6 พฤษภาคม 2547 11:19 น.
แก้วประเสริฐ
แสงสีทองของตะวันพลันลับล่วง
สีอ่อนช่วงแดงลอดสอดเมฆาฟ้าไสว
ลมโชยพัดเมฆพลิ้วปลิวสุดจะวิไล
มองดูไปคล้ายภาพวาดในเมืองแมน
ช่างเป็นวิมานผ่านฟ้าในคราพลบ
สวยงามตลบดุจนางฟ้าเทวานับแสน
ต่างร่ายรำฟ้อนสนุกสนานในดินแดน
ยากมาดแม้นสุดบรรยายภาพลักขณา
พลบค่ำเข้ามาเยือนเลือนสุรีย์หาย
จักจั่นเรไรมากมายขับร้องก้องเวหา
ใจสดชื่นระรื่นจิตสุขแสนในชีวา
เสน่หาในยามค่ำคืนเยือนรัตติกาล
ท้องนภางามสวยสดใสไร้หมู่เมฆ
ดาราเฉกเช่นเล่นสีแสงสุดไพศาล
บ้างกระพริบแสงส่องทั่วจักรวาล
หิ่งห้อยนั้นกู่ร้องเพรียกเรียกหาคู่มัน
บุหลันลอยเหนือฟากฟ้าตะวันออก
แสงนวลบอกเวลาคราได้พบสุขสันต์
พิภพฟื้นตื่นนิทราด้วยแสงดาราพลัน
บุหลันนั้นถูกรายล้อมแสงแห่งดวงดาว
ราชินีแห่งรัตติกาลสว่างกระจ่างแล้ว
ทั่วโขดแนวภูผาป่าไม้คลายความเหงา
สำเนียงสัตว์มากมายพากันหายมืนเมา
มนุษย์เราแสนสุขเกษมเปรมปรีดา
ทำให้ฉันพลันระลึกหญิงนางหนึ่ง
เธอพร้อมซึ่งความสวยงดงามเสน่หา
อีกมารยาทงามเพียบพร้อมช่างงามตา
มีเมตตากรุณารักใคร่ฉันด้วยใจจริง
ยิ่งมองจันทร์ดาราพาหัวใจให้ยิ่งคิด
เธอรักฉันด้วยชีวิตกว่าใครในทุกสิ่ง
ฉันรักเธอมากยิ่งด้วยหัวใจที่เป็นจริง
เป็นทุกสิ่งเธอคือราชินีแห่งดวงดาว.
แก้วประเสริฐ.
4 พฤษภาคม 2547 12:34 น.
แก้วประเสริฐ
เสียแรงรักฝากความหวังไว้ในชีวิต
เสียแรงคิดคร่ำครวญใจใฝ่หวนถวิล
เสียน้ำใจในความระลึกเป็นอาจินต์
เสียหมดสิ้นในความรักที่โปรยมา
เสียแรงรักใคร่เสียแรงใฝ่ใจจำ
เสียถ้อยน้ำคำเคยเสกสรรวาจา
เสียแรงรักเธอเคยอยู่เป็นคู่ชู้ชีวา
เสียสิ้นปรารถนากลับไปหาชู้ใหม่
เสียแรงรักสร้างไว้ในทุกสิ่ง
เสียหมดสิ้นในอนาคตอันผ่องใส
เสียใจหนอใครปลอบอย่าเสียใจ
เสียความอาลัยที่มอบไว้แด่เพียงเธอ
เสียแรงรักอันมากมายมีในชีวิต
เสียใจจิตที่เฝ้ารักถนอมไว้อยู่เสมอ
เสียไปแล้วความรักพร้อมกับเธอ
เสียน้ำตาที่ใฝ่เพ้อละเมอครวญ
เสียแรงรักที่มอบไว้มลายสิ้น
เสียลมลิ้นความรักหวานที่ได้หวน
เสียศูนย์ของหัวใจไปสุดรัญจวน
เสียความสงวนของชายมลายไป
เสียแรงรักฝากหวังไว้ในอนาคต
เสียทั้งหมดไม่กลับหวนถวิลสลาย
เสียไปแล้วพร้อมน้ำตาที่โปรยปราย
เสียน้ำใจสิ้นสลายหน่ายรักโรยลา.
แก้วประเสริฐ.
3 พฤษภาคม 2547 12:00 น.
