28 มกราคม 2548 13:59 น.
แก้วประเสริฐ
ข้ามอบายภูมิ - ต้องมุ่งโสดาบัน
ดูกรท่านปิยมิตรคิดปิดกั้นนรก
ที่สกปรกมิผดุงยากมุ่งเกษม
สร้างรุ่มร้อนนอกในไร้ปรีเปรมดิ์
สุดอิ่มเอมสุขทุกข์คลุกตลอดกาล
บุญกุศลผลผลาเข้ามาประกอบ
ยังแสนนอบน้อมลงตรงประสาน
มีวันพลาดยากขาดบ่วงของมาร
มันประจานครั้นมรณะจะเข้ามา
มรรคเบื้องต้นพ้นผ่านทางแน่วแน่
ข้ามนรกแท้มิเปลี่ยนเวียนมาหา
เป็นธรรมคำสอนองค์พระศาสดา
หากนำพาจะสร้างพ้นทางอบาย
เพียงแค่สามข้อหนอเพียรปฏิบัติ
ให้แน่ชัดอย่าลังเลหันเหไปไหน
ไม่ยากนักถือมั่นอย่ากลับกลาย
ด้วยหัวใจยึดเหนี่ยวทั้งเสี้ยวปอน
ข้อที่หนึ่งพึงจำไว้ให้ยึดมั่น
สักกายทิฏฐินั้นพลันละเอามาสอน
อยู่ตรงข้ามขันธ์ห้าทุกขั้นตอน
อย่าอาวรณ์ร่างสลายให้ตัดรอน
ด้วยนิวรณ์มันหวนหาพาปะปน
ข้อที่สองวิจิกิจฉาส่งใจให้สงสัย
มรรคผลไซร้มีจริงหรือจสับสน
ความดีชั่วมีอยู่เข้าสู่ตน
ปฏิบัติมีผลพ้นห้วงจากทุกข์จริง
ข้อที่สามงามนักจักขอแจ้ง
ศีลห้าแสดงแจ้งไว้ในทุกสิ่ง
สีลัพพตปรามาสที่โน้มอิง
ให้เหมือนปลิงยึดมั่นจนวันตาย
โดยเคร่งครัดทบทวนหวนประจักษ์
ชำระปักกายใจอย่าให้สลาย
จงพากเพียรทำไว้มิได้กลาย
ผลนั้นไปสู่สวรรค์ตามครรลอง
ครั้นครบถ้วนล้วนมิพลาดขาดหาย
ท่านจะกลายเป็นโสดาบันพลันสนอง
ไม่ต้องมีประกาศนียบัตรมารับรอง
สิ่งสมปองคือมรรคผลสูงจรุงใจ
นี่แหละหนอขอสนองแด่มวลมิตร
เพื่อนสนิทมิตรสหายเพื่อผ่องใส
ให้พ้นบ่วงห้วงนรกที่จัญไร
พามิตรไปสู่สวรรค์ชั้นฟ้าเทอญ.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
26 มกราคม 2548 13:36 น.
