25 ธันวาคม 2547 12:53 น.

อานิสงส์การบำเพ็ญบุญต่างๆ

แก้วประเสริฐ


                  เรื่อง: อานิสงส์ของการบำเพ็ญบุญต่างๆ

          รวมอานิสงส์ทำบุญสำคัญที่ควรรู้ไว้ อานิสงส์ 10 ข้อของการไม่กินเนื้อสัตว์
   1.เป็นที่รักของบรรดาเทพ พรหม ตลอดจนมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย
   2.จิตอันเป็นมหาเมตตาย่อมบังเกิดขึ้น
   3.สามารถตัดขาดความอาฆาต ดับอารมณ์เหี้ยมโหดเครียดแค้นในใจลงได้
   4.ปราศจากโรคภัยร้ายแรงมาเบียดเบียนร่างกาย
   5.มีอายุมั่นขวัญยืน
   6.ได้รับการปกป้องคุ้มครองจากเทพทั้งปวง
   7.ยามหลับนิมิตเห็นแต่สิ่งที่ดีงามเป็นสิริมงคล
   8.ย่อมระงับการจองเวร สลายความอาฆาตแค้นซึ่งกันและกัน
   9.สามารถดำรงอยู่ในกระแสพระนิพพาน ไม่พลัดหลงตกลงสูอบายภูมิ
  10.ทันทีที่ละสังขารจากโลกนี้ จิตจะมุ่งสู่สุคติภพ


          อานิสงส์การจัดสร้างพระพุทธรูปหรือสิ่งพิมพ์อันเกี่ยวกับพระธรรมคำสอนเป็นกุศล ดังนี้

   1.อกุศลกรรมในอดีตชาติแต่ปางก่อน จะเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นสูญ
   2.สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง สรรพภยันตรายสลาย ปวงภัยไม่มี 
คนคิดร้ายไม่สำเร็จ
   3.เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติแต่ปางก่อน
เมื่อได้รับส่วนบุญไปแล้วก็จะเลิกจองเวรจองกรรม
   4.เหล่ายักษ์ผีรากษส งูพิษเสือร้าย 
ไม่อาจเป็นภัยอยู่ในที่ใดก็แคล้วคลาดจากภัย
   5.จิตใจสงบ ราศีผ่องใส สุขภาพแข็งแรง กิจการงานเป็นมงคล
รุ่งเรืองก้าวหน้าผู้คนนับถือ
   6.มั่นคงในคุณธรรม ความอุดมสมบูรณ์ปรากฏ (เกินความคาดฝัน)
ครอบครัวสุขสันต์วาสนายั่งยืน
   7.คำกล่าวเป็นสัจจ์ ฟ้าดินปราณี ทวยเทพยินดี มิตรสหายปรีดา หนี้สินจะหมดไป
   8.คนโง่สิ้นเขลา คนเจ็บหายได้ คนป่วยหายดี
ความทุกข์หายเข็ญสตรีจะได้เกิดเป็นชายเพื่อบวช
   9.พ้นจากมวลอกุศล เกิดใหม่บุญเกื้อหนุน มีปัญญาล้ำเลิศ บุญกุศลเรืองรอง
  10.สิ่งที่สร้างจะบังเกิดเป็นกุศลจิตแก่ทุกคนที่ได้พบเห็นเป็นเนื้อนาบุญอย่างเอนกทุกชาติของผู้สร้างที่เกิดจะ ได้ฟังธรรมจากพระอริยเจ้า
ปัญญาในธรรมแก่กล้าสามารถได้อภิญญาหก สำเร็จโพธิญาณ


          อานิสงส์การบวชพระบวชชีพรามณ์
(บวชชั่วคราวเพื่อสร้างบุญ,อุทิศให้พ่อแม่เจ้ากรรมนายเวร)
   1.หน้าที่การงานจะเจริญรุ่งเรือง ได้ลาภ ยศ สรรเสริญตามปรารถนา
   2.เจ้ากรรมนายเวรจะอโหสิกรรม หนี้กรรมในอดีตจะคลี่คลาย
   3.สุขภาพแข็งแรง สติปัญญาแจ่มใส ปัญหาชีวิตคลี่คลาย
   4.เป็นปัจจัยสู่พระนิพพานในภพต่อๆไป
   5.สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง โพยภัยอันตรายผ่อนหนักเป็นเบา
   6.จิตใจสงบ ปล่อยวางได้ง่าย มองเห็นสัจธรรมแห่งชีวิต
   7.เป็นที่รักที่เมตตามหานิยมของมวลมนุษย์มวลสัตว์และเหล่าเทวดา
   8.ทำมาค้าขึ้น ไม่อับจน การเงินไม่ขาดสายไม่ขาดมือ
   9.โรคภัยของตนเอง ของพ่อแม่ และของคนใกล้ชิดจะเบาบางและรักษาหาย
  10.ตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ได้เต็มที่สำหรับผู้ที่บวชไม่ได้เพราะติดภาระกิจต่างๆก็สามารถได้รับอานิสงส์เหล่านี้ได้ด้วยการสร้างคนให้ได้บวชสนับสนุนส่งเสริมอาสาจัดการให้คนได้บวช

