8 มิถุนายน 2547 12:23 น.
แก้วประเสริฐ
สุดสิ้นรักแดนดินสิ้นขอบฟ้า
ยากจะหารักแท้มาส่งเสริม
อนุจิตคิดหวนรักมาเพิ่มเติม
สุดจะเริ่มเพิ่มรักในวันวาน
ฟ้าลิขิตชีวิตแล้วใฝ่หวนหา
ขอกานดาอย่าพะวงสงสาร
ด้วยเป็นบาปทำไว้อดีตกาล
สนองสนานให้เกิดแก่ตัวเรา
มันเป็นเพียงเสี้ยวฝันในกาลก่อน
ยากจะวอนรำพึงจึงทราบเขา
รักแท้นั้นอยู่ไหนช่างบางเบา
มีตัวเขาเราอยู่ยากใฝ่ปอง
ลาแล้วหนอรอรักอยู่ขอบฟ้า
ไม่หันหน้ากลับมาเพื่อสนอง
ก้มหน้าเราเดินไปตามคัลลอง
ไม่ขอลองอีกแล้วแก้วกานดา
สิ้นแล้วหนอสิ้นแล้วสุดทางรัก
สิ้นความรักที่หวนชวนใฝ่หา
สิ้นทุกสิ่งเคยลิ้มรสพจนา
สิ้นเสน่หาอาลัยหวนทวนคืน
สิ้นแสงสูรย์เราสิ้นหนทางรัก
สิ้นประจักษ์ในรักไม่หวนฝืน
สิ้นดาราจันทรารักกลับคืน
สิ้นที่ยืนในทางรักอีกต่อไป.
แก้วประเสริฐ.
6 มิถุนายน 2547 18:56 น.
แก้วประเสริฐ
ตะวันชิงพลบหลบเมฆาสิ้น
นกโบยบินเหิรฟ้าพาลับหาย
เสียงจักจั่นเรไรร้องกำจาย
ท้องฟ้ากลายไม่สว่างกลางนภา
โลกกระจ่างกลางใจในเรื่องรัก
ยิ่งคิดหนักดุจตะวันมิหรรษา
สุดจะเพรียกเรียกร้องให้คืนมา
สิ่งนั้นหนาผ่านไปในวันวาน
เพียงรู้ว่าวันนี้ฉันหงอยเหงา
มันรุมเร้าเฝ้าบั่นทอนสุดกลั้น
โอ้ใจหนออยากรักสักเนิ่นนาน
เพียงแค่ฝันยังสะท้านห้วงหทัย
โอ้ใจเอยเคยพร่ำคำรักหวาน
ปรุงแต่งฝันนั้นให้ได้สิ่งสดใส
บัดนี้ใจเหลือไว้ให้มลายไป
สิ้นสลายในรักล่วงช่วงโรยรา
ตะวันชิงพลบกลบแล้วด้วยรัก
สุดยากนักพักพาโรยโหยหา
ความรักเอยช่างไม่คิดนำมา
กลับนำพาหัวใจให้โศกครวญ
คิดถึงวันผ่านรักใต้ร่มพฤกษ์
ร่างเราผนึกกวัดไว้ใจสุดหวน
อิงแอบกายกอดรัดสุดรัญจวน
แสนอบอวลไออุ่นแอบแนบใจ
หยาดพิรุณโปรยปรายชโลมลูบ
ลมพัดวูบสะท้านใจหวั่นไหว
ใบไม้โน้มน้าวกิ่งสุดแกว่งไกว
ต้นหญ้าใบราบเรียบติดธุลีดิน
สายฝนหลั่งพลั่งพรูพร้อมกับเสียง
หวีดร้องเอียงร่างน้อยของโฉมฉิน
ฟ้าคำรามเลื่อนลั่นแล้วโบกบิน
พายุสิ้นฟ้าใสหวนกลับคืน
ตะวันพลบจบแล้วสิ้นแสงสูรย์
เหมือนจะสูญสิ้นไปสุดใจฝืน
วันนั้นมาพาใจให้สะอื้น
ทุกวันคืนเฝ้าคิดยืนทบทวน
เมื่อวันวานผ่านแล้วในอดีต
สุดจะคิดนำรักกลับมาหวน
โอ้ใจเราสุดแสนจะรัญจวน
ยามที่หวนในรักเมื่อวันวาน.
แก้วประเสริฐ.
5 มิถุนายน 2547 20:04 น.