แก้วประเสริฐ
มาสร้างบุญบารมีกันเถอะ
1.นั่งสมาธิอย่างน้อยวันละ15นาที(หรือเดินจงกรมก็ได้)
อานิสงส์---เพื่อสติปัญญาที่เฉลียวฉลาดขึ้นทั้งภพนี้และภพหน้า
เพื่อจิตใจที่สว่างผ่อนปรนจากกิเลส ปล่อยวางได้ง่าย
จิตจะรู้วิธีแก้ปัญหาชีวิตโดยอัตโนมัติ
ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองไม่มีวันอับจน
ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพกายและจิตแข็งแรง
เจ้ากรรมนายเวรและญาติมิตรที่ล่วงลับจะได้บุญกุศล
2.สวดมนต์ด้วยพระคาถาต่างๆอย่างน้อยวันละครั้งก่อนนอน
อานิสงส์---เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง
ชีวิตหน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า
เงินทองไหลมาเทมา แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวง จิตจะเป็นสมาธิได้เร็ว
แนะนำพระคาถาพาหุงมหากา,พระคาถาชินบัญชร,
พระคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก เป็นต้น
เมื่อสวดเสร็จต้องแผ่เมตตาทุกครั้ง
3.ถวายยารักษาโรคให้วัด,ออกเงินค่ารักษาให้พระตามโรงพยาบาลสงฆ์
อานิสงส์---ก่อให้เกิดสุขภาพร่มเย็นทั้งครอบครัว โรคที่ไม่หายจะทุเลา
สุขภาพกายจิตแข็งแรง อายุยืนทั้งภพนี้และภพหน้า
ถ้าป่วยก็จะไม่ขาดแคลนการรักษา
4.ทำบุญตักบาตรทุกเช้า
อานิสงส์---ได้ช่วยเหลือศาสนาต่อไปทั้งภพนี้และภพหน้า ไม่ขาดแคลนอาหาร ตายไปไม่หิวโหย อยู่ในภพที่ไม่ขาดแคลน ข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์
5.ทำหนังสือหรือสื่อต่างๆเกี่ยวกับธรรมะแจกฟรีแก่ผู้คนเป็นธรรมทาน
อานิสงส์---เพราะธรรมทานชนะการให้ทานทั้งปวง ผู้ให้ธรรมจึงสว่างไปด้วยลาถยศ สรรเสริญ ปัญญา และบุญบารมีอย่างท่วมท้น เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้ ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่คาดฝัน
6.สร้างพระถวายวัด
อานิสงส์---ผ่อนปรนหนี้กรรมให้บางเบา ให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง
สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวง ครอบครัวเป็นสุข ได้เกิดมาอยู่ในร่มโพธิ์ของพุทธศาสนาตลอดไป
7.แบ่งเวลาชีวิตไปบวชชีพรามณ์หรือบวชพระอย่างน้อย9วันขึ้นไป
อานิสงส์---ได้ตอบแทนคุณพ่อแม่อย่างเต็มที่ ผ่อนปรนหนี้กรรมอุทิศผลบุญให้ญาติมิตรและเจ้ากรรมนายเวร สร้างปัจจัยไปสู่นิพพานในภพต่อๆไป ได้เกิดมาอยู่ในร่มโพธิ์ของพุทธศาสนา จิตเป็นกุศล
8.บริจาคเลือดหรือร่างกาย
อานิสงส์---ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพแข็งแรง ช่วยต่ออายุ
ต่อไปจะมีผู้คอยช่วยเหลือไม่ให้ตกทุกข์ได้ยาก เทพยดาปกปักรักษา ได้เกิดมามีร่างกายที่งดงามในภพหน้า ส่วนภพนี้ก็จะมีราศีผุดผ่อง
9.ปล่อยปลาที่ซื้อมาจากตลาดรวมทั้งปล่อยสัตว์ไถ่ชีวิตสัตว์ต่างๆ
อานิสงส์---ช่วยต่ออายุ ขจัดอุปสรรคในชีวิต ชดใช้หนี้กรรมให้เจ้ากรรมนายเวรที่เคยกินเข้าไป ให้ทำมาค้าขึ้น หน้าที่การงานคล่องตัวไม่ติดขัด ชีวิตที่ผิดหวังจะค่อยๆฟื้นคืนสภาพที่สดใส เป็นอิสระ