แก้วประเสริฐ
ฝันเอ๋ยฝันเกิดขึ้นแล้วในความฝัน
ฝันกลางวันหลายหลากในทุกสิ่ง
ฝันของฉันมักจะไม่ค่อยเป็นจริง
ฝันในสิ่งที่ฉันฝันมันห่างไกลกัน
แต่หัวใจของฉันยังอยากจะฝัน
แม้ใจนั้นฉันทราบดีเป็นแค่ในฝัน
มีสุขทุกข์คลุกเคล้าไปในความฝัน
ซึ่งหัวใจของฉันยังชอบให้เกิดฝัน
ฝันของฉันมักมากด้วยไหลหลง
ฝันพะวงหลงรักเขาหมดจากใจฉัน
ฝันเกิดขึ้นแล้วแต่ย่อยยับลงฉับพลัน
ฝันสิ่งนั้นหากเป็นจริงแทบบ้ากัน
กลางคืนนั้นฉันชอบรักในความฝัน
บรรยากาศนั้นช่างสดชื่นเมื่อเกิดฝัน
พบสิ่งเล้าโลมใจสุขสดชื่นในคืนฝัน
โอ้ชีวิตฉันรัญจวนใจยิ่งเพียงแค่ฝัน
ฝันหนอฝันฉันช่างเลิศบรรเจิดจ้า
ฝันนั้นหนาสร้างอารมณ์รักให้กับฉัน
ฝันที่ร้ายคลายรักร้างไปให้จากกัน
ฝันของฉันช่างคลุกเคล้าร้ายและดี.
แก้วประเสริฐ.
1 พฤษภาคม 2547 20:56 น.
แก้วประเสริฐ
รัตติกาลเยือนหล้าดาราพราวราวสวรรค์
บรรเจิดแสงดาวพราวแพรวสว่างพลัน
แสงนวลนั้นลอยงามเด่นเช่นดวงจันทร์
ดุจสวรรค์ละม้ายคล้ายราชิกามาเยี่ยมกราย
หยาดน้ำค้างโรยโปรยปรายฉ่ำชื่นจิต
สิงสถิตบนยอดหญ้าไม้งามสุดเฉิดฉาย
กระทบแสงแห่งจันทร์ดาราพร่างพราย
ดุจดั่งคล้ายอัญญะมณีมีคุณค่าราคาแพง
ชุดสีขาวไหวพลิ้วงามสง่าดุจนางอัปสร
ช่างอรชรอ้อนแอ้นพลิ้วเมฆาได้ยลแสง
ยามย่างเยื้องลอยล่องไปคล้ายอ่อนแรง
งามสีแสงแห่งมวลดาราพามาเยือน
กลิ่นหอมหวนมวลบุบผามาลีเกิด
ราตรีเลิศเคล้ากลิ่นแก้วเปรียบเสมือน
กลิ่นกายน้อยลอยละล่องเข้ามาเตือน
โลกเสมือนดนตรีสวรรค์บรรเลงทำนอง
จุติแล้วราชิกาดาราของสวรรค์
บังเกิดพลันแยกมวลร่างออกเป็นสอง
เป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่งมีไว้ให้โลกซ้อง
ในวันร้องยี่สิบเอ็ดมิถุนาครามาเยือน
เสมือนเป็นแฝดเพื่อนมีน้ำใจดุจพี่น้อง
เข้าเกี่ยวดองมิเหมือนดาราพาลับเลื่อน
บุหลันแยกแตกออกมาให้โลกสะเทือน
ดุจเปรียบเสมือนเลื่อนลั่นด้วยบทกลอน.
แก้วประเสริฐ.
30 เมษายน 2547 14:07 น.
แก้วประเสริฐ
จากวัยเด็กเติบโตเป็นหนุ่มใหญ่
ฉันจำได้เพื่อนมากมายจริงเจียวหนอ
ทั้งชายหญิงหลากหลายมาคอยพะนอ
เฝ้าหยอกล้อต่อกระซิกเล่นสำราญใจ
ฉันให้ความรักมากมายในทุกสิ่ง
ใจรักจริงทุกสิ่งที่หาได้ฉันมอบให้
แม้คนที่รักมีไว้เพื่อนเรายังแย่งไป
ไม่ว่าอะไรรักเพื่อนให้สุดเหลือเฟือ
คิดถึงเพื่อนแล้วให้น้อยใจจิต
แม้นน้อยนิดในน้ำใจช่างยากเหลือ
เรารักเขาแต่เขาไม่รักยากจุนเจือ
เราจะเหลืออะไรเล่าเมื่อเหงาตรม
วันและคืนผ่านไปเมื่อหวนคิด
ยิ่งช้ำจิตจนใจระกำไม่เหมาะสม
อารมณ์รักเพื่อนยิ่งคิดเฝ้าระทม
จิตระบมที่เพื่อนคิดมิรักดุจดั่งเรา
อนิจจานี่นะหรือคือเพื่อนที่บอกรัก
สมานสมัครรักใคร่กลมเกลียวกับเขา
กาลเวลาผ่านไปรักหายเจือจางเรา
สุดแสนเศร้าเราจนยากไร้จึงจืดจาง
บัดนี้หนอพอได้เพื่อนอีกยิ่งคิดหนัก
หัวใจรักเคยมีหลอนหลอกดุจผีสาง
กลัวทุกสิ่งเหมือนอดีตที่เลือนราง
กลับมิจางคล้ายจะซ้ำกลับรอยเดิม
แก้วประเสริฐ.