          มาสร้างบุญบารมีกันเถอะ
   1.นั่งสมาธิอย่างน้อยวันละ15นาที(หรือเดินจงกรมก็ได้)
อานิสงส์---เพื่อสติปัญญาที่เฉลียวฉลาดขึ้นทั้งภพนี้และภพหน้า
เพื่อจิตใจที่สว่างผ่อนปรนจากกิเลส ปล่อยวางได้ง่าย
จิตจะรู้วิธีแก้ปัญหาชีวิตโดยอัตโนมัติ ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองไม่มีวันอับจน
ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพกายและจิตแข็งแรง
เจ้ากรรมนายเวรและญาติมิตรที่ล่วงลับจะได้บุญกุศล


   2.สวดมนต์ด้วยพระคาถาต่างๆอย่างน้อยวันละครั้งก่อนนอน
อานิสงส์---เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง 
ชีวิตหน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า
เงินทองไหลมาเทมา แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวง จิตจะเป็นสมาธิได้เร็ว
แนะนำพระคาถาพาหุงมหากา,พระคาถาชินบัญชร,พระคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก เป็นต้น
เมื่อสวดเสร็จต้องแผ่เมตตาทุกครั้ง


   3.ถวายยารักษาโรคให้วัด,ออกเงินค่ารักษาให้พระตามโรงพยาบาลสงฆ์
อานิสงส์---ก่อให้เกิดสุขภาพร่มเย็นทั้งครอบครัว
โรคที่ไม่หายจะทุเลาสุขภาพกายจิตแข็งแรง อายุยืนทั้งภพนี้ และภพหน้า
ถ้าป่วยก็จะไม่ขาดแคลนการรักษา


   4.ทำบุญตักบาตรทุกเช้า
อานิสงส์---ได้ช่วยเหลือศาสนาต่อไปทั้งภพนี้และภพหน้า ไม่ขาดแคลนอาหาร
ตายไปไม่หิวโหย อยู่ในภพที่ไม่ขาดแคลน ข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์


   5.ทำหนังสือหรือสื่อต่างๆเกี่ยวกับธรรมะแจกฟรีแก่ผู้คนเป็นธรรมทาน
อานิสงส์---เพราะธรรมทานชนะการให้ทานทั้งปวง ผู้ให้ธรรมจึงสว่างไปด้วยลาภ 
ยศ
สรรเสริญ ปัญญา และบุญบารมีอย่างท่วมท้น เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้
ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่คาดฝัน


   6.สร้างพระถวายวัด
อานิสงส์---ผ่อนปรนหนี้กรรมให้บางเบา ให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง
สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวง ครอบครัวเป็นสุข
ได้เกิดมาอยู่ในร่มโพธิ์ของพุทธศาสนาตลอดไป


   7.แบ่งเวลาชีวิตไปบวชชีพราหมณ์หรือบวชพระอย่างน้อย9วันขึ้นไป
อานิสงส์---ได้ตอบแทนคุณพ่อแม่อย่างเต็มที่
ผ่อนปรนหนี้กรรมอุทิศผลบุญให้ญาติมิตรและเจ้ากรรมนายเวร
สร้างปัจจัยไปสู่นิพพานในภพต่อๆไป
ได้เกิดมาอยู่ในร่มโพธิ์ของพุทธศาสนาจิตเป็นกุศล


   8.บริจาคเลือดหรือร่างกาย
อานิสงส์---ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพแข็งแรง ช่วยต่ออายุ
ต่อไปจะมีผู้คอยช่วยเหลือไม่ให้ตกทุกข์ได้ยาก เทพยดาปกปักรักษา
ได้เกิดมามีร่างกายที่งดงามในภพหน้า ส่วนภพนี้ก็จะมีราศีผุดผ่อง