10.ให้ทุนการศึกษา,บริจาคหนังสือหรือสื่อการเรียนต่างๆ,อาสาสอนหนังสือ
อานิสงส์---ทำให้มีสติปัญญาดี ในภพต่อๆไปจะฉลาดเฉลียวมีปัญญา ได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนอย่างรอบรู้ สติปัญญาสมบูรณ์พร้อม
11.ให้เงินขอทาน,ให้เงินคนที่เดือดร้อน(ไม่ใช่การให้ยืม)
อานิสงส์---ทำให้เกิดลาภไม่ขาดสายทั้งภพนี้และภพหน้า ไม่ตกทุกข์ได้ยาก เกิดมาชาติหน้าจะร่ำรวยและไม่มีหนี้สิน ความยากจนในชาตินี้จะทุเลาลง จะได้เงินทองกลับมาอย่างไม่คาดฝัน
12.รักษาศีล5หรือศีล8
อานิสงส์---ไม่ต้องไปเกิดเป็นเปรตหรือสัตว์นรก
ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐครบบริบูรณ์ ชีวิตเจริญรุ่งเรืองกรรมเวรจะไม่เข้าโถม ภัยอันตรายไม่ย่างกราย เทวดานางฟ้าปกปักรักษา
อานิสงส์ 10 ข้อของการไม่กินเนื้อสัตว์
1.เป็นที่รักของบรรดาเทพ พรหม ตลอดจนมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย
2.จิตอันเป็นมหาเมตตาย่อมบังเกิดขึ้น
3.สามารถตัดขาดความอาฆาต ดับอารมณ์เหี้ยมโหดเครียดแค้นในใจลงได้
4.ปราศจากโรคภัยร้ายแรงมาเบียดเบียนร่างกาย
5.มีอายุมั่นขวัญยืน
6.ได้รับการปกป้องคุ้มครองจากเทพทั้งปวง
7.ยามหลับนิมิตเห็นแต่สิ่งที่ดีงามเป็นสิริมงคล
8.ย่อมระงับการจองเวร สลายความอาฆาตแค้นซึ่งกันและกัน
9.สามารถดำรงอยู่ในกระแสพระนิพพาน ไม่พลัดหลงตกลงสูอบายภูมิ
10.ทันทีที่ละสังขารจากโลกนี้ จิตจะมุ่งสู่สุคติภพ
อานิสงส์การจัดสร้างพระพุทธรูปหรือสิ่งพิมพ์อันเกี่ยวกับพระธรรมคำสอนเป็นกุศลดังนี้
1.อกุศลกรรมในอดีตชาติแต่ปางก่อน จะเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นสูญ
2.สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง สรรพภยันตรายสลาย ปวงภัยไม่มีคนคิดร้ายไม่สำเร็จ
3.เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติแต่ปางก่อน เมื่อได้รับส่วนบุญไปแล้วก็จะเลิกจองเวรจองกรรม
4.เหล่ายักษ์ผีรากษส งูพิษเสือร้าย ไม่อาจเป็นภัยอยู่ในที่ใดก็แคล้วคลาดจากภัย
5.จิตใจสงบ ราศีผ่องใส สุขภาพแข็งแรง กิจการงานเป็นมงคล รุ่งเรืองก้าวหน้าผู้คนนับถือ
6.มั่นคงในคุณธรรม ความอุดมสมบูรณ์ปรากฏ (เกินความคาดฝัน) ครอบครัวสุขสันต์ วาสนายั่งยืน
7.คำกล่าวเป็นสัจจ์ ฟ้าดินปราณี ทวยเทพยินดี มิตรสหายปรีดา หนี้สินจะหมดไป
8.คนโง่สิ้นเขลา คนเจ็บหายได้ คนป่วยหายดี ความทุกข์หายเข็ญ
สตรีจะได้เกิดเป็นชายเพื่อบวช
9.พ้นจากมวลอกุศล เกิดใหม่บุญเกื้อหนุน มีปัญญาล้ำเลิศ บุญกุศลเรืองรอง
10.สิ่งที่สร้างจะบังเกิดเป็นกุศลจิตแก่ทุกคนที่ได้พบเห็นเป็นเนื้อนาบุญอย่างเอนกทุกชาติของ ผู้สร้างที่เกิดจะได้ฟังธรรมจากพระอริยเจ้าปัญญาในธรรมแก่กล้าสามารถได้อภิญญาหก สำเร็จโพธิญาณ
อานิสงส์การบวชพระบวชชีพรามณ์
( บวชชั่วคราวเพื่อสร้างบุญ,อุทิศให้พ่อแม่เจ้ากรรมนายเวร )
