
ที่ซาบซ่านวกหาหวังมาเจือ
เพื่อเอื้อเฟื้อมีไว้แต่ไกลจริง
น้ำใจหญิงอิงไว้ดุจใยนุ่น
พลิ้วละมุนอ่อนระบัดยากมัดยิ่ง
แสนเวิ้งว้างห่างเขายังเฝ้าระวิง
เหลือทุกสิ่งเพียงได้ประกายตา
หยดน้ำใจมอบไว้เพียงให้หลอน
สิ่งซุกซ่อนพร่ำเพ้อละเมอหา
ดูกีดกั้นบั่นทอนจนอ่อนลา
ใยวาสนาลิดรอนแล้วย้อนลง
เย็นยะเยือกฟุ้งซ่านเข้าพล่านจิต
สิ่งน้อยนิดฝากไว้เพียงให้หลง
เงาซุกซ่อนสะบัดยากปัดปลง
ยังแฝงตรงเหลือไว้แทนให้ใจ
กรุ่นสิ่งหอมย้อมกลิ่นประทินเจ้า
แฝงโลมเร้าเฝ้าคำนึงรำพึงไว้
จากผ้าน้อยร้อยมัดรูปภายใน
ดุจดั่งคล้ายแทนกายซึ่งให้กัน
ยิ่งมองผ้ารูปหัวใจยิ่งได้คิด
เจ้าของลิขิตเลือนหายแต่ให้ฝัน
โอ้หนาวนี้เคล้ารักดุจหักชีวัน
เพียงแค่นั้นก็ซึ้งซ่านตรึงทรวง.
* แก้วประเสริฐ.*
19 ธันวาคม 2548 11:56 น.
แก้วประเสริฐ
สายใยสายสวาท
สายใยพันนุ่มเนื้อเข้าเกื้อหนุน
เอื้อการุนอุ่นใจกระไรเหลือ
ลมหนาวซ่านกายเราที่เฝ้าเจือ
สุดจะเอื้อสิ่งหวังเมื่อครั้งครอง
นึกถึงเจ้าดวงจิตยังติดกรุ่น
ลมละมุนพลิ้วผ่านสุดซ่านสนอง
ตรองความคิดตรึกจำแสนลำพอง
เจ้าประคองรสรักยากหักลง
โอ้สวาทประหลาดนักมิยักแจ้ง
สู้มาแฝงผ่านหนาวที่เคล้าสรง
นี่มืดค่ำสนธยาใฝ่หาอนงค์
แต่ก็คงเหลือไว้ให้คร่ำครวญ
หอมกลิ่นรักการุนที่กรุ่นจิต
ยามหวนคิดยังช้ำเฝ้ากำสรวล
ดอกไม้ป่าระรวยด้วยคำชวน
พลิกทบทวนใยรักที่มักลา
สายใยเอยสายสวาทยังพาดเคล้า
ช่างรุมเร้าเมื่อหนาวยังเฝ้าหา
เยือกเย็นกายแต่ใจมิได้สุดา
สิ่งผ่านมาคงไว้สายใยพัน
บัดนี้หนอลมหนาวเมื่อเข้าแล้ว
ใจช่างแผ่วเพ้อหลงเพียงคงฝัน
มองหน้าหลังเหลือไว้คงให้งัน
ความซึ้งกันซ่านขึงยังตรึงใจ
เธออยู่ฟ้าข้าเป็นดินคงสิ้นแล้ว
ความเพริศแพร้วเหลือไว้คงได้สลาย
หนาวมิเปลี่ยนแต่ใยเหตุไฉนกลาย
สวาทคล้ายลมหนาวเฝ้าเคล้ากมล
หยิบเสว็จเตอร์เสื้อแดงที่แฝงฤทธิ์
โน้มน้าวจิตใฝ่คำนึงรำพึงสน
ดมเสื้อน้อยร้อยใจคล้ายมีตน
ฝากใจจนสู่ห้วงเข้าดวงวิญญาณ.
* แก้วประเสริฐ.*