   9.ปล่อยปลาที่ซื้อมาจากตลาดรวมทั้งปล่อยสัตว์ไถ่ชีวิตสัตว์ต่างๆ
อานิสงส์---ช่วยต่ออายุ ขจัดอุปสรรคในชีวิต
ชดใช้หนี้กรรมให้เจ้ากรรมนายเวรที่เคยกินเข้าไป ให้ทำมาค้าขึ้น
หน้าที่การงานคล่องตัวไม่ติดขัด
ชีวิตที่ผิดหวังจะค่อยๆฟื้นคืนสภาพที่สดใสเป็นอิสระ


   10.ให้ทุนการศึกษา,บริจาคหนังสือหรือสื่อการเรียนต่างๆ,อาสาสอนหนังสือ
อานิสงส์---ทำให้มีสติปัญญาดี ในภพต่อๆไปจะฉลาดเฉลียวมีปัญญา
ได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนอย่างรอบรู้ สติปัญญาสมบูรณ์พร้อม


   11.ให้เงินขอทานือ,ให้เงินคนที่เดือดร้อน(ไม่ใช่การให้ยืม)
อานิสงส์---ทำให้เกิดลาภไม่ขาดสายทั้งภพนี้และภพหน้า ไม่ตกทุกข์ได้ยาก
เกิดมาชาติหน้าจะร่ำรวยและไม่มีหนี้สิน ความยากจนในชาตินี้จะทุเลาลง
จะได้เงินทองกลับมาอย่างไม่คาดฝัน


   12.รักษาศีล5หรือศีล8
อานิสงส์---ไม่ต้องไปเกิดเป็นเปรตหรือสัตว์นรก
ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐครบบริบูรณ์ ชีวิตเจริญรุ่งเรือง
กรรมเวรจะไม่ถ่าโถม ภัยอันตรายไม่ย่างกราย เทวดานางฟ้าปกปักรักษา


          ทั้ง 12 ข้อนี้เป็นเพียงตัวอย่างบุญที่ยกขึ้นมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงอานิสงส์ที่
พึงจะได้รับ จงเร่งทำบุญเสียแต่วันนี้ เพราะเมื่อท่านล่วงลับ
   ท่านไม่สามารถสร้างบุญได้อีกจนกว่าจะได้เกิด หากท่านไม่มีบุญมาหนุนนำ
แรงกรรมอาจดึงให้ท่านไปสู่ภพเดรัจฉาน ภพเปรต ภพสัตว์นรก
ที่ไม่อาจสร้างบุญสร้างกุศลได้ 
ต่อให้ญาติโยมทำบุญอุทิศให้ก็อาจไม่ได้รับบุญ
   ดังนั้นท่านจงพึ่งตนเองด้วยการสร้างสมบุญบารมีซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ท่านจะนำ
ติดตัวไปได้ทุกภพทุกชาติเสีย แต่วันนี้ด้วยเทอญ.


                             ๙๙๙   แก้วประเสริฐ.   ๙๙๙

(ปล. เรื่องนี้เป็นของคุณ สุนันท์ ฯ เพื่อนข้าพเจ้าส่งมา เห็นว่ามีประโยชน์อย่างยิ่งจึงได้นำมาลงไว้เพื่อเป็นการเผยแพร่ต่อไป แก่บุคคลอันพึงควรได้รับ)				
24 ธันวาคม 2547 12:20 น.

เมื่อตัดสินใจ...ใยมิทิ้งซากรัก

แก้วประเสริฐ


         เมื่อตัดสินใจ...ใยมิทิ้งซากรัก

          สบพิไลนัยนาคราเศร้าหมอง
แสงสีทองฉาบสล้างกระจ่างสวย
ดุจเกล็ดแก้วแพรวพรายใจระทวย
สายรุ้งพวยพุ่งแวววับจับแก้มนาง

          แลสายหยาดพรั่งพรูสู่สาวน้อย
คราบเปื้อนรอยย้อยหยดมิสะสาง
ความกระจ่างยังวาบอาบเลือนราง
สองนวลปรางค์หมางหม่นจนกลับกลาย

          เห็นสายตาแสนเศร้าเฝ้าแลจ้อง
คล้ายร่ำร้องครวญคร่ำน้ำใจสลาย
หรือปัญหาสาเหตุสุดมากมาย
ยากคลี่คลายความรักหักอกตรม

          ฉันใช่ไหมเล่าเออเธอจึงโศก
ให้วิปโยคเคียงสองมิครองสม
มีรักใหม่เฝ้าหวนล้วนคอยชม
ทำอารมณ์ปั่นป่วนรัญจวนใจ

          อันหนึ่งหญิงสองชายหลายความคิด
มันผูกติดปิดบังไม่ผ่องใส
รักชอบใครอย่าพะวงหลงความนัย
ขอเพียงได้บอกมาอย่าเศร้าครวญ
	