1.หน้าที่การงานจะเจริญรุ่งเรือง ได้ลาภ ยศ สรรเสริญตามปรารถนา
2.เจ้ากรรมนายเวรจะอโหสิกรรม หนี้กรรมในอดีตจะคลี่คลาย
3.สุขภาพแข็งแรง สติปัญญาแจ่มใส ปัญหาชีวิตคลี่คลาย
4.เป็นปัจจัยสู่พระนิพพานในภพต่อๆไป
5.สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง โพยภัยอันตรายผ่อนหนักเป็นเบา
6.จิตใจสงบ ปล่อยวางได้ง่าย มองเห็นสัจธรรมแห่งชีวิต
7.เป็นที่รักที่เมตตามหานิยมของมวลมนุษย์มวลสัตว์และเหล่าเทวดา
8.ทำมาค้าขึ้น ไม่อับจน การเงินไม่ขาดสายไม่ขาดมือ
9.โรคภัยของตนเอง ของพ่อแม่ และของคนใกล้ชิดจะเบาบางและรักษาหาย
10.ตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ได้เต็มที่สำหรับผู้ที่บวชไม่ได้เพราะติดภาระกิจต่างๆก็สามารถได้รับอานิสงส์เหล่านี้ได้ด้วยการสร้างคนให้ได้บวชสนับสนุนส่งเสริมอาสาการให้คนได้บวช
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างบุญที่ยกขึ้นมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงอานิสงส์ที่ท่านพึงจะได้รับจงเร่งทำบุญเสียแต่วันนี้ เพราะเมื่อท่านล่วงลับท่านไม่สามารถสร้างบุญได้อีกจนกว่าจะได้เกิด หากท่านไม่มีบุญมาหนุนนำแรงกรรมอาจดึงให้ท่านไปสู่ภพเดรัจฉาน ภพเปรต ภพสัตว์นรกที่ไม่อาจสร้างบุญสร้างกุศลได้ต่อให้ญาติโยมทำบุญอุทิศให้ก็อาจไม่ได้รับบุญ ดังนั้นท่านจงพึ่งตนเองด้วยการสร้างสมบุญบารมีซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ท่านจะนำติดตัวไปได้ทุกภพทุกชาติเสียแต่วันนี้ด้วยเทอญ
***ส่งต่อก็ได้บุญครับ การให้ธรรมเป็นทานชนะการให้ทั้งปวง
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
25 มกราคม 2548 23:10 น.
แก้วประเสริฐ
ยามตะวันพลันยอแสง
ตะวันรอนอ่อนล้าครายอแสง
วับวาวแวมอำพันสรรค์สีใส
พลันคำนึงกัลยาซึ่งซึ้งอำไพ
ซาบซ่านใจไมตรีเคยมีมา
ปานประหนึ่งหยาดเพชรชลเกล็ดแก้ว
เพริศพริ้งแพร้วพรรณรายปรายเสน่หา
ช่างเฉิดฉายนวยนาดยามยาตรา
มวลบุบผานาพันธุ์กลั่นกลิ่นโชย
รวยระรื่นชื่นหทัยให้ฟุ้งซ่าน
แสนเบิกบานเริงร่าสุดหาโหย
หวามหวานจิตคิดไปคล้ายบ่วงโปรย
มัดรอบโรยอวลนักปักอารมณ์
สำเนียงแผ่วแว่วพลิ้วริ้วระริก
เหมือนล้วงจิกพลิกใจคล้ายสู่สม
ให้วูบวาบซาบซ่านสุดแหลมคม
เข้าทิ่มปมสมสร้างพลางคิดรัก
บัดนี้หนอเหตุการณ์ฝันชีวิต
อยากจะชิดสนิทแนบแอบสมัคร
เพียงเกรงกริ่งดวงใจที่ประจักษ์
กลัวจะหักมักพลาดสิ่งหมายปอง
เพียงแย้มยิ้มพริ้มพรายให้อ้างว้าง
ตะวันจางลางเลือนเหมือนมิสนอง
ห้วงใจจิตคิดไปตามครรลอง
บัดนี้ต้องยอแสงแฝงแปรปรวน
ล้วนกำซาบปลาบแปลบแทรกทรวงเร้า
โอบอุ้มเอาความหวานผ่านลมหวน
สุดจะแนบแอบชิดหวังเชื้อชวน
แสนปั่นป่วนจนสลายกระจายไป
ตะวันเอ๋ยยอแสงแคลงใจเหลือ
คิดเอื้อเฟื้อเผื่อน้ำใจจักไฉน
คงมืดมิดปิดทางหรืออย่างไร
โฉมไฉไลไกลเกินกว่าคว้ามาชม.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
24 มกราคม 2548 12:32 น.