แก้วประเสริฐ
วันนี้นั่งเปิดดูหนังพอร์ตเตอร์
หนังเลิศเลอจินตนาการหวั่นไหว
จนใจจิตมิคิดจะทำอะไร
เป็นนิยายหวั่นไหวในอารมณ์
ให้ความสนุกสุขสรรค์ช่างหรรษา
ทั้งรู้ว่านิยายเด็กเล่นเหมาะสม
ดูได้ทั้งผู้ใหญ่เด็กพากันชม
ไม่สร้างปมขื่นขมแก่ผู้ใด
การแสดงนั้นใช้เอฟเฟ๊คซ์มากเหลือ
โน้มจุนเจือจัดประกอบใช้ได้
อีกเด็กนั้นเล่นอย่างตั้งจิตใจ
แสดงไปได้บทบาทอันกลมกลืน
แม้เป็นเรื่องพ่อมดแม่มดอังกฤษ
ในความคิดเชื่อถืออย่าไปฝืน
ปล่อยอารมณ์อย่าคิดจะระรื่น
ดูหนังอื่นต้องปวดหัวคิดตาม
เด็กทั้งสามผูกพันกันช่วยเหลือ
แล้วจุนเจือด้วยความรักทั้งสาม
หนึ่งปัญญาสองกล้าเฝ้าติดตาม
แม้มีความขัดแย้งกันในบางคน
ด้วยความกล้าปัญญาและความรัก
สมานสมัครจักชนะได้ในทุกหน
ความชั่วแพ้แก่ดีจนวายชนม์
ทุกแห่งหนบ่งบอกทางเด็กไว้
เป็นหนังดีที่มีทั้งคุณค่า
สนุกเฮฮาสร้างบรรเจิดเด็กได้
หากผู้ใหญ่ไปสอนให้เข้าใจ
แนะนำไว้เพื่อสร้างทางเด็กเดิน.
แก้วประเสริฐ.
4 มิถุนายน 2547 13:03 น.
แก้วประเสริฐ
ยามยลโฉมโน้มน้าวเพร้าพริ้มพักตร์
สุดงามนักเพริศพลั่กลักขณายิ่ง
ช่างสวยสดงดงามเลิศล้ำจริง
ยากหาหญิงในพสุธาเทียบเคียง
รูปวงพักตร์เรียวงามปานรูปไข่
ดวงนัยน์ใสกลมโตพร้อมกับเสียง
เหมือนสำเนียงระฆังแว่วชำเลียง
แล้วมีเสียงเจื่อนแจ้วแว่วคลอมา
วงคิ้วโขนงโก่งงอนดั่งคันศร
ยามอรชรเยื้องกรายงามหนักหนา
เอวองค์อ่อนอ้อนแอ้นสุดพรรณนา
เหมือนนางฟ้าลงมาสู่แดนดิน
มายืนตลึงครุ่นคิดอยู่นิดหนึ่ง
นางฟ้าจึงมีเพียงนางในฝัน
แต่ทำไมสายตามองไปพลัน
เจอนางพลันรู้สึกเหมือนนางฟ้า
หรือเรานี่เจอเพ้อพึงเพียรคิด
หัวใจจิตเปลี่ยนไปแล้วหรือหว่า
หันไปมองอีกครั้งแล้วขยี้ตา
ไม่ผิดหนาเธออยู่คู่เคียงชาย
เรายิ้มมองดูคู่วิไลลักษณ์
สุดงามนักทั้งหญิงแลสหาย
โลกรอบข้างช่างแสนสุดสบาย
ยากมั่นหมายไขว่คว้ามาครอบครอง.
แก้วประเสริฐ.
2 มิถุนายน 2547 14:15 น.
แก้วประเสริฐ
พูดเรื่องรักชักให้ใจขยาด
แสนอนาถจริงหนออ้อตัวฉัน
ถูกสะบั้นหั่นรักเกือบทุกวัน
จนใจฉันสุดพรั่นพรึงคะนึงกลัว
เมื่อวันวานผ่านเข้ามาในอดีต
ยังฝังจิตคิดไปแล้วใจสลัว
ทำร้ายหัวใจเราให้หมองมัว
สุดจะกลัวเผลอเจอหญิงแสนงาม
คนหนึ่งนั้นผ่านไปวิไลลักษณ์
ช่างงามนักรักฉันนั้นต้องห้าม
สูงสุดฟ้าหัวใจต้องห้ามปราม
ด้วยเธองามต่างฉันราวฟ้าดิน
คนที่สองผ่านเข้ามาในชีวิต
แสนสนิทชิดเชื้อให้หัวใจดิ้น
เธอสร้างรักมักให้มีมลทิน
เลยสูญสิ้นความรักยากกลับคืน
ที่สามนั้นพลันออดอ้อนซ้อนจริต
ทำให้คิดว่าแกล้งแสร้งรักฝืน
หลงรักเขาจนใจเรายากฟื้น
ไม่กี่คืนเข้าแล้วเลิกร้างไป
พอที่สี่เจอหน้าต้องหลบหนี
เพราะเงาที่หนึ่งถึงสามหวั่นไหว
ชักขยาดเรื่องรักหนักหน่วงหัวใจ
จะหาใครจักภักดิ์รักไม่มี.
แก้วประเสริฐ.