          ความผันผวนล้วนเกิดจากปลายลิ้น
หากไม่ถวิลยากคืนฝืนสุดหวน
ยามตัดสวาทขาดไปอย่าเย้ายวน
คิดอบอวลป่วนหักรักกลับมา

          การจับปลาสองมือเขาถือยิ่ง
เพราะทุกสิ่งสิ้นสลายเพราะใครหนา
รักชอบใครควรบอกตอกอุรา
อย่านำมาพิศวาสซ้ำจนล้ำทรวง

          เมื่อตัดใจจงทิ้งซากสิ่งรัก
หากหวนชักมักเสียในสิ่งหวง
ใยผูกพันมันก่อเกิดลมลวง
จะเป็นบ่วงล้วงลึกให้เฝ้าตรม

          จงหันหวนล้วนชีวิตให้เกิดสุข
แล้วจงปลูกต้นรักไว้อย่าให้ขม
หนทางยังอีกไกลอย่าใฝ่ระทม
พี่ยอมระบมข่มรักเพื่อนวลนาง.

         ๙๙๙   แก้วประเสริฐ.   				
22 ธันวาคม 2547 13:31 น.

เสียงนางครวญรัญจวนไห้

แก้วประเสริฐ


                 เสียงนางครวญรัญจวนไห้

          เสียงเพลงแผ่วหวานซึ้งตรึงผ่านห้วง
ดุจดั่งบ่วงห่วงคล้องทำนองหวน
ล้วนกระซิกระริกกระเส่าเร้าอกชวน
ให้อบอวลปั่นป่วนรัญจวนชีวี

           ส่งจิตใจละล่องต้องคล้อยเคลื่อน
บรรจงเลื่อนไหลลงตรงโฉมศรี
อีกสูงต่ำไหวโยกกรรโชกฤดี
เสมือนดั่งปรีดิ์เปรมเกษมสำราญ

       กาลเวลาผ่านไปใจหวนหา
โอ้แก้วตามาพบช่างแปรผัน
เคยหวนจ้องมองฟังครั้งนานวัน
จนสร้างสรรค์จินตนามากลับกลาย
   
          แว่วคำนึงเสียงพินิจจิตคงช้ำ
ให้เพ้อพร่ำเผลอร้องทำนองหาย
คล้ายร้าวรอนผ่านห้วงดวงหทัย
วาบหวามมลายกลายเป็นดุจคร่ำครวญ

          โถยอดหญิงไฉนเป็นเช่นเพียงนี้
สุขที่มีหนีหายใคร่กำสรวล
เฝ้าครวญเพรียกเรียกร้องสุดรัญจวน
ดวงใจป่วนหวนไห้คล้ายอ้อนวอน

          ดั่งพลาดหวังในรักที่มักแฝง
สายใยแล้งแสดงไว้คล้ายถูกหลอน
วิงวอนเว้าเคล้าสอดปราศแง่งอน
เหมือนวิงวอนอ้อนมาในเสียงเพลง

          ความไพเราะเพราะพริ้งครั้งเก่าก่อน
ถูกลิดรอนจนสลายคล้ายข่มเหง
ถ้อยสำเนียงเสียงครวญล้วนยำเกรง
ฟังวังเวงบาดสะท้านสั่นอารมณ์

          คงพลาดหวังตั้งไว้มิใคร่สนอง
ล้วนแต่ต้องหมองไหม้จนขื่นขม
นี่แหละหนอพอทำหลังชื่นชม
แสบระบมตรมสะอื้นดุจเสียงนาง

          พลางยิ้มเยาะตัวเองฟังเพลงเศร้า
ที่รุมเร้าจนอารมณ์มิสมสล้าง
เหมือนอกเราเฝ้าเพลียในหนทาง
ถูกปล่อยคว้างเปล่าเปลี่ยวขาดเหลียวแล.

                ๙๙๙   แก้วประเสริฐ.   ๙๙๙				
20 ธันวาคม 2547 16:16 น.

ไม่เป็นไร.....ลืมเสียเถิด

แก้วประเสริฐ


               ไม่เป็นไร.....ลืมเสียเถิด.