แก้วประเสริฐ
อุปกิเลส 10 ประการ
ดูกรท่านผู้ไขว่คว้าหาทางพ้น
ความหลงตนหนทางระหว่างกฤษณา
แม้นมีจิตคิดมิสร้างด้วยเจตนา
ก็ยังมาวนเวียนว่ายในสังสารวัฏฏ์
สิ่งทั้งหลายเกิดมาในครานี้
ล้วนแต่มีเวรกรรมซ้ำเติมตัด
เพราะไม่รู้สาเหตุอันแน่ชัด
เข้ามาขจัดหนทางสร้างความดี
ต่างมิทราบเป็นไปในหลายแบบ
แล้วเข้าแนบแทรกซ้อนด้วยห่อนศรี
อันสาเหตุกิเลสเศษที่มี
จะบ่งชี้ทางไว้ให้เราเดิน
กิเลสสร้างเศร้าหมองครองเร่าร้อน
เป็นขั้นตอนซ่อนไว้สุดจะเหิน
สาเหตุเจตสิกจิตติดคิดมิเจริญ
เพราะเพลิดเพลินสิ่งนั้นพลันเกิดมา
ทิฏฐิกิเลสดื้อรั้นพลันวางราก
แล้วก็ฝากวิจิกิจฉามาให้กังขา
ด้วยโลภะโทสะโมหะมิระอา
มานะกิเลสพามาซึ่งถือตัว
ถีนมิทธะกิเลสเจตนาง่วงเหงา
แล้วนำเอาอุทธัจจฟุ้งซ่านพล่านทั่ว
อหิริกกิเลสไม่ละอายเข้าเมามัว
อโนตตัปปไม่เกรงกลัวชั่วช้ามาเป็นทาง
สิบประการนี้แจ้งไว้ในทางต่ำ
สร้างชอกช้ำทำระกำอย่างกว้างขวาง
ขจัดความดีที่สิงสู่โปรดละวาง
หาแนวทางกำจัดให้มลายสูญ
เหมือนกลอนธัมมะจัดหานำมาให้
คนทั้งหลายไม่ใฝ่ใจคล้ายแสงสูรย์
สิ้นไร้แสงแห่งตะวันพลันอาดูร
ทุกข์เพิ่มพูนร้องแรกแหกกระเชอ.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
20 มกราคม 2548 02:59 น.
แก้วประเสริฐ
ทิวทุ่งลับกลับเลือนลา
ระลอกคลื่นสั่นพลิ้วริ้วแนวทุ่ง
ประกายรุ้งอาบซ่านเฉิดฉันท์สาย
ละอองโปรยหยาดฝนดูพร่างปราย
เกล็ดแก้วรายหลากสีคล้ายมีแวว
วับวาววามงามเพชรเม็ดแสงผ่อง
สุรีย์ส่องหยดน้ำอร่ามแพรว
บนพฤกษาท้องทุ่งมุ่งสู่แนว
ลมโชยแผ่วสั่นระริกพลิกอารมณ์
หลังฝนสลายคล้ายชีวาคราบรรเจิด
หมู่เมฆเปิดเพริศสล้างกระจ่างสม
ฟ้าสดใสไร้มายาเมื่อเชยชม
สุดภิรมย์แสนระรื่นชื่นฤดี
พลิ้วไสวปลายรวงข้าวเคล้าลมทุ่ง
แสงสีรุ้งพุ่งวาบอาบกระจ่างศรี
ไหวโอนเอนระเนนน้าวเคล้าชีวี
กลิ่นข้าวที่อุ้มท้องผ่องแผ้วโชย
สายสวาทพาดฝันพลันหวนคิด
ด้วยลิขิตคราเยือนเตือนความโหย
น้ำในขันอันสล้างมะลิโปรย
ยะเยือกโรยกลิ่นเร้าเฝ้าอาจินต์
บัดนี้เล่าเคล้ารักเคยแรกพบ
ล้วนสยบเหือดหายมลายสิ้น
เถียงนาร้างช่างไร้ได้พังภินท์
คนเยือนถิ่นให้ระโหยโชยเงาร้าง
สุดอ้างว้างคิดไปให้ละห้อย
โอ้สาวน้อยกลอยใจเปลี่ยวอ้างว้าง
ยืนซึมเศร้าเฝ้ามองนามิวายวาง
ยืนเหม่อค้างพลางรำพึงถึงโฉมตรู
จวบตะวันลาพรากจากแนวถิ่น
ความถวิลจินตนายิ่งคราสู
สายสวาทคลาดรักเคยเอ็นดู
ความหดหู่แทรกจิตยากคิดจร
เสียงกระดึงดังสะท้านพลันเหลียวหา
ชาวท้องนาพากันเดินเป็นทิวสลอน
เอี๊ยดอาดเกวียนเลื่อนลั่นสั่นเป็นตอน
ยิ่งยอกย้อนสะท้อนทรวงล่วงผ่านมา
เคยเคียงคู่มุ่งสู่ยังเรือนเจ้า
ล้างเท้าเข้าเรือนพักเร้าเคล้านาสา
กลิ่นแก้มโหยโชยกลิ่นกายมิระอา
ตักข้าวมาจิ้มแจ๋วเพริศแพร้วอารมณ์
บ่มบอกรักมักยอกเฝ้าออดอ้อน
คำวิงวอนอย่าหน่ายกลายขื่นขม
จวบบัดนี้เถียงนาน้อยยังพลอยตรม
สุดระทมเมื่อหวนคิดติดความจำ
ทรุดกายลงตรงคันนาพาใจเศร้า
น้ำตาเคล้าใบหน้าคราหมองช้ำ
ด้วยเพราะรักเปลี่ยนไปให้ได้ระกำ
เหมือนผีซ้ำย้ำยอกกลอกผันแปร
สิ้นแล้วหนอทางชีวิตที่คิดมั่น
เหลือความฝันไร้นารีมีเพียงกระแส
ของความคิดหมายมุ่งยากจะแล
ที่แน่แท้หล่อนกลับหายไร้ร่องรอย
โอ้อนานาถวาสนาในคราคิด
วิปริตใจจิตใยคิดละห้อย
ความเก่าก่อนรอนเร้าสุดจะคอย
เหมือนเลื่อนลอยคอยสวาทรักเลือนลา
มองทุ่งนาคราหยาดพาดใจจิต
ยิ่งใจคิดพะวงหลงเสน่าหา
คงคลาดแคล้วยอดหญิงมิ่งกานดา
วันเวลาพาให้ร้าวอาดูร
ยืนซึมเศร้าเร้าใจให้หวนจาก
สิ่งที่พรากรักร้างมาหน่ายสูรย์
ความรักเจ้าเคล้ารักที่เกื้อกูล
เหมือนจะสูญสิ้นสลายมลายไป
ตะวันรอนอ้อนรักหักใจคิด
โอ้ชีวิตคิดไปให้หวนไห้
เถียงนาน้อยกลอยรักจักละลาย
ด้วยจิตใจมิหน่ายรักเจ้าเนื้อนวล.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