          มวลความรักสิ้นพลังรั้งชีวิต
ล้วนลิขิตสรรค์สร้างทางแห่งหวัง
ก่อกำเนิดเลิศเพียรเพิ่มเริ่มกำลัง
ด้วยปลูกฝังหยั่งไว้คล้ายมืดมัว

          เพียงอารมณ์บ่มไว้สลายทุกสิ่ง
ไม่ประวิงสิ่งรอบข้างพลางชวนหัว
เห็นว่างามหลงระเริงเพลิงเผาตัว
เข้าเกลือกกลั้วหมกมุ่นอบอุ่นใจ

          อดีตอนาคตปัจจุบันนั้นลืมสิ้น
มันโบยบินผันผวนล้วนแจ่มใส
แล้วเชยชมสมสร้างมิร้างไกล
สิ่งพอใจอะไรเกิดก็ช่างมัน

          ความเย้ายวนหวนแทรกส่งชีวิต
โดยหวังคิดติดพันเข้าสร้างสรรค์
เรื่องผิดถูกชอบชั่วดีมิสำคัญ
ถูกความมันส์เข้าบั่นพลันลืมตรอง

          พอผิดพลาดอนาถเหลือในความคิด
ฟ้าดินปิดขีดเส้นทางมัวหมอง
เหตุเพราะเขลามิได้ดั่งใจปอง
จนหม่นหมองต้องพักหักอกตรม

          อันสิ่งรักมักได้ไว้ยากนัก
ล้วนนำชักทุกข์สุขรุกขื่นขม
ละเอียดอ่อนหวั่นไหวในอารมณ์
มีหลายปมสมสร้างระหว่างใจ

          ถึงอย่างไรพลาดพลั้งโปรดรั้งจิต
ฝืนสักนิดทำใจกายให้ผ่องใส
นักปราชญ์ยังเคยพลาดประหลาดไป
แล้วเราไซร้ไฉนกลัวโลกความจริง

          ไม่เป็นไรลืมเถิดประเสริฐนัก
หยุดความรักหักสร้างวางทุกสิ่ง
เริ่มชีวิตจิตใหม่อย่าเอนอิง
แล้วละทิ้งทุกข์โศกโลกของเรา.

               ๙๙๙   แก้วประเสริฐ.   ๙๙๙				
18 ธันวาคม 2547 14:56 น.

สลายสิ้นตราบชั่วดินฟ้า

แก้วประเสริฐ


                สลายสิ้นตราบชั่วดินฟ้า 

           ความผันผวนอวลวนปนซากรัก
ระทึกนักมักเวียนสั่นจนหวั่นไหว
จากห้วงลึกล่วงล้นสับสนใน
ด้วยหัวใจน้อยนิดคิดปั่นป่วน

          ล้วนอนุทินกลิ่นโหยโชยซุกซ่อน
ดุจตะกอนจมลึกกร่อนผนึกหวน
ตระกายผุดรุดแทรกเหมือนชักชวน
แสนแปรปรวนล้วนความล้ำกล้ำมา

          อนิจจากระแสร์รักครั้นหยุดนิ่ง
ไม่ไหวติงสลายล้วนมิชวนหา
จับซุกซ่อนมัดห้วงบ่วงวิญญาณ์
ยากนำมาพลันหวนล้วนชวนแปร

          เวรหรือกรรมจึงเห็นเช่นครั้งนี้
รักเคยมีสูญสลายกลายเป็นแผล
ฝังรอยบาดผนึกลึกหมั่นดูแล
ล้วนแน่แท้ตอกย้ำในน้ำใจ

          เพียงผ่านมาสบรักเมื่อคราก่อน
ความอาวรณ์วอนเว้าพลันวูบไหล
ตะลึงแลแผ่ซ่านซับทรวงใน
วูบวาบไปสั่นสะท้านพล่านทั้งตัว

          ปั่นป่วนหวนชวนเข้าแล้วเจ้าเอ๋ย
ความชื่นเชยเคยระบมจนปวดหัว
ชอกช้ำใจเข้าปรายกลายหมองมัว
อกระรัวแสนระทึกเมื่อตรึกมอง

          โลกนี้หนอช่างกลมสมความกว้าง
แลสล้างช่างผุดผาดอาจสนอง
ให้พานพบสบแล้วใยมาตรอง
จะหม่นหมองไปเล่าใจเจ้าเอย

          สลายรักหักตราบสิ้นชั่วดินฟ้า
ไม่หวนมาใฝ่ฝันหันมาเฉลย
ถึงคำนี้ผ่านมลายไกลละเลย
ไม่หวนเอ่ยเผยนิยามคำว่ารัก

          หมดสิ้นแล้วเรื่องราวคราวเก่าก่อน
เคยซอกซอนผ่านเพ้อเผยอประจักษ์
ล้วนสร้างปมขมขื่นมากมายนัก
ขอหยุดพักมัดห้วงล่วงวิญญาณ.

             ๙๙๙   แก้วประเสริฐ.   ๙๙๙ 				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแก้วประเสริฐ